|
วังเวียง สายแข็ง ไปชิวๆ (ถูกกว่านี้ไม่มีแล้ว) วังเวียง สายแข็ง ไปชิวๆ 29/04/16-03/05/16 การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นด้วยความที่อยากไปเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการเดินทางกับเพื่อน 1คน ที่ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันมาก่อนครั้งนี้ทำให้เราสัมผัสถึงความเป็นสายพันธุ์เดียวกัน สไตส์การเที่ยวที่เหมือนกันนำไปสู่การเที่ยวด้วยกันอีกหลายๆทริป... ด้วยสไตส์เที่ยวแบบขอประหยัดสุดๆๆเท่าที่จะทำได้ และชอบการผจญภัยกันทั้งคู่ ทริปนี้เราหมดเงินทั้งทริปแค่ประมาณคนละ2,XXX บาท ปลายๆกับระยะเวลารวมการเดินทางด้วย 5 วัน วันที่เราไปผ่านมาแล้วเป็นปี แต่เพิ่งมีโอกาสได้มาส่งต่อข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆคิดว่าราคาก็คงไม่ต่างกันเท่าไร บทความนี้จึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างเพียงเล็กน้อยก็ยังดี
นี้เป็นตารางค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปเปรียบเทียบกับที่แพลนไว้ค่ะ **ตารางค่าใช้จ่ายเป็นยอดใช้จ่ายสำหรับคนเดียว **
29/04/16 เริ่มต้นออกเดินทางครั้งแรกด้วยรถไฟฟรีช่วงค่ำ ไปสิ้นสุดสถานีที่อุดรฯเป็นการนั่งรถไฟที่เหม็นและนานที่สุดเท่าที่เคยนั่งมาเลย ** ที่เราเลือกมาลงอุดรฯเพราะต้องการต่อรถบัสที่ขนส่งอุดรฯ ไปวังเวียงเลยค่ะ ** 30/04/16 มาถึงที่สถานีรถไฟอุดรฯในช่วงเช้าของอีกวันหนึ่ง กลิ่นดีเซลหรือน้ำมันอะไรก็แล้วแต่ แทนกลิ่นน้ำหอมดีๆนี้เอง น้ำเนิ่มไม่ได้อาบกันหรอกค่ะ เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันที่สถานีแล้วก็ไปต่อกันเลย -การผจญภัยเริ่มต้น ณ จุดนี้- หลังจากที่ถึงสถานีที่อุดรฯเราต้องไปทำเรื่องผ่านแดนลาวที่เชตข้ามแดนไทย-ลาว หนองคายซึ่งระยะทางจากสถานีรถไฟไปเขตข้ามแดนก็ไกลพอสมควร ทีแรกว่าจะนั่งรถบัสจากขนส่งอุดรฯไปวังเวียงเลย ซึ่งใกล้กับสถานีรถไฟมากกว่า แต่มาซื้อตั๋วไม่ทันเต็มเร็วมากและไม่สามารถซื้อล่วงหน้าได้ เราเลยต้องใช้แผน 2นั่งรถตู้คันอื่นมาต่อรถบริเวณเขตแดนลาวเอง ราคาไม่แพงประมาณ 50 บาท เป็นการข้ามประเทศทางภาคพื้นครั้งแรกจร้าเดินมั่วไปหมด เดินไปเข้าทางออก เข้าทางรถบ้าง ณ ตอนนี้ มีเพื่อนญี่ปุ่น 1 คน ก็พากันมั่วๆไป ดังนั้น .. เพื่อความเข้าใจตรงกันพอเดินมาถึงจุดผ่านแดน หันหน้าไปทางเขตลาว ให้เดินมาฝั่งซ้ายมือ จะมีพนักงานแจกใบตม. กรอกใบ ตม. เสร็จแล้วตรงนี้จะมีจุดแลกเงิน สามารถแลกไปได้เลย เราแลกไป 2,500 บาท เรทอยู่ที่ 0.0043 เราใช้วิธีการคิดง่ายๆ ในการใช้จ่ายเงินกีบโดย 1,000 กีบ เท่ากับ 4บาท ก่อนเข้าประเทศเขาก็ต้องเสียเงินก่อนเป็นค่าเหยียบแผ่นดิน 40 บาท และค่ารถไป สปป. ลาว 20 บาท ทีแรกคิดว่าจากเขตแดนเราจะหารถบัสตรงไปวังเวียงเลยซึ่งมันก็มี แต่ได้เพื่อนใหม่ ซึ่งบังเอิญโลกกลมมาก ทำงานตึกติดกันในกรุงเทพฯแลกนามบัตรเรียบร้อย เลยไปเวียงจันทน์กันก่อนเลย พาเพื่อนไปส่ง 555+ ด้วยความที่ภาษาลาวใกล้เคียงภาษาไทยและคนลาวส่วนใหญ่พูดไทยได้ เราก็เลยไม่ลำบากกันเท่าไรการหารถเมล์ไปเมืองก็ไม่ลำบากค่ะ เพราะภาษาเขาอ่านยากอยู่ การคุยจึงง่ายกว่าหารถเมล์ด้วยการถาม ไม่จำเลขรถเลย พอเจอก็กระโดดขึ้นรถไปเวียงจันทน์กันทันทีราคารถเมล์จากเขตแดนไปเวียงจันทน์ 6000 กีบ ประมาณ 24 บาท รถมาจอดใกล้ๆ ริมฝั่งโขง เราก็หาร้านอาหารนั่งทานกันมื้อแรกในลาว มื้อแรกของวัน ข้าวปุ้นไงจะอะไรล่ะ 12000 กีบ 48 บาท เบาๆ หลังจากกินข้าวกันพูดคุยกันนิดหน่อย เราก็ต้องเดินทางไปวังเวียงแล้วซึ่งนาทีนั้นไม่รู้เลยว่าจะไปอย่างไร เราก็เลยเดินๆ กันมาเรื่อยๆหาทางไปที่ตลาดเช้าตรงตัวเมือง ซึ่งมันก็ไกลอยู่เดินมาสักพักเลยตัดสินใจโบกรถตุ๊กๆ ดีกว่า ภาษาลาวใกล้เคียงก็จริงแต่ตัวเลขนี้เราควรจะรู้จักบ้างนะ ตอนจะขึ้นตุ๊กๆ ก็ถามราคาเขา ได้ยินว่า สิบพัน ก็คิดตกคนละ5000 กีบ เลยกระโดดขึ้นรถ แต่ตอนลงรถ อ้าว! ซาว เราได้ยิน ซาว เป็น สิบ ที่จริงค่ารถคนละ10000 กีบ เฮ้ย!! แพงอ่ะ แต่ไม่ทันแล้ว ขับมาแป๊บเดียว หายใจ2 ปื้ด ถึงแล้ว >< ช่างมัน รีบหารถดีกว่าพอมาที่ตลาดรถจะเยอะมาก แต่เราต้องตามหารถไปวังเวียง ซึ่งจุดที่เราจะไปรอรถๆหมดแล้วล่ะสิ เราต้องหาทางไปขนส่ง และไปขึ้นรถที่ขนส่งแทน!! ถามๆ ไป ถามไปเรื่อยๆก็ได้ความว่าต้องไปขึ้นรถอีกที่ ซึ่งก็กระโดดขึ้นรถเลยจร้าขึ้นรถเมล์ไปขนส่งที่มีรถไปวังเวียง 5000 กีบ ไปถึงขนส่งใช้เวลาไม่นานเราก็รีบหารถไปวังเวียงเลย ก็เกือบจะตกรถนะ มัวแต่ไปแรดกับเพื่อนใหม่กันอยู่(เป็นไงล่ะ) ได้รถแล้ว เป็นรถตู้ขนาดใหญ่หน่อยราคาไปวังเวียง 50000 กีบ ประมาณ 200 บาท ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็เป็นเวลานอนกันไปบนรถค่ะ ว๊าบมาที่วังเวียงเลยหลังจากอยู่บนรถมานาน ผ่านป่าเขาลำเนาไพรต่างๆ มาพอสมควร วังเวียงเป็นเมืองเล็กๆอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ขุนเขาน้อยใหญ่ กับแม่น้ำสายใหญ่ที่ทอดผ่านกลางเมืองอากาศดี ไม่ร้อนเท่าไร หมอกอ่อนๆ ทั้งวัน ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ฟ้าใกล้มืดแล้วเราต้องตามล่าหาห้องพักกันก่อนที่ฟ้าจะมืด 2 สาว สะพายเป้เดินหาห้องพักกันประมาณ 5-6 โรงแรมได้ ทำไมเต็มๆๆๆ หมดเลยนะช่วงนี้เขาฮิตมาวังเวียงกันหรอ? หาจนฟ้ามืดไปได้ห้องพักแบบเอาให้มีที่ซุกหัวนอนพอ สภาพไม่โอเคแต่ราคาโอเคก็โอเค เราพัก 2 คืน ตกคนละ 100000 กีบ หรือ 400 บาท วันละ 200 ถือว่าไม่ถูกสำหรับที่นี้ แต่ไม่มีเวลาหาแล้ว อย่างพักขา หลังจากพักผ่อนกันสักพักเราก็ไปหาอะไรกินกัน ได้อาหารเย็นมาเป็นแซนวิชกับเบียร์จะ (เข้ากันมาก) มาลาวก็ต้องลองชิมเบยลาวใช่ปะแล้วแซนวิชที่ซื้ออันใหญ่มาก ไม่ต้องมีข้าวเย็นเลย แซนวิชอันเดียวพอ ราคา 10000กีบ 01/05/16 วันนี้เราตื่นกันแต่เช้ามารับชมบรรยากาศเมืองแบบชาวบ้านๆ เขาขายผักขายของง่ายๆ กัน เป็นคล้ายตลาดเล็กๆ จนประมาณ 8 โมงกว่าๆ ร้านค้าต่างๆก็เริ่มทยอยเปิดร้าน สำหรับวันนี้เราจะไปบลูลากูนกัน โดยเลือกใช้จักรยานเป็นพาหนะเพราะ 2 คน ขับมอ ไซต์ไม่เป็นสักคนราคาค่าเช่าคันละ 10000 กีบต่อวัน ** ที่ลาวนี้ขับรถชิดขวาเราก็ท่องกันไปตลอดทางเลย ** ได้แผนที่แล้วก็เดินทางได้ อากาศวันนี้ร้อนเหมือนกัน ขับจักรยานจนตัวดำ เราขับจักรยานกันไปตามแผนที่ผ่านภูเขา ไร่นา บ้านเรือน บรรยากาศดีมาก (แอบร้อนนิดๆ ตอนสายๆ) ขับมาไกลมากๆ เหมือนกันแล้วเป็นทางขึ้น-ลงเนินเขาเบาๆ ก็เหนื่อยล่ะสิ เหงื่อแตกตามๆ กันชิวไหมละจักรยานเนี่ย น่องโป้งกันเลย แต่เราก็สนุกกันนะ มันเป็นการขับจักรยานต่างบ้านต่างเมืองครั้งแรก และแล้วเราก็มาถึงบลูลากูนคนเยอะมากเลยวันนี้ หรือเยอะทุกวัน? มาถึงก็เสียค่าเข้าก่อน 10000 กีบ บลูลากูนสมชื่อจริงๆ น้ำใสสีฟ้าแต่เราไม่ได้ลงเล่นน้ำนะ คนเยอะเกี๊นนน เราใช้เวลาที่นี่สักพักนั่งรับลมเย็นๆ ของธรรมชาติ และดูผู้คนกระโดดน้ำ มีทั้งการกระโดดระดับประถม และมหาลัย จากนั้นเราก็ปั้นจักรยานกันต่อเพื่อไปถ้ำจัง เราลองปั้นจักรยานกันไปคนละทางกับที่เขาไปกันเห็นบอกว่าถ้าเขาทางนี้ก็ได้เหมือนกัน เหมือนเราขับเลาะเข้าไปในป่าเลยค่ะไม่มีคนเลย บางครั้งทางก็แคบมากๆ ขับมาจนเห็นชาวบ้านที่มาเป็นครอบครัวนั่งกันอยู่ข้างนาข้าวถามเขาๆ ก็บอกว่าสามารถไปได้ค่ะ เราก็เลยขับกันต่อไป เหมือนขับลึกมาในป่าแต่ข้างหน้าเราเป็นจุดหมายนั่นแหละแต่ก่อนจะถึงจุดหมายเราต้องแบกจักรยานข้ามลำธารเล็กๆ ก่อนถึงตอนนี้ก็มองหน้ากันว่า มันไปได้จริงๆไหมเนี่ย? แล้วเป็นผู้หญิง 2 คน ขับมาลึกขนาดนี้เลยตัดสินใจกันว่า พอแล้วดีกว่า แล้วกลับไปทางเดิม กลัวว่าจะหลงเข้าไปในป่า พอออกมาเข้าทางหลังได้แล้วเกิดความหิวโหย ขอแวะทานข้าวแป๊บ เที่ยงพอดี ราคาอาหารมื้อนี้สูงพอสมควร คนละ20000 กีบ เสร็จแล้วเราก็ขับจักรยานกันไปต่อ ไปถ้ำจัง พอใกล้จะถึงเราจะต้องจอดจักรยานไว้ก่อนข้ามสะพานส้มซึ้งเป็นแลนมาร์คจุดหนึ่งที่ต้องมาถ่ายรูปกัน สะพานก็สวยดีบวกกับพระที่เดินข้ามไปข้ามมาบนสะพาน ได้บรรยากาศบ้านๆ สุดๆ ค่าข้ามสะพานแห่งนี้ 4000 กีบค่ะ หลังจากข้ามสะพานมาจะเป็นเหมือนธารน้ำตกเล็กๆ มีฝรั่งใส่บิกินี่เล่นน้ำอยู่บ้างประปราย แล้วก็ชาวบ้าน เรา 2 สาว เดินไปที่ถ้ำจังกัน ก่อนขึ้นบันไดก็มีเรียกเก็บค่าเข้าถ้ำ คนละ 15000 กีบ ข้างในถ้ำก็จะเป็นหินหงอกหินย้อยตามรูปเลยค่ะ อากาศข้างในเย็นแตกต่างจากข้างนอกเลยและวิวข้างบนที่มองไปยังเมืองวังเวียงก็สวยงาม เสร็จจากตรงนี้เราก็กลับโรงแรมค่ะ Night Life เราวันนี้ก็คือสนุกสุดเหวี่ยงกันที่ผับชื่อดังในวังเวียงฝรั่งละลานตามาก ชอบผับนี้จัง ใช้เวลาพักใหญ่ๆ จนเวลาดึกมากแล้วพรุ่งนี้เราต้องกลับแล้ว จึงต้องกลับโรงแรมไปพักผ่อน - สำหรับการเดินทางกลับเราเลือกซื้อตั๋วรถกับโรงแรมเพราะง่ายดี สะดวกด้วย ซึ่งซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วโดยได้จองรถไปเวียงจันทน์ ราคาคนละ 50000 บาท รถจะมารับที่โรงแรมช่วงเช้า 02/05/16 เราเดินทางไปเวียงจันทน์โดยใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เราถึงเวียงจันทน์ประมาณ 11 โมง ซึ่งร้อนมากๆรถจอดให้ลงบริเวณที่เป็นวัดเยอะๆ เราก็เดินชมวัด ชมบ้านชมเมืองบ้างวัดก็เสียค่าเข้า แต่ก็ไม่ได้แพงอะไร ประมาณ 5000 กีบ ในเวียงจันทน์นี้เราใช้วิธีการเดินอย่างเดียวค่ะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ จนมาจบที่ประตูเมือง ก็บ่ายแก่ๆ แล้วเราจึงเลือกกินข้าวกันก่อนที่จะกลับ เราใช้บริการรถโดยสารสาธารณะไปที่สปป.ลาว ราคาคนละ 6000 กีบ ถึง สปป.ลาวของฝากทริปนี้เป็นเบยลาว เอาเข้าไทยได้คนละ 1 แพ็ค เราก็เอามาเต็มพิกัดเลย ค่ากลับก็เหมือนกันต้องเสียเงินค่าออกประเทศหรืออะไร 50 บาท จากนั้นเราก็นั่งรถบัสข้ามมาฝั่งไทย คนละ 20 บาทซึ่งเรามาออกตรงหนองคายจุดเดิม และสถานีรถไฟอยู่ใกล้กัน 2 สาว หิ้วเบยไปสถานีรถไฟเหนื่อยและหนักมาก เพื่อนั่งรถไฟฟรีกลับกรุงเทพฯ เหมือนเดิมจร้า เรานั่งรถไฟกลับถึงกรุงเทพฯในเช้าวันที่ 03/05/16 และนั่งรถไฟฟรีต่อกลับบ้านค่ะ
นี้เป็นตารางสรุปค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน
จะเห็นว่าทริปนี้เราเหนื่อยกันสุดๆเพราะว่าเราไปกันแบบประหยัด และใช้เวลาในการเดินทางนานหน่อย แต่เป็นทริปที่สนุกและได้เรียนรู้รสชาติการเดินทางแบบนี้ที่เพิ่งเคยครั้งแรก หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนค่ะ |
CutieFree
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Junket-Globe เป็นบล็อคที่เราสร้างขึ้น เพื่อเขียนเรื่องราวการเดินทางของเรา เพื่อนเป็นแนวทงให้เพื่อนๆ ที่อยากจะไปในสถานที่เดียวกัน การเริ่มต้นเดินทางของเราเริ่มขึ้นแล้ว แล้วเพื่อนๆ จะรออะไรล่ะ ไปกัน Go Go
Link |
เคยไปวังเวียงครับ... ผมเดินจากโรงแรมไป ตลาดเช้า(มืด) ตอน
ตี 5 รอถ่ายภาพตอนเช้า กลัวไปไม่ทัน... ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
แต่ผมกลัว ขนมปังใส่ใส้แบบฝร่ั่งเศส แข็งโป๊ก 555 อย่างอื่นโอเค
ครับ.
เห็นภาพข้างบน ถ่ายได้สวย... ส่วนของผมงั้น ๆ ไม่เอาไหนครับ