ชุมชนร่างกฎหมายและให้ความเห็นทางกฎหมาย

<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 ธันวาคม 2551
 

ทริปเก็บตัวนางงาม ณ ดอยหลวงเชียงดาว โดย ขนุนเน่า


5-9 ธันวาคม 2551
ภาค
: ดอยไหนๆ ก็ไปไม่ถึง เสียชื่อจิง!
ทีม : ภัทรซ่า ป้าวิลลี่ พี่เอี่ยม พี่โจ พี่ก้อง พี่ติ๊ก และขนุน



กลับมาเนิ่นนานพาลจะขี้เกียจเล่าละ บวกกับภาระงานเพื่อสังคมขึ้นปีใหม่ของสำนักงาน บานตะไท ทั้งนก ทั้งปลา ทั้งงู นั่งพับกันหัวฟู เกือบหมดอารมณ์อัพบล็อค ยิ่งมาเห็นทริปอื่นๆ ที่เดินทางสวนกันขึ้นดอยแล้วดูเฮฮา ฟ้าก็เปิด นี่ ยิ่งหน้าหดหู่ทริปตัวเองนิดโหน่ย แหง่มๆ ก็ไม่มีไรมาก เพียงแค่ทริปเราดันเจอเทวดาเข้าไปเต็มๆ เลยกลายเป็นทริปนางงามดอยหลวงเชียงดาวกันเลยทีเดียว จะเดิน จะก้าว จะเยื้องยุรยาด ต้อง “เรียบร้อย” “อยู่ในสัมมาคารวะ” “พูดจานุ่มนวล” “No Jump”  สรุป เท่ากับทริปนี้ขนผ้าขึ้นไปพับบนดอยเชียงดาวว่างั๊นเหอะ


งง ช่ายมะ ใจความสั้นๆ ไกด์ = อาจารย์ อาจารย์ = เคร่งวิชา ทรงความรู้ และกรูอยู่ในแบบแผน แหล่ะ


“ก็ไม่ได้ว่าอะราย” ก็แค่ต้องจำขึ้นใจว่า “เทวดาเต็มดอย” ห้ามลบหลู่ดูหมื่น ห้ามหัวเราะเสียงดัง ห้ามร่าเริงเกินขนาด ห้ามซะจนรู้สึกเกรง แต่มิได้เกรงเทวดา แต่เกรงครูบาที่เดินวนเวียนข้างเต็นท์ เล็ดลอดไรฟันให้ได้ยินว่า “มันจะขำอะไรกันนักหนา” แหง่มๆๆๆ


จบเรื่องบ่นๆ เข้าเรื่องเข้าราวกันซะที เพราะถ้าไม่บ่นนี่เริ่มเรื่องไม่ออกจริงๆ นะเนี่ย นิสัยไม่ดี


ทริปนี้หน้าเดิมค่ะ มีเพิ่มเมมเบอร์ใหม่มา 2 และหายไปกับภาระครอบครัวบ้าง ได้พี่ก้องกะพี่ติ๊กมาร่วมทัพพับผ้า เหอะๆ งวดหน้าล่องแก่ง อย่าลืมน๊าย๊า.. ขาขาดพอดี


เริ่มออกเดินทางวันพ่อตอนโพล้เพล้ เจอกันที่ สคก. ก็ตอนเกือบๆ สองทุ่ม


เช้าวันเสาร์ ที่ 6


ตามโปรแกรมถึงแม่แตงตีห้า เพื่อซื้อหาของสดแพ็คขึ้นเขาไปทำมาหากินกันบนดอย โอ่ย.. นี่แค่อากาศเย็นแบบพื้นๆ ธรรมดาๆ ของเมืองเหนือนะเนี่ย ยังหนาวจัดจ้านแบบไม่อยากออกจากรถเลยอะ ตอนนั้นนึกถึงอนาคตบนดอยไม่ออกเลยว่า ชีวิตจะอยู่ได้อย่างไร หนาวทั้งกาย หนาวทั้งใจ..


วันนี้เตร็ดเตร่ในเมืองซำบายๆ กินอาหารเช้ากันที่ อช. ศรีล้านนา ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล วิวยามเช้า พระอาทิตย์ขึ้น บวกกะอากาศเย็นๆ สวยมากๆ



พระอาทิตย์กำลังจะโต


 


 


เราก็เที่ยวมาด้วยกันหลายทริปแล้วนา ..พี่โจน๊า... 


แอ่วถ้ำดอยเชียงดาว ซึ่งถ้ำนี้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่สามารถขึ้นดอยหลวงเชียงดาวได้ แต่เป็นเส้นทางที่ยากส์มาก และไม่เปิดให้เดินแล้ว


 


ต่อจากนั้นก็เลาะเรื่อยเรี่ยราดไป "วัดเด่น"



แวะจัดการกับข้าวขาหมูอันเลื่องชื่อ "พรเพ็ญ ข้าวขาหมูเสวย" อร่อยที่สุดในโลก


 


เข้าเก็บของที่ ริมดอยรีสอร์ท และก็...


สเปเชี่ยลของทริปอยู่จากนี้ไป ทางทีมอยากเที่ยวดอยใหม่ๆ ไม่เหนื่อยมาก ถือเป็นการวอร์มร่างกายก่อนทดสอบสนามจริงในวันพรุ่ง ทัวร์ก็จัดให้ “ดอยค้ำฟ้า” ใหม่ขนาดไหน ก็ขนาดไกด์ว่า “โพ้ม ก็ยังไม่เคยขึ้น” หน่ะเส่ะ หนทางนี่ไม่ต้องพูดถึง ตราตรึงในหัวใจสุ่ดสุ่ด โดนเขย่ากันแทบจะเป็นมะเร็งเต้านม+ห้อยโหนกันเป็นลิงบนรถสองแถว สูงขึ้นไปเรื่อยๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เห่ย เรื่อยซะจน..”ยอดดอยมันอยู่ตรงไหนฟระเนี่ย” สรุป วนหายอดดอยกันจนท้อ ok ยอมแพ้ เสียงของพี่ไกด์ลอยตามลมมาด้วยความเป็นห่วงว่า “นี่ผมคิดถูกหรือผิดที่ให้พวกคุณมาตรากตรำกันก่อนแบบนี้” แล้วพี่ไกด์ก็นั่งหน้าเครียด ปวดตับ ปริ่มๆ หายใจไม่ออกด้วยอาการประหนึ่งปฏิบัติหน้าที่มิบังควร เอริ่ม ตอนนั้นบอกได้แค่อย่างเดียว ตรากตรำหน่ะ ไม่มีอยู่ในหัว แต่อาหารทั้งวันถูกขยอกรวมกันไปไว้ที่ลำไส้ใหญ่เตรียมลำเลียงออกโดยไม่ต้องย่อยเรียบร้อยละ



กระโดดกันซะไกด์ งอน



สองแถวสีเหลืองบาดจิต พิชิต "ดอยค้ำฟ้า.."


 


หน้าตาเด็กเก็บตังค์ ท้ายรถสองแถว


คืนนี้อาบน้ำอุ่น นอนซุกตัวในผ้าห่มอุ่นๆ ซาบาย..


วันอาทิตย์ ที่ 7 เดินทางสู่สันดอยเชียงดาว ตามหารอยเทียนนกแก้ว


ตื่นเช้ามาพบกับความหนาว... อย่างไม่ลดละ ทีมแพ็คกระเป๋า เตรียมขึ้นเขา ตามกฎกติกามารยาท เราต้องทำหนังสือขออนุญาตที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เพื่อขอเข้าไปศึกษาธรรมชาติ ย้ำ เพื่อศึกษาจริงๆ นะ ถ้าบอกอย่างอื่น ห้าม ห้าม ห้าม เด็ดขาด ละก็นับหัวลูกทัวร์ นับสัมภาระ ที่นี่กำหนดให้ขึ้นดอยได้ไม่เกินวันละ 250 คน ดี ชอบ ไม่แออัดยัดคะนานเป็นตลาดนัดเต็นท์คนเมืองเหมือนบางที่



ทำความเคารพสถานที่กันก่อนออกเดินทาง



ต่างคน...ก็ต่างขอ 


และ



ใครเห็นด้วย กดโหวต ด่วน!!!


ประวัติกันนิดส์


ดอยหลวงเชียงดาว เป็นภูเขาหินปูนที่สูงที่สุดของประเทศ แต่เป็นเทือกเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีความสูงอยู่ที่ระดับ 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้เป็นสังคมกึ่งอัลไพน์ ก็คือ มีลักษณะคล้ายสวนหินธรรมชาติ จำกัดความสั้นๆ ว่า “สวยมาก”


ระดับเลเวลความยากของทริป : ปานกลาง เพราะเส้นทางโหดสุด ปิดทำการไปละ ไม่งั๊นคงได้สนอง needs คณะพรรคกันบ้างหล่ะ


ระดับความลำบากหาเรื่องใส่ตัว : อยู่ที่การแบกกระเป๋าเป้และสัมภารกกันเอง และหนาวอย่างบ้าคลั่ง


เส้นทาง : ใช้เส้นทางบ้านนาเลาใหม่ (ปางวัว)


เทือกเขา เมื่อมองจากด้านล่าง โอ่ว ว๊าว... มันช่างยิ่งใหญ่ อลังการ ขลัง และเริ่มน่ากลัวในหัวใจ ยอดเขาสูงทะลุขึ้นไปบนม่านหมอก ดูมันช่างไร้จุดสิ้นสุด อย่างน่าค้นหา และเริ่มท้อขึ้นมานิดส์ๆ ว่าจะเดินไหวมะว๊า


 


น่ากลัวมิใช่หยอก


แต่ทริปนี้ ผิดคาด!! เหนื่อยน้อยกว่าทุกทริปเสี่ยงเข่าเสื่อมที่ผ่านมา เดินกันสบายสายลม 7 คนของเรามักมั๊ก ชิวๆ สิวๆ หิวๆ กันไป หายใจไม่ทันก็พักกันได้ เดินไปเป็นพักๆ อ๊ะไกด์หาย แต่ลูกทัวร์ก็เดินกันเองได้ กลางวันหม่ำเข้ากระเพรา+ไข่ดาว เดินไป ก็... ปล่อยลม..ม..ม. ปาย... เอริ่ม ฝากขอโทษพี่เอี่ยมกะภัทรซ่าน๊า ก็บอกให้เดินนำหน้า ไม่เชื่อน้องไมอ่า.. ใบกระเพรามันช่วยระบาย ถ้าไม่ผ่อนคลาย ท้องจะอืด... เข้าใจกันนะ ok นะ



ตามโปรแกรม วันแรกเราใช้เวลาเดินกันเพียง 1 ชม. แล้วพักกันคืนแรกที่ดงไม้หก (จุดสีฟ้า) แต่นี่ไกด์หักดิบหักด้วนหักหัวลูกทัวร์ เดินรวดเดียวถึงแคมป์สองที่อ่างสลุง (จุดสีชมพู) บนยอดร่วม 6 ชั่วโมง... ทีมทำได้เส่ะคร๊า เพราะเกริ่นไว้แล้ว ทริปนี้เดินสบาย.. แต่ที่หักหัวอกหัวใจเป็นทับทวียิ่งนักคือ เดินมา 6 ชั่วโมงถึงที่พัก นั่งกันตรูดยังไม่ทันปรับสภาพ ต้องเดินต่ออีก 45 นาทีเพื่อจะขึ้นไปดูแสงสุดท้ายยามอาทิตย์ตกที่ยอดดอยเชียงดาว (จุดสีเขียน) เอ๊า ไม่ไปได้ไง เหนื่อยก็ต้องฮึด ขึ้นมาถึงนี่เพื่อสิ่งนี้ จ่ะ.. แบกกล้องเดินกันต่ออีก 45 นาที แต่... บุญมีแต่กรรมบังค่ะ ขึ้นไปไม่ถึง พระอาทิตย์ไม่รอ อัสดงไปซะต่อหน้าต่อตากลางทางกันซะงั๊น สุดจะบรรยาย แล้วแรงกายก็หมดเพียงเท่านั้น พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า คนก็หน้าง้ำเดินลงมา หันหลังให้ยอดเขาเพียงเท่านั้น เจ็บใจตัวเองนิดหน่อย ทำไมพระอาทิตย์ไม่รอ ห๊า...!!



6 ชั่วโมงแห่งความหฤหรรษ์ หน้าตาไม่ได้บ่งบอกว่าเหนื่อยเลยเน๊อะ



ไม่เหนื่อเลยเน๊อะ..พี่ติ๊กเน๊อะ..หน้าพี่บอกม๊าก



พี่ก้องมัวแต่มองดูไรหว่า..??


 


แสงสุดท้าย ถ่ายด้วยแรงไต่เฮือกสุดท้าย ข้างๆ ดอย


อุณหภูมิคืนแรก ตกอยู่ที่ 5-6 องศา ถุงนอน deuter นำเข้าจากเมืองนอก ราคาล่อเข้าไปซะเกือบ 2,000 เอาไม่อยู่ แทบจะลุกขึ้นมาปาถุงนอนตัวเองออกนอกเต็นท์


เช้าตื่นตี 5 ออกจากเต๊นท์มาสู้กับอากาศเย็นบ้าคลั่ง น้ำค้าง และความมืด เพื่อเดินทางอีกเกือบชั่วโมงสู่ยอดกิ่วลม (จุดสีม่วง) เพื่อชมแสงแรกของดวงอาทิตย์และทะเลหมอก.... แต่..เจอแต่เมฆ กะเมฆ รอจน 10 โมงเช้าก็ยังคงเจอแต่เมฆ หื่มๆ ถอดใจจริง พระอาทิตย์ก็ม่ายเห็น ทะเลหมอกก็ม่ายเห็น นั่งตัวแข็งอยู่บนยอดอย่างหน่ายชีวิต



 



















เตร็ดเตร่ดูดอกไม้บนยอดกิ่วลมกันจน 10 โมงกว่าๆ ลงมาเตรียมตัวเก็บของ คืนนี้เราจะเดินทางลงไปนอนกันที่ ดงไม้หก ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ไม่ต้องเร่งรีบ อ๊ะ เราก็แปลกใจ งั๊นก็ลงถึงตีนดอยกันเลยมิได้เหรอ จากดกไม้หกถึงตีนดอยก็แค่อีก 1 ชม. อ่ะ รอเวลาและฝีเท้าเป็นเครื่องพิสูจน์ เดินเตร็ดเตร่แถแถกกันมาเรื่อย สรุป นอนที่ดงไม้หกเหมือนเดิม


คืนนี้ เบิร์ดเดย์ไนท์ให้พี่ โจ โรแมนติกชิมิล่า..ของขวัญคือ ลูกเดยต้มกะทิ กะ สลาฟหน้าเต็นท์



หนุ่มโสดที่สุดในทริป 


พี่ก้อง : ผมว่าคืนนี้คงไม่หนาวเหมือนคืนแรกหรอก นี่เราลงมาจะถึงตีนเขาละ


ทีม : อืมๆๆๆๆ เล่นต่อๆ


ไกด์ : ....................................


 


พี่ก้อง : 16 องศา ไม่หนาวเน๊อะ


ทีม : อืมๆๆๆๆๆ เล่นน...ต่ออ..ๆๆ


ไกด์ : .........................................


 


พี่ก้อง :  12 องศา ละ อรื่ม.....


ทีม : อรื่ม.........ละ ละ เล่นนน ต่ ต่อ..ออ.


ไกด์ : แยกตัวไปต้มลูกเดยน้ำกะทิ


พี่ก้อง : เห๊ย 10 องศาละหว่ะ


ทีม : อรื่ม.......ตะ..ต่อ อีก 2 ตานะ มะไหวละ


ไกด์ : ลูกเดยจะสุกละนะ


พี่ก้อง : เห๊ยพี่ 7 องศาละเนี่ย


ทีม : OK กุมะต่อละ


ไกด์ : เห๊ย ลูกเดยไม๊พี่น้อง ร้อนๆ


ทีม : อรื่ม........... (กุมะอยากจะทำอะไรต่อแล๊นน)




ทำกันทุกทาง ให้ได้มาซึ่งเหงื่อ..


วันนี้ตื่นกันแบบสายๆ ก็ไม่ต้องรีบร้อนเดิน เพราะตีนดอยอยู่แค่เอื้อม โอ้ละเห่ไปกะดอกไม้ตลอดทาง ลงมาถึงแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นการส่งท้ายคือ เอาขยะไปนับ ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ตามระเบียบ


ต่อด้วยหมู่บ้านชาวเขาที่เห็นวิว ดอยหลวงเชียงดาว เต็มๆ ตากันอีกที่ ก่อนที่จะล้างเนื้อตัวหลังจากการไม่เจอน้ำมา 2 วัน และก็ถึงเวลากลับบ้านเรา




สรุปสุดท้าย ไม่ว่าจะหมดอารมณ์ไปกะอะไรก็ตาม แต่ก็คงยังมีกลิ่นไอของความเร้าใจ สุขใจ และระห่ำ เหมือนเดิม


ขอบคุณทุกปัญหาที่ให้เราได้เผชิญร่วมกัน .. ความสำเร็จครั้งนี้ 90% เพราะไปไม่ถึงมันซักกะดอย..555 แต่สุขใจที่ได้เดินร่วมทาง






Free TextEditor




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2551
4 comments
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 10:51:06 น.
Counter : 1287 Pageviews.

 
 
 
 

ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ
ชอบ
1. ชอบเดินทางแบบนี้มาก อยากร่วมทางจังครับ
2. ชอบฝีมือการถ่ายภาพ แจ่มมาก
3. ชอบความเป็นกันเองของเพื่อนสมาชิกเดินทาง

เยี่ยมๆ บล็อคนี้ 5 ดาวครับ
 
 

โดย: ฟ้าสดใส ทะเลสีคราม วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:0:19:26 น.  

 
 
 
ขอบคุณ คุณฟ้าสดใส ทะเลสีครามค่าที่ให้คะแนน ถ้ามีโอกาส จะร่วมแจมกันซักทริปก็ได้นะ ไม่เน้นหน้าตา 55 เน้นความระห่ำในสายเลือดสถานเดียวค่า
 
 

โดย: คนเขียนบล๊อค IP: 210.246.148.28 วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:9:41:54 น.  

 
 
 
ทริปนี้สุดยอดเลยค่ะ อยากไปบ้างจัง
 
 

โดย: SIMAKHA วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:9:23:29 น.  

 
 
 
ทริปนี้ไปเที่ยวทั้ง อช.ศรีน่าน
และ อช.ศรีล้านนาเลยหรอจ๊ะ
เป็นทริปที่คุ้มจริงๆๆๆ อิอิๆๆๆๆๆ
(ไม่ได้โม้)
 
 

โดย: คนเคยแจม IP: 210.246.148.28 วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:17:28:34 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

KMyoungelite
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]








[Add KMyoungelite's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com