space
space
space
<<
พฤษภาคม 2566
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
5 พฤษภาคม 2566
space
space
space

How to ดูแลผิวหน้าไม่ให้หมอง ดูแก่ก่อนวัย จาก ฝ้า กระ จุดด่างดำ

สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่อง ฝ้า กระ จุดด่างดำ แบบเล็ก บอกเลยว่าปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ “ฝ้า” จะทำให้หน้าเราดูแก่กว่าวัยแถมหมองคล้ำเป็นจุดดำ ปื้นดำอีกด้วย ทำให้ไม่สามารถโชว์หน้าสดได้  ซึ่งเทรนด์ใหม่ๆเอาจริงๆ เป็นผู้หญิงหน้าสดแล้วสวยคือมันดูดี สะอาด ประหยัดเครื่องสำอางด้วยน๊า  จริงๆเล็กเพิ่งจะเริ่มมาดูแลตัวเอง ตอนอายุ ขึ้นเลข 3 เพราะว่า ไม่อยากให้หน้าดูแก่กว่าวัย คือถ้ายิ่งปล่อยไว้จะดูแลยากแล้วจะใช้เงินเยอะมากด้วย และไม่ชอบเข้าคลีนิค  แรกๆ คือหน้าเหมือนจะพังเลย หมองคล้ำ  หน้าไม่เนียน มีแต่ ปื้นฝ้า กระ จุดด่างดำฝังลึก รอยดำด่างๆ

เริ่มจากการทำความเข้าใจเรื่อง ฝ้า กระ จุดด่างดำ กันก่อน ว่าความแตกต่างของทั้ง 3 อย่างนี้ มันเป็นอย่างไร

ฝ้า กระ จุดด่างดำ คืออะไร แล้วต่างกันอย่างไร ? 

-ฝ้า คือ

ฝ้า มีลักษณะเป็นปื้นสีเข้มกว่าสีผิว มีตั้งแต่สีออกน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม สามารถขยายเป็นวงขนาดใหญ่ได้  แบ่งได้ดังนี้   

1 ฝ้าตื้น เม็ดสีผิวชั้นบนสุดหรือชั้นหนังกำพร้ามีลักษณะเข้ม และขอบชัด

2 ฝ้าลึก เป็นส่วนเม็ดสีที่อยู่ใต้ชั้นหนังกำพร้าลงมา และมีบางส่วนที่ตกค้างอยู่ในชั้นหนังแท้ มักจะมีสีอ่อนกว่าอาจเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด

3 ฝ้าเลือด ฝ้าเลือดเป็นปื้นสีแดง เกิดจากระบบเลือดลมและฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ หรืออาจจะเกิดจากการใช้ยาบางประเภทอย่างยาเกี่ยวกับฮอร์โมน หรือยาที่ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยทำงานผิดปกติ หากโดนความร้อนหรือแสงแดดฝ้าเลือดอาจจจะมีสีแดงมากกว่าเดิม

4 ฝ้าแดด เป็นผลจากรังสียูวีเอและยูวีบี เพราะรังสีอัลตราไวโอเลตเหล่านี้เป็นรังสีที่มีความเข้มข้นสูง เป็นรังสีที่มีคลื่นความยาวสูงทำให้ทำลายผิวได้ลึก กระตุ้นการผลิตเม็ดสีภายในผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าคล้ำเสีย หน้าหมองคล้ำ และเกิดเป็นฝ้าแดดได้

ฝ้า เกิดจากสาเหตุใด ? 

1 แสงแดด   เพราะแสงแดดจะกระตุ้นเซลล์เม็ดสี (Melanocyte) โดยตรงให้สร้างเม็ดสี และกระจายเม็ดสีออกสู่ผิวหนังทำให้รอยดำของฝ้าเข้มขึ้นเรื่อยๆ

2 อาหาร  ร่างกายเกิดอนุมูลอิสระที่ทำร้ายเซลล์ในร่างกายรวมทั้งเซลล์ผิวหนังจนกลายเป็นปัญหาผิวได้ อาทิเช่น ของหวาน ของทอดและอาหารฟาสต์ฟู้ด รวมไปถึงอาหารที่มีไขมันมากและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

3 เพศ  พบในเพศหญิงซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิง และมักจะเกิดฝ้าบ่อยๆ

-กระ คือ

กระมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ ที่มีสีน้ำตาลอ่อน มีขอบที่ชัดเจนไม่เป็นปื้น ขึ้นได้ตามร่างกาย โดยแบ่งได้ดังนี้


1 กระแดด

กระแดดเป็นกระอีกรูปแบบหนึ่งที่มักเกิดได้ในวัยกลางคนถึงสูงวัย ลักษณะจะเป็นแผ่นสีน้ำตาลอ่อน ขอบเขตชัด ขนาด 0.3 - 2 เซนติเมตร เกิดจากแสงแดดและอายุที่มากขึ้น กระชนิดนี้หากปล่อยทิ้งไว้ อาจใหญ่และนูนขึ้นได้ กระชนิดนี้ไม่สามารถจางลงได้แม้หลบแดด จึงต้องทําการรักษา ซึ่งวิธีการรักษาฝ้าโดยเลเซอร์เท่านั้น เลเซอร์ที่ใช้จะเป็นชนิดเดียวกันกับเลเซอร์ และใช้ครีมทาฝ้า กระ ควบคู่กับไปด้วย

2 กระลึก

กระลึกมักพบที่บริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้าง และ ขมับทั้ง 2 ข้าง จะเริ่มประมาณ 20-30 ปี สาเหตุจากกรรมพันธุ์, เพศ ส่วนวิธีการรักษาฝ้า กระ ต้องใช้เลเซอร์ที่มีความจำเพาะเจาะจงเท่านั้น ไม่เท่านั้นมองหาครีมสำหรับทาฝ้าเอาไว้ด้วยนะคะ

3 กระตื้น

กระตื้นนมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ มักพบบริเวณที่สัมผัสแดดมาก เช่น โหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง หรือจมูก กระตื้น เกิดจากเซลล์เม็ดสีใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ ส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม ที่ทำให้เซลล์เม็ดสีมีความไวต่อแสงแดดมากกว่าปกติ เลี่ยงการเจอแสงแดงและต้องได้การป้องกันอย่างดีขึ้น ที่สำคัญคือใช้ครีมแก้ฝ้า กระด้วยเพื่อเพิ่มสิทธิภาพ

4 กระเนื้อ

กระเนื้อมีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน หรือน้ำตาลเข้ม พบบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก หลัง โดยอาจขึ้นเป็นตุ่มเนื้อเล็กๆแล้วค่อยขยายใหญ่ขึ้น นูน และมีสีเข้มขึ้นโดยมีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า กระเนื้อ เกิดจากผิวหนังชั้นหนังกำพร้าเจริญเติบโตมากผิดปกติ โดยมีตัวกระตุ้นคือ แสงแดดและอายุที่มากขึ้น โดยยิ่งมีอายุมากขึ้น ขนาดก็จะใหญ่ขึ้นและจำนวนก็มากขึ้นด้วย

กระเกิดจากสาเหตุใด?

1.แสงแดด ยิ่งเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เมลาโนไซต์ ซึ่งเป็นเซลล์ผลิตสารสีเมลานินผลิตเม็ดสีชนิดนี้เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดดด้วยการสะท้อนและดูดซึมรังสียูวี ส่งผลให้ผิวดำคล้ำลงหลังถูกแสงแดด สารเมลานินที่ผลิตออกมามากเกินยังทำให้เกิดกระหรือทำให้กระมีสีเข้มขึ้นได้

2.สีผิว คนที่มีผิวขาวหรือซีดที่มีสารเมลานินน้อยอยู่แล้ว เมื่อเผชิญแสงแดด เม็ดสีที่เพิ่มขึ้นจึงไม่สม่ำเสมอ เกิดเป็นกระแทนที่ผิวจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำสม่ำเสมอ ดังนั้นคนที่มีผิวขาวจึงมีโอกาสเป็นกระได้มากกว่า

3.พันธุกรรม นอกจากแสงแดดและสีผิว ความเสี่ยงทางพันธุกรรมก็เป็นอีกปัจจัยหลักร่วมด้วย นั่นหมายความว่าแม้จะต้องเผชิญแสงแดดเหมือนกัน แต่โอกาสที่จะเกิดกระของแต่ละคนก็อาจไม่เท่ากัน

จุดด่างดำ คือ

จุดด่างดำ เป็นลักษณะที่ไม่สม่ำเสมอของสีผิว กระจายทั่วใบหน้าสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณใบหน้า แขน ขา

จุดด่างดำเกิดจากสาเหตุใด?

1.แสงแดด: การที่จุดด่างดำจะมีลักษณะเข้มขึ้นเกิดจากการกระตุ้นของแสงแดด

2.รอยดำที่เกิดจากการอักเสบของผิว: มักเกิดขึ้นจากการไปแกะสิวที่อักเสบทำให้ผิวอักเสบไปด้วย ซึ่งผิวบริเวณที่อักเสบจะเป็นสีน้ำตาลเข้มถึงดำ

3.การรักษาที่ผิดวิธี การใช้ความร้อนต่างๆ ทำให้ผิวอักเสบหรือพอง

   ฝ้า เกิดจากเซลล์ผิวหน้าไม่แข็งแรงและเสื่อมสภาพลง ความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยปื้นสีน้ำตาลอ่อนหรือเข้มมาก ซึ่งปัจจัยหลักที่กระตุ้นทำให้เกิดฝ้าได้แก่ แสงแดด และแสงจากหน้าจอ   กระ สาเหตุคล้ายกับฝ้า แต่ต่างตรงลักษณะจะเป็นจุดเล็กๆ กลมๆ มีขอบชัดเจน กระจายอยู่ทั่วใบหน้า ส่วนรอยดำหรือจุดด่างดำ หลักๆ เกิดจากการที่เราแกะกด บีบสิว ส่วนความเข้ม-อ่อน เกิดจากการกระตุ้นของแสงแดด

หากถามว่าตัวไหนที่รักษายากที่สุด ฝ้า ชัดสุดและรักษายากที่สุดต้องทำอย่างถูกวิธี

ดังนั้นเล็กเริ่มหาวิธีรักษาฝ้า ซึ่งมีหลายวิธีมาก โดยเล็กเริ่มดูแลผิวหน้าตัวเองตามนี้เลยค่ะ

1 ครีมกันแดด

แดดที่มากเกินไปเป็นตัวการหลักของทุกปัญหาผิว ก่อให้เกิดริ้วรอยผิวก่อนวัยอันควร ภูมิแพ้แสงอาทิตย์และผิวไวต่อแดด การกดภูมิคุ้มกัน เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังบางชนิดได้ เมื่อเราเจอแดดแรงๆควรทากันแดดซ้ำๆทุก 2 – 3 ชั่วโมง เผื่อป้องกันผิว

2 ครีมทาฝ้า กระ จุดด่างดำ

ส่วนผสมหลักๆของครีมทาฝ้าต้องช่วยลดเม็ดสีเมลานิน อย่างอัลฟ่า อาร์บูติน กรดโคจิก Ectoin และผลัดเซลล์ผิวได้อย่างเช่นBHA และต้องอ่อนโยนกับผิวไม่ทำให้ผิวบาง ไม่มีสารอันตราย

3 รับประทานผลไม้ วิตามินเสริม

การรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซี จะช่วยทำให้ผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวกระจ่างใส และทำให้ร่างกายสังเคราะห์คอลลาเจนได้ดี ช่วยให้ผิวเรียบเนียน และผลไม้ที่วิตามินสูง ได้แก่ ส้ม ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่มะละกอ แตงโม กีวี มะเขือเทศ บรอคโคลี่ หรือการหาวิตามินเสริมในรูปแบบเม็ดก็ได้ เพราะง่ายและสะดวก และได้ผลดีเช่นกัน

4 ใช้สกินแคร์ที่ช่วยในผลัดเซลล์ผิวได้
-Alpha Arbutin: เป็นสารที่จะไปช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้บริเวณที่เป็นฝ้า กระ หรือจุดด่างดำจางลง และปรับสีผิวให้กระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอค่ะ

-Glycolic Acid: เป็นกรดประเภท AHA หรือกรดผลไม้ ซึ่งเป็นที่นิยมในการนำกรดนี้มาอยู่ในครีมทาฝ้า หรือสกินแคร์อื่นๆที่ต้องการคุณสมบัติช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้ใสขึ้นและช่วยผลัดเซลล์ผิวค่ะ

-Niacinamide: เป็นวิตามันที่บำรุงผิวได้อย่างครอบคลุม ทั้งเรื่องปรับสมดุลน้ำและน้ำมันในผิว กระชับรูขุมขน ปลอบประโลมผิวลดอาการระคายเคือง ลดจุดด่างดำให้จางลง และปรับสีผิวดูสม่ำเสมอยิ่งขึ้นด้วย

-Licorice: สารสกัดจากรากชะเอมเทศช่วยไปยับยั้งเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิว ต้านการอักเสบ ทำให้ผิวชุ่มชื้นด้วยค่ะ

-วิตามินอี: ช่วยลดการอักเสบของผิว และลดการสร้างเม็ดสี ทำให้กระ ฝ้า จางลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

5 เพิ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ผิวแข็งแรงจากภายใน
เป็นการคืนความชุ่มชื้นกลับเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง รวมถึงยังช่วยลดความแห้งกร้านได้ และทำให้ผิวแข็งแรง ไม่ไวต่อแสง เพื่อให้กลับมาเกิดฝ้าได้อีก

อย่างแรกคือหลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดด ตามด้วยยาทาลดการสร้างเม็ดสี และการผลัดเซลล์ผิว โดยสังเกตจากข้อความที่เขียนข้างสกินแคร์ที่เขียนว่า แก้ฝ้า ,ลดฝ้า, ลดฝ้าแดดรับรองช่วยได้ และอาจจะตามด้วยการทำเลเซอร์ พร้อมทำเมโสสายฝ้า ซึ่งตอนแรกๆเลยที่ไม่ใช้อะไรเพราะว่ากลัวแพ้ ขี้เกลียดทาแต่ก็ยังห่วงสวยนิดนึงแหละ เริ่มจากทาสกินแคร์พวกมอยเจอร์หลังๆตรงจุดก็จะเป็นครีมทาฝ้า โดยตรงเลย และไม่ลืมใช้กันแดดที่ใช้ควบคู่กันมาตลอด หลังจากพอเวลาผ่านไปสักระยะ ก็รู้สึกว่าผิวตัวเองนุ่มมากๆ ผิวหน้านุ่ม รอยสิว จุดด่างดำ  ฝ้า กระ บางๆรู้สึกว่าสีไม่เข้มไม่เป็นเหมือนก่อน แล้วยิ่งเวลาออกแดดปกติจะหน้าแดง ร้อนผ่าว ดำไว หมองคล้ำ ก็เบาลง แล้วรู้สึกผิวมันดูแข็งแรงมากขึ้นด้วย

 

 




Create Date : 05 พฤษภาคม 2566
Last Update : 5 พฤษภาคม 2566 10:38:51 น. 0 comments
Counter : 349 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

lekominizz
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add lekominizz's blog to your web]
space
space
space
space
space