ไต้หวัน เกาะสวรรค์ของคนชอบกิน...

Lady Formosa
Location :
Taipei City Taiwan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





"ไต้หวัน" เกาะสวรรค์ของคนชอบกิน
จะพาเพื่อนๆ ไปชิมไปกินของอร่อยในเกาะไต้หวันกันค่ะ
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Lady Formosa's blog to your web]
Links
 

 
Nepal - Poon Hill Trek (Day1)




วันนี้เปลี่ยนจากเรื่องกิน ไปท่องเที่ยวกันบ้างดีกว่า
ทริปเนปาลนี้ ไปมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ดองมาซะเค็มเลย
แต่เป็นทริปที่สนุกมากกก.... มากที่สุด หลังจากได้ไปเที่ยวมาหลายๆที่

ทริปนี้พูไปกับสามีกันสองคน ไปแบบแบคแพค ใช้เวลา 10 วัน
เราไปกันช่วงวันที่ 18-27 ตุลาคม เมื่อปีที่แล้ว อากาศตอนนั้นกำลังดีค่ะ เย็นๆสบายๆ

เนปาลเป็นประเทศในฝันที่อยากไปเยือนมากๆ พอมีโอกาสเราก็ไปเลย
เพราะตั้งใจไปเดิน trekking เนื่องจากเนปาลเป็นประเทศที่น่า trekking มากที่สุด
เป็นจุดหมายของบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ชอบการ trekking เลยค่ะ

รีวิวทริปเนปาลนี้ พูก็จะเน้นตรงช่วงที่ไปเดิน trekking ละกันนะคะ
ส่วนเรื่องที่เที่ยวในกาฏมาณฑุ ค่อยมาเล่าให้ฟังคร่าวๆ หลังจากจบ trekking ละกันจ้า


18 ตุลาคม 2553

เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบินไทย ถึงสนามบินตรีภูวัน ที่กาฏมาณฑุ เนปาล ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง จ้ะ จากนั้นเราก็แบกเป้คนละใบเดินต๊อกๆ หาที่พักในย่านทาเมล ที่ส่วนใหญ่เต็ม เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น แต่ที่พักมีเยอะ ยังไงก็มีห้องว่างจ้ะ จากนั้นก็เดินหาร้านเอเจนซี่ขายตั๋วเครื่องบินไปเมืองโพขราวันพรุ่งนี้ เพื่อเริ่มต้น การ trekking ของเรา

บรรยากาศสนามบินภายในประเทศ ที่กาฏมาณฑุ คนเยอะมาก เนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขา คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางโดยเครื่องบินเล็ก




ชอบที่ชั่งกระเป๋ามาก ยังอนุรักษ์ของเก่าอยู่





19 ตุลาคม 2553

บินไปโพขราแต่เช้าตรู่ โดยสายการบินภายในประเทศ Guna Airs



ตั๋วไป-กลับ กาฏมาณฑุ-โพขรา คนละ 130 $ เครื่องบินเล็กขนาด 12 ที่นั่ง เก่าๆ นักบินสอง แอร์อีกหนึ่ง จะคอยแจกสำลีไว้อุดหู (เพราะเครื่องจะเสียงดังมาก) เครื่องดื่ม ลูกอม ใช้เวลาบินประมาณครึ่งชั่วโมง(ถ้านั่งรถจากกาฏมาณฑุไปโพขราใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง) บินไม่สูง เลาะไปตามแนวเทือกเขาหิมาลัย เตรียมกล้องไว้แชะได้ วิวสวยงาม มาถึงสนามบินโพขรา เครื่องแตะพื้นได้มันส์มาก หักเลี้ยวลง แตะพื้น ดึงเบรกจื๊ด ผู้โดยสารเงียบกริบ เหงื่อแตกกระจาย...

โบกแท็กซี่ไปย่าน lake side หาที่พักก่อนคืนนี้ เราพักที่ Hotel Trekker's inn แท็กซี่พามา คาดว่าได้ค่าขนม แต่ที่พักเริ่ด อยู่ริมทะเลสาบเฟวา




วิวจากระเบียงห้องพัก สงบมาก ไม่ไปเดิน trekking ได้ไหม นอนอยู่เฉยๆที่นี่ น่าจะสบาย ฮ่าๆๆ




ที่เมืองโพขรา เป็นจุดเริ่มต้นของการ trekking ทุกเส้นทาง เพราะฉะนั้น ที่นี่จะมีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมากๆ ว่าแล้วก็ต้องไปทำสิ่งสำคัญก่อน เราออกมาเช่าจักรยาน ปั่นไปที่สำนักงาน ACAP (The Annapurna Conservation Area Project)





อยู่ไม่ไกลจากเลคไซด์ ไปทำใบอนุญาตเดิน trekking กัน เราต้องทำอยู่ 2 อย่าง

- Entry Permit คนละ 2,000 รูปี
- TIMS (Trekkers Information Management System) คนละ 1,430 รูปี



ต้องเตรียมรูปถ่ายสองนิ้วไปหลายใบหน่อย และสำเนาพาสปอร์ต ใบอนุญาตเหล่านี้ ก็เหมือนเป็นค่าธรรมเนียม ที่ทางรัฐบาลจะเอารายได้ส่วนนี้ไปปรับปรุง ดูแล เส้นทางท่องเที่ยวในเนปาล อีกอย่างที่สำคัญคือ เวลาเราไปเดิน trekking จะมีด่านคอยเช็คตลอด และเราต้องลงทะเบียน เพราะเวลาที่เราเดินหลงทาง หายไป หรือประสบอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามหาได้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย ระหว่างทาง trekking มีคนเดินหลง ตกเหว หรือหายไป หาไม่เจอ มาหลายคนแล้ว


เสร็จจากตรงนี้ แล้วเราก็ไปเดินเล่น หาข้าวเย็นกินแถวใกล้ๆที่พัก ย่านเลคไซด์ก็จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร และบริษัททัวร์ เราแลกเงินมาแล้วจากทาเมลที่กาฏมาณฑุ ซึ่งให้เรทดีกว่าที่นี่ ตอนนั้น 100 รูปี = 60 บาท สำหรับค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน เราจ่ายเป็น US dollar ส่วนจ่ายทั่วไปค่ารถ อาหาร ฯลฯ ใช้เงินรูปีจ้า นี่คืออัตราแลกเปลี่ยน ณ ตอนนั้น




แถวนั้นก็จะมีแต่ร้านขายอุปกรณ์ trekking มีทุกอย่าง ราคาไม่แพง ไม่ต้องขนมาจากเมืองไทย พูไปได้ถุงมือ หมวกอุ่นๆ และเช่าไม้เท้าสำหรับ trekking มาอันนึง



การเดิน trekking ครั้งนี้ พูตั้งใจหาลูกหาบไปแบกกระเป๋าให้ ไม่อยากเปรี้ยวแบกเอง เพราะไม่ได้ฟิตซ้อมร่างกาย กลัวขาเมื่อย เดี้ยงอยู่บนเขาแล้วแย่เลย ก็ลองไปถามตามบริษัททัวร์ดู ถ้าลูกหาบ ที่เป็นไกด์พูดอังกฤษได้ด้วย ค่าจ้างอยู่ที่ 20 $ ต่อวัน แพงไป ค่อยไปหาเอาข้างหน้า



แผนการเดิน trekking ของเรา จะเดินแค่เส้นทาง Poon Hill Trek รอบเล็กๆ เพราะเป็นการเดินครั้งแรก ต้องลองก่อน เรากะใช้เวลาเดินรอบนี้ 4 วัน เส้นทางอื่นก็น่าสนใจ ถ้ามีเวลาเยอะๆ




20 ตุลาคม 2553

ตื่นแต่เช้าตรู่ อากาศสดใส รีบขึ้นไปชั้นดาดฟ้าของที่พัก ชมวิวเทือกเขา Annapurna ส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย




เราแพ็กของสำหรับ trekking ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ให้เหลือเป้ใบเดียว ขนไปแต่ของจำเป็น เป้อีกใบฝากโรงแรมไว้ก่อน เราจะกลับมาค้างที่นี่อีกคืน หลังจากกลับจาก trekking เช้านี้โบกแท็กซี่ออกไปหมู่บ้านนายาปุล Nayapul หมู่บ้านแรกที่เราจะเริ่มเดิน นั่งแท็กซี่จากโพขรามาประมาณ 1 ชั่วโมง



พอมาถึงเราจะถูกรายล้อมไปด้วยบรรดาชาวบ้าน ที่จะมาเป็นไกด์และลูกหาบให้เรา เราเล่นตัว ต่อราคาเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ได้คุณบีม ที่เป็นทั้งลูกหาบแบกเป้ให้เรา และเป็นไกด์ภาษาอังกฤษ ไปร่วมทริบกับเราในครั้งนี้ เราจ่ายคุณบีมวันละ 15 $ โดยไม่ต้องจ่ายค่าที่พัก หรือค่าอาหาร ให้คุณบีม เราอาจจะจ่ายค่าอาหารหรือเครื่องดื่มให้บ้างบางมื้อ
สำหรับลูกหาบและไกด์ที่เดินทางไปกับเรา เขาจะมีที่พัก และอาหารฟรี จากเกสเฮาส์ที่เราไปพัก โดยเราไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้


แผนการเดินทางของเราวันนี้ จะผ่านหมู่บ้านตามนี้ค่ะ นายาปุล- บีเรทานติ- มาทาตานติ- ซูดาเม่- เฮลเล- ทิเก็ตตุงก้า- อูลเลริ ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันค่ะ เราออกจากหมู่บ้านนายาปุล ตอนเก้าโมงเช้า





เดินข้ามสะพานแขวน เริ่มสัมผัสได้ถึงธรรมชาติอันสวยงาม




เจอด่านแรก ต้องตรวจเอกสารใบอนุญาต และลงทะเบียนที่หมู่บ้านบีเรทานติ Birethanti




นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะออกเดินทางจากที่นี่กันแต่เช้า คึกคักมาก เดินไปด้วยกัน นี่ลูกหาบ (ของคนอื่น) ท่าทางจะหนัก แต่เขาแบกมากันหลายปีแล้ว ขาแข็งแรงมาก




ป้ายบอกทาง เราจะเดินไปทางหมู่บ้านโกเรปานี Ghorepani ก่อน แล้วค่อยไปจบที่ Ghandruk แล้วก็จะวนกลับมาที่นี่ หมู่บ้านบีเรทานติ ในวันที่สี่ เป็นวงกลม




ทางเดินยังกว้างขวาง สบายๆ อากาศหนาว แต่แดดเริ่มร้อน หมวกที่มีผ้าปิดลงมาถึงคอเป็นสิ่งที่จำเป็น ระหว่างทางจะเจอขบวนล่อ ม้า เขาเอาไว้ใช้ขนของ เพราะมันไม่มีทางรถเข้ามา เดินเท้าล้วนๆ





ระหว่างทางเจอเด็กๆ อัธยาศัยดี ยิ้มสู้กล้อง น่ารักมาก





ผู้หญิงที่นี่จะทำงานกสิกรรม ในขณะที่ผู้ชาย จะเข้าไปทำงานในเมือง ตามร้านอาหาร หรือเป็นลูกจ้าง ผู้หญิงแข็งแรงมาก นอกจากจะแบกของหนัก ยังเดินไกลได้อีก





จากหมู่บ้านบีเรทานติ เราเดินผ่านหมู่บ้านมาทาตานติ จนมาถึงหมู่บ้านซูดาเม่ ในตอน 11 โมงครึ่ง คุณบีม ไกด์เรา แนะนำให้กินข้าวกลางวันที่นี่ เพราะหมู่บ้านข้างหน้า ต้องเดินไปอีกเกือบสองชั่วโมง




มื้อแรกของเรา ขอสั่งเบสิคๆ ก่อน คือ ผัดบะหมี่ และข้าวผัด ยังไม่กล้าลองของแปลก การเดินของเราวันนี้ยังอีกยาวไกล เราแอบพกหมูหยองไปด้วย เอาโรยหน้าข้าวผัด อร่อยที่ซู้ดด...





จัดการมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อย ก็ออกเดินกันต่อ จังหวะการเดินของเราสม่าเสมอมาก เรามาถึงหมู่บ้านทิเก็ตตุงก้า Teketdungka ตอนบ่ายโมงครึ่ง นักท่องเที่ยวหลายคนหยุดพักค้างคืน ที่หมู่บ้านนี้ เพราะหลังจากหมู่บ้านนี้ จะเป็นเส้นทางมหาโหดกับบันไดนรก 3,000 ขั้น ใครอยากเดินเบาๆ ก็พักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยไปลุยกันต่อ




แต่เราแพลนไว้แล้ว ว่าวันนี้จะต้องเดินผ่านเส้นทางโหดนี้ เพื่อไปค้างคืนที่หมู่บ้านข้างหน้า รอชมวิวสวยๆ พรุ่งนี้เช้า เราจึงเดินกันต่อไป โหดจริง เพราะเป็นบันไดหิน ที่ขึ้นๆๆ กันอย่างเดียว ขนาดไม่มีเป้บนหลัง ยังหอบแฮ่กๆ ระหว่างทางเจอฝรั่งผู้หญิงคนหนึ่ง แบกเป้เองมากับแฟนหนุ่ม ถึงกับกรี๊ด และทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ไปต่อไม่ไหว ต้องลงกลับไปนอนที่หมู่บ้านข้างล่าง




เดินไปเรื่อยๆ ก็เหนื่อยนะคะ แต่มันเพลินกับทัศนียภาพรอบข้าง มันชื่นใจบอกไม่ถูก เดินไป มองไป เพลินดี




เย่ห์....แล้วเราก็มาถึงหมู่บ้านอูเลริ Ulleri จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ ตอนสี่โมงเย็นเป๊ะ หน้าโทรมมาก แต่ดีใจค่ะ ที่ผ่านเส้นทางโหดมาได้





เราพักที่ประทับเกสเฮ้าส์ พูว่ามันคล้ายโฮมสเตย์มากกว่า เราได้ห้อง เอาของเก็บ แล้วก็ไปเดินดูรอบๆ หมู่บ้าน แล้วก็กลับมากินข้าวเย็นที่บ้านพัก






และนี่คือห้องนอนเรา ก็จะเป็นแบบง่ายๆ แต่สะอาดมาก ใช้ห้องน้ำรวม ค่าห้องพักคือ 100 รูปี หรือ 60 บาท แค่นั้นเอง โอ้ และสิ่งที่เราต้องพกมาเอง นั่นคือถุงนอนค่ะ เห็นเตียง แล้วอยากกระโดดใส่ ขาเมื่อยแล้ว ซุกตัวในถุงนอนอุ่นๆ หลับไปไม่รู้เรื่องเลย






เดี๋ยวพรุ่งนี้ มาเดินกันต่อ มีอะไรสนุกๆ อีกเพียบเลยจ้า



Create Date : 19 สิงหาคม 2554
Last Update : 19 สิงหาคม 2554 13:46:52 น. 3 comments
Counter : 3258 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ ^^


โดย: may-april วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:13:58:34 น.  

 
น้องพูก็เป็นนักเที่ยวตัวยงเหมือนกันนะเนี้ย
เห็นไปมาหลายที่เลย

เนปาลก็เป็นอีกประเทศที่พี่อยากไปจ้ะ
แต่หาเพื่อนร่วมทางลำบากอ่ะ
เก็บไว้ในลิสต์ก่อน
เผื่อมีใครหลงมาเป็นเหยื่อของเรา

สำหรับไต้หวันพี่ว่าจะไปช่วงวันพ่ออ่ะ
คิดว่าจะไปกับทัวร์นะ
เพราะขี้เกียจจัดทริปแน่ะ
ไปกับทัวร์มันสบายดี



โดย: chenyuye วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:16:24:46 น.  

 
น้องพูจ๋า เรื่องกินเราสไตล์เดียวกัน
แต่เรื่องเที่ยวนี่ 5555555

น้องพูเที่ยวแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
พี่ยุ้ยจะได้รู้ได้เห็นการท่องเที่ยวในอีกรูปแบบนึง
พี่เคยฟังจากที่เพื่อนสนิทพี่เล่ามาเหมือนกัน
เค้าก็ชอบไป trekking เหมือนน้องพูเลย

แต่พี่นึกภาพไม่ออก มาวันนี้เข้าใจล่ะ
เพราะถ้าเป็นบล๊อคของคนอื่น พี่ก็คงไม่เข้าไปดู
แล้วก็คงไม่ได้รู้ได้เห็นข้อมูลแบบนี้ อิอิ

ยังไงรอเที่ยวต่อตอนหน้าด้วยน๊า


โดย: nLatte วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:16:48:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.