Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
16 เมษายน 2550
 
All Blogs
 

ไปเป็น Au-Pair ที่ประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย



เรื่องมันก็เริ่มจากความเซ็งชีวิตที่แสนจะจำเจในกรุงเทพฯ
ก็เลยตัดสินใจอยากจะลองใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกบ้าง

ลองถามลองคุยกับเจ้านายเก่า ก็ไม่ได้ความไปยากจัง ใช้เงินยอะจัง
ไปทำงานก็ไม่รู้จะไปยังไง ตอนนั้นก็มีคนชวนไปทำงานร้านอาหารที่ ไอร์แลนด์ แต่ว่าเจ้าของร้านมีปัญหาเล็กน้อยก็เลยชวด ฉลู ขาล เถาะ ค่ะ ไม่ได้ไป

เพื่อนที่ทำงานมาจุดประกายเรื่อง Aupair เราก็เลยหาข้อมูลกระจุยกระจาย ทั้งอ่าน ทั้งถาม ทั้งเปิด ...

ตอนแรกก็ลองคุยกับเอเจ้นท์ที่เมืองไทย ดิฉันสอบตกตั้งแต่ถามอายุเลยค่ะ ไม่ได้เรื่อง แก่ ไปค่ะ
พอลองเช็คประเทศอื่น ๆ ก็ติดอะไรหลายอย่างคุณสมบัติไม่ครบ เช่น เราต้องมีความรู้ภาษาของประเทศนั้น ๆ บ้าง อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ

สุดท้ายก็ลองเข้าไปดูในกูเกิ้ลแล้วพิมพ์ไปว่า Aupair in Denmark
ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมต้องเป็นที่เดนมารค์เพราะว่ากิ๊กเก่าเป็นคนเมืองโคนมค่ะ (คิดถึงน่ะตัวเอง อิอิ)
แล้วอีกอย่างตอนสมัยทำงานอยู่ที่ลันตาเราได้มีโอกาสได้เจอคนเดนมารค์มาก แล้วก็พวก นอร์เวย์ สวีเดน ขอบอกค่ะว่าเราตกหลุมรัก
เราฟังภาษาอังกฤษของเค้ารู้เรื่อง ใจดี น่ารัก
แต่ว่าเราก็แค่โชคดีที่เราเจอคนดีน่ะค่ะ
คนทุกเชื้อชาติมันก็มีดีและไม่ดีค่ะ

เราก็เลยลองหาดูปรากฎว่าเราได้เว็บไซต์นี้มา
//www.aupairsinternational.dk
ซึ่งเราก็ลองเข้าไปอ่านดู อืมน่าสนใจ เพราะว่าเค้าจะหาครอบครัวในประเทศ กลุมสแกนฯได้ดี
เราก็อ่านรายละเอียดแล้วก็ลองดูเลย ถ้าใครสนใจให้ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์นี้น่ะค่ะ เชื่อถือได้ค่ะ เพราะว่าเพื่อนก็ไปเป็น Aupair โดยใช้เว็บนี้เหมือนกัน
ก่อนอื่นต้องเขียนกรอกใบสมัครก่อนเลยค่ะ
จากนั้นก็เขียนจดหมายแนะนำตัวภาษาอังกฤษ แนะนำนิดนึงอย่าเขียนเสียวิเศษเลิศเลอน่ะค่ะ อย่าลืมว่าเราต้องไปอยู่กับเค้า ถ้าเราไม่เป็นแบบที่เราเขียน มีสิทธิ์ได้กลับบ้านน่ะค่ะ
ไม่รักสัตว์ก็บอกว่าไม่รักสัตว์
แพ้ขนแมวก็บอกว่าแพ้
ไม่ชอบกินอะไรก็บอก ไปตรง ๆ
ไม่ชอบทำงานบ้าน ไม่ชอบรีดผ้า
อันนี้ขอให้บอกกันไปเลยตรง ๆ น่ะค่ะ เพราะว่าเป็นข้อมูลจำเป็นมาก
บางครอบครัวจะให้เราทำงานบ้านด้วย ถ้าเรารับได้ทำได้ก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่อยากทำก็ต้องระบุไปเลยว่าเราไม่อยากทำงานบ้าน
แต่จริง ๆ แล้วตามหลักไม่ใช่งานหนักอะไรเลยค่ะ (อันนี้เท่าที่ฟังเพื่อน ๆ เล่าให้ฟังน่ะค่ะ)
แต่บางบ้าน เราก็แทบจะไม่ต้องไปแตะงานบ้านอะไรเลยค่ะ บางคนวาสนาดี ได้ครอบครัวแสนดี
แต่อย่าพยายามเขียนอะไรที่ไม่ใช่ตัวเราน่ะค่ะ
จากนั้นก็ไปขอใบรับรองความประพฤติที่กรมตำรวจค่ะ ไม่ยากค่ะ
อันนี้ที่กรมตำรวจจะถามว่าเอาไปใช้ทำอะไรที่ประเทศไหน
เอกสารที่ได้เป็นภาษาอังกฤษค่ะ เลือกได้ว่าจะให้ส่งไปที่บ้านหรือว่ารับเองภายหลัง
ไปถ่ายรูปที่นู้นน่ะค่ะ ไม่ต้องเอารูปไป (ตอนเราไปไม่รู้ หน้าตาเราดูไม่ได้เลย) รอไม่นานแป๊ปเดียวได้
เสร็จไปขอใบรับรองแพทย์ค่ะ ถ้าไปที่โรงพยาบาลให้เข้าออกเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ หรือว่าถ้าไปตรวจคลีนิคธรรมดาก็ไม่เป็นไรค่ะ เอามาแปลเองก็ไม่มีปัญหา ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องจ้างแปลน่ะค่ะ สบาย ๆ
จากนั้นก็ต้องมีพาสปอร์ตค่ะ ไปทำเลยค่ะ รอไม่นานเหมือนกันค่ะ แล้วถ้ามีใบขับขี่ก็เอาให้เค้าดูด้วย
แล้วก็จดหมายจากที่ทำงานเก่าอะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ จดหมายรับรองว่าเราเคยทำงานหรือผ่านงานมาแล้วอะไรประมาณนนี้ค่ะ อย่างน้อยสองที่น่ะค่ะ
รูปติดบัตร
หลักฐานการศึกษา

แล้วต่อไปค่อนข้างหนักหนาเล็กน้อยคือ
รูปที่ถ่ายกับเด็ก แล้วก็เอาลงA4 แล้วก็อธิบายว่ารูปนั้น ๆ เราทำอะไรอยู่กับเด็ก แล้วก็ต้องหาคนที่สามารถเขียนจดหมายให้เราได้ว่า เราเคยไปเลี้ยงลูกเค้า หรือว่าเป็นที่สามารถเขียนจดหมายให้เราได้ว่า เราเคยผ่านการเลี้ยงดูเด็กมาแล้ว คือว่ามีประสปการณ์การเลี้ยงดูเด็กว่างั้นเถอะค่ะ
อันนี้ค่อนข้างยากหน่อยน่ะค่ะ วิธีของเราคือไปโรงเรียนอนุบางใกล้ ๆ บ้าน ซึ่งเจ้าของโรงเรียนเป็นเพื่อนกับแม่เราเอง เลยสบายไป
เราไปอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลเป็นวัน ๆ ไปถ่ายรูป ไปคุย ไปเล่น ไม่ใช่ถ่ายแต่เด็ก ๆ น่ะค่ะ ต้องมีเราอยู่ในนั้นด้วย ให้ใครถ่ายให้ก็ได้
ต้องยิ้มแย้มแจ่มใสน่ะค่ะ ยิ้มเข้าไว้ แล้วเราก็ให้ครูใหญ่เขียนจดหมายให้เราว่าเราได้ไปช่วยทางโรงเรียนเลี้ยงเด็กด้วย แต่เราก็ไปจริง ๆ น่ะ หลังจากนั้นก็ไปอีก ไปดู ไปเล่น เพราะว่าเราไม่มีน้องและไม่มีประสปการณ์เลี้ยงเด็กเลย ถ้าไม่รู้อะไรไปเรื่องเด็กอาจจะมีปัญหาภายหลังได้ ดังนั้นอย่าพยายามโม้เรื่องเอกสารตัวนี้น่ะค่ะ สู้ ๆ ค่ะ

เอเจ้นท์นี้จริง ๆ แล้วไม่เรื่องมากเลยค่ะ แล้วก็ช่วยเหลือดี สงสัยอะไรถามไปเลยค่ะ เราน่ะถามแหลกเลย สงสัยมันไปหมด เขียนเมล์ไปตอนเช้า ตอนบ่าย ๆ ก็ได้แล้ว ตอบรวดเร็วทันใจค่ะ
พอเราได้เอกสารทั้งหมด ก็จัดการสแกนเลยน่ะค่ะ แล้วก็ส่งไปเลยพร้อม ๆ กันค่ะ
หลังจากนั้นก็รอค่ะ ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือน่ะค่ะ ขอให้ได้ครอบครัวดี ๆ อันนี้ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่น่ะค่ะ
หลังจากส่งเอกสารไปแล้วก็จะมีตอบกลับมาประมาณว่าเราได้รับเอกสารของคุณแล้วแล้วก็จะดำเนินการต่อไปอะไรประมาณนี้

รอ ๆ แล้วก็รอค่ะ ไม่นานนัก ของเราประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็มีครอบครัวติดต่อมา บอกรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวของเค้า แล้วก็ข้อตกลงอะไรอื่น ๆ
แต่อย่ารีบร้อนน่ะค่ะ อย่าเพิ่งไปตอบตกลงอะไร
แล้วก็รอไปเรื่อย ๆ สักพัก หรือทางที่ดีเมล์ไปบอกเอเจ้นท์ค่ะว่ะมีครอบครัวนี้มาติดต่อเราแต่เรายังไม่ค่อยพอใจ เท่าไหร่นัก
แล้วเค้าก็จะส่งมาให้เราใหม่เอง ก็ลองเอามาเปรียบเทียบกันไปน่ะค่ะ
ตามความเห็นเราเด็กที่เราต้องดูแลไม่ควรเกินสองคน
ตอนนี้เราก็ถามครอบครัวไปเลยทุกอย่างที่เราอยากรู้
ของเราถามมันหมดเลยไม่ต้องเกรงใจน่ะ เพราะว่าเป็นสิทธิ์ของเราแล้วอีกอย่างอยู่ไกลบ้าน เราต้องเซฟตัวเองที่สุด และต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเองด้วย

อย่าคิดแค่ว่าอยากไปอยากไป ยังไงก็ได้ขอแค่ให้ได้ไป ระวังด้วยน่ะ
เราถามเรื่องอาหาร ห้องนอน บ้าน บริเวณบ้าน การทำงานทั้งหมด ค่าจ้าง (สำคัญน่ะค่ะ)
ตั๋วเครื่องบิน เวลาทำงาน วัยหยุดต่ออาทิตย์ และวันหยุดยาว เราจะได้เมื่อไหร่
ค่าคอร์สเรียนภาษา ค่ารถ อินเตอร์เนตได้ใช้วันล่ะกี่ชั่วโมง โทรศัพท์
ถามไปให้หมด สงสัยอะไรก็ถามอย่าเก็บไว้
แล้วทางครอบครัวก็จะบอกเหมือนกันว่ามีกฎอะไรบ้าง
เช่นไม่ให้สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าในบ้าน ไม่พาแฟนเข้าบ้าน
อะไรประมาณนี้
หลังจากตกลงกันเรียบร้อย ก็เขียนกันเป็นหลักฐาน แล้วก็เซ็น กันทั้งสองฝ่าย แล้วก็สแกนส่งไปเลยค่ะ

เป็นอันว่าได้เรื่องแล้ว
ก็ทำวีซ่าค่ะ
ของเราไปเดนมาร์คน่ะค่ะ
เอกสารทางนู้นเค้าจะส่งมาให้ แล้วเราก็ดูว่าเราต้องเอาเอกสารอะไรไป
อันนี้แล้วแต่ว่าจะไปประเทศไหน ทางที่ดีเช็คกับสถานฑูตแต่ล่ะที่เองเลยค่ะ
ไปทำไม่ยาก เตรียมรูปกับเงินไปจ่ายด้วย
แล้วก็จะถูกสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษที่สถานฑูตด้วย ไม่ต้องกังวล อย่าตื่นเต้น ง่ายมาก
ก็แค่ถามชื่อ ถามอายุ ถามเรื่องทั่ว ๆ ไปจบ
แล้วก็กลับบ้าน รอ เรารอประมาณ เดือนเดียวก็มาแจ้งให้ไปเอาวีซ่าได้เลย
ได้เป็นวีซ่าอายุ 1 ปีค่ะ
แล้วก็เตรียมบินเลยค่ะ

ดูแล้วไม่ยากเลยน่ะ แต่ว่าต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คิด รอบคอบนิดนึง
อย่าใจร้อน อย่าไปคิดแค่ว่าอยากไป อยากไป

อันนี้ก็เป็นแค่คำแนะนำเบื้องต้นเพราะว่าตัวเองมีประสปการณ์การขอมาแล้ว แต่ว่าอย่ามาถามต่อจากนี้น่ะค่ะ เพราะว่าสรุปแล้วไม่ได้ไปค่ะ
ทุกอย่างเตรียมการไว้หมดแล้วแต่ว่า เปลี่ยนใจโค้งสุดท้าย ไปเยอรมันแทน
ถ้าได้อ่านบล็อกก่อนหน้านี้ก็จะรู้เอง ถ้าสงสัย กลับไปอ่านได้เลย

มีอีกเว็บไซต์นึงที่อยากแนะนำ เป็นเว็บที่เพื่อน ๆ ใช้กันเหมือนกัน
//www.aupair.se/ ทั้งสองเว็บที่แนะนำไม่มีค่าใช้จ่าย ๆ ใด ๆ ทั้งสิ้น และสามารถเชื่อถือได้ค่ะ

ใครสนใจก็ลองตามเว็บเข้าไปดูน่ะค่ะ หรือว่าหลังไมค์มาถามได้ตลอด แต่ว่าไม่เคยได้เป็น Aupair อาจจะแนะนำได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เรื่องขั้นตอนการสมัคร การเลือก หรือการสอบถามข้อมูลเนี้ย ข้อมูลค่อนข้างแม่นค่ะ ยินดีให้คำปรึกษาจากใจเลย

โชคดีน่ะค่ะ




 

Create Date : 16 เมษายน 2550
3 comments
Last Update : 13 พฤษภาคม 2550 21:11:24 น.
Counter : 1142 Pageviews.

 

ขอขขอบคุณสำหรับเวปไวด์ดีๆค่ะ

 

โดย: หมูน้อย 44 ณ.พานทิพ IP: 125.24.98.243 30 กรกฎาคม 2550 10:44:58 น.  

 

สวัสดีค่ะ
อยากรู้ว่าตอนที่ทำวีซ่าไปเดนมาร์กนี่เสียเงินเท่าไหร่คะ
แล้วนานมั้ยคะกว่าจะเจอครอบครัวที่แมชท์กันอ่ะค่ะ
รบกวนช่วยเมล์มาบอกได้มั้ยคะ nhoon@hotmail.co.jp
ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: นุ่น IP: 203.151.46.130 8 พฤศจิกายน 2550 16:09:32 น.  

 

จูนloveแม็ก

 

โดย: พลอย IP: 203.113.60.7 10 มกราคม 2551 18:24:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


~K.Jayda~
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






...A little girl with a very big smile...
Friends' blogs
[Add ~K.Jayda~'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.