ตอนนี้ชีวิตที่ Ann Arbor เริ่มเข้าที่เข้าทาง มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น จึงอยากนำเอาประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับจากการเดินทางและประสบการณ์จากการสังเกตุสิ่งรอบๆ ตัว รอบๆ เมือง มาบอกกล่าวกันให้ผู้อ่านๆ กันสนุกๆ ครับ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์และจะอยากมาเยี่ยมพวกกระผมที่ Ann Arbor กันบ้าง
พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประเทศไทยด้วยสายการบิน Japan Airlines สู่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นและมาต่อเครื่องบินของสายการบิน American Airlines สู่เมืองชิคาโก อิลลินอยส์ (Chicago, Illinois) และดีทรอยต์ มิชิแกน (Detroit, Michigan) ตามลำดับ
ประสบการณ์แรก - การเก็บสะสมไมล์สายการบินนั้นเป็นสิ่งที่ดี คือ 1) เมื่อมีไมล์มากพอ สามารถแลกตั๋วเครื่องบินฟรีได้ 2) หากที่นั่งชั้นประหยัดเต็มและมีที่นั่งชั้นธุรกิจว่าง เมื่อเรามีไมล์มากพอเป็น Elite Class สายการบินก็จะทำการ Upgrade ที่นั่งให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเราทั้ง 2 คนก็ได้รับการกรุณาอัญเชิญให้ไปนั่งที่ชั้นธุรกิจบนเที่ยวบินไป Chicago ครับ 3) ถ้ามีไมล์เหลือ เมื่อซื้อตั๋วชั้นประหยัด เราสามารถใช้ไมล์จำนวนเล็กๆ น้อยๆ Upgrade เป็นชั้นธุรกิจได้ เช่น American Airlines ให้ใช้ไมล์ 500 ไมล์ต่อการ Upgrade 1 ครั้ง
*แน่นอน ไม่ได้มีอะไรได้มาง่ายๆ เพราะฉะนั้นสำหรับรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละสายการบินแนะนำให้ศึกษาเอากันเองบน Website ของแต่ละสายการบินครับ บ้านผมจะบินกับสายการบิน American Airlines (สมาชิก One World Alliance) เป็นหลัก
(ภาพจากอากู๋ Google)
ประสบการณ์สอง - คือว่าที่ Chicago Immigration Desk คนเยอะมาก ใช้เวลา (เข้าแถว) นาน ทำให้เสียเวลาไปพอสมควร ขณะที่เดินเอากระเป๋าไปโหลดสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศอย่างเร่งรีบเพราะกลัวตกเครื่อง เมื่อไปถึงโต๊ะบริการ พนักงานมองหน้าสบตากัน ถาม
"Where are you going?"
"Detroit, Michigan"
คุณเธอก็ก้มลงไปกดอะไรบนคีย์บอร์ดดัง กริ๊กๆ แกร๊กๆ พอเงยหน้าขึ้นมาสบตากันอีกครั้งก็ได้แต่พูดอย่างเย็นชาว่า . . . .
"Sorry, we don't have anything for you tonight."
"What do you mean you don't have anything for us tonight!?!?"
ก้มหน้าลงอีกครั้ง กดกริ๊กๆ แกร๊กๆ
"The earliest flight I can find for you is at noon tomorrow."
"We will accommodate you with one-night hotel and some gift vouchers."
"That's it? That's all you can do?"
"Yes, that's it."
WHAT THE ตื๊ด! พวกกระผมก็ใบ้กินสิครับ นัดเพื่อนให้มารับที่ Detroit แล้ว ภรรยาก็มีนัด Immigration Check-in กับมหาวิทยาลัยวันรุ่งขึ้นเสียด้วย ทำไงดี ทำไงดี เอาวะ อยู่ก็อยู่ เข้าโรงแรมก่อนแล้วค่อยหาทางแก้ไขกัน ตอนนั้นก็เหนื่อยกันมากแล้ว ซึ่งคิดไปคิดมาแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็กลับเป็นเรื่องดีเหมือนกันเนื่องจากสายการบินได้ให้บัตรกำนัลและโรงแรมค้างคืนที่ Chicago ไม่ได้ปล่อยให้อยู่ไปตามยถากรรม ไม่เช่นนั้นอาจจะติดอยู่ในสนามบินเหมือน Tom Hanks ในเรื่อง The Terminal ก็ได้ และถ้าเกิดเดินทางไปถึง Detroit ตามกำหนดแล้วจะเป็นเวลากลางคืนของที่นั่น ชีวิตคงจะบัดซบน่าดูชมด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรยเพราะต้องขนกระเป๋าใบขนาดมหึมา 4 ใบรวมกับกระเป๋าขึ้นเครื่องคนละ 2 ใบ เดินทางไปเอารถที่ฝากไว้ที่บ้านเพื่อนของภรรยาอีกคนแล้วขับไปพักอีกบ้านหนึ่ง กว่าจะไปถึงที่พักก็คงราวๆ เที่ยงคืนพอดี
เมื่อไปถึง Detroit วันรุ่งขึ้นเพื่อนภรรยาที่เกือบจะต้องมารับเมื่อคืนก่อนหากว่าเที่ยวบินไม่ถูกยกเลิกก็บอกว่า
"ดีแล้วหละที่เที่ยวบินยูถูกยกเลิก ไม่งั้นฉานเองก็จะแย่ (i.e. กรูก็จะเหนื่อยตาย) เอาเหมือนกันเด้อ"
การเดินทางที่ปกติจะใช้เวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงกลับกลายเป็น 36 ชั่วโมงเนื่องจากเที่ยวบินจาก Chicago สู่ Detroit นั้นถูกยกเลิกกระทันหัน (American Airlines ที่รักนี่แหละครับ) ด้วยสาเหตุใดไม่มีใครทราบได้ เอาเป็นว่าพวกเรามาถึง Detroit อย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่าจะช้าไปวันหนึ่งก็ตาม
เมือง Ann Arbor เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากเมือง Detroit ไปทางตะวันตกประมาณขับรถ 30-40 นาที เป็นที่ตั้งของ University of Michigan, Ann Arbor หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา University of Michigan, Ann Arbor นั้นเป็น Tier-1, Public Research University และได้รับการกล่าวขานกันว่าเป็น Public Ivy League University เลยทีเดียวครับ ผมก็ภูมิใจกับภรรยามากที่ได้มาศึกษาที่นี่ ราวกับว่าผมเองนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว
(ภาพจากอากู๋ Google)
เอาหละ! วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ ผมจะมาเล่าถึงเมือง Ann Arbor และ University of Michigan นะครับ