ขึ้นภาษีคนรวย : ลดความเหลือล้ำคนจนกับคนรวย

จากหัวข้อ blog เพื่อนๆ หลายคนคงเคยคุ้นหูมาบ้างอยู่แล้ว
และก็ดูเหมือนว่า มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่ควรจะเกิดขึ้น

เพราะจากสถิติจากหลายแหล่งชี้ให้เห็นว่า ในช่วงปี 1990 - 2010
ขณะที่คนรวยมีรายได้สูงขึ้นมากกว่า 100%
แต่คนจนและคนธรรมดากลับมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ถึง 10%

และ
ขณะที่คนรวยจ่ายภาษีไม่กี่% ของรายได้
แต่คนจนกลับจ่ายภาษีคิดเป็น% ที่มากกว่าคนรวย

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นทั้งที่ประเทศไทยเรา และประเทศเจ้าโลกอย่างอเมริกา

แต่สิ่งที่ผมคิดก็คือ
>>>> ต่อให้มีการเรียกเก็บภาษีคนรวยให้มากขึ้น มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร <<<
ถามว่า ทำไม ?
ตอบ ก็เพราะว่าคนรวยรู้จักการลดภาษีน่ะสิ และก็มีแต่คนรวยเท่านั่นแหล่ะที่จะมองเห็นวิธีลดภาษี

ยกตัวอย่างเช่น
1) ไม่เก็บเงินสด แต่ลงทุนในตลาดหุ้น, ที่ดิน, อสังฯ, ทอง, ฯลฯ
คนระดับธรรมดาเมื่อได้รายได้แล้ว พอหักค่าใช้จ่ายออกไปแล้ว ก็จะเงินรูปของเงินสด
(บัญชีออมทรัพย์ในธนาคารก็ถือว่าเป็นเงินสดครับ)
นั่นทำให้สรรพากรเข้าใจได้ง่ายมากว่า
คุณเป็นคนมีรายได้สูง -> ทำให้คนระดับธรรมดาต้องจ่ายภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่คนระดับเศรษฐีเมื่อได้รายได้แล้ว เค้าจะไม่ถือเงินสด หรือถือก็ให้น้อยที่สุด
คนระดับเศรษฐีจะนำเงินที่เหลือไปซื้อของในตลาดหุ้น, ที่ดิน, ฯลฯ แทน
สรรพากรก็จะพบว่า รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว -> เหลือน้อยจริงๆ
ส่วนเงินที่จมลมในตลาดหุ้น, ที่ดิน, ฯลฯ นั้น มีการเก็บภาษีเหมือนกันก็จริง
แต่มันมีช่องว่างเยอะแยะในการลดการจ่ายภาษี

2) ทำไมต้องจ่ายภาษี ก็ในเมื่อมันมีที่ที่ไม่ต้องเสียภาษี
คุณคิดว่าคนรวยอย่าง จอร์จ โซรอส
. . . .
โซรอส - เลือกที่จะฝากเงินไว้ในธนาคารในประเทศยุโรปที่มีกฏไม่ต้องเสียภาษี แทนที่จะฝากเงินไว้กับธนาคารของอเมริกาที่ขึ้นชื่อว่าเก็บภาษีมหาโหด
แต่ถ้าคุณคิดจะทำอย่างเดียวกัน ผมขอเตือนว่า
เช็คเงินของคุณก่อนว่า มากพอจะบากหน้าเข้าไปหาธนาคารแบบนี้ได้

สรุป นี่แหล่ะทำไมผมคิดว่าการขึ้นภาษีคนรวยไม่ได้ช่วยอะไร

Create Date : 29 มกราคม 2555 Last Update : 29 มกราคม 2555 11:05:06 น. Counter : 695 Pageviews.		0 comments
Share Tweet