BlogGang.com : : คนผิดชื่อก้อง : ชายหนุ่มนักเก็บดาว กับหญิงสาวนักปลูกดอกไม้

ชายหนุ่มนักเก็บดาว กับหญิงสาวนักปลูกดอกไม้

เรื่องของชายหนุ่มนักเก็บดาว กับหญิงสาวนักปลูกดอกไม้
สายฝนโปรยปราย ในคำคืนที่เงียบเหงา ผมนั่งฟังเพลง จิบเบียร์
ในห้องเงียบๆ เสียงเพลงเบาๆ เนื้อหาเกี่ยวกับความรัก
เคล้าเสียงสายฝน ฟังดูแล้วหวานกว่าเดิมขึ้นราว 20 %

สายลมในสายฝน กระซิบถามผมว่า พร้อมจะรับฟังเรื่องราว ของวันฝนตกแบบนี้ไหม
เบียร์ในกระป๋องใกล้ที่จะหมด กลิ่นบุหรี่ชื้นฝน ที่ถูกจุดขึ้น ควันบางเบา
ลอยหายออกไปทางหน้าต่าง ผมจิบเบียร์อีกครั้ง
แล้วเอ่ย พร้อมแล้วสำหรับเรื่องราวในวันฝนตกแบบนี้

สายลมยิ้มรับก่อนจะเล่าเรื่อง เรื่องของชายหนุ่มนักเก็บดาว กับหญิงสาวนักปลูกดอกไม้
ทุกๆครั้งก่อนที่จะมีฝนตก ท้องฟ้าจะปกคลุมด้วยเมฆฝนสีดำ
ถ้าเป็นตอนกลางวันเราจะไม่สังเกต แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืน
เคยสงสัยหรือเปล่า ว่าดวงดาวหายไปไหน เวลาเมฆฝนมา ดวงดาวจะเปียกฝนหรือเปล่า
คำตอบคือ ดวงดาวไม่เคยเปียก คงเป็นเพราะว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับหน้าที่
เดินทางไปบนท้องฟ้าเพื่อเก็บดวงดาวต่างๆไม่ให้เปียกฝน

งานของชายหนุ่มนักเก็บดาวจะเริ่มต้นเมื่อเมฆฝนเริ่มก่อเค้า สีดำ เขาจะเริ่มเก็บดาวที่ละดวง จนหมดท้องฟ้า
แล้วค่อยๆนำดาวแต่ละดวงมาทำความสะอาด ก่อนจะคอยเวลานำไปแขวนอีกครั้ง หลังสายฝนหยดสุดท้ายกระทบผืนดิน
ในบางวันที่เมฆฝนสีดำไม่ยอมหมดหลังสายฝนหยุดโปรยปราย เขาก็จะนั่งมองเมฆฝน เพราะว่าเมฆฝนบังตำแหน่งดวงดาว
เขาไม่สามารถจะนำดาวไปแขวนได้

งานของเขาอาจจะยุ่งบางในช่วงฤดูฝน ฤดูหนาวคือช่วงเวลาพักผ่อน
ฤดูร้อนคือฤดูแห่งการเตรียมตัว มีบางครั้งที่ต้องทำงาน
ในวันที่มีพายุฤดูร้อน ถือว่าเป็นการซ้อมใหญ่ ก่อนงานหนักในช่วงฤดูฝนจะมา

เขาทำงานอย่างไม่มีที่ติ แต่ว่า เขาเป็นชายหนุ่มที่เงียบเหงา
ตอนที่ฝนตกไม่มีใครอยากตากฝน นอกจากคนที่เศร้าเสียใจ
ทุกคนฝันถึงห้องที่แห้งและอบอุ่น แต่เขาก็ต้องทำงาน คอยเช็ดและดูแลดาวต่างๆ

วันหนึ่ง ในวันฝนตกหนักในเดือน มิถุนายน เขาเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง เดินตากฝน
สายฝนและสายลมทำให้อุณหถูมิลดต่ำกว่าปรกติ
ถ้าใครรู้ อุณหภูมิผิวกายจะลดลง 3 องศา เวลาที่มีลมพัดผ่าน ยิ่งตอนเปียกฝน ยิ่งทำให้หนาวมากขึ้น
ตอนนี้สิ่งที่มีอุณหภูมิสูงเพียงสิ่งเดียว ก็คงจะเป็นน้ำตาของหญิงสาว
น้ำตาที่ผ่านออกมาจากดวงตาแสนหวาน จากร่างกายที่อบอุ่น 36 องศา

อะไรกันนะ อะไรทำให้เธอร้องไห้ ชายหนุ่มนักเก็บดาวสงสัย
จึงแอบเดินตามและร้องถามออกไป เมื่อน้ำตาหยดสุดท้ายของหญิงสาวแห้งไป
หญิงสาวตาสวย ผมยาว มีลักยิ้มที่แก้ม เธอบอกเขาว่า เธอเป็นนักปลูกดอกไม้
ช่วงนี้ดอกไม้ของเธอไม่ยอมบาน ไม่ยอมออกดอกใหม่ขึ้นมา
เป็นเพราะอะไรไม่รู้ เธอเสียใจเป็นอย่างมาก ดวงตาหวานเศร้า นั้นทำให้
ชายหนุ่มของเรา ยินดีที่จะช่วยเหลือเธอ หาสาเหตุว่าทำไมดอกไม้ถึงไม่บาน
ชายหนุ่มนักปลูกดอกไม้ ถามเธอว่า เธอปลูกดอกไม้อะไร ดอกไม้แห่งฝันดี เธอตอบกลับมา
ดอกไม้แห่งฝันดี ที่หญิงสาวอธิบายไว้ นั้นมีสีงดงามเท่าสีของดวงดาว หอมกว่า ดอกกุหลาบทั้งโลกรวมกัน
และถ้าดอกไม้ฝันดีบาน จะทำให้เด็กๆ นอนฝันดีในค่ำคืนนั้น

ชายหนุ่มนักเก็บดาว เห็นด้วยเพราะว่า หลายคืนผ่านมานี้ เด็กๆนอนร้องไห้กันเยอะขึ้น
ทั้งสองตกลงใจว่าจะไปถามชายบนดาวอังคาร เพราะว่า ชายบนดาวอังคารเป็นคนรอบรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น บนโลกนี้

หลังจากนั้นอีกหลายๆๆ วัน ในวันที่เมฆฝนใหญ่ ค้างอยู่กลางท้องฟ้า ส่งเสียงดังสนั่น
ชายหนุ่มนักเก็บดาวก็รู้ว่า ฝนตกคืนนี้ ท่าทางจะยาวนานพอๆกับความเหงา
ทั้งสองจึงออกเดินทาง โดยการอาศัย นกนางนวลที่บินลงทางใต้
เพื่อไป ปีนขึ้นบันไดที่ ขั้วโลกไต้ ออกไปตามดาวหาง เพื่อไปยังดาวอังคาร

ดาวอังคารดวงเล็กๆ แต่ทั้งสองก็หาชายผู้รอบรู้ไม่เจอ อยู่ตรงไหนกันนะ
ทั้งสองคนช่วยกันหาในด้านสว่าง แต่ก็ไม่เจออะไร
ทั้งสองเลยตกลงใจ เดินไปหาในด้านมืดบ้าง ในด้านมืด
ชายหนุ่มนักเก็บดาว ใช้ดาวดวงเล็กที่ติดตัวมาด้วยส่องนำทาง
แล้วเขาก็เจอ ชายผู้รอบรู้ ชายผู้รอบรู้ นั่งร้องไห้ บนโต๊ะตัวยาวของเขา
นักเก็บดาวถามเขาว่า ทำไมถึงร้องไห้

ชายผู้รอบรู้ตอบว่า เขาหลงมาในด้านมืดของดาวอังคาร ทำให้อ่านหนังสือไม่ได้
ทำให้ไม่รู้ทางที่จะกลับออกไปหาแสงสว่าง เมื่อไม่มีแสง
หนังสือที่เขาจดความรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างไว้ ก็ไม่มีประโยชน์
เขาคงกลายเป็นชายที่โง่ที่สุดในจักรวาล แล้วก็ร้องไห้ดังขึ้นอีกครั้ง
ดังจนหญิงสาวนักปลูกดอกไม้ เดินมาเจออีกคนหนึ่ง

แล้วชายหนุ่มนักเก็บดาว กับหญิงสาวนักปลูกดอกไม้ ได้ช่วยกันพาชายผู้รอบรู้
ไปยังด้านที่สว่าง พร้อมย้ายโต๊ะตัวใหญ่ออกมาด้วย
ระหว่างนั้น คำบ่นของชายผู้รอบรู้ ที่ว่าจะกลายเป็นชายที่โง่ที่สุดในจักรวาล
ยังไม่หยุด จนกระทั้ง ได้เจอแสง เสียงบ่น จึงกลายเป็นคำขอบคุณและ ขอบคุณ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ก่อนที่คำขอบคุณจะยาวนานไปกว่านี้ ชายหนุ่มนักเก็บดาว จึงได้บอกความต้องการของตนแก่ ชายผู้รอบรู้
ชายผู้รอบรู้ หัวเราะพร้อมเปิดหนังสือของเขา แล้วบอกว่า หนทางที่จะทำให้ดอกไม้ฝันดีบานได้
ต้องไปถาม ราชินีแห่งนางฟ้าที่ดาวเสาร์

ทั้งสองบอกลา ชายผู้รอบรู้บนดาวอังคาร พร้อมย้ำว่า อย่าหลงไปในด้านมืดอีก
ก่อนขอกระโดดไปมาระหว่างกลุ่มหมอกอวกาศ และวิ่งไปบนวงเหวนของดาวเสาร์
ระหว่างการเดินทางบนวงแหวนของดาวเสาร์ หญิงสาวนักปลูกดอกไม้ ร่าเริงมากขึ้น
ไม่รู้ว่า เธอดีใจที่จะได้คำตอบหรือว่า เพราะเดินทางมากับชายหนุ่มนักเก็บดาว

เมื่อถึงดาวเสาร์ พระจันทร์ดวงที่สี่กำลังจะพ้นขอบฟ้า
มีงานเริงร่า รับดวงจันทร์สี่ดวงบนดาวเสาร์ ที่ 200 ปีจะมีสักครั้ง
ทั้งสองเดินผ่านงานฉลองไปยังที่ประทับของราชินีแห่งนางฟ้า
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ดาวเสาร์ช่างน่าประทับใจยิ่งนัก

ราชินีแห่งนางฟ้าแสนใจดี ยิ้มรับพวกเขาทั้งสอง รอยยิ้มที่เมตตา
ทำให้ทั้งสองผ่อนคลายมากขึ้น

หญิงสาวนักปลูกดอกไม้บอกความต้องการของตนแก่ ราชินีแห่งนางฟ้า
จากรอยยิ้มกลายเป็นเสียงหัวเราะ เสียงหัวเราะของราชินีแห่งนางฟ้า
ทำให้บรรยากาศดีขึ้นกว่าเดิน ก่อนที่ราชินีจะเดินมาบอกวิธีทำให้ดอกไม้ฝันดีบาน
ให้กับหญิงสาวนักปลูกดอกไม้ โดยการกระซิบเบาๆ ที่ได้ยินเฉพาะคนสองคน

หญิงสาวนักปลูกดอกไม้ได้รับวิธีการที่ทำให้ดอกไม้ฝันดีบานแล้ว เธอร้องไห้ด้วยความดีใจ
ก่อนรีบชวน ชายหนุ่มนักแก้ดาวรีบกลับไปยังโลก

ราชินีโบกรถไฟสายความคิดถึงให้กับพวกเขาทั้งสอง บอกให้ไปส่งยังโลก
พนักงานขับรถชราพร้อมแมวสีขาวก็ไม่รังเกียจแต่อย่างไร เพราะว่าต้องกลับไปด้านมือของดวงจันทร์อยู่แล้ว

ระหว่างทางกลับ แมวขาวนั่งบนตักของหญิงสาวนักปลูกดอกไม้
แมวสีขาวท่าทางขี้เกียจหาวเบาๆ ก่อนซุกตัวนอนบนตัก
ชายหนุ่มนักเก็บดาว เอ่ยถาม พนักงานขับรถ ว่าไปที่ไหนมา
พนักงานขับรถตอบว่า นำความคิดถึงที่ไม่มีใครต้องการไปทิ้ง ที่ขอบจักรวาล ปากทางหลุมดำ
ความคิดถึงที่ไม่มีใครต้องการ ช่างดูไร้ค่า และน่าเกะกะ

เสียงพนักงานขับรถ ฟังดูเศร้าๆ เมื่อเอ่ยถึงความคิดถึงที่ไม่มีใครต้องการ

ชายหนุ่มนักเก็บดาวจึงเงียบลง และเงียบไปตลอดการเดินทางกลับ
เมื่อไม่มีอะไรทำ ชายหนุ่มจึงมองที่หญิงสาวนักปลูกดอกไม้
และได้พบกับ รอยยิ้มที่หวาน คม บาดใจทำให้ชายหนุ่มนักเก็บดาวหน้าแดง
เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ รอยยิ้มของผู้หญิงที่ไม่มีน้ำตา สวยงามที่สุด

ขบวนรถไฟฟ้า มาส่งพวกเขาก่อน เม็ดฝนหยดสุดท้ายจะตกลงบนแผ่นดินไม่นาน
ถ้าสงสัยว่า ทำไมฝนถึงได้ตกนานนัก เมื่อเทียบกับการเดินทาง ก็ได้บอกไปแล้วว่า
ฝนตกในครั้งนาน ยาวนานเท่ากับความเหงา

ชายหนุ่มนักเก็บดาวหอบตะกร้าใส่ดวงดาว กับมาหลังจากแขวนดวงดาวบนท้องฟ้าใส
และหญิงสาวนักปลูกดอกไม้ก็ไม่ไปไหนอีกเลย เธออยู่ปลูกดอกไม้ฝันดีกับชายหนุ่มทุกวัน
ทำไมจังเป็นแบบนี้นะ

เพราะว่า ราชินีแห่งนางฟ้า บอกกับหญิงสาวนักเก็บดาวว่า ต้องใช้ละอองดาวช่วยในการปลูก
ดอกไม้ฝันดี และละอองดาวก็มีมากที่ชายหนุ่มนักเก็บดาว เพราะเขาเป็นคนล้างทำความสะอาดดวงดาวต่างๆนั้นเอง

และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ชายหนุ่มนักเก็บดาวบอกกับหญิงสาวว่า ถ้าหญิงสาวจากไป เขาคงคิดถึง
ไม่อยากไปรบกวน พนักงานขับรถไฟฟ้าสายความคิดถึง และไม่อยากให้ความคิดถึงของเขา
กลายเป็นความคิดถึงที่ไม่มีใครต้องการ ไม่อยากให้ความคิดถึงของเขาต้องอ้างว้างในหลุมดำ
ชายหนุ่มจึงชวนเธอมาอยู่ใกล้ๆ

การอยู่ใกล้กันใช่ว่าจะทำให้หายคิดถึง แต่ว่า การใกล้กันทำให้ส่งความคิดถึงได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น นั่นเอง

ท้ายที่สุด พวกเขาตกลงว่าจะอยู่ด้วยกัน ทั้งสองช่วยกันปลูกดอกไม้ฝันดี ช่วยกันทำความสะอาดดวงดาว
ชายหนุ่มนักเก็บดาวบอกคิดถึงเธอ มากครั้ง และส่งความคิดถึงให้เธอเท่าที่เขาต้องการ
หญิงสาวก็หน้าแดงทุกครั้ง

ดอกไม้ฝันดีที่ทั้งสองช่วยกันปลูก ก็งดงามกว่าใคร กว่าที่เคยเป็นมา

สายลมยิ้มหวานๆ กลางสายฝน ผมง่วงนอน จากเบียร์ สามกระป๋องที่ตกลงท้อง ยิ้มหวานกลับไปให้กับสายลม
ขอบคุณสำหรับเรื่องหวานๆ ก่อนนอนในคืนนี้
คืนที่ยาวนาน เท่ากับความเหงา อยากนอนฝันใต้ต้นดอกไม้ฝันดี

Create Date : 25 เมษายน 2548

Last Update : 25 เมษายน 2548 16:58:39 น.

13 comments

Counter : 596 Pageviews.

^ ^ '' อิอิ..

โดย: ใสแจ๋ว IP: 203.151.140.118 วันที่: 25 เมษายน 2548 เวลา:2:49:30 น.

แวะมาเยี่ยมครับ

ไปเยี่ยมกันบ้างนะครับ

โดย: note-d

วันที่: 25 เมษายน 2548 เวลา:8:25:41 น.

มาอ่านเรื่องหวานๆ ค่ะ ^^

...

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie

) วันที่: 25 เมษายน 2548 เวลา:8:44:05 น.

>> ไม่รู้ว่า เธอดีใจที่จะได้คำตอบหรือว่า เพราะเดินทางมากับชายหนุ่มนักเก็บดอกไม้
อันนี้น่าจะเป็นชายหนุ่มนักเก็บดาวนะครับ อิอิ อ่านแล้วอบอุ่นจังครับ
ผมไม่ได้ฟังเรื่องเล่าแบบนี้นานมากแล้วล่ะ

โดย: Mint@da{-"-}

วันที่: 25 เมษายน 2548 เวลา:11:11:24 น.