เมษายน 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
ลาก่อน ซาลาเปา-บราวนี่
"บราวนี่" เป็นหมาที่ลูกน้องแม่เก็บมาจากแถวๆบ้านเค้าเอามาให้บ้านเราเลี้ยง บราวนี่มาพร้อมกับ "ซาลาเปา" จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนตั้งชื่อ แต่เพราะซาลาเปามีขนสีขาว-ดำ ส่วนบราวนี่มีขนสีขาว-น้ำตาล

ก่อนหน้าที่บราวนี่และซาลาเปาจะมา ที่บ้านมี "ป๊อกกี้" อยู่แล้ว ซึ่งเป็นหมาของป้า และป๊อกกี้ก็ตายไปก่อนแล้ว



เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซาลาเปาก็ป่วยเป็นพยาธิหัวใจ เรารู้ว่าซาลาเปาป่วยก็เมื่อเป็นมากแล้ว

เช้าวันนึงเราเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นซาลาเปานอนตัวสั่นอยู่ คิดว่าเป็นไข้จึงเอายาแก้ใข้ให้กินแล้วห่มผ้าให้ ตอนนั้นพ่อไม่อยู่บ้านไปซื้อของก็คิดว่ารอพ่อมาเดี๋ยวจะให้พาไปโรงพยาบาล แล้วเราก็เข้าครัวไปทำกับข้าว

สักชั่วโมงกว่าๆ พ่อกลับมา เราบอกว่าหมาป่วยนอนสั่นอยู่ พ่อจึงอุ้มซาลาเปาขึ้นรถไปกับแม่ (ไม่รอเราเลย)

พักใหญ่ๆ เราโทรไปถามว่าเป็นยังไงบ้าง แม่บอกว่าหมอออกไปทำธุระที่แบงค์ เดี๋ยวจะกลับมา พ่อ แม่ และซาลาเปารอหมออยู่ชั่วโมงกว่า หมอก็มาถึง

หมอตรวจอาการแล้วบอกว่าต้องเจาะเลือดตรวจอีกหลายอย่าง ให้เอาตัวไว้ที่โรงพยาบาลนี่แหละ แล้วจะโทรแจ้งเป็นระยะ พ่อกับแม่จึงกลับมาบ้าน

เย็นวันนั้นเราไปเยี่ยมซาลาเปาที่โรงพยาบาล สภาพที่เห็นคือซาลาเปานอนตัวเหม็นอยู่ในช่องชั้นบนของคอนโดหมา เนื่องจากไม่ได้อาบน้ำให้หลายเดือน พอไม่สบายแบบนี้ตัวจึงเหม๊นเหม็น

วันต่อมาหมอโทรมาบอกว่าซาลาเป็นเป็นพยาธิหัวใจขั้นสูงสุด (อันนี้เติมเอง) แต่เป็นมากแล้ว แล้วยังมีโรคอื่นแทรกซ้อนอีก

เราไปเยี่ยมซาลาเกือบทุกเย็น ซึ่งมักจะเป็นเวลาที่หมอจับตัวมารักษาพอดี บางวันไปเร็วก็เข้าไปเยี่ยมในคอนโด วันแรกๆ เมื่อได้น้ำเกลือและยา ซาลาเปาพอมีแรงยืนกินอาหารได้บ้าง แต่ไม่ต่อยตอบสนองเวลาเราเราไปหาแล้วเรียกชื่อเท่าไหร่ อย่างดีก็กระดิกหางนิดๆ แต่หลังๆ เราเรียกเท่าไหร่ซาลาเปาก็ไม่สนใจ นอนหันหลังให้อีก ไม่รู้น้อยใจหรือไม่รู้เรื่องก็ไม่รู้

ซาลาเปาอยู่ที่โรงพยาบาลอาทิตย์กว่าๆ ถึงวันเสาร์ ชวนแม่กับน้องไปเยี่ยม เพราะที่ผ่านมามีแต่เราที่ไปกับเพื่อน พอแต่งตัวเสร็จหมอโทรมาบอกว่าซาลาเปาตายแล้ว

ตอนที่แม่มาบอกใจหายเหมือนกันนะ กำลังจะไปเยี่ยมกันพอดี แต่คิดอีกทีซาลาเปาก็ไม่ต้องทรมานอีกแล้ว



ซาลาเปากับบราวนี่มาจากครอกเดียวกันแต่นิสัยต่างกันมาก ซาลาเปาตัวเล็กกว่านิดนึงและถูกบราวนี่แกล้งข่มตลอด ซาลาเปาเป็นหมาขี้เล่น อารมณ์ดี แต่ขี้กลัว ส่วนบราวนี่เป็นหมาขี้อิจฉา ตะกละ และกลัวฟ้าร้อง ที่จริงหมาบ้านเรากลัวฟ้าร้องทุกตัวเลยนะ มีอยู่ครั้งนึงฟ้าคะนองแล้วผ่าเสียงดัง หมา 2 ตัวนี้คลั่งตะกุยมุ้งลวดขาดแล้วเข้ามาในบ้าน พ่อคงโมโหเพราะเพิ่งซ่อมมุ้งลวดไป 2-3 วันนี้เอง จึงคว้าไม้กวาดไล่ตีบราวนี่ซะไม้กวาดหัก คนในบ้านก็ตกใจว่าอะไรกัน หมาร้องเสียงหลง น้องสาวพอเห็นพ่อตีหมาแรงขนาดนั้นก็ร้องให้ พอตีไปสักพักคงจะรู้ตัวว่าทำแรงเกินไป พ่อจึงไปจับหัวบราวนี่ปลอบใจ เรากลัวหลังมันหักจะแย่ แต่ก็ไม่เป็นไร


ซาลาเปานี่เราจับเล่นอะไรด้วยก็ได้ มันจะเล่นกับเราแต่เวลาเราไปเล่นกับซาลาเปาก็ต้องคอยมองบราวนี่ไว้ด้วย เพราะถ้ามันเดินมาใกล้ๆ เดี๋ยวต้องมากัดกับซาลาเปาแน่ๆเพราะมันขี้อิจฉา แต่เราจะเล่นกับบราวนี่ก็ไม่ค่อยได้เพราะมันหวงตัวไม่ค่อยชอบให้ใครจับตัวเท่าไหร่ยกเว้นพ่อ


จริงๆ แล้วพ่อรักบราวนี่มากกว่าซาลาเปานะ เพราะอย่างที่บอกซาลาเปามันขี้กลัว แล้วก็พึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้ เวลา 2 ตัวนี้ออกไปนอกบ้านแล้วมีเรื่องกับหมาบ้านอื่น ซาลาเปาจะอยู่วงนอก เห่าอยู่ไกลๆ ไม่ก็วิ่งหนีเข้าบ้าน ส่วนบราวนี่จะขาลุย แม้ว่าจะมีตัวเดียวก็ไม่กลัว สู้สุดใจ เป็นหมาเท่ๆ ที่นิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่



ก่อนหน้าที่ซาลาเปาจะป่วย บราวนี่ก็เริ่มจะมองไม่เห็น ตอนแรกไม่มีใครรู้ จนเมื่อเราให้ขนมแล้วบราวนี่งับไม่ถูก ขนมตกลงบนพื้นเราจึงชี้ให้ แต่มันก็ไม่รู้เรื่อง เราต้องหยิบเอามาป้อนให้ เป็นอยู่หลายครั้งจึงแน่ใจว่าสายตาเริ่มมีปัญหา



เราเห็นว่าลูกตาบราวนี่เริ่มมัวๆ จึงถ่ายรูปแล้วไปปรึกษาหมอ หมอบอกว่าเป็นต้อ ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ไม่รับประกันว่าจะหาย พ่อจึงบอกว่าปล่อยไว้แบบนี้แหละ มันยังไม่ได้ตาบอดแค่มองไม่ชัดเท่านั้น



พอซาลาเปาตาย เราไปหาหมาตัวใหม่มา มันอยู่ที่ที่ทำงานของเพื่อน สภาพไม่ค่อยดีนักแต่สงสารเพราะถ้าไม่มีใครเอาไปเลี้ยงมันจะถูกจับไปไว้ที่ศูนย์อะไรซักอย่าง ซึ่งคงจะลำบาก เราจึงรับมาเลี้ยงตัวนึง ชื่อ "โอโม่" น้องสาวตั้งชื่อให้เพราะตัวมันเป็นสีขาว



พอโอโม่มา บราวนี่ซึ่งมองเห็นได้น้อยลงก็ถูกโอโม่แกล้ง โอโม่จะชอบแกล้งดึงหาง หรือวิ่งเข้าไปแง่มทางโน้นทีทางนี้ที ส่วนบราวนี่ก็ได้แต่เห่าลมเห่าฟ้าไปเรื่อยเพราะมองไม่ทัน หลังๆ พอโอโม่เห็นว่าบราวนี่ทำอะไรตัวเองไม่ได้ก็กัดข่มอีก บราวนี่นี่ทั้งๆที่ตัวเองมองอะไรไม่ค่อยจะเห็นก็ยังชอบเดินไปมา แล้วพอเดินไปชนโอโม่ก็จะถูกโอโม่กัดทุกที ชักเริ่มสงสารบราวนี่แล้ว

มีอยู่ช่วงนึงที่มันซึมๆ ไม่กินข้าว บ้านเราก็ลงทุนซื้อแบรนด์ให้กิน มันก็ฟื้นตัวนะ และน้าไปซื้อยาบำรุงขวดละหลายร้อยให้กินก็ดีขึ้น


อยู่กันมา 2 ปี เดือนตุลาคมน้ำท่วมต้องอพยพไปอยู่สวนที่จันทบุรี ก็ไปกันทั้งคนทั้งหมา โอโม่ต้องผูกเชือกล่ามไว้ ส่วนบราวนี่ปล่อยได้ เพราะมันเดินไปไหนได้ไม่ไกล ทีแรกคิดว่าบราวนี่อาจจะไม่ไหวแล้วตายที่เมืองจัน พอน้ำลดมันก็แข็งแรงพอจะกลับบ้านได้

กลับบ้านมาบราวนี่ก็ยังเดินเก่ง กินเก่งอยู่ แต่เมื่อสัก 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเริ่มไม่เดินและกินน้อยลง จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่บราวนี่ไม่ลุกเดิน ไม่กินอาหาร อาจจะประกอบกับอากาศที่แสนจะร้อนด้วยแล้วอาการก็เริ่มแย่ลง

3-4 วันที่ผ่านมา บราวนี่นอนนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อน นอนฉี่นอนอึเละเทะไปหมด คนที่บ้านไม่ได้กลับตัวให้ ดังนั้นฝั่งที่ทับอยู่จึงแฉะและเป็นแผล เรากลับบ้านตอนเย็นจึงต้องมากลับตัวให้ วันศุกร์เรากลับบ้านไปเอาน้ำใส่จานป้อนไปที่ปาก บราวนี่ก็ยื่นลิ้นออกมาเลียได้ วันเสาร์ก็ยังกินน้ำอยู่ พอวันอาทิตย์เริ่มไม่กินแล้ว เอาน้ำใส่หลอดหยอดให้ก็ยังไม่กิน ไม่รู้ว่าไม่อยากกินหรือไม่มีแรงกิน



(รูปสุดท้ายถ่ายเมื่อวันเสาร์ เคยถ่ายรูปซาลาเปา-บราวนี่ไว้ตั้งเยอะ แต่เอาลงแผ่นไว้แล้วไปกับน้ำท่วมหมด)


วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา เรากับเพื่อนคอยกลับตัว เช็ดฉี่เช็ดอึ เช็ดตัวให้ตลอด เห็นว่าขนยาวพอเปียกก็แห้งยาก เมื่อวานเราจึงมานั่งตัดขนให้เกรียนอยู่ 2-3 ชั่วโมง ตอนกลางวันจะได้ไม่ร้อนมาก แล้วก็เช็ดตัวให้ แล้วเราต้องไปค้างที่อื่นจึงฝากพ่อเอาไว้ว่าให้คอยกลับตัววันละ 2-3 ครั้ง แล้วคอยดูด้วยว่ามันฉี่หรืออึออกมาหรือเปล่า แล้ววันอังคารที่1 เป็นวันหยุด เราจะกลับมาล้างตัวให้

แต่ไม่ทันแล้ว เมื่อเช้านี้พ่อโทรมาบอกว่าพ่อตื่นลงมาเกือบๆหกโมง ออกไปดูปรากฎว่าบราวนี่นอนตัวแข็งไปแล้ว



หลับให้สบายนะเจ้าบราว พ้นทุกข์ทรมานซะทีนะ



Create Date : 30 เมษายน 2555
Last Update : 30 เมษายน 2555 10:44:55 น.
Counter : 1646 Pageviews.

2 comments
  
เศร้าจังเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ
ขอให้น้องหมาไปเกิดให่ในภพภูมิที่ดีขึ้นนะคะ :)
โดย: เงือกสาวแสนสวย วันที่: 30 เมษายน 2555 เวลา:19:47:27 น.
  
มาส่งบราวนี่ไปสวรรค์ค่ะ
โดย: Valen&Nuly วันที่: 5 พฤษภาคม 2555 เวลา:16:04:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เด็กหญิงฟ้าใส
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]