สูดลมหายใจเข้าลึกๆ นับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9..10 แล้วปล่อย ทุกอย่างจะดึขึ้น
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
ไม่ซื้อ...ไม่ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน) น่าเศร้าจัง‏

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าเป็นเรื่องจริงรึเปล่าไม่รู้ แต่โอ๋อ่านจาก Fwd mail แล้วรู้สึกเศร้าใจถ้าสิ่งที่ได้อ่านเป็นเรื่องจริง ก็เลยเอามาเก็บไว้ใน blog ให้เพื่อนๆ ที่แวะมาเยี่ยมได้อ่าน & ออกความคิดเห็นกันค่ะ
<=========================================>



1,222,245,200,000คือ

ยอดขายโทรศัพท์มือถือในปี 2551

จากสถิติ ของ Worldwatch institute ระบุว่า

ระยะเวลาเฉลี่ยในการใช้โทรศัพย์มือถือ 1 เครื่อง

ในปัจจุบันมีอยู่ราว 14 เดือน ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่

นับว่าน้อยกว่าอายุการใช้งานจริงที่ควรจะเป็น


ทั้งๆที่มือถือยุคใหม่ไม่ได้ทำอะไรออกมาสนองความต้องการมากนัก

และระยะเวลาในการใช้งานอาจจะน้อยเกินไปกว่านั้น

ในกลุ่มผู้ใช้มือถือที่เห็นเป็นเพียงอุปกรณ์เสริมความมั่นใจ
เปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในเทรนด์


และได้ของที่ฉลาดสุดๆอยู่ในมือ



แต่รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังความพอใจที่ได้อินเทรนด์นี้

ยอดขายหลายล้านๆเครื่องในแต่ละปี หมายถึง น้ำตา ฝันร้าย

และความตายของชาวคองโกนับล้านชีวิต

นี่ยังไม่นับรวมการฆาตกรรมหมู่ในป่าลึก,

ความตายของกอริลล่ายักษ์ที่อาจเหลือฝูงสุดท้ายในรวันดา





ตัวเชื่อมที่ทำให้มือถือโยงไปถึงสงครามร้ายแรงที่สุด

ในประวัติศาสตร์แอฟริกาคือ โคลัมไบต์-แทนทาไลต์

หรือแร่โคลแทนที่พบมากในแอฟริกากลาง,แน่นอน...ในคองโก



ด้วยคุณสมบัติทนความร้อนสูง ทำให้ผงแทนทาลัม

ที่สกัดได้จากโคลแทน กลายเป็นวัตถุดิบจำเป็นที่อยู่ในมือถือ

คอมพิวเตอร์,เพลย์สเตชั่นฯลฯ


โคลแทน กลายเป็น black gold ในขณะเดียวกัน

สงครามคองโกครั้งที่ 2 ทำให้แร่สีดำชนิดนี้

กลายเป็นแร่สีเลือด blood coltan



เพราะการลักลอบทำเหมืองและส่งออกโคลแทน

กลายเป็นแหล่งหารายได้ที่เติมเชื้อไฟให้กับAfrican World War


ในจำนวนประเทศทั้ง 8 ที่ติดหล่มสงคราม

และกองกำลังติดอาวุธกว่า20กลุ่ม

หลายกลุ่มหาผลประโยชน์จากพื้นที่คองโก

ที่ประเมินว่ามีแร่โคลแทนมากถึง 80% ของปริมาณโคลแทนในโลก



การดิจิไทซ์โลก ถนนทุกสายจึงมุ่งไปที่พื้นดินของคองโก

กองกำลังประชาธิปไตย กลุ่มปลดปล่อยรวันดาหรือ FDLR

ที่มีชาวฮูตูเป็นแกนนำ เป็นตัวอย่างที่เห็นชัด

ของการทำเหมืองแร่ในคองโกอย่างผิดกฏหมาย
แม้จะต้องเสี่ยงจากการถูกปราบปรามจากรัฐบาลคองโก
แต่FDLR และอีกหลายกลุ่ม

ก็เห็นว่ามันเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าอยู่ดี


เพราะแทนทาลัมเพียง 1 ปอนด์ทำเงินร่วม หมื่นบาท

แทนทาลัม 1 ปอนด์ เป็นได้ทั้งตัวเก็บประจุในโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่

และแปลงเป็น AK-47 พร้อมกระสุนให้กับกองกำลังติดอาวุธ


หน่ำซ้ำในกระบวนการร่อนแร่หาโคลแทน

แรงงานที่ถูกบังคับให้ทำเยี่ยงทาส ก็คือเด็กๆคองโกลีส

ซึ่งองค์การสหประชาชาติรายงานว่า ในบางพื้นที่ของคองโก
ในเด็ก 100 คนจะมี 30 คน ที่ต้องใช้เวลาทั้งวัน

ไปกับการแยกโคลแทนออกจากเศษหินอื่นๆ


เงินค่าจ้างไม่ถึง 35 บาท ต่อการหาโคลแทนให้ได้ 1 ปอนด์





เรื่องมือถือเปื้อนเลือดถูกพูดถึงเมื่อหลายปีก่อน

บริษัทระดับโลกอย่าง Nokia,Ericsson,Moto,Acer ,Compaq

ออกมาปฎิเสธเสียงแข็งว่า โคลแทนที่ใช้ในการผลิตของตน

ไม่ได้มาจากคองโก แต่มีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้หามาให้


ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่บอกได้ว่า

แทนทาลัมในมือถือที่พกติดตัวจนกลายเป็นอวัยวะที่33

นั้นมาจากคองโกหรือเปล่า


การตรวจสอบเส้นทางของแทนทาลัมนั้น

ต่อให้ใช้วิธีตามไปดูถึงที่แบบกบนอกกะลา

ก็ยังไม่สามารถบอกที่มาได้
โคลแทนได้ถูกลักลอบเอาออกนอกคองโก
เข้าสู่ตลาดมืด และขายทอดต่อไปเรื่อยอีกอย่างน้อย 10 ทอด

กว่าจะไปถึงผู้จัดหารายใหญ่ ที่บริษัทบิ๊กๆเลือกเป็นคู่ค้า

ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้วัตถุดิบ

มารองรับความต้องการการซื้อมือถือในตลาดโลก

นอกจากจะมีส่วนสร้างประวัติศาสตร์เลือดให้กับอัฟริกาแล้ว

ยังส่งผลร้ายต่อสัตว์ป่าด้วย สัตว์ป่าน้อยใหญ่ กอริล่า และช้างป่านับพัน ถูกฆ่าจากการโดนบุกรุกของมนุษย์เพื่อหาโคลแทน





//images.encarta.msn.com/xrefmedia/sharemed/targets/images/pho/t027/T027941A.jpg

เพราะในพื้นที่ๆขุดหาโคลแทน มันคือบ้านของ กอริลล่าภูเขา

ที่เหลืออยู่บนโลกนี้ไม่กี่ร้อยตัว


สัตว์ร่วมวงศ์กับมนุษย์ ที่แสนจะขี้อาย สุภาพ

ไม่เพียงถูกเหมืองคุกคามถิ่นที่อยู่


พวกทำเหมืองยังล่าพวกมันเอาหัว บางทีก็ชำแหละนำเนื้อมากินด้วย



//news.nationalgeographic.com/news/2004/09/photogalleries/bushmeat_2/images/primary/P133.jpg



สวนสัตว์ในแอฟริกาหลายแห่ง รณรงค์การรีไซเคิลมือถือ

เพื่อลดอัตราการใช้โคลแทนในการผลิตมือถือใหม่

ด้วยหลังจะชะลอการสูญพันธุ์ของกอริลล่าภูเขาในคองโกได้บ้าง


แต่ดูเหมือนไม่ทันต่ออัตราการเติบโต

ของอุปกรณ์ที่เป็น “มากกว่าใช้พูด” แต่ส่วนใหญ่”ก็ใช้แค่พูด”เท่านั้น


ในทวีปแอฟริกาเอง พิษภัยจากมือถือคุกคามชีวิตและทรัพยากรตัวเอง

แต่อัตราการใช้มือถือก็เพิ่มขึ้น 1000%


เช่นเดียวกับจำนวนคนบริสุทธิ์ที่ล้มตายลง

ในสงครามกลางเมืองคองโก ประมาณการณ์กันว่า

นับแต่ปี 2547 ซึ่งเป็นปียุติสงครามอย่างเป็นทางการ
ยังมีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงรูปแบบต่างๆถึงเดือนละ 45,000คน
หรือปีละ 540,000 คน
ตัวเลขนี้ยังไม่รวมถึง
ผู้หญิงหลายหมื่นที่ถูกทารุณทางเพศ

ของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เพียงแต่พวกเธอยังไม่ตาย


//www.usafricaonline.com/genocide.rwanda11.jpg

//merahza.files.wordpress.com/2009/05/bloody-phone.jpg?w=450&h=338

1,222,245,200,000 กับ 540,000 อาจมีหน่วยนับต่างกัน

แต่อัตราการขยายตัวกลับแปรตามกันอย่างน่ากลัว

ถ้าความอินเทรนด์ของคุณ นำมาซึ่งตัวเลขที่มีหน่วยศพเพิ่มมากขึ้น

คุณยังอยากเปลี่ยนมือถือทัชสกรีนมาใช้เล่นอีกสักเครื่องไหม ...!?!





Create Date : 28 มกราคม 2553
Last Update : 28 มกราคม 2553 13:03:18 น. 2 comments
Counter : 601 Pageviews.

 
อ่านแล้วก็เศร้าใจเหมือนกันนะค่ะ ...
ไม่ว่าจะเป้นเรื่องจริงหรือปล่า แต่ว่าการที่
เราทำอะไร ใช้อะไร ว่าไปแล้วก็คงแต่ว่า
จะอยู่บนความพอดี ให้คุ้นค่า ประหยัด
ก็คงเป็นพื้นฐานของเราเองที่จะอยู่ได้อย่าง
พอเพียงนะค่ะ ว่าไม๊ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:13:37:55 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:14:09:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

jprommy
Location :
Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




slow but sure!!! แต่อย่าให้ช้าจนล่าหลัง และตั้งสติทุกครั้งก่อนจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม ^_^ ยิ้ม ยิ้ม!!!

welcomeสวยๆมากมายจากเกาหลี
Friends' blogs
[Add jprommy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.