Bloggang.com : INDYINDARE.IC : ตะลอนเที่ยว :: มหาวิทยาลัย "สร้างสรรค์" ... Bangkok University ' NEW LOOK'

ตะลอนเที่ยว :: มหาวิทยาลัย "สร้างสรรค์" ... Bangkok University ' NEW LOOK'

ประวัติความเป็นมา :::
มหาวิทยาลัยกรุงเทพถือกำเนิด ขึ้นมาจากการก่อตั้ง "โรงเรียนไทยเทคนิค" ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยอาจารย์ ร.ต.อ.สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ (เจ้าของบริษัทในเครือโอสถสภา) โรงเรียนตั้งอยู่ในที่ดินในซอยบ้านกล้วยใต้ ริมถนนพระราม 4 (ปัจจุบัน คือ ที่ตั้งของวิทยาเขตกล้วยน้ำไท) ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นถนนลูกรังอยู่ แต่เป็นย่านค้าขายของเหล่าบรรดานายห้างต่างชาติรวมถึงท่าเรือสินค้าที่ คลองเตยด้วย

ต่อมา มีการเปลี่ยนชื่อสถาบันใหม่เป็น "วิทยาลัยกรุงเทพ" หรือ Bangkok College เนื่องจาก ชื่อเดิมสร้างความสับสนต่อประชาชนทั่วไปที่คิดว่าเป็นโรงเรียนอาชีวศึกษา การจัดการศึกษาของโรงเรียนในสมัยแรก ๆ ไม่ได้รับการรับรองจากทางราชการไทย เนื่องจากเป็นวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่เปิดสอนในระดับปริญญา ผู้บริหารโรงเรียนจึงได้ขอความร่วมมือทางวิชาการจาก มหาวิทยา ลัยแฟรลีดิกคินสัน (Fairleigh Dickinson University) จากสหรัฐอเมริกา ในการรับรองวิทยฐานะของปริญญา โดยในสมัยนั้นผู้ที่ศึกษาจบการศึกษาจากวิทยาลัยกรุงเทพจะได้รับปริญญา 2 ใบ คือ จาก วิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยแฟรลีดิกคินสันด้วย[1]

เมื่อ วิทยาลัยกรุงเทพเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยมากขึ้น การขยายตัวก็มีขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ก็มีการเกิดขึ้นของวิทยาลัยเอกชนอีกหลาย ๆ แห่งไม่ว่าจะเป็น วิทยาลัยการค้า วิทยาลัยธุรกิจ บัณฑิตย์ การแข่งขันของสถาบันการศึกษาเอกชนเริ่มมีมากขึ้น ผู้บริหารจึงมีโครงการที่จะขยายและยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้รับการอนุญาตจากทางราชการไทย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2527 วิทยาลัยกรุงเทพจึงได้รับการยกฐานะจากทางราชการไทยให้เป็น "มหาวิทยาลัย กรุงเทพ" ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2527[2]

มหาวิทยาลัย กรุงเทพได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว การขยายตัวนี้นำมาซึ่งการเปิดวิทยาเขตแห่งใหม่ที่รังสิต จังหวัดปทุมธานี ห่างจาก ท่าอากาศยานกรุงเทพ ไปตามถนนพหลโยธิน 14 กิโลเมตร ภายในพื้นที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยมีความหวังที่จะสร้างวิทยาเขตรังสิตให้เป็น มหาวิทยาลัยที่มีบรรยากาศเหมือนมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ตั้งอยู่ชานเมือง มีสวน มีต้นไม้ มีทะเลสาบ และมีอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ด้วยความห่างไกลความเจริญของรังสิตในสมัยนั้น มหาวิทยาลัยกรุงเทพวิทยาเขตรังสิตถูกขนานนามว่าเป็น กระท่อมปลายนา จากการเรียกของนักศึกษา

.................................

ตรา ประจำมหาวิทยาลัย ::
มหาวิทยาลัยกรุงเทพใช้รูปเพชร เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยมาโดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้ง แต่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบมาแล้วหลายครั้ง โดยในรูปแบบดั้งเดิมนั้น เรียกว่า เพชรในชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นตราที่ประกอบไปด้วยรูปเพชร และล้อมรอบด้วยช่อชัยพฤกษ์ แต่ปัจจุบัน (ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548) มีการเปลี่ยนแปลงตรามหาวิทยาลัยใหม่ แต่ยังคงเป็นรูปเพชร ซึ่งออกแบบให้มีลักษณะความทันสมัยมากขึ้น และเพิ่มเติมสีสัน เพื่อให้สื่อความหมายต่างๆ มากขึ้นด้วย

ที่มาของตรามหาวิทยาลัยรูป เพชรนั้น แท้จริงแล้ว มีที่มาจากชื่อผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยคือ อาจารย์สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ คำว่า สุรัตน์ แปลว่า แก้วอันประเสริฐ ซึ่งก็คือ เพชร นั่นเอง การนำเพชรมาเป็นตรามหาวิทยาลัย จึงเป็นการให้เกียรติ และเป็นการระลึกถึงผู้ก่อตั้งสถาบันการศึกษาแห่งนี้นั่นเอง นอกจากนั้น เพชรยังสื่อความหมายถึงคุณค่า และความแข็งแกร่ง และมหาวิทยาลัย เปรียบเสมือนสถานที่เจียรไนนักศึกษา ให้กลายเป็นเพชรที่มีเกียรติ มีคุณค่า มีความมั่นคงแข็งแกร่ง และเป็นที่ยอมรับในสังคม

...............................

สี ประจำมหาวิทยาลัย ::
ที่มาของสีสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยนั้น จากหลักฐานและบันทึกทางประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย แต่เดิมมหาวิทยาลัยใช้ สี เขียวอมฟ้า เป็นสีประจำมหาวิทยาลัย ดังจะเห็นได้จาก ปกเสื้อครุยของบัณฑิตรุ่นแรก ๆ ที่เป็นสีเขียวอมฟ้า และจากเพลงมาร์ชของมหาวิทยาลัย ที่ยังคงมีเนื้อร้องว่า ธงเขียวเชิดให้ เด่นไกลนานเนาว์ มาจนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาใช้ สีม่วง และ สีแสด เป็นสีประจำมหาวิทยาลัย โดยการเปลี่ยนแปลงสีประจำมหาวิทยาลัยนั้น เพื่อเป็นเกียรติกับสองบูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย เนื่องจากสีม่วงเป็นสีประจำวันเสาร์ และสีแสดเป็นสีประจำวันพฤหัสบดี

....................................

ต้นไม้ ประจำมหาวิทยาลัย ::
ต้นชัยพฤกษ์ เป็นต้นไม้มงคลที่ใช้ในพิธีการมงคลตามความเชื่อของคนไทย นำมาใช้เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกต้นชัยพฤกษ์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารฝั่งทิศใต้ ของอาคารหอสมุดสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นับเป็นพระกรุณาธิคุณและเป็นมิ่งขวัญของชาวมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ต้นชัยพฤกษ์แห่งมิ่งมงคลนี้ จะหยั่งรากลึกลงในหัวใจของชาวมหาวิทยาลัยกรุงเทพสืบต่อไป

Thanks, Ref :: //th.wikipedia.org/

...................................

วันนี้มาแปลกเน อะ จริงๆไปมาน๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน นานมากกกกกกกกแล้วตั้งแต่ตึกสร้างเสร็จใหม่ๆก็ว่าได้ แต่ด้วยความขี้เกียจมากมายก่ายกอง แล้วช่วงนั้นต้องทำงานด้วยอะไรด้วย เลยหาเวลาไปยากจริงๆ พอไปก็ถ่ายรูปมาเก็บไว้ดูเยอะมากๆ รูป เซ็ตนี้จริงๆตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะอัพลงบล็อก แต่ก็เอาไปลง FB ก่อนทุกที 555 เวลาไปมหาวิทยาลัยก็ ต้อง"แต่งตัวเนียนเป็นนักศึกษา" ซะงั้น.... ก็เนียนกันไป แถมมีคนมาขอเบอร์ เรียกเราว่า "น้องคับ"...เอ่อ ไอเด็กพวกนี้นี่!!! หารู้มั้ย ชั้นแก่กว่าพวกเธอกี่ปี เวรกรรมจริงๆ... หุหุ //

จริงๆแป้งจบจากที่นี่ ที่ๆทำให้แป้งเจอคนดีและไม่ดี
ทำให้ แป้งเจอประสบการณ์ดีๆ มีเพื่อนที่ดีมากมายก่ายกอง
ทำให้แป้งได้มี "ความคิดสร้างสรรค์ สรรสร้างงานออกมาได้อย่างมีคุณค่า"
สมแล้วแหล่ะ ที่ตัดสินใจเรียนที่นี่ ทั้งๆที่ entrance ติดมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สองที่นี้แป้งเอ็นติดแบบ งง มากว่า ติดได้ยังไง 555

สุดท้ายแล้วก็ ตัดสินใจ "ใจมันอยากมาเรียนม.กรุงเทพ" ประจวบกับปีนั้นที่แป้งสอบเอ็น กำลังมีเรื่องโจรใต้พอดี คุณพ่อเป็นห่วงมากไม่อยากให้ไป จ.สงขลา ใจจริงแป้งอยากเรียนนะคะ เพราะลงเป็น international ไปด้วย อยากเรียนภาษาที่นี่เพราะก็หาข้อมูลก่อนสอบมาเยอะว่าที่นี่เป็น ภาคอินเตอร์ที่เทียบเท่ากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สุดท้ายก้ต้องตัดใจ ส่วนทางคุณแม่ไม่ว่าอะไรก็ตามใจลูกอยู่แล้ว ^_^ แต่ก็ไม่ได้หวังรัฐบาลอย่างเดียวค่ะ ก็วางแผนไว้แล้วว่า ถ้าจำเป็นต้องเข้าเอกชน ขอเข้าที่ ม.กรุงเทพ ที่เดียวเท่านั้น.... :)

......................................

Communication arts
major:: Advertising [Creative]
minor :: Film & Broadcasting

....................................

:: ส่วนใหญ่แป้งจะถ่ายไม่กี่ด้านนะคะ อาจจะไม่ระเอียดทุกมุมมอง
เพราะแค่ อยากเอาลงบล็อกเอาไว้ดูยามคิดถึง "สถานที่ที่เรารัก" แค่นั้นเองค่ะ....

:: ด้านข้างของตึกเพชร แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ราคา 1,700 ล้านกว่าล้าน
ของพวกเรา "ชาวม.กรุงเทพ"... แต่ตอนนี้แป้งคงไม่ได้ไปแล้ว เพราะเรียนจบมาจะสองปีแล้ว คงต้องปล่อยให้เด็กรุ่นใหม่ได้ใช้ชีวิตในที่ที่มีความสุขและสนุกสนานแห่งนี้ ให้คุ้มค่าแล้วแหล่ะ :))

ในตึก....

สวยและเก๋มากกกกก ชอบมากปูนเปลือยแบบนี้ ^^
มีบันไดเลื่อน อลังการงานสร้างมากมายจริงๆ
นี่ ถ้าว่างๆจะเข้าไปอีก เพราะเซ็ตนี้ถ่ายมาตอนยังไม่เสร็จดีเท่าไหร่หรอกค่ะ ฮี่ๆ

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ... ความงามที่ดิชั้นคู่ควร...(ไม่ใช่ละ คนละเรื่องๆ 555)

ผลัดกันถ่ายรูป หุหุ

"ขอ ย้อนอดีตกันอีกซักหน่อยละกันนะคะ กับ The Gangs''

:: i love you 'ALL' // ปี 3

:: ปี 4 วันสุดท้ายของการสอบปลายภาค "จบแล้วโว๊ยยยยยยยยยยย"

.................................................................
......................................
...................
............

และ ใน Folder เดียวกันก็ถ่ายรูปหนังสือที่ซื้อมาเกือบครึ่งปีละ..(นานไปมั้ย?)
เลย เอามาลงไปด้วยเลย ชอบมากกกกกก อ่านแล้วรู้สึกดี ใจเย็นลงเยอะ

เยอะแยะมากมาย ซื้อเยอะหลายเล่ม มักจะได้ของแถมทู๊กกกที ถูกใจวัยรุ่น!!

มีไข่ปลาหมึกแถมมาด้วย 5555 ชอบกินมากกกกกกกกก
หนังสือพวกนี้อ่านจบไปแปดล้านรอบ เพิ่งจะมาเอาลงบล็อก ฮิ้วววๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ
หนังสือแป้งมีเยอะมากกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คิดอยู่ว่าจะเอามาเปิดกรุ รีวิวดีมั้ย?... มันคงจะดีไม่น้อย
เพราะหนังสือที่ซื้อมาอ่านมัน "มีประโยชน์และเนื้อหาดีมาก"
เพราะอ่านแล้ว ไม่ได้ใช้แต่ "แค่ตาอ่าน" แต่ "แป้งใช้ใจอ่านด้วย"...

"สุ จิ ปุ ริ".... จำได้มั้ย? เคยพิมพ์ไว้ในไดอะรี่ก่อนๆ....

ใครมีภูมิคุ้มกันต่ำ อ่านเล่มนี้ จะมีความเข้มแข็งขึ้นเยอะค่ะ ^^

.................................................................
......................................
...................
............

"ยินดี ต้อนรับสู่บล็อกของ Creativ' Blogger'' นะคะทุกคน
ไปละค่ะ ลาไปด้วยหน้าตาเจ้าของบล็อกตัวจริง หุหุ ฮ่าๆ เอิ๊กๆ

สวัสดีค่ะ

PAENG......

Create Date : 05 เมษายน 2553

Last Update : 24 พฤศจิกายน 2553 14:53:25 น.

6 comments

Counter : 4359 Pageviews.

เห็นรูปแล้ว นึกถึงเพือนเก่าเหมือนกันนะคับบ

โดย: d3ntz@hotmail.fr IP: 58.64.79.173 วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:17:43:13 น.

พี่เคยเข้าไปม กรุงเทพ หนหนึ่งค่ะ เข้าไปโอนเงินค่ะ

พอดีช่วงนั้นพี่ไปพักกับเพื่อนแถวนั้นชั่วคราวค่ะ

แต่มีน้องที่รู้จักกัน เป็นเด็กมอกรุงเทพเยอะเลยค่ะ

และมี รุ่นน้องที่ทำงาน จบ ม กรุงเทพ เหมือนกันค่ะ

โดย: Ribbonetta Wish

วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:19:41:27 น.