เหตุผลของคนเดินช้า (ไปหาใครบางคน)



เมื่อเย็นขณะกำลังเดินไนท์บาร์ซ่าเพื่อหาซื้อเครื่องปรุงสำหรับจอผักกาด
เสียงเพลงเรียกเข้าบอกว่าแม่โทรมาฉันจึงรีบกดรับสาย
แม่ถามด้วยคำถามเดิมเหมือนวันก่อน...จะกลับบ้านไหม
จนฉันต้องย้อนถามด้วยความสงสัยว่ามีอะไรหรือเปล่า
แม่อึกอักก่อนตอบว่า “ไม่มีอะไร ไม่กลับก็ไม่เป็นไรลูก”
ใครๆ ต่างก็บอกว่าฉันนิสัยเหมือนแม่ คำว่า ‘ไม่’ ของแม่
ในความรู้สึกฉันคือ ‘มี’ เพียงแต่ไม่รู้ว่ามีอะไรเท่านั้นเอง
ถามไปมาฉันจึงรู้ว่าน้องสาวคนเล็กจะกลับบ้านวันหยุดนี้
จึงถึงบางอ้อในใจตนพลางนึกถึงงานเขียนชิ้นหนึ่งที่ส่งอาจารย์สมัยเรียนปีสอง
‘กินข้าวพร้อมหน้า’ ความเรียงว่าด้วยวิถีชีวิตอันรีบเร่งทำให้มนุษย์ต่างละทิ้งความใส่ใจในกัน
พฤติกรรมไร้เดียงสาไม่เข้าใจโลกของฉันทำให้แม่อกสั่นขวัญหายบ่อยครั้ง
เวลาเคลื่อนไม่เคยหยุดนิ่งกอปรกับบางความพลิกผันในชีวิต
ฉันจึงก้าวกระโดดทางความคิดเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างรวดเร็ว
แต่ในสายตาและมุมมองของแม่
ไม่ว่าอย่างไรฉันก็เป็นเพียงลูกนกหัดบิน
ที่แม่ต้องเฝ้ามองสอดส่องด้วยความเอาใจใส่เสมอ
ฉันจึงเลือกเดินช้าลง-บินช้าลงในช่วงหนึ่งปีมานี้
มันเป็นการเดินและบินอย่างรอบคอบรัดกุม
เพื่อให้แม่วิตกกังวลห่วงใยน้อยที่สุด




ระหว่างรอน้ำแครอทผสมสัปปะรดปั่นฉันกดโทรศัพท์หาเพื่อน
อยากรู้ว่าเขาจะกลับบ้านไหม กลับมารับไม้ผลัดขับรถกับฉันไหม
เมื่อเขาตอบตกลง ฉันจึงตกลงใจกลับบ้านตัวเองเช่นกัน
ฉันหยิบหนังสือ ‘สาบอีสาน’ ไปฝากแม่
อยากให้แม่เห็นความคิดของคนทำภาพประดับหนังสือ
ภาพถ่ายที่ไม่ใช่สักแต่ว่านำมาลง
หากแต่ละภาพนั้นนอกจากจะพยายามสื่อถึงเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง
ยังบ่งบอกตัวตนของคนเขียนด้วยการนำภาพซึ่งถ่ายจากบ้านเกิดคนเขียนมาทำภาพประดับ
ฉันอยากให้แม่เห็นและอยากมั่นใจขึ้นสักเล็กน้อย
การเดินช้า ทัศนคติ การมองชีวิตของฉันในปัจจุบัน
อาจพอลดทอนความกังวลห่วงใยในตัวลูกสาวหัวดื้อคนนี้ลงบ้าง




แล้วฉันก็นึกถึงหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มแรกของ นราวุธ ไชยชมภู
‘ไปหาใครบางคน’ คือชื่อหนังสือและเป็นหนึ่งในสามสิบห้าเรื่องสั้นในเล่มนี้
ฉันเคยบอกเพื่อนว่าหากเราสร้างหนังเรื่องหนึ่งจากเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง
เรื่องสั้นของนราวุธก็เป็นหนังสั้นทางเลือก
เป็นหนังสั้นที่ลงทุนต่ำไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด
นอกจากกล้องถ่ายวีดีโอเพียงตัวเดียว
และถ้าให้ฉันเลือกไม่ว่าเรื่องไหนจากหนังสือเล่มนี้
รับรองคุณจะเห็นภาพไม่ผิดเพี้ยนกับที่นราวุธถ่ายทอดด้วยตัวอักษร
หากจะต่างกันหน่อยก็ตรงที ฉันจะเปรียบเลนส์ของกล้องถ่ายวีดีโอ
เป็นเลนส์นัยน์ตาที่กำลังมองความเป็นไปของเพื่อนร่วมโลก
และแน่นอน...เมื่อพาคุณมองภาพนั้นด้วยสายตา
ก็ต้องมีจังหวะกระพริบตาให้คนดูสงสัยเล่นไอ้ช่วงมืดดำเพียงครู่นี่คืออะไรกัน
เปล่าคะ...หนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ตรงไหน
ไม่มีประเด็นอันส่งผลต่อมวลมนุษยชาติ
มันเป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆ ของคนเล็กๆ
ในมุมอันงดงามกับการมองโลกให้ช้าลงของผู้ชายที่ชื่อ ‘นราวุธ’
หนังของฉันจากเรื่องสั้นนราวุธจะไม่บอกคุณว่าเราคิดอะไรหรือต้องการบอกสิ่งใด
หากอยากให้คนดูและคนอ่านคิดและรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่นำเสนอ
สังคมทุกวันนี้เต็มไปด้วยความคิดสำเร็จรูป และกึ่งสำเร็จรูปเต็มไปหมดแล้วค่ะ
หากไม่รู้จักใช้ความคิดเสียบ้าง บางทีอนาคตของความคิดคงไม่พ้นใส้ติ่ง
ซึ่งไม่ก่อประโยชน์ใด และกว่าจะรู้ถึงการมีอยู่ก็ต่อเมื่อมันเกิดแตกขึ้นมา




สิ่งที่ฉันกล่าวข้างต้นเป็นความคิดส่วนบุคคลนะคะ
หากคุณอ่านงานนราวุธอย่างผิวเผินคุณอาจเห็นว่าไม่ได้เรื่อง เรื่องสั้นอะไรกันนี่
แต่ฉันไม่ได้เพิ่งอ่านความคิดนราวุธจาก ‘ไปหาใครบางคน’
ความเรียง ‘นกของพระเจ้า’ ของเขาบอกฉันว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนคิดอะไรแบบตื้นเขิน
ในความนิ่งเงียบฉันว่ามันมีความลุ่มลึกซึ่งตกผลึกแล้ว
มันเป็นเรื่องสั้นที่คุณต้องอ่านด้วยใจเปิดกว้างไม่ยึดติดกับเรื่องสั้นแบบเดิมที่เคยผ่านตา
ความคิดหลังอ่านหนังสือเล่มนี้ของคุณอาจไม่เหมือนฉัน
หากก็ไม่มีความคิดใครผิดหรอกค่ะคุณ
เพียงแต่ว่าเมื่อคุณมองคนละมุมกับฉัน
ฉันก็ไม่อยากให้คุณนำทัศนคติส่วนตนมาตัดสินหนังสือ
ไม่จำเพาะเจาะจงว่าเป็นหนังสือเล่มนี้ หากฉันหมายถึงหนังสือทุกเล่มในบรรณพิภพ
หนังสือแต่ละเล่มมีความงามต่างกันขึ้นอยู่กับสายตาคนมอง...ฉันเชื่อเช่นนั้น




กลับจากตลาดฉันรีบโทรบอกแม่ว่าจะกลับบ้าน
น้ำเสียงดีใจของแม่ปิดไม่มิดหากยังคงวางฟอร์ม
และถามกลับว่ากับข้าวแม่จะกลายเป็นแม่สายบัวอีกหรือเปล่า
ฉันหัวเราะใสไปกับคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
จริงอยู่ในความเขลาของชีวิตช่วงก่อนหน้า
ฉันทำให้แม่เสียน้ำตาบ่อยครั้ง
มันเป็นความผิดซึ่งไม่อาจลบล้างกระทั่งไถ่ถอน
แต่ข้อดีงามอย่างหนึ่งของชีวิตคือ
ฉันยังมีโอกาสสร้างรอยยิ้มอย่างมีความสุขประดับใบหน้าและดวงใจแม่ได้
แม้ฉันจะกลับถึงบ้านช้าไปหน่อย
ทว่าฉันก็สุขใจในวิถีชีวิตซึ่งเลือกแล้ว
วิถีชีวิตซึ่งสามารถก้าวเดินด้วยความสงบสุขทั้งของแม่และตัวฉันเอง






 

Create Date : 20 มิถุนายน 2551
29 comments
Last Update : 21 มิถุนายน 2551 18:02:46 น.
Counter : 725 Pageviews.

 

มาโพสเป็นคนแรกเลย...
ตกลงคนที่นั่งถ่ายรูปเก๋ๆ นั่นคือ นกที่ไม่มีเสียง แม่นก่อนิ...

 

โดย: pu_chiangdao 20 มิถุนายน 2551 23:22:16 น.  

 

บ่ะกึ๊ดว่าฮูปนี้คล้าย "เด็กหลงทาง" อย่างเปิ้นว่าก่ปี้แก้ว


จากหลายสายตายามผ่อฮูป เปิ้นกึ๊ดว่าอี่น้องเป๋นเด็กหลงทาง หาทางกลับบ้านบ่ะเจอ

 

โดย: นกที่ไม่มีเสียง 20 มิถุนายน 2551 23:35:52 น.  

 

ลืมบอกไปว่า...ชอบเพลงนี้มากๆ

 

โดย: pu_chiangdao 20 มิถุนายน 2551 23:44:43 น.  

 

blog นี้อ่านแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นใจนะคะ
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

เสียงเพลงด้วยมั้ง
เพราะมากเลย คือเพลงอะไรของใครเหรอคะ

 

โดย: gluhp 21 มิถุนายน 2551 0:11:33 น.  

 

พี่ภู...ชอบเหมือนกันค่ะ คืนนี้ไม่หนาวแล้ว

gluhp...ดีใจที่คุณไม่หนาวไปกับเพลง คืนหนาว ของฤทธิพร อินสว่าง

ในคืนเหน็บหนาว ฉันเดินเงียบเหงา อยู่บนถนน
ไม่มีผู้คน ไม่มีรถรา มีเพียงแสงไฟ
สายลมหวีดหวิว พริ้วพาเหน็บเนื้อ เหน็บเหลือข่มใจ
เหน็บหนาวภายใน เหน็บหนาวในใจ เหน็บหนาวเหลือเกิน
ในคืนเมฆหนา ฉันเดินจนล้า จะเดินไปไหน
ฉันเดินมาไกล ไม่มีแสงไฟ เมื่อไกลถนน
ท้องฟ้ามืดมิด ชีวิตมืดนัก ความรักมืดมน
เสียงใจพร่ำบ่น เหมือนคนรำพรรณ ฉันเหงาเหลือเกิน
ในคืนเหน็บหนาว หัวใจเจ็บร้าว เรื่องราวความหลัง
ก็เป็นเช่นทาง ที่ยังทอดยาว จากวันสู่คืน
ตราบชั่วชีวิต ทิศทางแสวง แข่งขันหยัดยืน
จะมีใครยื่น น้ำใจให้กัน เท่าฉันให้เธอ




เพียงมีน้ำใจต่อกันความเจ็บปวดคงคลี่คลาย

 

โดย: นกที่ไม่มีเสียง 21 มิถุนายน 2551 0:30:11 น.  

 

เพื่อนช่างภาพคนหนึ่งกำลังเก็บของเดินทางเช่นกัน
หากเขาเดินทางจากเชียงใหม่กลับบ้านที่ภูเก็จ
เล่นเอาฉันขอบตาร้อนผ่าว
เปล่า...ไม่ได้ร้องไห้ตามค่ะ แต่อยากตามไปด้วยเลย

 

โดย: นกที่ไม่มีเสียง 21 มิถุนายน 2551 0:35:57 น.  

 

คุณแวะไปลาฉัน

ฉันแวะมาส่งคุณ

 

โดย: บี (bewae1001 ) 21 มิถุนายน 2551 0:49:01 น.  

 

ไปหาใครบางคน..ไม่เคยอ่านเลยค่ะ
แต่แวะมาอ่าน...ความเรียงดีดีซักเรื่อง
กินข้าวพร้อมหน้า..นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ที่เราไม่ได้มีเวลาอย่างนี้..อยากกลับไปช่วงเวลานั้นจัง

 

โดย: nikanda 21 มิถุนายน 2551 3:46:40 น.  

 

หนังสือแต่ละเล่มมีความงามต่างกันขึ้นอยู่กับสายตาคนมอง...ฉันเชื่อเช่นนั้น

|
|

เชื่อเหมือนกันจ้า...

แม่นกฯเป็นลูกนกที่น่ารักมาก...(ยิ้ม)

 

โดย: แม่ไก่ 21 มิถุนายน 2551 8:55:58 น.  

 

เห็นด้วยกับพี่แม่ไก่
อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกว่าคุณแม่นก เป็นลูกนกที่น่ารักมากๆ

กินข้าวพร้อมหน้า...
ทำไปครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่แล้วนะ
ของอ้อน เป็นตอนสงกรานต์ ปี๋ใหม่เมืองปู้น
กึดเติงหาอี่แม่ขนาด...
กิ้นข้าวเผื่อโตยเน้อเจ้า

แหะ ๆ ยอมรับกันไปว่าค่อยข้างอ่านไหว
กับเรื่องรอบตัว และหนังสือเรื่องหญิงสาวฯ
ก็ทำให้แผลที่ปากแผลปิด แต่อักเสบอยู่ภายใน
ขูดออก...เลือดซิบๆ
ยาสมานแผล เล่มนั้นที่ถามยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ
ตอนนี้ใช้ยาแดงทาอยู่
บรรยากาศที่พัทยา จากการไปประชุมที่ผ่านมา
ก็ช่วยได้ส่วนหนึ่ง
อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ายังมีคนที่เจ็บปวดกว่าเรามาก
บนโลกสีน้ำเงินเล็กๆ ใบนี้

เดินทางปลอดภัยนะคะ

 

โดย: BeCoffee 21 มิถุนายน 2551 13:11:47 น.  

 

เข้าใจแล้วค่ะเหตุผลที่กลายเป็นคนเดินช้าของแม่นก
มาส่งแม่นกบินกลับรังอันอบอุ่นนะคะ

 

โดย: พูษรี 21 มิถุนายน 2551 14:19:44 น.  

 

พี่ปลายจะกลับบ้าน ดีใจด้วยนะคะจะได้ไปอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แม่พี่ปลายคงจะมีความสุขมากเลยล่ะ บ้านแต๋มพี่ชายไม่กลับบ้านมาเป็นปีแล้ว เค้าไปอยู่สิงคโปร์ค่ะ โทรคุยกันก็ยาก เมลล์ก็ำไม่ค่อยเช็ค วันก่อนแม่โทรไปบอกว่าจะไปเยี่ยม ดันบอกว่าจะไปมาเลย์ไม่ต้องไป เฮ้อ ลูกผู้ชายก็เงี้ย ไม่ค่อยเข้าใจหัวอกแม่ เอาใจแม่ไม่เป็น แต่่กับแฟนนะ เฮ้อ...........
พูดไปพูดมาก็บ่นเรื่องตัวเองให้พี่ปลายฟังอีกแล้ว
แต๋มขอให้พี่ปลายเดินทางปลอดภัยนะคะ

คิดถึ้งคิดถึงค่ะ



 

โดย: ปลายฟ้า ณ บ้านธารเมฆ IP: 118.174.133.251 21 มิถุนายน 2551 14:27:58 น.  

 

บินช้าลง จะได้มีเวลามองวิวสองข้างทางด้วยไง ปลอดภัยดี (รวมถึง แม่ไม่ห่วง)

ภาพสวยจังค่ะ พอดีพี่ชอบโทนสีเขียว

ขอบคุณที่เคยแวะไปหานะคะ .. (ความรู้สึกช้าอ่ะ -- เพิ่งมีเวลามาทักทาย)

 

โดย: แม่ส้มแป้น 21 มิถุนายน 2551 17:09:44 น.  

 

รีบมาและรีบไป

แวะมาชวนคุณๆ ไปดูละครเวที สู่ฝันอันยิ่งใหญ่


ไปต้วยกันก่เจ้า

 

โดย: นกที่ไม่มีเสียง 21 มิถุนายน 2551 18:04:37 น.  

 


แล้วเจอกันค่ะ
ฝากเบอร์มือถือไว้ที่หลังไมค์ของคุณนะคะ

 

โดย: อุ้มสี 21 มิถุนายน 2551 20:29:07 น.  

 

อ่านแล้วนึกถึงพ่อของผมเอง

ู้เค้ารู้ว่าสถาพชีวิตการทำผมงานเยอะ เงินเดือนก็ไม่มาก แถมขยันสร้างหนี้อีก

เวลาคุยโทรศัพกันเขามักจะถามว่าเงินพอใช้มั้ย

ความจริงก็ไม่ค่อยจะพอหรอก

แต่ผมยอมนั่งกินมาม่าดีกว่าให้เค้ามาคอยเป็นห่วงว่าดูแลชีวิตตัวเองไม่ได้สักที

คำตอบเท่าที่มีคือ

สบายมากครับพ่อ

แล้วนั่งกัดก้อนเกลือต่อไป

 

โดย: niceguyfinishlast 22 มิถุนายน 2551 19:56:30 น.  

 

บินกลับบ้านถูกซะที
ดีใจด้วย กะคุณแม่
กินกับข้าวฝีมือแม่ อร่อยล่ะซิ
มีคนตัดเล็บให้แล้วเนอะ อิจฉา น่ารักจัง
ระวังถูกทำโทษ เล็บกุด ออกจากบ้านไม่ได้นะจ๊ะ อิ อิ
ขอให้มีความสุขกับการอยู่กับแม่นะจ๊ะ
คิดถึงจ้า

 

โดย: โมกสีเงิน 23 มิถุนายน 2551 10:18:40 น.  

 

อ่านแล้วก็ยิ้มกับเรื่องแม่ค่ะ เพราะแม่เราก็คล้ายๆอย่างนี้แหละ คนเป็นแม่น่ะนะคะ อย่างไรการเห็นหน้าลูกก็เป็นความชื่นใจเล็กๆ น้อยๆ เสมอ

อืมม์..น่าสนใจไปหาใครบางคนค่ะ เรายังไม่เคยอ่านทั้งเล่มนี้และผลงานของนักเขียนคนนี้เลย

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 23 มิถุนายน 2551 17:46:11 น.  

 

"ความคิดคงไม่พ้นใส้ติ่ง
ซึ่งไม่ก่อประโยชน์ใด
และกว่าจะรู้ถึงการมีอยู่
ก็ต่อเมื่อมันเกิดแตกขึ้นมา"
ชอบจังครับประโยคนี้

อ่านแล้วอดคิดถึงแม่ที่อยู่ห่างไกลไม่ได้ครับ
มีบางครั้งที่เผลอพลั้งพูดไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะสู้ดี บางคำพูดเล็กๆน้อยอาจจะกระทบจิตใจผู้เป็นแม่ได้อย่างมากก็เป็นได้
ได้แง่คิดมากครับเรื่องนี้...

กำลังใจเดิม

 

โดย: ดอกเสี้ยวขาว 23 มิถุนายน 2551 22:45:38 น.  

 



มาแจ้งข่าวว่า

ป้ากุ๊กไก่ / ยายกุ๊กไก่ กลับมาเปิดบ้านแล้วในชื่อล๊อกอิน ร่มไม้เย็น

และประเดิมบล็อกแรกด้วย ………บ้านใหม่ – ชื่อใหม่………..ค่ะ

มีเวลาแวะไปทักทายกันบ้างนะคะ

ขอเดินสายก่อน แล้วจะกลับมาอ่านบล็อกค่ะ

ร่มไม้เย็น …….. ข อ แ อ ด บ ล็ อ ก ……… นะคะ


 

โดย: ร่มไม้เย็น 24 มิถุนายน 2551 22:32:54 น.  

 

สวัสดีค่ะ

มาเยี่ยมบ้านค่ะ

 

โดย: noiiwaran 25 มิถุนายน 2551 20:50:42 น.  

 

เรื่องสั้นยุคใหม่ๆ ไม่ค่อยได้อ่านนัก
เพราะผ่านๆแล้วไม่ค่อยถึงเท่าไหร่ในความสุขงอมที่นำเสนอ
เอ !!! หรือเราตกค้างอยู่กับยุคก่อนเก่าเล่าขานนานเกินไปน๊อ

 

โดย: larnkawee 26 มิถุนายน 2551 0:14:01 น.  

 

จขบ.คงอยู่ในช่วงเดินทางใช่เป่า
ดูแลตัวเองนะจ๊ะ

 

โดย: โมกสีเงิน 27 มิถุนายน 2551 15:36:24 น.  

 

 

โดย: pu_chiangdao 29 มิถุนายน 2551 20:25:04 น.  

 

เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ

 

โดย: ธารเมฆ 30 มิถุนายน 2551 13:12:26 น.  

 

เหนื่อย...หัวใจ

หายเหนื่อยแล้วจะไปเยี่ยมหาเจ้า

 

โดย: นกที่ไม่มีเสียง 30 มิถุนายน 2551 16:18:21 น.  

 

ไม่ว่าแม่จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน แต่ก็ยังมีความสุขและอยากที่จะทำกับข้าวไว้รอลูกกลับมาทานพร้อมหน้ากันเสมอค่ะ เขียนสรุปได้ดีมากค่ะ

 

โดย: กิ่งลีลาวดี 30 มิถุนายน 2551 16:39:02 น.  

 

เข้าใจเหตุผลของการเดินช้าทั้งหมดแล้วล่ะ
ที่ผ่านมาเราพยายามกระตุ้นให้น้องเดินเร็วขึ้นได้มั้ย หรือเมื่อไหร่จะเริ่มก้าวเดินซักที

ครั้งแรกที่ได้ยินน้องบอกว่า เข้าใจน้องแล้วใช่มั้ยทำไมเดินช้า....
เข้าใจ...
และขออภัยที่ทำให้น้องลำบากใจจ้า

 

โดย: โมกสีเงิน 1 กรกฎาคม 2551 8:08:58 น.  

 

 

โดย: ชมจันทร์ 1 กรกฎาคม 2551 9:51:17 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นกที่ไม่มีเสียง
Location :
ยะลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





เยาวชนนักเขียนชายแดนใต้

Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นกที่ไม่มีเสียง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.