ขมา - ขะม้า - ขาวม้า ?

นึกไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี
นั่งนึกไป ขยับผ้าขาวม้าคาดพุงไป (ตอนนี้นุ่งโสร่งคาดผ้าขะม้าอ่ะ)

อ๊ะ..อ๊ะ...ผ้าขะม้าเคียนเอว (เล่นภาษาโบราณซะเลย)

ฮ่า..ๆๆๆๆๆ..อันนี้เป็นเสียงหัวเราะแบบสบอารมณ์อ่ะครับ

ผ้าขะม้า ขาวม้า...เอานี่เลย เรื่องม้าๆนี่แหละ

นึกขึ้นได้ว่าเจ้าผ้าชนิดนี้ ไม่ใช่ผ้าธรรมดานะเนี่ย
จะเรียกว่าเป็นผ้าประจำชาติยังได้ และยังเป็นผ้าเอนกประสงค์ซะอีกแน่ะ

เริ่มตั้งแต่นุ่งอาบน้ำ
ทำเป็นผ้าเช็ดตัว
คลุมหัวกันแดด
คาดเอวกันกางเกงหลุด
แม่นังหนูเอาไปผูกเปล

เผลอๆพวกเอาไปผูกคอตัวเองเล่นซะงั้นแหละ

นึกย้อนไปถึงที่มา ว่าทำไมถึงเรียกว่าผ้าขาวม้า ทั้งที่มันไม่ขาว
และไม่เกี่ยวกับม้ากับลาที่ไหน

เคยอ่านที่บรรดานักวิชาการทั้งหลาย ท่านวิเคราะห์ ล้วนแต่เรียกชื่อ
กันต่างๆ นานา เช่นว่า..

ผ้าขะมา
ผ้าขะม้า
ผ้าขาวม้า

และมักจะโยนไปให้ ขอม เขมร เป็นคนทำซะงั้น

บางกระแสก็ว่ามีที่มาจากอินเดีย ที่เรียกว่า ผ้าโขมะ - โขมพัสตร์
หมายถึงผ้าขาวใช้คลุมไหล่

คนไทยเอามาใช้เป็นผ้ากราบพระ

อย่างที่บรรดาแม่ชี อุบาสิกา ใช้เฉวียงบ่า เข้าวัดนั่นแหละ

จากโขมะ เพี้ยนมาเป็น ขะม้า ขาวม้า

บางท่านแย้งว่าไม่ใช่หรอก แรกเริ่มเดิมทีชาวบ้านเขาใช้เป็น

.......ผ้าขมา....

ใช้ในการขอขมาลาโทษ ลาบวช แล้วก็เพี้ยนจาก ขมา เป็น ขะม้า
เป็น ขาวม้า (ยังดีที่ไม่ตีความว่า ผ้าขอมา)

มานึกขึ้นได้ว่า...(นึกอีกแล้ว ไม่ว่ากันนะขอรับ ผมมันพวก วิปัสนึก)
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (ประมาณว่า ซักสิบปีมั้ง) เคยอ่านข้อเขียน
ของคอลัมนิสต์ท่านหนึ่ง

คือท่าน นิติภูมิ เนาวรัตน์ ที่ต้องเอ่ยนามเพราะท่านเป็นคนเขียน
และผมอ่านเจอมา

ท่านบอกว่าที่จริงแล้วมันมาจาก ภาษาเปอร์เซีย
พวกเปอร์เซีย อิหร่าน อาหรับ อาระเบียน เรียกผ้าชนิดนี้ว่า

ผ้า คาร์มา หรือ คาร์มาบันด์ หมายถึงผ้าคาดเอว

ผ้าชนิดนี้มีมาแต่ครั้งสมัยอยุธยา ยุคสมเด็จพระนารายณ์โน่น


น่าสนใจตรงนี้ ก็เลยค้นคว้าหาที่มาที่ไปต่อยอดไปเรื่อยๆ
ถึงมาลายู ถึงอินเดีย ถึงสเปนโน่น

กรุงศรีอยุธยา ยุคของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
มีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศมาก มีชาวต่างชาติเข้ามารับราชการ
หลาย่ชาติ หลายภาษา
โดยเฉพาะพวกโปรตุเกส พวกอาหรับ เปอร์เซีย นี่มีเข้ามามาก

การแต่งกายของชาวเปอร์เซีย นิยมผ้าคาดเอว มีลวดลายสีสันสวยงาม
เจ้านายในสมั้ยนั้นต่างก็นิยมชมชอบ นำเอาแบบอย่างมาใช้บ้าง

หลังจากที่นิยมใช้กันในหมู่เจ้านายแล้ว ก็เลยลามปามไปถึงชาวบ้าน
เพราะเห็นว่านอกจากใช้คาดเอว กันกางเกงขาก๊วยหลุดได้แล้ว

ยังสามารถเอามานุ่งแทนกางเกงได้อีก
่จะนุ่งแบบธรรมดาปล่อยชาย หรือจะนุ่งแบบ ถกเขมรก็ได้

ทำไมถึงต้องถกเขมร อันนี้ไม่รู้แฮะ วันหลังจะหาเรื่องมาเล่าให้ฟัง

การทอผ้าในยุคสมัยนั้น ไม่ได้มีสีสันลวดลาย เป็นผ้าขะม้า (ขี้นรูปตามเสียงน่ะขอรับผิดถูกไม่ว่ากัน) ตาหมากรุก ผ้าขะม้าร้อยสี แบบปัจจุบัน

เป็นเพียงผ้าดิบย้อมเปลือกไม้ ที่เรียกว่าย้อมฝาด มีสีคล้ำๆ เข้มๆ
ใช้ไปซักไปบ่อยครั้งเข้าสีมันก็เจือจางออกไปทางสีแดงเรื่อๆ

อย่างที่ท่านจอมพลผ้าขะม้าแดงท่านชอบนั่นแหละครับ

เจ้าผ้า คาร์มา นี่ นอกจากเป็น เปอร์เซียแล้ว มลายูก็มี Kamarban
อินเดียก็มี Kamar band

ซึ่งหมายถึง ผ้าคาดเอว เหมือนกัน


ขะม้า ขาวม้า จึงน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า คาร์มา นี่เอง

ไม่ใช่ผ้า โขมะ ผ้าขมา แต่ประการใด


และน่าจะเป็น ขะม้า มากกว่า ขาวม้า ซะด้วยซ้ำ

รึใครจะเห็นว่าไง !!

Create Date : 07 ธันวาคม 2553		3 comments
Last Update : 25 สิงหาคม 2554 23:31:50 น.
Counter : 1692 Pageviews.
Share Tweet