Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

ฮวงจุ้ย 4 เรื่องหลัก คือ เรื่องชัยภูมิ เรื่องดาวเก้ายุค เรื่องฤกษ์ยาม และเรื่องดวงชะตา

เพียงความรู้ทางสถาปัตยกรรมอาจเพียงพอสำหรับการสร้างบ้านหนึ่งหลัง ขณะเดียวกันการสร้างบ้านหนึ่งหลังไม่ได้จำกัดว่าจะต้องใช้เพียงความรู้ทางสถาปัตยกรรมเท่านั้น ศาสตร์แขนงอื่นๆ ก็มีส่วนช่วยให้บ้านมีความสมบูรณ์ขึ้นได้ ดังเช่นการทำงานออกแบบและตกแต่งภายในโดยใช้ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยของ ธนัย วงค์เทียนชัย จาก Balanced BY DESIGN



"ผมจบสถาปัตย์ฯ ตกแต่งภายใน ที่เอแบคครับ.. ตอนเรียนทางเอแบคเขาเชิญวิทยากรเกี่ยวกับฮวงจุ้ยมาคุย ว่าฮวงจุ้ยมันมีเรื่องนี้ๆ นะ เขาก็ยกตัวอย่างขั้นต้นขึ้นมา บางสิ่งเราฟังแล้วก็ เฮ้ย.. มันเหมือนกับที่เราเรียนมา ว่าไม่ควรวางอย่างนี้ มันควรจะเป็นอย่างนี้ๆ ก็เลยสนใจ และมันก็เป็นเรื่องสนุกที่เขาบอกว่าจะทำนายได้ว่าคนคนนี้จะเป็นอย่างนี้ จะเกิดอะไรอย่างนี้ ผมก็เลยสงสัยว่ามันคงจะมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านี้" คุณธนัย เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจเรื่องศาสตร์ฮวงจุ้ย

"แต่จบมาก็ยังไม่ได้เข้ามาศึกษาฮวงจุ้ยเต็มๆ ก็เริ่มจากการซื้อหนังสือมาอ่าน เริ่มไปทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศ ทำไปก็เกิดโครงการหนึ่งที่ใช้ฮวงจุ้ย คือเจ้าของบ้านเขาใช้ซินแสอาจารย์ฮวงจุ้ยที่เมืองนอกมาดูบ้านเขา บ้านใหญ่มากผมเข้าไปทำแบบจนถึงผมออกจากบริษัทมาแบบก็ยังไม่เสร็จยังไม่ได้เริ่มทำ เพราะว่าเราทำแบบให้เขาเสร็จแล้วเขาต้องส่งให้ซินแสดู ซินแสส่งกลับมาอธิบายว่ามันผิดตรงนี้เขาก็กลับมาอธิบายให้เราฟังว่าผิดตรงนี้ ทำอย่างนี้อยู่ประมาณหนึ่งปีก็ยังไม่ได้งานออกมา เลยมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญนะ"
เมื่อมองเห็นความสำคัญ คุณธนัยจึงเริ่มศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ยอย่างจริงจัง
"พอศึกษาไประดับหนึ่งแล้วก็เริ่มเข้าไปเรียนจริงๆ ตอนแรกผมไปเรียนที่ชมรมโหราศาสตร์แห่งประเทศไทย เขามีเยอะแยะเลย ไพ่ยิปซี ดูดวง ไพ่เจ็ดหลัก ผมก็ไปเรียนวิชาฮวงจุ้ยจนจบประมาณหนึ่ง แล้วก็เลยไปเรียนที่ชมรมภูมิโหราศาสตร์อีกที่หนึ่ง จนวันนี้เรียนมาได้เข้าปีที่ห้าแล้วครับ เข้าไปเรียนจริงๆ แล้วเลยรู้ว่าฮวงจุ้ยมันกว้างมาก เขาบอกว่าหลักสูตรประมาณห้าถึงหกปีก็จบแล้วแต่ว่าจริงๆ ในชีวิตประจำวันก็ต้องเรียนไม่รู้จบ"

คุณธนัย บอกว่า หากมองให้ลึกลงไปหลักวิชา ฮวงจุ้ย และ สถาปัตยกรรม มีบางสิ่งที่เหมือนกันอยู่
"ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ห้องน้ำ เขาบอกว่าบ้านหลังไหนอยู่ๆ มีห้องน้ำอยู่กลางบ้านนี่มันเป็นผลเสียต่อบ้านมาก มันจะไม่เจริญอะไรแบบนี้ ผมมามองแล้วสถาปัตยกรรมที่เขาสอนกันมาก็พยายามบอกว่าให้ห้องน้ำไปอยู่ข้าง หรืออยู่หลัง หรือที่ไหนก็ได้ที่มันจะต้องรับแดดเพื่อฆ่าเชื้อฆ่าความชื้น ซึ่งมันก็สอดคล้องกัน อย่างห้องแถวห้องแถวหนึ่งดีมากเลยเพราะห้องน้ำอยู่ข้างบ้านแต่พอกิจการเจริญขึ้นซื้ออีกห้องหนึ่งคราวนี้ห้องน้ำกลายเป็นอยู่กลางบ้าน กลายเป็นศูนย์กลางของบ้าน ซึ่งทางฮวงจุ้ยถือว่าเป็นจุดที่ไม่ดี
..อีกเรื่องหนึ่งอย่างเช่น ถ้าทิศตะวันตกมีบ่อน้ำแล้วเราไม่ตั้งกำแพงปิด มันจะมีผลต่อคนในบ้าน เชิงวิทยาศาสตร์คือ พระอาทิตย์ตอนตกมันหนักสุดแล้ว การสะท้อนของน้ำกลับเข้ามาในกระจกในบ้านมันก็วุ่น เพราะมีแสงวิบวับๆ ตลอด พอเรารู้ฮวงจุ้ยแล้วมาคิดเรื่องวิทยาศาสตร์ดูจะเห็นว่ามันคือเรื่องเดียวกัน"
ความ 'ลึก' ของศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ครอบคลุมในหลายเรื่อง คุณธนัย เลือกนำมาใช้ในการออกแบบเพียงบางส่วน
"เราไม่อยากดึงเข้ามาวุ่นกับการออกแบบ อย่างเช่นดวงของคุณมันก็คือศาสตร์ฮวงจุ้ย ดูว่าวันเดือนปีเกิดคุณอะไร ดูว่าคุณธาตุอะไร ดูเรื่องเกี่ยวกับปีเกิดของคุณ เป็นนักษัตรอะไร ชวด ฉลู ขาล เถาะ การดูพวกนี้มันซับซ้อนมาก การที่เราไปดูก็เท่ากับว่าเราหลุดโฟกัสไปเราไม่ใช่อินทีเรียแล้วเรากลายเป็นหมอดูฮวงจุ้ยไป เราก็เลยซอยไปว่ามันมีสี่ส่วนใหญ่ๆ คือส่วนที่เป็นชัยภูมิ ว่ากันง่ายๆ เป็นภาษาอินทีเรียก็คือ การวางเลย์เอาท์ การวางชัยภูมิภายนอกภายในให้สอดคล้องกัน"
หัวใจหลักของศาสตร์ฮวงจุ้ยที่นำมาใช้ในการออกแบบ คุณธนัย อธิบายให้ฟังว่า
"ผมให้ความสำคัญอยู่สี่เรื่องหลักๆ คือเรื่องชัยภูมิ เรื่องดาวเก้ายุค เรื่องฤกษ์ยาม และเรื่องดวงชะตา ซินแสฮวงจุ้ยจะมองดวงเป็นหลักแล้วก็วิเคราะห์อะไรต่างๆ แล้วค่อยมาดูบ้านอะไรแบบนี้ แต่ผมจะมองชัยภูมิเป็นหลักเพราะผมเป็นอินทีเรีย การจัดเลย์เอาท์ผมแก้ให้เขาได้เลย ดาวเก้ายุคผมยังมองเป็นเรื่องรอง ผมมองชัยภูมิเป็นหลักอย่างเดียวเลย นั่นคือพื้นฐานสุดแล้ว" คุณธนัย บอกและขยายความอีกว่า
"ชัยภูมิคือการจัดตั้ง เช่นสมมติว่าประตูบ้านคุณอยู่ตรงนี้ ประตูรั้วคุณอยู่ริม การเดินจากประตูบ้านสู่ประตูรั้วเป็นลักษณะเฉียงถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าจากประตูบ้านไปประตูรั้วคุณเดินเป็นลักษณะตรงถือว่ามันมีผล นี่คือเรื่องฮวงจุ้ยเรื่องชัยภูมิ...
ฤกษ์ยาม ดวง กับองศาบ้านเกี่ยวเนื่องกัน ต้องรู้ว่าคนคนนี้วันเดือนปีเกิดชงกับช่วงอะไรบ้าง สมมติว่าปีหนูกับปีม้าคือปีที่ปะทะกัน เหนือสุดกับใต้สุดปะทะกัน เวลาที่จะทำพิธีจะไม่ใช้เวลาที่ปะทะกับ หนึ่งเจ้าบ้าน สองคือตำแหน่งทิศของหลังบ้าน ทิศนี้องศานี้มันหมายถึงปีนักษัตรอะไรจะมีสูตรคิดไปคิดมาแล้วจะได้เวลาที่เราจะทำพิธีตอกเสาบ้านหรือทุบบ้านอันนี้คือฤกษ์ยาม...
องศาบ้านจะมีผัง มีตัวเลข มีเลขหนึ่งถึงเลขเก้า อันนี้ลึกแล้วนะ เรื่องยุคตอนนี้จะอยู่ที่ยุคแปดเอาง่ายๆ มีเลขที่เป็นเลขบารมีกับเลขเคลื่อนไหว เลขแปดอยู่ตำแหน่งไหนก็แปลว่าเคลื่อนไหว คือเรากำลังกระตุ้นโชคลาภให้กับพื้นที่นั้นอยู่ เลขแปดที่เป็นตัวบารมีถ้าเราไว้ตำแหน่งที่หยุดนิ่งได้ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ในเชิงคู่กันก็ต้องดูอีกว่าเจ้าของบ้านประกอบอาชีพอะไร ถ้าค้าขายเขาต้องเอาเรื่องโชคลาภนำ ถ้ารับราชการต้องเอาเรื่องบารมีนำ"
สิ่งที่ปรากฏเป็นรูปธรรมจากการนำศาสตร์ฮวงจุ้ยมาใช้ร่วมในการออกแบบ คุณธนัย บอกว่า
"อย่างหยินกับหยาง ง่ายๆ คือร้อนกับเย็น ดำกับขาว ห้องนอนมองดูก็รู้ว่าต้องเป็นโทนสีเย็น คือต้องเย็นสบาย ต้องสงบ หยางก็ห้องกินข้าวอะไรแบบนี้ ในการออกแบบร้าน ในการออกแบบบ้าน เราก็เอาสูตรพวกนี้มาใช้ มันก็เหมือนกับเรื่องใกล้ๆ กัน แต่ว่าฮวงจุ้ยเขาไม่บอกเป็นการพิสูจน์ออกมา หลายๆ อย่างมันเป็นความรู้สึกเชิงจิตวิทยาต่างๆ แต่จริงๆ แล้วหลายเรื่องก็พิสูจน์กันได้ทางเชิงวิทยาศาสตร์ พูดง่ายๆ ว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์แขนงของจีน
..บางทีเราเช็คได้ว่า คนนี้ธาตุนี้คือสีนี้ เราก็แอบเอาเรื่องสีของธาตุคุณมาใช้ หรือเราเช็คแล้วว่าพลังของร่างกายคุณ ดวงชะตาของร่างกายคุณมันขาดเรื่องธาตุนี้อยู่เราก็เพิ่มให้ หลักง่ายๆ คือทำให้มันสมดุล เอาเรื่องสีไปช่วยบ้าง เรื่องรูปทรงไปช่วยบ้าง"
ศาสตร์ฮวงจุ้ยที่นำมาใช้บางส่วนต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย
"ฮวงจุ้ยจะว่ามากเลยว่า ห้องน้ำกับบ้านห้ามอยู่ชิดกันต้องแยกต้องมีทางเดินไปห้องน้ำต่างหาก บ้านเขาคงใหญ่ซึ่งสมัยนี้ไม่ได้แล้ว บ้านมันเล็กลงห้องน้ำต้องติดกับห้องนอนเลยเพราะสะดวกที่สุด เนื่องจากเมื่อก่อนส้วมคงไม่ได้เป็นระบบนี้ คงเป็นระบบส้วมซึม มันก็ขัดกัน เราต้องหมุนตามโลกมาตามแบบเก่าก็คงไม่ได้"
งานออกแบบของคุณธนัย ฮวงจุ้ยเป็นเพียงสิ่งที่เข้ามาเสริมเท่านั้น
"คนไม่รู้ก็จะไม่รู้ซึ่งบางทีผมก็ไม่ได้บอกหรอก ให้ผมมานั่งอธิบายทั้งหมดว่า อันนี้มันปิดเรื่องนี้ อันนั้นปิดเรื่องนั้น ผมก็ไม่ได้อธิบายผมออกแบบไปเลย จริงๆ ผมเอาอินทีเรียนำเพราะคนจ้างอินทีเรียเขาอยากได้แบบสวยเป็นหลัก เรามีเรื่องฮวงจุ้ยเพิ่มเติมให้เขาๆ โอเค แต่ถ้าเขาเข้มงวดในเรื่องฮวงจุ้ยจริงๆ เขาจะมีซินแสฮวงจุ้ยของเขาเราเป็นคนตาม ดูว่าซินแสคนนี้เขาคิดอย่างไร มองมุมไหน เน้นเรื่องไหน ซึ่งเราจะไม่ทำงานขัดกับเขา เราก็โฟกัสไปที่เรื่องอินทีเรียอย่างเดียวเลย"
ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์เก่าแก่ของจีนแต่หากรู้จักนำมาใช้อย่างเหมาะสม คุณธนัยบอกว่า สามารถนำมาใช้ได้กับบ้านทุกสไตล์
"ธาตุไม้กับธาตุดินเป็นทรงสี่เหลี่ยม โมเดิร์นก็คือรูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกัน ฮวงจุ้ยเขาว่าทรงกลมเป็นทรงที่ถนอมสายตาที่สุด คนชอบมองที่สุด พูดถึงตัวบ้านถ้าเป็นทรงกลมอาจจะมีจุดเด่นตั้งไว้เป็นลูกแก้วก็ว่าไป เรารับงานอินทีเรียให้เรื่องฮวงจุ้ยเขาบ้าง สไตล์การทำงานจะรับรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร สไตล์ของลูกค้าเป็นประมาณไหน เราทำมาทุกสไตล์ว่ากันง่ายๆ เราจะไม่มีสไตล์เฉพาะเจาะจงครับ"

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ฮวงจุ้ย ห้องนอน

ฮวงจุ้ย โต๊ะทำงาน

ฮวงจุ้ยกับการตกแต่งบ้าน

ฮวงจุ้ย สำหรับปี 2555




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2554
0 comments
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2554 20:19:25 น.
Counter : 1987 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


JitJai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add JitJai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.