ต้นเบาบับนี้มีเรื่องเล่าหรือตำนานมากมายที่เกี่ยวกับความแปลกประหลาดที่ที่มาต้นไม่กลับหัวเป็นเรื่องเล่าของคนแก่อาหรับบอกไว้นานแล้วว่า มีปีศาจตนหนึ่งถอนต้นเบาบับขึ้นมาและคิดจะปลูกใหม่ แต่กลับปลูกผิดเอารากชี้ฟ้า ต้นเบาบับจึงกลายเป็นต้นไม่กลับหัว หรือนิทานของชาวแอฟริกันเล่าว่า เมื่อพระเจ้าสร้างโลกเสร็จได้แจกต้นไม่ให้แก่สัตว์ทุกตัว ตัวละ1ต้นเพื่อจะให้ปลูก สัตว์ทุกตัวปลูกถูกต้องยกเว้นไฮยีน่าดันปลูกผิด จึงกลายเป็นต้นไม้กลับหัว หรือบางตำนานเล่าว่าเมื่อพระเจ้าสร้างโลกเสร็จเบาบับไม่พอใจในสิ่งที่พระเจ้าให้ ตนอยากสูงเหมือนต้นปามล์ม พระเจ้าจึงประทานให้ อยากมีดอกสวยงามพระเจ้าก็ให้ พอเห็นต้นมะเดื่อมีผลแดงจึงอยากมีผลแดงด้วย พระเจ้าจึงโมโหลงโทษเบาบับด้วยการถอนรากถอนโคนและเอาหัวปักดินและรากชี้ฟ้า หรืออีกความเชื่อของชาวแอฟริกา สิงโตจะกินคนที่แอบไปเก็บดอกเบาบับ เพราะถือว่าดอกเบาบับเป็นที่สถิตของปีศาจ ผู้ใดได้ดื่มเมล็ดเบาบับจะป้องกันสัตว์ร้ายอย่างจระเข้ได้ และใครที่ดื่มน้ำแช่เปลือกเบาบับจะแข็งแรงและเตะปี๊ปดัง

ต้นเบาบับนั้นมีทั้งหมด 8 สายพันธ์ โดยเฉพาะที่มาดากัสก้ามีอยู่ถึง 6 สายพันธ์ ได้แก่ 1. Grandidieri
2. Madagascariensis 3. Suaresensis 4. Perrieri 5. Rubrostipa 6. Za
7. Digitata (เป็นต้นมหาสมบัติที่พบทั่วไปในส่วนที่เป็นผืนแผ่นดินใหญ่ของทวีป) 8.Gibbosa (พบที่ประเทศออสเตรเรีย) นอกจากจะมีอายุยืนและต้นใหญ่แล้ว ต้นเบาบับยังมีประโยชน์มหาศาลให้แก่คนแอฟริกา เพราะทุกส่วนของต้นเบาบับสามารถนำไปใช้ประโยชน์สำคัญแก่มนุษย์ได้ ไม่ว่าจะเป็น ใบ ซึ่งสามารถทานได้แบบสด เมล็ด ทานได้ทั้งสดหรือจะนำมาคั่วแทนกาแฟหรือนำไปเพาะก่อนแล้วรับประทานเป็นผักสดได้ แม้กระทั่งน้ำที่บีบออกมาจากรากและลำต้นมีคุณสมบัติเป็นยาชูกำลังอีกด้วย ฟังแบบนี้แล้วรีบหาน้ำจากรากหรือลำต้นของเบาบับมาทานด่วนเลยค่ะ

นับว่าเป็นเรื่องที่สุดแปลกประหลาดและมหัศจรรย์ไปพร้อมๆกันของพืชชนิดนี้ รวมถึงความสวยงามของตัวมันเอง ใครที่กำลังหาที่เที่ยวหรือวางแผนอยากจะพักผ่อน ขอแนะนำมาดากัสก้าอีกที่หนึ่ง ที่จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง

เครดิตรูปภาพ:google