|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
5 กรกฏาคม 2555
|
|
|
|
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่6】: อุบัติซ้ำชั่วนิรันดร์
"..จะเป็นอย่างไร? หากยามทิวาราตรีหนึ่ง ปีศาจย่องตามหลังท่านมา ในความเปล่าเปลี่ยวสุดเดียวดาย และเอ่ยวาจากับท่านว่า ชีวิตนี้ที่เจ้ากำลังมีอยู่ และที่ได้ผันผ่านมาแล้วนั้น ล้วนไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย ทั้งความทุกข์โศกศัลย์ ทุกความเบิกบาน ทุกความคิด เสียงทอดถอนใจ และทุกสรรพสิ่ง ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ที่จาระไนมิได้หมด จักหวนกลับมาหาเจ้าอีก ต่อเนื่องตามลำดับเฉกเช่นที่เคยอุบัติ แม้กระทั่งแมงมุมตัวนี้ แสงจันทร์ที่ทอลอดระหว่างคาคบไม้นี้ แม้กระทั่งชั่วขณะจิตนี้ และแม้กระทั่งตัวข้า.."
-- Nietzsche
....
ว่ากันว่ามันเป็นวันที่ร้อนที่สุดของประเทศ อุณหภูมิที่วัดได้และถูกนำเสนอในข่าวช่วงเช้าของรายการโทรทัศน์ บอกว่ามันร้อนถึง 39 องศาเซลเซียส แต่ถึงอย่างนั้น แทนที่พวกเขาจะนอนเล่นอยู่ที่บ้าน นักเรียนทั้งหลายกลับมารวมตัวกันในห้องโฮมรูมอบอ้าว ที่ลมร้อนล่องลอยอิสระคละคลุ้งทุกหนแห่ง
ชั่วขณะหนึ่งมีลมเย็นวูบเข้ามา มันพัดต้องใบหน้าของเด็กๆอย่างอ่อนโยน แต่ขณะเดียวกันต่างรู้สึกว่ามันเป็นความเย็นที่แสนอ้างว้างและแหบแห้งด้วย
ชินอิจิโร่คุงเดินเข้ามาในห้องเป็นคนสุดท้าย ใช่ว่าเขาไม่เงียบขรึม หากแต่วันนี้เขาดูเงียบขรึมมากกว่าปกติ จนเพื่อนๆหลายคนสังเกตเห็น กระนั้นการพะวงกับเรื่องเตรียมตัวซ้อมการแสดงของงานโรงเรียน ก็ทำให้เพื่อนร่วมห้องต่างไม่ใส่ใจมากนัก พวกเขาเริ่มปรึกษาหารือเรื่องหน้าที่คร่าวๆ และซักซ้อมตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละคนโดยสมมติให้หน้าห้องเป็นดั่งเวที
ณ ตอนนั้นที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก รวดเร็ว ..จนไม่มีใครคาดคิดว่านั่นจะเป็นวันสุดท้าย
นักข่าวพูดกันว่านี่คือข่าวโศกนาฎกรรมสะเทือนขวัญที่สุดแห่งปี หนังสือพิมพ์หลายฉบับประโคมข่าวเรื่องนี้ไม่หยุดหย่อน ยาวนานต่อเนื่องจากสัปดาห์กลายเป็นเดือน โทรทัศน์วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์นี้อย่างเผ็ดร้อน ในทุกประเด็นที่สามารถนำมาถกเถียงได้ -ไม่มีใครไม่พูดถึงเหตุการณ์นี้ ถ้อยคำมากมายคล้ายดอกหญ้า เบาหวิวปลิวตามลมพัดในฤดูร้อนกระจายอยู่ทั่วผืนอากาศ หยั่งรากลึกเมื่อตกพื้น เติบโตรวดเร็วในทุกสภาพพื้นผิว ภายใต้สำนวนทอดอาลัยไร้อารมณ์จากบรรดาผู้ดำเนินรายการทีวีที่พัดแผ่วเข้ามาในหู ดูแล้วไม่ต่างอะไรจากสุนทรพจน์ของอาจารย์ใหญ่ในวันเปิดภาคเรียนแม้สักนิด เป็นถ้อยคำแห้งผากผ่านไปพอเป็นพิธี แร้นแค้นซึ่งความอาดูรโดยแท้จริง
สำหรับเธอแล้วโลกทั้งโลกดับวูบลง ตั้งแต่วินาทีที่ชินอิจิโร่คุงใช้ปืนกระบอกเดิมปลิดชีพตัวเอง และลงไปนอนแน่นิ่งชั่วกัลปาวสานตามเพื่อนๆทั้งชั้นเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ล้วนดายดับไปด้วยฝีมือของเขา มุ่งหน้าสู่ถนนแห่งความตายอันเร้นลับที่ไม่มีหนทางถอยหลังย้อนกลับ
ไม่มีใครรุ้ถึงสาเหตุที่ชินอิจิโร่ทำอย่างนั้น พอๆกับที่หนึ่งเดือนให้หลัง หลังจากที่การจับเพื่อนร่วมชั้นเรียนเป็นตัวประกัน ได้จบสิ้นลงตรงความตายของผู้กระทำการ เช่นเดียวกันนั้น -- ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเธอจึงเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่เล็ดรอด ไม่แม้แต่จะพบรอยขีดข่าวอันเป็นหลักฐานระลึกถึงเรื่องราวที่เกิดเหตุ
นั่นเอง ..บนความเคราะห์ร้ายอย่างสาหัส มันทำให้เธอกลายเป็นคนดังไปชั่วข้ามคืนอย่างไม่น่าที่จะเป็นไปได้ เหล่าผู้กระหายอยากความจริงและเรื่องลุ้นระทึก ต่างติดตามรีดเค้นเรื่องราวจากเธอไม่ลดละ นักข่าวนับสิบแวะเวียนเข้าออกบริเวณบ้าน วุ่นวายราวกับร้านกิ๊ฟต์ชอปตามย่านฮาราจูกุ
เพื่อนบ้านเองก็พลอยได้หน้าไปด้วย, ทุกคนมีความสุขที่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ หรือมีส่วนในการให้ปากคำของเหตุการณ์ครั้งนี้ อะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเธอ ดุจประหนึ่งประกายแห่งประเด็น ที่แตกงอกออกมาเป็นข่าวบนหน้าหนังสือ
เด็กหญิงใช้เวลาหลังจากนั้นอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ท่องเทียวในดินแดนสี่เหลี่ยมของกรอบห้องอันเป็นเหมือนกับโลกทั้งโลก สองปีหลังจากนั้น-เวลาช่วยชะล้างให้ทุกอย่างพร่าเลือน เงียบหายจนแทบไม่มีใครจดจำได้อีก เธอกลับไปเรียนอีกครั้ง ใช้ชีวิตปกติสามัญในโลกใบใหม่ ที่พ่อกับแม่อพยพมาพักฟื้น
กระนั้น เธอเองหาได้เคยหยุดคิดไม่ เด็กหญิงเพียรพยายามหาคำตอบเนิ่นนาน ความคิดขับเคลื่อนยาวเยื้อยคล้ายเส้นด้ายหมุนวนรอบแก่น สะสมนานวันแพอกพูนไม่มีที่สิ้นสุด
หรือชินอิจิโร่ประสงค์จะให้เธอเป็นเพียงผู้ชมภาพยนตร์ที่เขากับกับและอำนวยการฉาย กีดกั้นขอบเขตไม่ให้ล้ำเลยมามากกว่านั้น หากแต่ต้องการจะดูซ้ำอีกรอบ วิธีเดียวคือนำภาพในความทรงจำมาฉายชัด วิ่งวนในดินแดนไร้ขอบเขตของสมองส่วนเซรีบรัม
โชคร้ายตรงที่โปรแกรมหยุดนิ่งของเธอชำรุด สิ่งที่เกิดขึ้นคือภาพเหล่านั้นรีเพลย์ซ้ำวนไปมาไร้จุดจบ รอบแล้วรอบเล่าไม่มีเหน็ดเหนื่อย แม้ในยามหลับและตื่น ท่ามกลางแสงจ้าหรือรัตติกาลอันมืดมิดภาพยนตร์ของชินอิจิโร่ยังคงทำงาน ทำงาน และทำงาน
หรือนี่คือบทลงโทษ? -- เด็กหญิงมิอาจรู้
วันหนึ่งของฤดูใบไม้ร่วง เธอเข้ามาที่นี่ ร้องขอรับการบำบัดรักษาอาการไม่ปรารถนานอนหลับ เนื่องจากฝันร้ายยาวนานไร้การสิ้นสุด
...
ผมละตัวจากหน้าจอมอนิเตอร์ เบนสายตาจากรายงานคนไข้ที่ฮันส่งมาให้เมื่อตอนหัวค่ำ ก่อนมองเหม่ลอยออกไปนอกหน้าต่างมืดมิด มันเป็นราตรีซ้ำซากที่ห่างไกลจากการหลับไหลเช่นเคย อากาศเย็นชืดกระตุ้นชีวิตไปสู่ความตายด้าน ความเงียบงันคล้ายปีศาจที่รุกคืบหวังกัดกินจิตใจให้แตกสลาย
ผมเดินโซเซในบ้านเงียบคว้างราวกับหนูถีบจักร แสนเหนื่อยล้าและเคลื่อนตัวชักช้าในกรงเหล็ก แม้จะคุ้นชินกับทุกสัดส่วนในบ้านหลังนี้แล้ว แต่ความมืดกลับทำให้เหงาเคว้ง
ผมเหวี่ยงสายตาจับจ้องไปที่เปียโนเก่าคร่ำคร่า สมบัติตกทอดยาวนานของตระกูล ยืนทะมึนท้าทายรัตติกาลด้วยท่าทีจองหอง ก่อนพรมนิ้วลงบนเนื้อตัวเยียบเย็นของมัน
แสงจันทร์ ของเบโทเฟ่น คร่ำครวญอยู่ในค่ำคืนอันมืดมิดและยาวนานดุจนิรันดร์
Create Date : 05 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2555 16:23:39 น. |
|
1 comments
|
Counter : 611 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: i.am.Victor วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:18:05 น. |
|
|
|
| |
|
|
le temps |
|
|
|
|
ชอบนะครับ จะแวะมาติดตามบ่อย ๆ
ขณะอ่าน คงต้องหา moonlight sonata มาฟังคลอกระมัง