เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม 2559
ได้มีคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขต ส.ป.ก.โดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย

เนื่องจากมีเหตุหลักๆดังนี้
1.
ยังมีแปลงที่ดินที่ยังมิได้ทำการสำรวจรังวัดอยู่เป็นจำนวนมาก

2. มีผู้ถือครองที่ดินในเขต ส.ป.ก. โดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ซี่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่างไม่ให้ความร่วมมือหรือยินยอมเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน

3. บางรายที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แต่ยังไม่มีการส่งมอบพื้นที่คืน ส.ป.ก.

4. บุคคลซึ่งไม่มีสิทธิการครอบครองโดยชอบด้วยกฏหมายเข้าใช้ประโยชน์โดยอ้างสิทธิในที่ดินจากการซื้อขายต่อจากเกษตรกรหรือมีการเปลี่ยนมือที่ดินที่จัดให้แก่เกษตรกรเพื่อถือครองที่ดินเป็นแปลงขนาดใหญ่
..............

โดยมีพื้นที่เป้าหมายดังต่อไปนี้

1. ที่ดินที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม เนื้อที่ 500 ไร่ขี้นไป

2. ที่ดินที่เกษตรกรผู้ที่ได้รับการจัดที่ดิน
สิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์แล้วครอบครองโดยบุุคคล ซึ่งไม่ใช่ผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินเนื้อที่ตั้งแต่100ไร่ขึ้นไป

3. ที่ดินที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ส่งมอบแก่ส.ป.ก. และมีเนื้อที่ตั้งแต่500 ไร่ขึ้นไป
................

ให้ผู้ครอบครองที่ดิน ดำเนินการ

ยื่นคำร้องเพื่อแสดงสิทธิในที่ดินตามประมวลกฏหมายที่ดินหรือกฏหมายอื่น โดยให้แสดงหลักฐานแสดงสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง
ดังต่อไปนี้
โฉนดที่ดิน โฉนดตราจอง หรือตราจองที่ตราว่าได้ทำประโยชน์แล้ว

หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 )

หลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน ส.ค.1

ใบแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในที่ดิน ส.ค.2

ใบจอง

ใบเหยียบย่ำ

หนังสือแสดงการทำประโยชน์ตามกฏหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ น.ค.3 ก.ส.น.3 หรือ ก.ส.น.5

หนังสือแสดงสิทธิอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐโดยชอบด้วยกฏหมาย

โดยต้องยื่นคำร้องแสดงสิทธิภายใน15 วัน นับแต่ปิดประกาศพื้นที่เป้าหมาย

หากสิ้นสุดระยะเวลาแสดงสิทธิไม่มายื่นคำร้องหรือไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดิน

พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ

1. สั่งให้ผู้ครอบครองออกจากที่ดินและงดเว้นกระทำการใดๆในที่ดิน
2. สั่งให้ผู้ครอบครองที่ดินรื้อถอน ทำลาย หรือกระทำการอื่นใดแก่สิ่งปลูกสร้าง ภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับคำสั่ง
3. เข้าไปในที่ดินเพื่อสำรวจรังวัดและตรวจสอบการครอบครองและการใช้ประโยชน์ในที่ดินในเคหสถาน
4. ออกคำสั่งเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดิน
5. ยึด รื้อถอน ทำลายหรือกระทำการอื่นใดกับสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปที่ดิน