Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
9 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

เคล็ดการใช้อำนาจบุญแก้กรรม - ปัญหาชีวิต

เคล็ดการใช้อำนาจบุญแก้กรรม -ปัญหาชีวิต
(ก่อนอ่านตั้งนะโม 3 จบ)





โดย พระอาจารย์เกษม อาจิณณสีโล
วัดป่าสามแยก ตำบลวังกวาง อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์


ผู้เปิดเผยเคล็ดเรื่องนี้คือท่านพระอาจารย์เกษม อาจิณณสีโล ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า

พระอริยเจ้าแห่งวัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร อุปสมบทเมื่อพ.ศ.2529 ท่านมีประสบการณ์ทางจิตที่โลดโผน

พิศดาร แม้เดินจงกรมก็สามารถเดินเหยียบอากาศเอาผ้าไปพาดไว้บนกิ่งไม้สูงสิบเมตรได้ ทั้งสามารถ

มองเห็นภูต ผี ปีศาจ เทวดา นาค ครุฑ ยักษ์ อย่างชัดแจ้งแม้กระทั่งลืมตา มีญาณระลึกชาติย้อนหลังได้

มากมายหลายชาติ เป็นพระสงฆ์ที่ใช้เวลาท่องเที่ยวไปในนรก สวรรค์ ปานเรื่องพระมาลัยโปรดสัตว์โลก

นับครั้งไม่ถ้วน ด้วยท่านเป็นพระที่ไม่สนใจในลาภ ยศ ชื่อเสียง ทั้งเทพยดาสูง-ต่ำ ตลอดจนภูติ ผี ปีศาจ

เปรต อสูรกาย สัมภเวสี ที่ตกทุกข์ได้ยากทั่วทุกสารทิศพากันหลั่งไหลมุ่งไปหาขอความช่วยเหลือจากท่าน

แต่ละวันผู้คนมากหน้าหลายตาต่างดั้นด้นข้ามป่าข้ามเขา ผ่านหนทางทุรกันดารไปกราบท่านเพื่อให้ท่าน

ช่วยแก้ไขปัญหาเคราะห์กรรมต่าง ๆ ซึ่งท่านก็เพียงแต่แนะนำหลักการใช้บุญแก้กรรมแบบง่าย แต่ทว่าได้

ผลชะงักงันอย่างคาดไม่ถึง อย่างชนิดที่ไม่มีพระรูปไหนกล้าพูดแนะนำได้อย่างนี้



เรามักท่องเป็นคาถาอยู่ร่ำไปว่าเวรกรรมนั้นแก้ไม่ได้ แต่พระอาจารย์ท่านยืนยันรับประกันอย่างหนักแน่น

ให้ฟ้าผ่าห่ากินว่าได้ ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย ไม่ต้องทำพิธีสวดอะไรให้ใหญ่โตเสียเวลา เสียเงินทองให้

มากมาย แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ว่า ทุกวันนี้คนทำบุญกันไม่ค่อยเป็น ดึงบุญที่เคยทำมาใช้ก็ทำไม่เป็น เป็นแต่

ก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมอย่างจนตรอกอยู่ท่าเดียว หลายท่านเมื่อนำคำสอนที่ท่านแนะนำไปปฏิบัติต่าง

ก็ได้รับผลดีเกินคาด แต่ด้วยความที่ท่านไม่อยากเด่นดัง หากใครจะขอนำประวัติของท่านมาลงหนังสือ

ท่านจะไม่ยอมพูดด้วย ท่านจะมีเมตตามากในการเทศน์ การสอนญาติโยม แม้กลางคืนก็ยังต้อนรับผู้มา

เยือนจากแดนทิพย์ไม่หยุดหย่อน พร่ำสอนเผยแพร่เคล็ดนี้ทั้งวันทั้งคืน ท่านมีแผ่นซีดีแจกจ่ายให้นำไปฟัง

แล้วบอกว่า “ฟังแล้วให้นำไปปฏิบัติ แล้วแจกจ่ายกันฟังต่อ ฟังเข้าใจแล้วไม่จำเป็นต้องถ่อมาหาท่านที่วัด

เพราะวัน ๆ ท่านก็เหนื่อยพอแล้ว การจะทำบุญ ทำที่ไหนก็ได้ เช่นทำบุญกับพ่อแม่เป็นพระอรหันต์อยู่ใน

บ้าน แล้วอุทิศบุญให้เทวดา และเหล่าสรรพสัตว์ในโลกทิพย์ ก็ได้ผลเท่ากับถวายทานให้พระอรหันต์ วัด

ของท่านมีพอกินพอใช้แล้ว ไม่ขาดแคลนอะไร จึงไม่จำเป็นต้องหลั่งไหลมาทำบุญกับท่านก็ได้”


วิชาเจริญเมตตาแผ่บุญกุศลนี้ พระอาจารย์กล่าวว่าเคยใช้กันมามากตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่เพิ่งสาบสูญไป

เมื่อ 300-400 ปีมานี่เอง ถ้าค้นคว้าในพระไตรปิฎกก็พบมากแห่งที่เกี่ยวข้องกับการทำบุญและเทวดา

ผู้รับบุญ ท่านมีเรื่องราวพิสดารมหัศจรรย์ในกรรมฐานอย่างมากมาย การตอบคำถามถึงปัญหาในการ

ปฏิบัติธรรม ท่านจะตอบอย่างห้าวหาญทั้งคำถามในด้านโลกียะ และโลกุตระ ความหยาบละเอียดของ

อารมณ์พระอริยะเจ้าแต่ละระดับทะลุไปจนถึงพระนิพพาน ทุกคำถามมีคำตอบจากท่าน สุดแต่ผู้ถามจะถาม

ปัญหาใด ลีลาการตอบคำถามของท่านจะออกแบบบ้าน ๆ ฟังแล้วเข้าใจง่ายไม่ต้องตีความ นำไปสู่การ

ปฏิบัติพัฒนาทางจิตยิ่งๆ ขึ้นไป หนังสือที่ประมวลสรุปไว้นี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่ออ่านแล้วนำไป

ประพฤติปฏิบัติ ท่านก็จะประสบความสุขสำเร็จตามปรารถนา แต่เรื่องนี้มิได้มุ่งหวังที่จะไม่ให้ใครไม่ต้อง

ตาย มิได้มุ่งหวังจะทำให้ใครอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาล กฎของไตรลักษณ์ย่อมเป็นไปตามไตรลักษณ์ ไหน ๆ

เราก็ต้องตาย แต่เมื่อเรามีทางเลือกที่จะตายได้อย่างสงบสุข ตายอย่างไม่ต้องมีทุกข์เวทนา และตายได้

อย่างมีสติพร้อม แล้วอย่างนี้เราจะปฏิเสธได้หรือ อีกอย่างหนึ่ง ข้อมูลสาระนี้จะไม่มีประโยชน์อันใดต่อ

ท่านที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับมานะสังโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขาดซึ่งอิทธิบาท 4 เช่นนี้แม้ฟ้าดินก็

หมดปัญญาที่จะเข้าไปยุ่งอะไรกับท่าน เมื่อป้อนยาเข้าปากแต่ไม่ยอมกลืน จะคายทิ้งก็สุดแท้แต่ท่านเถิด



ที่มาของการเปิดเผยเคล็ดการแผ่บุญแก้กรรม

ชีวิตของมนุษย์และสัตว์ ทั้งในโลกนี้และในโลกทิพย์ล้วนมีส่วนสัมพันธ์กันในเรื่องกฎแห่งกรรมอยู่ตลอด

เวลา ในการเวียนว่ายตายเกิด ไปๆ มาๆ จะหาที่ไม่เคยเป็นญาติ ไม่เคยเป็นเพื่อน ไม่เคยเป็นเจ้ากรรม

นายเวรต่อกันนั้นไม่มี ชีวิตของทุกผู้ทุกคน จึงมีส่วนสัมพันธ์กันไม่มากก็น้อย ทั้งในส่วนดีมากและดีน้อย

ทั้งในส่วนเลวมากและเลวน้อย ทั้งในส่วนที่ทำให้เกิดความเคียดแค้นชิงชังมาก และชิงชังน้อย ทั้งในส่วน

ที่รักและอุปการะมากและน้อยตามแต่กรณี

การได้ดีตกยาก เจ็บไข้ได้ป่วยของมนุษย์และสัตว์ ส่วนหนึ่งเกิดจากเหตุปัจจัยกระทบจากสิ่งรอบข้าง อีก

ส่วนหนึ่งเกิดจากการกระทำของวิญญาณลี้ลับที่เรามองไม่เห็น เช่น เทวดาช่วยเหลือ เทวดาให้โทษ ผีให้

โทษ เจ้ากรรมนายเวรที่เคียดแค้นชิงชังให้โทษ ในคนทุกคน สัตว์ทุกสัตว์ จะมีเทวดารักษาอย่างน้อย 2

องค์ เทวดาประจำตัวนี่แหละที่มีอิทธิพลต่อเราอย่างคาดไม่ถึง บ้างก็ชอบช่วยเหลือให้เราประสบความ

สำเร็จ หรือช่วยปกป้องคุ้มครองให้เรารอดพ้นจากอันตรายที่น่าหวาดเสียวมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่ง

บางทีเราก็ยกให้เป็นอานุภาพของวัตถุมงคลที่แขวนคอเสียก็มี เด็กน้อยบางคนแม้ไม่มีวัตถุมงคลแขวนคอ

เลย แต่ตกบ้านตกเรือนด้วยความซุกซน ก็ไม่ได้รับอันตราย เพราะเหมือนมีใครมาอุ้มไว้ก่อนตกถึงพื้นก็มี

บุคคลบางคนไม่มีวัตถุมงคลติดตัวเลย แต่สามารถหลุดพ้นจากอุบัติเหตุและการดักทำร้ายของศัตรูมาได้

อย่างปาฏิหารย์ นั่นคือการปกปักษ์รักษาจากเทวดาประจำตัวเขาและ/หรือญาติในโลกทิพย์ของเรา



ในเรื่องของกฎแห่งกรรม เราชาวพุทธคงไม่มีใครปฏิเสธ เมื่อตนกำลังเดือดร้อน กำลังเครียด หรือกำลัง

ทุกข์ทรมานใด ๆ ที่จำต้องยอมทนอย่างไม่มีทางเลือก หลายๆ ท่านมักจะจงนึกจงคิดแต่เพียงว่า จะขอรับ

ชะตากรรมนั้น หวังจะชดใช้ให้หมดเวรหมดกรรมจบๆ กันไป การคิดเช่นนี้ ดูจะเข้าท่าตามหลักการ

ยอมรับในกฎแห่งกรรม แต่ออกจะหยาบและดูจะปิดโอกาส ปิดช่องทางของตนเองอย่างสิ้นเชิงนี่เอง พระ

อาจารย์กล่าวว่า พวกเราไม่รู้ว่า มันยังมีทางออก มีทางเลือกที่แสนจะง่าย ทั้งๆ ที่เรามีทางเลือกที่จะ

ยอมรับในผลกรรมด้วยวิธีของตนเอง ทั้ง ๆ ที่เรามีวิธีที่จะชำระล้างหนี้แค้น หนี้กรรม ให้แก่เจ้ากรรม

นายเวรเขา โดยที่เราก็ไม่ได้เบี้ยวหนี้ โดยที่เรายังเคารพในกฎของกรรม โดยที่เราไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน

โดยไม่ต้องกลุ้ม ไม่ต้องเครียด ขณะเดียวกันเจ้ากรรมนายเวรเขาก็พอใจกับประโยชน์สุขนี้อย่างเต็มที่

ความเคียดแค้นพยาบาทอะไรต่างๆ ที่มีต่อเราก็จางมลายหายไปสิ้น เขาก็เป็นสุข เราก็เป็นสุข แต่นี่เรา

กลับปล่อยให้เขาเลือกที่จะเล่นงานเราอยู่ฝ่ายเดียว ต่างฝ่ายต่างก็เป็นทุกข์ด้วยกันทั้งคู่ เขาก็ทุกข์กรุ่นอยู่

กับความพยาบาทอาฆาต เราก็ทุกข์ด้วยเวทนาเพราะเขาคอยจ้องแต่จะมาเล่นงานเราอย่างไม่เลิกรา อย่า

กระนั้นเลย เรามายอมรับกฎของกรรมแต่โดยดีในแบบฉบับที่เราเลือกได้ด้วย “บุญ” กันดีกว่า



คนเราล้วนสั่งสมบุญ ให้ทานกันมาแล้วทั้งนั้น ทั้งในชาติก่อนและชาตินี้ ถ้าจะนึกถึงบุญมันก็เยอะจนจำไม่

หวาดไม่ไหว แต่ด้วยความไม่รู้จักวิธีชำระหนี้แค้นให้แก่เจ้ากรรมนายเวรดั่งว่า ทำบุญไปก็คิดแต่จะรอให้

ตายซะก่อนแล้วค่อยไปรับบุญในสรวงสวรรค์ แล้วก็พากันบ่นว่า บุญอะไรก็ทำมาหมดแล้ว ชีวิตก็ไม่เห็นมี

อะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นสักที ก็จะดีได้อย่างไรเล่าในเมื่อสักแต่ว่าทำบุญแต่ทำไม่เป็น ถูกสั่งสอนกันมาอย่าง

ผิดๆ มัวแต่ไปรออุทิศให้ตอนกรวดน้ำ เจ้ากรรมนายเวรเขาเลยได้รับบ้างไม่ได้รับบ้าง ก็ไม่เคยเผื่อแผ่ให้

บุญแก่เทวดาที่ปกปักษ์รักษาตัวเอง ไม่เคยให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและ

ญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้แก่เทวดาที่ช่วยดูแลรักษากิจการงาน ห้างร้าน ไม่เคย

ให้แก่เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัวเอง แถมบางทีการแผ่อุทิศก็ให้ไม่เฉพาะเจาะจงเข้าอีก หรือดันไปให้

ตอนที่แสงบุญหมดแล้ว เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อย มีฤทธิ์น้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไร

เราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับอานิสงส์บุญจากเราอย่างถูกวิธีบ่อย ๆ เขาจะกลายเป็นเทวดาที่มีฤทธิ์ มีอำนาจ

สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย


วิธีการทำบุญให้เกิดสัมฤทธิ์ผล

พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่มาแห่งบุญไว้ 3 ประการย่อ ๆ คือ

1. บุญเกิดจากการให้ทาน

2. บุญเกิดจากการรักษาศีล

3. บุญเกิดจากการภาวนาอบรมจิตใจ

การสร้างความดีทุกประการนั้น ล้วนเป็นแหล่งของการเกิดผลบุญกุศลทั้งสิ้น แล้วก่อให้เกิดอานิสงส์ที่จะ

สร้างความสำเร็จในชีวิตได้ทุกเรื่อง

บุญอันเกิดจากการให้ทาน เมื่อถวายของแด่พระภิกษุสงฆ์ หรือให้ของแก่ใคร ไม่ว่าจะให้ของแก่พ่อแม่ พี่

น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้สุนัขกิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ขณะนั้นจะ

เกิดกระแสบุญเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้ให้ทันที และเพียงไม่กี่วินาที แสงนี้จะพุ่งหายขึ้นไปเบื้อง

บนแล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก ดังนั้นจึง ขอเน้นย้ำว่า หลักสำคัญที่สุดคือ ขณะของหลุด

จากมือเมื่อใส่บาตร/ถวายของพระสงฆ์ หรือให้ของแก่ใครก็ตาม เราต้องอธิษฐานจิตแผ่บุญทันที อย่ามัว

ไปรอแผ่บุญตอนพระสวด ยถาสัพพี เนื่องจากการแผ่ให้ตอนพระสวดยถาฯอย่างที่เคยปฏิบัติกันมานั้นผิด

เพราะกระแสบุญได้เลือนจากหายไปอยู่ในสวรรค์หมดแล้ว ต้องคิดแผ่บุญในทันทีทันใดว่า “บุญนี้จงเป็น

ของเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า หรือบุญนี้จงเป็นของเทวดา ภูต ผี ปีศาจ เปรต ครุฑ นาค ยักษ์ ที่สถิต

อยู่ในสถานที่เรือกสวนไร่นาหรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้าพเจ้า หรือบุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบุตร

ของข้าพเจ้า หรือจงเป็นของเทวดาผู้รักษาบิดามารดาของข้าพเจ้าเป็นต้น ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการแก้

ปัญหากลัดกลุ้มในเรื่องใด"

บุญอันเกิดจากการภาวนา ให้อธิษฐานก่อนว่า ขอบุญที่จะเกิดจากการภาวนาต่อไปนี้ถึงแก่เจ้ากรรม

นายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย (เป็นอะไร) หรือจะให้ใครก็ให้อธิษฐานเอาเอง แล้วก็เริ่มภาวนาได้เลย

หลังจากเลิกภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้ไปอีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิดจากการภาวนานี้ จะมีพลานุภาพแรงยิ่งกว่าบุญ

จากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูตผีชั้นต่ำมักรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ก่อนภาวนา เขาจะได้เตรียม

รับตามกำลังความสามารถของตนเอง เพราะหากจะให้ตอนที่ภาวนาเสร็จแล้ว ก็เปรียบเหมือนเราปล่อย

น้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิง แต่เขาเอาภาชนะที่ไม่เหมาะสมมารับ เขาจะรับไม่ได้ เนื่องจากกำลังจิตของเขาไม่

แข็งแรงพอ หากเราอธิษฐานเปิดให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อน ก็เหมือนเปิดก๊อกน้ำออกค่อย ๆ ใครภาชนะน้อย

ก็เอามาตวงรับตามกำลังที่มี แต่สำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ท่านสามารรับบุญใหญ่หลังภาวนาได้อยุ่

แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถังขนาดใหญ่สำหรับรองรับน้ำที่พุ่งออกจากท่อดับเพลิงนั่นเอง



บุญอันเกิดจากการรักษาศีล การทำบุญด้วยการตั้งใจรักษาศีล ก็ย่อมเกิดบุญกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครั้งที่

ระลึกถึงศีลตัวเองรักษาดีแล้วไม่ด่างพร้อย ก็สามารถอธิษฐานส่งบุญได้ว่า “บุญที่ข้าพเจ้าได้รักษาศีลนี้ จึง

ถึงแก่...............”

หรือในการทำความดีทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขาได้สติ คิดดี การได้ช่วยเหลือคน การได้ทำ

ประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั่นแหละคือบุญ ให้รีบส่งบุญถึงผู้ที่เราต้องการให้บุญทันที




การเบิกบุญ

การเบิกบุญเก่าที่เคยสั่งสมมาแต่อดีตมาใช้ บุญที่เราทำไว้แล้วมีมากมาย ที่สะสมอยู่ในสรวงสวรรค์ ทั้งที่

ได้ทำไว้แต่ปางก่อน หรือได้ทำไว้ในชาตินี้ เราสามารถเบิกบุญนั้นมาแจกจ่ายอุทิศให้ผู้อยู่ในโลกวิญญาณ

ได้ เหมือนเรามีเงินเก็บในธนาคาร เราก็ใช้บัตรเอทีเอ็มกดเบิกเงินออกมาใช้จ่าย แต่การเบิกบุญนั้น ที่

สำคัญลืมไม่ได้เลยคือ ต้องอาศัยอำนาจพระรัตนตรัยขึ้นนำก่อนเสมอ คือให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า “ด้วย

อำนาจของพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจของพระธรรม ด้วยอำนาจของพระสงฆ์ จงดลบันดาลให้บุญของ

ข้าพเจ้าที่ทำมาแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันถึงแก่................” จะให้ใครก็คิดนึกเอาเอง การเบิกบุญแจกจ่าย

นี้สามารถให้ได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อนึกขึ้นได้ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม อุจจาระ ปัสสาวะ อยู่ก็ตาม



นานาปัญหาเคราะห์กรรมแก้ได้ด้วยบุญ

ท่านที่ทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เกิดกับตัวเรานั้น สืบเนื่องจากการกระทำ

ของเจ้ากรรมนายเวรผู้เคียดแค้นชิงชัง พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ฆ่าสัตว์ย่อมอายุสั้น ผู้เบียดเบียนสัตว์ย่อม

สุขภาพไม่ดี เชื้อโรคร้ายแรงต่าง ๆที่มีอยู่ในร่างกาย ก็ล้วนแต่เป็นเจ้ากรรมนายเวรทั้งนั้น โรคที่เรื้อรัง

ร้ายแรงรักษาด้วยวิธีการกินยา ฉีดยาเข้าไปฆ่าทำลายเขา หรือการใช้พลังจิต อำนาจสมาธิอย่างใดๆ

เข้าไปขับไล่ นอกจากเป็นการรักษาที่ขาดเมตตาปราณีอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้ว ขณะเดียวกันก็ยิ่งทำให้

เหล่าเจ้ากรรมนายเวรยิ่งทวีความพยาบาทเคียดแค้นผู้ป่วยมากขึ้นอีก หลายโรคจึงหมดหนทางเยียวยา

ผู้ป่วยต้องจมอยุ่กับความทุกข์เวทนาไปต่างๆ นานา จะตายก็ไม่ตาย จะหายก็ไม่หาย ทรัพย์สินที่มีก็

พินาศไปกับค่ารักษา ทุกข์ทั้งคนป่วย ทุกข์ทั้งคนเป็นญาติๆ เป็นบริวาร ในที่สุดหลายรายต้องจบชีวิตลง

ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่มีทางเลือก ทั้งๆที่มีโอกาส ทั้งๆที่มีบุญอยู่ก็มากมาย แต่ไม่รู้จักเบิกมาล้างแค้น

ให้แก่เขา ดังนั้น การเยียวยาที่ถูกต้องต้องโอนบุญ เบิกบุญไปให้ เฉพาะเจาะจงเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้

เกิดอาการเจ็บป่วยนั้น ๆ (อย่าไปบอกว่าให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย......เหมือนอย่างที่เคยทำ) และให้

แก่เทวดาที่รักษาตัวเราไปในขณะเดียวกัน การอธิษฐานเบิกบุญเก่าอุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่รบกวน

ควรทำวันละหลายๆ ครั้งจนเขาพอใจ อาการป่วยของเราก็จะหายเร็วขึ้น

วิธีการให้บุญแก่เจ้ากรรมนายเวร ควรทำดังนี้เป็นตัวอย่างเช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ก็ส่งบุญอย่าง

เฉพาะเจาะจงว่า “บุญนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยมะเร็งปอด ฯลฯ (สุดแต่มะเร็งหรือ

เป็นอะไร) พวกเชื้อโรคมะเร็งเมื่อได้รับบุญแล้ว ขอให้เจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น มีภพภูมิที่สูงขึ้น จงหลุดจากชีวิตชั้น

ต่ำเดี๋ยวนี้ เมื่อเราหายแล้ว เราจะทำบุญให้แก่พวกเจ้า ส่งชีวิตของพวกเจ้าให้สูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเจ้าจงเลิก

จองเวรจองกรรมในเราเสียที ตั้งแต่นี้เราจะตั้งตนอยู่ในศีลในธรรม เลิกการเบียดเบียน เข่นฆ่าชีวิตสัตว์อื่น

ขอส่งบุญที่เกิดจากการรักษาศีลแก่เจ้าด้วย


ท่านที่กลัดกลุ้มเรื่องบุตรหลานบริวาร ชอบสร้างแต่ความเดือดร้อน สั่งสอนไม่ฟัง แบบนี้ต้องให้เทวดาผู้

รักษาตัวเขาเป็นผู้ขนาบตักเตือน วิธีที่เทวดาตักเตือนนั้น ท่านจะสั่งการลดไปที่ความรู้สึกนึกคิด จิตใจของ

เขา ถ้าเทวดาประจำตัวเขาเป็นมิจฉาทิฎฐิ เมื่อได้รับบุญบ่อยๆ เทวดาท่านจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใน

ทิพย์ของตนเอง มีชีวิตที่สุขสบายขึ้น มีฤทธิ์อำนาจขึ้น เขาจะทราบได้เองว่า สิ่งที่เขาได้นั้นมาจากไหน เมื่อ

เราอุทิศบุญให้ท่านก็อธิษฐานด้วยว่า “เมื่อเทวดาได้รับบุญแล้ว ขอให้มีความสุข มีกินมีใช้ มีเสื้อผ้าที่อยู่

อาศัย และขอให้ช่วยอบรมตักเตือนให้ลูกของข้าพเจ้าเป็นคนดีด้วย”



ผู้ที่ถูกคุณไสยให้อธิษฐานดังนี้ “ ด้วยอำนาจพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจพระธรรม ด้วยอำนาจพระสงฆ์ โปรด

จงลบล้างอำนาจชั่วช้าต่ำทรามที่มีผู้ส่งเข้าผู้ป่วยให้สูญสลายไป ณ บัดนี้ ขอบุญนี้จงถึงวิญญาณชั่วร้ายที่มี

คนส่งเข้าร่างผู้ป่วย เมื่อเจ้าได้รับบุญแล้ว จงมีความสุข ความเจริญ จงมีฤทธิ์ มีอำนาจหลุดพ้นจากการ

บังคับกดขี่ของผู้ทรงเวทวิทยาคมที่ส่งเจ้ามา จงออกจากร่างคนป่วยเดี๋ยวนี้” ถ้าไม่หาย ให้ทำบ่อยๆ เดี๋ยว

อาการก็ดีขึ้นเองโดยไม่ต้องไปทำพิธีอะไรอื่น ไม่ต้องไปเสาะหาจ้างหมอผีผู้มีวิทยาคมที่ไหนมาแก้ เพราะ

อำนาจของพระรัตนตรัยนั้นยิ่งเหนือทุกสิ่งทุกอย่างในสากลจักรวาลอยู่แล้ว



หลีกเลี่ยงการสวดมนต์เพื่อขับไล่วิญญาณ บทสวดมนต์แต่ละบทมีอำนาจขับไล่และเบียดเบียนพวก

วิญญาณชั้นต่ำในโลกทิพย์ให้ได้รับความเดือดร้อน พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติห้ามมิให้ภิกษุทำน้ำมนต์ขับไล่

ผีไว้ในพระวินัยบัญญัติ ดังนั้นการสวดเพื่อเจริญพุทธานุสติ ธัมมานุสติ และสังฆานุสติ โปรดอย่าตั้งจิตไป

กำหราบคุกคามภูติผี ปีศาจชั้นต่ำทั้งหลายให้ได้รับความเดือดร้อน เมื่อจะสวดให้ตั้งจิตระลึกเสียก่อนว่า

“ภูตผี ปีศาจชั้นต่ำทั้งหลาย บัดนี้เราจะกล่าวบทสวดมนต์ ใครชอบฟังเอาบุญกุศลก็ให้ตั้งใจฟัง หากใครฟัง

แล้วทรมานก็ให้หลีกหนีไปที่อื่นจนกว่าเราจะสวดมนต์เสร็จแล้วจึงกลับมาเถิด เราไม่ได้สวดเพื่อขับไล่ใคร

แต่สวดเพื่อเจริญในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเท่านั้น”


โปรดอย่านิมนต์พระมาทำพิธีขับไล่ภูตผีในที่อยู่อาศัย ควรงดเด็ดขาดเพราะวิญญาณนั้นเขาอยู่อาศัยที่นั้น

มาก่อนเราอย่างสงบสุข บางตนก็เป็นญาติที่เราเคารพรักมาก่อน ตายไปแล้วมีบุญน้อยกุศลน้อยก็เป็น

ภูตผีอาศัยอยู่ในบ้านนั้น ภูตผีบางตนมีความทุกข์เดือดร้อน พยายามส่งกระแสความเดือดร้อนให้เรารู้สึก

เพื่อจะได้ทำบุญส่งให้เขา แต่คนไม่เข้าใจ คิดว่าเบียดเบียนหลอกหลอน จึงนิมนต์พระมาสวดขับไล่ เมื่อเรา

ไปทำพิธีขับไล่ก็ยิ่งเดือดร้อนหนักเข้าไปอีก แล้วพวกวิญญาณเหล่านี้จะรวมหัวกันกลั่นแกล้งผู้คนในบ้านให้

เดือดร้อนวุ่นวายกันมากขึ้น มีแต่เรื่องทะเลาะกัน ขัดแย้งกันเนือง ๆ สังเกตุดู บ้านไหนที่มีคนถือวิชาอาคม

สวดมนต์ไล่ผีบ่อยๆ คนในบ้านจะหาความสุข ความสงบไม่ได้เลย พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา ทะเลาะขัดแย้ง

ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนฆ่ากันตายมานักต่อนัก ฉะนั้นต่อไป เมื่อเหตุเดือดร้อนภายในบ้านหรือภายใน

องค์กร ควรทำบุญอุทิศให้พวกเขาเมื่อพวกเขาอยู่สุขสบายก็เลิกรบกวนเรา แล้วจะกลับเป็นองครักษ์ชั้นดีที่

คอยปกปักษ์รักษาเราต่อไป


หลีกเลี่ยงการติดผ้ายันต์กันภูตผีในบ้าน หรือการพกเครื่องรางของขลังที่เบียดเบียนวิญญาณชั้นต่ำ เพราะ

สิ่งเหล่านี้จะกระทบกระเทือนถึงวิญญาณชั้นต่ำ ให้ได้รับความเดือดร้อนและเคียดแค้น อันจะส่งผลให้เขา

หันกลับมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรจองล้างจองผลาญเราไม่มีที่สิ้นสุดโดยที่เราไม่รู้ตัว บ้านเรือนเคหะสถาน

เป็นของที่มีอยู่ในโลกนี้เป็นทั้งที่อยู่ของผู้ที่มีชีวิตในโลก และในอีกมิติหนึ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ควรเห็นแก่

ตัวว่าเป็นสมบัติของเราเพียงผู้เดียว ควรร่วมกันอยู่อย่างสงบสุข พวกวิญญาณต้องอาศัยบุญกุศลถึงอยู่ได้

ถ้าได้รับบุญจากมนุษย์ ผู้อาศัยอยู่ในผืนแผ่นเดียวกันเขาย่อมพึงพอใจและจะรักษามนุษย์ให้มีความสุข

ความเจริญ แม้พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนไว้ในเทวดาทิสสทักขิณานุโมทนาว่า



ยัสมิง ปะเทเส กัปเปติ วาสัง ปัณฑิตะชาติโย


สีลวันเตตถะ โภเชตวา สัญญะเต พรหมะจานิโม


ยา ตัตถะ เทวดา อาสุง ตาสัง ทักขิณะมาทิเส


ตา ปูชิตา ปูชะยันติ มานิตา ฆานะยันติ นัง


ตะโต นัง อนุกัมปันติ มาตา ปุตตัง วะ โอระสัง


เทวะตานุกัมปิโต โปโส สะทา ภัทรานิ ปัสสะติ



แปลความว่า ผู้ฉลาดชาติบัณฑิต เมื่ออาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งใด ควรเชื้อเชิญผู้ทรงศีลเข้าไปเลี้ยงดูใน

สถานที่แห่งนั้น แล้วอุทิศบุญให้แก่เทวดาผู้อาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น เทวดาเมื่อได้รับการบูชาแล้ว ย่อม

บูชาตอบ คือทำความอนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้อุทิศบุญให้แล้วนั้น เหมือนบิดามารดาผู้รักบุตร ย่อม

อนุเคราะห์บุตร ผู้ใดได้รับการช่วยเหลือจากเทวดาแล้วย่อมประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นนิจ



การให้ทานแก่บุคคลย่อมมีผลบุญแตกต่างกัน ให้ในพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานย่อมเกิดผล

มากกว่าให้พระพุทธเจ้าองค์เดียว ให้ในพระพุทธเจ้าย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระอรหันต์ ให้ในพระพุทธเจ้า

และพระอรหันต์ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ในสถานภาพ

ปกติ ให้ในพระอรหันต์ย่อมมีผลเหนือกว่าให้ในพระอนาคามี ให้ในพระอนาคามีย่อมมีผลมากกว่าพระสกิ

ทาคามี ให้ในพระสกิทาคามีย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระโสดาบัน ให้ในพระโสดาบันย่อมมีผลมากกว่าให้

ผู้ทรงฌาน ให้ในผู้ทรงฌานย่อมเหนือกว่าให้ในพระผู้ประพฤติศีลตามปกติ ให้ในผู้มีศีลย่อมมากกว่าให้ผู้

ไม่มีศีล ให้ในคนย่อมมากกว่าให้ในสัตว์ ให้ในสัตว์ผู้โพธิสัตว์ย่อมมีผลมากกว่าในสัตว์ธรรมดา ให้ในสัตว์

ที่มีคุณย่อมเกิดผลมากกว่าให้แก่สัตว์ที่ไม่มีคุณ และแม้แต่ให้อาหารแก่พวกมดปลวกก็ยังเกิดบุญกุศล ดัง

นั้นขึ้นชื่อว่าการให้ ย่อมเกิดบุญกุศลทั้งสิ้นแต่จะมากน้อยก็ต่างกันไป การถวายสิ่งของแด่พระอรหันต์มีผล

มากมายนับไม่ได้ แต่ถ้าให้ในภิกษุผู้ทุศีลย่อมมีผลน้อย นี่คือความแตกต่างของนาบุญ ผู้ที่รู้จักเลือกก็ให้

เลือกเถิด ถ้าเลือกไม่ได้ก็ให้ถวายในสงฆ์ส่วนรวมก็มีอานิสงส์มาก


คนในศาสนาไหนก็ส่งบุญได้ ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ซิก ล้วนมีวิธีสร้างกุศลผลบุญสะสมคุณงาม

ความดีด้วยกันทั้งนั้น เมื่อเกิดบุญกุศลขึ้น สามารถส่งถึงผู้อยู่ในโลกทิพย์ได้ด้วยวิธีเดียวกัน ถึงเช่นกัน ก่อ

ผลแบบเดียวกัน

ผลที่จะบังเกิดจากการโอนบุญ-เบิกบุญ

- ทำให้เทวดาที่ได้รับบุญแล้ว ท่านจะมีฤทธิ์เพิ่มขึ้น สามารถช่วยเหลือผู้ส่งบุญให้ได้รับความสำเร็จ เทวดา

ที่รักษาเคหะสถานบ้านช่องบางหลัง ก็แสดงฤทธิ์แทนเจ้าของบ้าน เปิด-ปิดทีวี วิทยุ และไฟฟ้าในบ้านได้

เอง ทำให้พวกโจรขโมยไม่กล้าเข้าไปยกเค้า เพราะเหมือนมีคนอยู่ในบ้าน ทั้งที่ความจริงไม่มีใครอยู่บ้าน

เลย เทวดาสามารถป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้บ้าน ป้องกันภัยอันตรายจากพายุ ต้นไม้หักโค่นล้มทับบ้าน

บ้านไหนถูกไฟไหม้แสดงว่าเทวดาไม่รักษา เพราะเจ้าของบ้านมีบาปกรรม และไม่เคยส่งบุญให้เทวดาและ

เจ้ากรรมนายเวร ที่บ้านข้าพเจ้าก็มีเหตุแปลกขึ้นบ่อย ๆ พัดลมปิดเอง ไฟฟ้าปิดเอง ถ้าทำอะไรไม่เหมาะสม

จะมีสิ่งตักเตือนเกิดขึ้น


- ทำให้เจ้ากรรมนายเวรหยุดการจองเวรแล้วกลับมาเป็นเทวดาที่ปกปักษ์รักษาตัวเรา

- ทำให้เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์-สัตว์ทั้งหลาย ไปทางไหนมีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น การเดินทางไปไหน

มาไหนก็จะแคล้วคลาดจากภัยอันตราย


- ธุรกิจการค้าหน้าที่การงานจะราบรื่น จะพบช่องทางทำมาหากินที่แจ้งชัด ถ้าตกงานก็จะได้งานทำ ถ้า

เจ้านายเกลียดก็จะรักชอบมากขึ้น

- ร้านอาหาร ร้านขายของ จะมีแขกเข้าร้านมากกว่าเดิม และอย่าลืม ถ้ามีคนมาอุดหนุนให้อธิษฐานบุญ

ให้แก่เทวดาที่รักษาลูกค้าที่มาอุดหนุนทันที ต่อมาเทวดาก็จะดลใจให้ลูกค้ากลับมาหาเราอีก


- จะหลับก็ง่ายจะนอนก็สบาย ไม่ต้องใช้ยานอนหลับ ไม่ต้องสะดุ้งผวาตกใจ แม้ฝันก็ฝันดี สุขภาพร่างกาย

ก็จะแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน

- ครอบครัวอยู่อย่างอบอุ่นมีความสุข มีความเข้าอกเข้าใจกัน

- เพื่อนบ้านที่เขม่นชิงชังก็จะหันกลับมาเป็นมิตรที่ดีให้ความเกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน

ดังตัวอย่างที่ข้าพเจ้าเล่ามาเป็นเพียงแค่ผิวๆ ย่อๆ เท่านั้น รายละเอียดประสบการณ์ของผู้ที่ได้ปฏิบัติตาม

แล้วได้ผลอย่างสุดจะบรรยายยังมีอีกมาก ในแต่ละวันขอให้ท่านขยันการโอน เบิก-เปิดบุญให้ถี่ๆ อยู่

บ่อยๆ ท่านยิ่งให้ ท่านก็จะได้ผลอย่างคาดไม่ถึง ทั้งบุญก็ได้เพิ่มขึ้นทวีคูณ อีกทั้งยังเป็นการเจริญเมตตา

อยู่ในตัว ยิ่งถ้าท่านเป็นนักศีลนักบุญด้วยแล้ว ยิ่งจะเห็นผลเร็วอย่างมาก ท่านใดสนใจอยากได้แผ่นซีดี วี

ซีดี การแสดงธรรมของพระคุณเจ้าเกษมเพิ่มเติม โปรดแจ้งความประสงค์ได้

คนจะเลิกทำบาปมาแสดงบุญก็เพราะได้ฟังธรรม คนจะสนทนาให้ทาน รักษาศีล บำเพ็ญภาวนา ก็เพราะได้

ฟังธรรม คนจะหลุดพ้นจากทุกข์ได้ก็เพราะได้ฟังธรรม พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “ธรรมทาน คือการให้ธรรม

เหนือกว่าการให้สิ่งอื่นทั้งหมด แม้ถวายทานในพระสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานก็ยังไม่เหนือกว่าการ

ให้ธรรมทานได้

Credit : //www.amatabeauty.com/index.php?mo=3&art=121899




 

Create Date : 09 มกราคม 2553
3 comments
Last Update : 29 มกราคม 2553 13:52:50 น.
Counter : 1225 Pageviews.

 

ขอบคุณมากนะครับ สำหรับบทความดีๆครับ

 

โดย: mkandpp IP: 86.171.132.205 9 มกราคม 2553 4:05:37 น.  

 

บทความน่าสนใจดี ต้องขอลองกันหน่อย ศาสนาเราเป็นสิ่งที่่พิสูจน์ได้ และ เป็นปัจจัตตัง

 

โดย: OxyMan 9 มกราคม 2553 10:26:10 น.  

 

เธ‚เธญเธšเธ„เธธเธ“เธกเธฒเธเธ„เนˆเธฐ เธ‚เธญเธญเธ™เธธเธเธฒเธ•เธ„เธฑเธ”เธฅเธญเธเธ™เธฐเธ„เธฐ

 

โดย: cat IP: 112.142.171.157 15 มกราคม 2553 16:06:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


cutie_girl
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Just an ordinary gal. I like chatting,
shopping and surfing the net.














ส่งหลังไมค์ที่นี่จ้า








You are special and unique

in your own ways








Guestbook











เริ่มนับวันที่ 12 ก.พ. 51





Friends' blogs
[Add cutie_girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.