ธันวาคม 2560

 
 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
วังเวียง สายแข็ง ไปชิวๆ (ถูกกว่านี้ไม่มีแล้ว)




วังเวียง สายแข็ง ไปชิวๆ


29/04/16-03/05/16

การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นด้วยความที่อยากไปเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการเดินทางกับเพื่อน 1คน ที่ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันมาก่อนครั้งนี้ทำให้เราสัมผัสถึงความเป็นสายพันธุ์เดียวกัน สไตส์การเที่ยวที่เหมือนกันนำไปสู่การเที่ยวด้วยกันอีกหลายๆทริป...

ด้วยสไตส์เที่ยวแบบขอประหยัดสุดๆๆเท่าที่จะทำได้ และชอบการผจญภัยกันทั้งคู่ ทริปนี้เราหมดเงินทั้งทริปแค่ประมาณคนละ2,XXX บาท ปลายๆกับระยะเวลารวมการเดินทางด้วย 5 วัน


วันที่เราไปผ่านมาแล้วเป็นปี แต่เพิ่งมีโอกาสได้มาส่งต่อข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆคิดว่าราคาก็คงไม่ต่างกันเท่าไร บทความนี้จึงหวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างเพียงเล็กน้อยก็ยังดี

นี้เป็นตารางค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปเปรียบเทียบกับที่แพลนไว้ค่ะ

**ตารางค่าใช้จ่ายเป็นยอดใช้จ่ายสำหรับคนเดียว **

Trip

Lao(Vangvieng)

Date

30/4-2/5'16

Plan

Use

Hotel

600.00

432.00

Food

500.00

766.00

Transfer

1,400.00

784.00

Ticket place

700.00

258.00

Travel Insurance

-

-

Souvenir

200.00

510.00

Internet

-

-

Other

-

50.00

3,400.00

2,800.00

29/04/16

เริ่มต้นออกเดินทางครั้งแรกด้วยรถไฟฟรีช่วงค่ำ ไปสิ้นสุดสถานีที่อุดรฯเป็นการนั่งรถไฟที่เหม็นและนานที่สุดเท่าที่เคยนั่งมาเลย

** ที่เราเลือกมาลงอุดรฯเพราะต้องการต่อรถบัสที่ขนส่งอุดรฯ ไปวังเวียงเลยค่ะ **


30/04/16

มาถึงที่สถานีรถไฟอุดรฯในช่วงเช้าของอีกวันหนึ่ง กลิ่นดีเซลหรือน้ำมันอะไรก็แล้วแต่ แทนกลิ่นน้ำหอมดีๆนี้เอง น้ำเนิ่มไม่ได้อาบกันหรอกค่ะ เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันที่สถานีแล้วก็ไปต่อกันเลย

-การผจญภัยเริ่มต้น ณ จุดนี้-

หลังจากที่ถึงสถานีที่อุดรฯเราต้องไปทำเรื่องผ่านแดนลาวที่เชตข้ามแดนไทย-ลาว หนองคายซึ่งระยะทางจากสถานีรถไฟไปเขตข้ามแดนก็ไกลพอสมควร

ทีแรกว่าจะนั่งรถบัสจากขนส่งอุดรฯไปวังเวียงเลย ซึ่งใกล้กับสถานีรถไฟมากกว่า แต่มาซื้อตั๋วไม่ทันเต็มเร็วมากและไม่สามารถซื้อล่วงหน้าได้ เราเลยต้องใช้แผน 2นั่งรถตู้คันอื่นมาต่อรถบริเวณเขตแดนลาวเอง ราคาไม่แพงประมาณ 50 บาท

เป็นการข้ามประเทศทางภาคพื้นครั้งแรกจร้าเดินมั่วไปหมด เดินไปเข้าทางออก เข้าทางรถบ้าง

ณ ตอนนี้ มีเพื่อนญี่ปุ่น 1 คน ก็พากันมั่วๆไป

ดังนั้น .. เพื่อความเข้าใจตรงกันพอเดินมาถึงจุดผ่านแดน หันหน้าไปทางเขตลาว ให้เดินมาฝั่งซ้ายมือ จะมีพนักงานแจกใบตม. กรอกใบ ตม. เสร็จแล้วตรงนี้จะมีจุดแลกเงิน สามารถแลกไปได้เลย

เราแลกไป 2,500 บาท เรทอยู่ที่ 0.0043

เราใช้วิธีการคิดง่ายๆ ในการใช้จ่ายเงินกีบโดย 1,000 กีบ เท่ากับ 4บาท

ก่อนเข้าประเทศเขาก็ต้องเสียเงินก่อนเป็นค่าเหยียบแผ่นดิน 40 บาท และค่ารถไป สปป. ลาว 20 บาท

ทีแรกคิดว่าจากเขตแดนเราจะหารถบัสตรงไปวังเวียงเลยซึ่งมันก็มี แต่ได้เพื่อนใหม่ ซึ่งบังเอิญโลกกลมมาก ทำงานตึกติดกันในกรุงเทพฯแลกนามบัตรเรียบร้อย เลยไปเวียงจันทน์กันก่อนเลย พาเพื่อนไปส่ง 555+

ด้วยความที่ภาษาลาวใกล้เคียงภาษาไทยและคนลาวส่วนใหญ่พูดไทยได้ เราก็เลยไม่ลำบากกันเท่าไรการหารถเมล์ไปเมืองก็ไม่ลำบากค่ะ เพราะภาษาเขาอ่านยากอยู่ การคุยจึงง่ายกว่าหารถเมล์ด้วยการถาม ไม่จำเลขรถเลย พอเจอก็กระโดดขึ้นรถไปเวียงจันทน์กันทันทีราคารถเมล์จากเขตแดนไปเวียงจันทน์ 6000 กีบ ประมาณ 24 บาท

รถมาจอดใกล้ๆ ริมฝั่งโขง เราก็หาร้านอาหารนั่งทานกันมื้อแรกในลาว มื้อแรกของวัน ข้าวปุ้นไงจะอะไรล่ะ 12000 กีบ 48 บาท เบาๆ

หลังจากกินข้าวกันพูดคุยกันนิดหน่อย เราก็ต้องเดินทางไปวังเวียงแล้วซึ่งนาทีนั้นไม่รู้เลยว่าจะไปอย่างไร เราก็เลยเดินๆ กันมาเรื่อยๆหาทางไปที่ตลาดเช้าตรงตัวเมือง ซึ่งมันก็ไกลอยู่เดินมาสักพักเลยตัดสินใจโบกรถตุ๊กๆ ดีกว่า

ภาษาลาวใกล้เคียงก็จริงแต่ตัวเลขนี้เราควรจะรู้จักบ้างนะ ตอนจะขึ้นตุ๊กๆ ก็ถามราคาเขา ได้ยินว่า “สิบพัน” ก็คิดตกคนละ5000 กีบ เลยกระโดดขึ้นรถ แต่ตอนลงรถ อ้าว! “ซาว” เราได้ยิน ‘ซาว’ เป็น ’สิบ’ ที่จริงค่ารถคนละ10000 กีบ เฮ้ย!! แพงอ่ะ แต่ไม่ทันแล้ว ขับมาแป๊บเดียว หายใจ2 ปื้ด ถึงแล้ว ><

ช่างมัน รีบหารถดีกว่าพอมาที่ตลาดรถจะเยอะมาก แต่เราต้องตามหารถไปวังเวียง ซึ่งจุดที่เราจะไปรอรถๆหมดแล้วล่ะสิ เราต้องหาทางไปขนส่ง และไปขึ้นรถที่ขนส่งแทน!!

ถามๆ ไป ถามไปเรื่อยๆก็ได้ความว่าต้องไปขึ้นรถอีกที่ ซึ่งก็กระโดดขึ้นรถเลยจร้าขึ้นรถเมล์ไปขนส่งที่มีรถไปวังเวียง 5000 กีบ

ไปถึงขนส่งใช้เวลาไม่นานเราก็รีบหารถไปวังเวียงเลย ก็เกือบจะตกรถนะ มัวแต่ไปแรดกับเพื่อนใหม่กันอยู่(เป็นไงล่ะ)

ได้รถแล้ว เป็นรถตู้ขนาดใหญ่หน่อยราคาไปวังเวียง 50000 กีบ ประมาณ 200 บาท ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็เป็นเวลานอนกันไปบนรถค่ะ

ว๊าบมาที่วังเวียงเลยหลังจากอยู่บนรถมานาน ผ่านป่าเขาลำเนาไพรต่างๆ มาพอสมควร วังเวียงเป็นเมืองเล็กๆอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ขุนเขาน้อยใหญ่ กับแม่น้ำสายใหญ่ที่ทอดผ่านกลางเมืองอากาศดี ไม่ร้อนเท่าไร หมอกอ่อนๆ ทั้งวัน

ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ฟ้าใกล้มืดแล้วเราต้องตามล่าหาห้องพักกันก่อนที่ฟ้าจะมืด


2 สาว สะพายเป้เดินหาห้องพักกันประมาณ 5-6 โรงแรมได้ ทำไมเต็มๆๆๆ หมดเลยนะช่วงนี้เขาฮิตมาวังเวียงกันหรอ? หาจนฟ้ามืดไปได้ห้องพักแบบเอาให้มีที่ซุกหัวนอนพอ สภาพไม่โอเคแต่ราคาโอเคก็โอเค เราพัก 2 คืน ตกคนละ 100000 กีบ หรือ 400 บาท วันละ 200 ถือว่าไม่ถูกสำหรับที่นี้ แต่ไม่มีเวลาหาแล้ว อย่างพักขา




หลังจากพักผ่อนกันสักพักเราก็ไปหาอะไรกินกัน ได้อาหารเย็นมาเป็นแซนวิชกับเบียร์จะ (เข้ากันมาก) มาลาวก็ต้องลองชิมเบยลาวใช่ปะแล้วแซนวิชที่ซื้ออันใหญ่มาก ไม่ต้องมีข้าวเย็นเลย แซนวิชอันเดียวพอ ราคา 10000กีบ

01/05/16

วันนี้เราตื่นกันแต่เช้ามารับชมบรรยากาศเมืองแบบชาวบ้านๆ เขาขายผักขายของง่ายๆ กัน เป็นคล้ายตลาดเล็กๆ




จนประมาณ 8 โมงกว่าๆ ร้านค้าต่างๆก็เริ่มทยอยเปิดร้าน สำหรับวันนี้เราจะไปบลูลากูนกัน โดยเลือกใช้จักรยานเป็นพาหนะเพราะ 2 คน ขับมอ’ ไซต์ไม่เป็นสักคนราคาค่าเช่าคันละ 10000 กีบต่อวัน

** ที่ลาวนี้ขับรถชิดขวาเราก็ท่องกันไปตลอดทางเลย **

ได้แผนที่แล้วก็เดินทางได้

อากาศวันนี้ร้อนเหมือนกัน ขับจักรยานจนตัวดำ


เราขับจักรยานกันไปตามแผนที่ผ่านภูเขา ไร่นา บ้านเรือน บรรยากาศดีมาก (แอบร้อนนิดๆ ตอนสายๆ)


ขับมาไกลมากๆ เหมือนกันแล้วเป็นทางขึ้น-ลงเนินเขาเบาๆ ก็เหนื่อยล่ะสิ เหงื่อแตกตามๆ กันชิวไหมละจักรยานเนี่ย น่องโป้งกันเลย แต่เราก็สนุกกันนะ มันเป็นการขับจักรยานต่างบ้านต่างเมืองครั้งแรก







และแล้วเราก็มาถึงบลูลากูนคนเยอะมากเลยวันนี้ หรือเยอะทุกวัน?

มาถึงก็เสียค่าเข้าก่อน 10000 กีบ


บลูลากูนสมชื่อจริงๆ น้ำใสสีฟ้าแต่เราไม่ได้ลงเล่นน้ำนะ คนเยอะเกี๊นนน

เราใช้เวลาที่นี่สักพักนั่งรับลมเย็นๆ ของธรรมชาติ และดูผู้คนกระโดดน้ำ มีทั้งการกระโดดระดับประถม และมหา’ลัย




จากนั้นเราก็ปั้นจักรยานกันต่อเพื่อไปถ้ำจัง

เราลองปั้นจักรยานกันไปคนละทางกับที่เขาไปกันเห็นบอกว่าถ้าเขาทางนี้ก็ได้เหมือนกัน เหมือนเราขับเลาะเข้าไปในป่าเลยค่ะไม่มีคนเลย บางครั้งทางก็แคบมากๆ ขับมาจนเห็นชาวบ้านที่มาเป็นครอบครัวนั่งกันอยู่ข้างนาข้าวถามเขาๆ ก็บอกว่าสามารถไปได้ค่ะ เราก็เลยขับกันต่อไป เหมือนขับลึกมาในป่าแต่ข้างหน้าเราเป็นจุดหมายนั่นแหละแต่ก่อนจะถึงจุดหมายเราต้องแบกจักรยานข้ามลำธารเล็กๆ ก่อนถึงตอนนี้ก็มองหน้ากันว่า “มันไปได้จริงๆไหมเนี่ยแล้วเป็นผู้หญิง 2 คน ขับมาลึกขนาดนี้เลยตัดสินใจกันว่า พอแล้วดีกว่า แล้วกลับไปทางเดิม กลัวว่าจะหลงเข้าไปในป่า




พอออกมาเข้าทางหลังได้แล้วเกิดความหิวโหย ขอแวะทานข้าวแป๊บ เที่ยงพอดี ราคาอาหารมื้อนี้สูงพอสมควร คนละ20000 กีบ


เสร็จแล้วเราก็ขับจักรยานกันไปต่อ ไปถ้ำจัง


พอใกล้จะถึงเราจะต้องจอดจักรยานไว้ก่อนข้ามสะพานส้มซึ้งเป็นแลนมาร์คจุดหนึ่งที่ต้องมาถ่ายรูปกัน สะพานก็สวยดีบวกกับพระที่เดินข้ามไปข้ามมาบนสะพาน ได้บรรยากาศบ้านๆ สุดๆ



ค่าข้ามสะพานแห่งนี้ 4000 กีบค่ะ



หลังจากข้ามสะพานมาจะเป็นเหมือนธารน้ำตกเล็กๆ มีฝรั่งใส่บิกินี่เล่นน้ำอยู่บ้างประปราย 

แล้วก็ชาวบ้าน เรา 2 สาว เดินไปที่ถ้ำจังกัน ก่อนขึ้นบันไดก็มีเรียกเก็บค่าเข้าถ้ำ คนละ 15000 กีบ




ข้างในถ้ำก็จะเป็นหินหงอกหินย้อยตามรูปเลยค่ะ อากาศข้างในเย็นแตกต่างจากข้างนอกเลยและวิวข้างบนที่มองไปยังเมืองวังเวียงก็สวยงาม












เสร็จจากตรงนี้เราก็กลับโรงแรมค่ะ




Night Life เราวันนี้ก็คือสนุกสุดเหวี่ยงกันที่ผับชื่อดังในวังเวียงฝรั่งละลานตามาก ชอบผับนี้จัง


ใช้เวลาพักใหญ่ๆ จนเวลาดึกมากแล้วพรุ่งนี้เราต้องกลับแล้ว จึงต้องกลับโรงแรมไปพักผ่อน




- สำหรับการเดินทางกลับเราเลือกซื้อตั๋วรถกับโรงแรมเพราะง่ายดี สะดวกด้วย ซึ่งซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วโดยได้จองรถไปเวียงจันทน์ ราคาคนละ 50000 บาท รถจะมารับที่โรงแรมช่วงเช้า

02/05/16

เราเดินทางไปเวียงจันทน์โดยใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เราถึงเวียงจันทน์ประมาณ 11 โมง ซึ่งร้อนมากๆรถจอดให้ลงบริเวณที่เป็นวัดเยอะๆ เราก็เดินชมวัด ชมบ้านชมเมืองบ้างวัดก็เสียค่าเข้า แต่ก็ไม่ได้แพงอะไร ประมาณ 5000 กีบ








ในเวียงจันทน์นี้เราใช้วิธีการเดินอย่างเดียวค่ะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ จนมาจบที่ประตูเมือง ก็บ่ายแก่ๆ แล้วเราจึงเลือกกินข้าวกันก่อนที่จะกลับ









เราใช้บริการรถโดยสารสาธารณะไปที่สปป.ลาว ราคาคนละ 6000 กีบ


ถึง สปป.ลาวของฝากทริปนี้เป็นเบยลาว เอาเข้าไทยได้คนละ 1 แพ็ค เราก็เอามาเต็มพิกัดเลย

ค่ากลับก็เหมือนกันต้องเสียเงินค่าออกประเทศหรืออะไร 50 บาท จากนั้นเราก็นั่งรถบัสข้ามมาฝั่งไทย คนละ 20 บาทซึ่งเรามาออกตรงหนองคายจุดเดิม และสถานีรถไฟอยู่ใกล้กัน


2 สาว หิ้วเบยไปสถานีรถไฟเหนื่อยและหนักมาก เพื่อนั่งรถไฟฟรีกลับกรุงเทพฯ เหมือนเดิมจร้า

เรานั่งรถไฟกลับถึงกรุงเทพฯในเช้าวันที่ 03/05/16 และนั่งรถไฟฟรีต่อกลับบ้านค่ะ


นี้เป็นตารางสรุปค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน

29-04-16

30-04-16

01-05-16

02-05-16

03-05-16

ค่าเดินทาง

71,000.00

50,000.00

6,000.00

โรงแรม

100,000.00

อาหาร

34,000.00

70,000.00

26,000.00

ค่าเข้าบลูลากูน

10,000.00

ค่าเข้าสะพานส้ม

4,000.00

ค่าเข้าถ้ำจัง

15,000.00

ค่าเข้าวัดสี

5,000.00

ค่าของฝาก

55,000.00

ห้องน้ำ

1,000.00

ยาสีฟัน

5,000.00

เช่าจักรยาน

10,000.00

รวม

-

211,000.00

159,000.00

92,000.00

-

กีบ

เรท 0.0043

-

907.30

683.70

395.60

-

บาท

การเดินทาง

98.00

120.00

20.00

7.00

ค่าผ่านแดน

40.00

50.00

อาหาร

88.00

105.00

12.00

ค่าของฝาก

270.00

ห้องน้ำ

3.00

รวม

186.00

160.00

-

448.00

19.00

บาท

รวมทั้งหมด

186.00

1,067.30

683.70

843.60

19.00

2,799.60

จะเห็นว่าทริปนี้เราเหนื่อยกันสุดๆเพราะว่าเราไปกันแบบประหยัด และใช้เวลาในการเดินทางนานหน่อย แต่เป็นทริปที่สนุกและได้เรียนรู้รสชาติการเดินทางแบบนี้ที่เพิ่งเคยครั้งแรก

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนค่ะ




Create Date : 01 ธันวาคม 2560
Last Update : 1 ธันวาคม 2560 15:06:59 น.
Counter : 1040 Pageviews.

1 comments
  
ตามรอยมาเที่ยวด้วยครับ.... เที่ยวแบบนี้สนุก เหนือยดี..แหะ ๆ

เคยไปวังเวียงครับ... ผมเดินจากโรงแรมไป ตลาดเช้า(มืด) ตอน
ตี 5 รอถ่ายภาพตอนเช้า กลัวไปไม่ทัน... ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

แต่ผมกลัว ขนมปังใส่ใส้แบบฝร่ั่งเศส แข็งโป๊ก 555 อย่างอื่นโอเค
ครับ.

เห็นภาพข้างบน ถ่ายได้สวย... ส่วนของผมงั้น ๆ ไม่เอาไหนครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 ธันวาคม 2560 เวลา:18:29:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

CutieFree
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Junket-Globe เป็นบล็อคที่เราสร้างขึ้น เพื่อเขียนเรื่องราวการเดินทางของเรา เพื่อนเป็นแนวทงให้เพื่อนๆ ที่อยากจะไปในสถานที่เดียวกัน
การเริ่มต้นเดินทางของเราเริ่มขึ้นแล้ว แล้วเพื่อนๆ จะรออะไรล่ะ ไปกัน Go Go
New Comments