huanjung ... i'm a traveller
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 

Egypt, 1 of our dream destination : (1) ใต้เงาพีระมิดแห่งกิซ่า

1-9 DEC 2012
"Egypt" 1 of our dream destination







หลังจากใช้เวลาตามล่าหาความฝันกันมาหลายปี
ในที่สุดความฝันที่จะได้ไปเยือน "อียิปต์" ต้นกำเนิดของอารยธรรมอันยิ่งใหญ่หลายพันปี
ที่มาพร้อมกับความลึกลับและน่าพิศวงของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พีระมิด สฟิงซ์ มัมมี่ หรือสายน้ำไนล์
ก็ได้ฤกษ์เป็นจริงซะที

ก่อนที่ทริปนี้จะเป็นรูปเป็นร่าง ก็ใช้เวลาหลายๆ ปีในการหาข้อมูล
จากการอ่านหนังสือท่องเที่ยว ประกอบกับรีวิวต่างๆ ทำให้ตัดสินใจว่า ถ้าจะไปประเทศนี้ ควรไปกับ " ทัวร์" จะดีกว่า
นั่นก็เพราะว่าชื่อเสียงเรื่องกลโกงของแขกอียิปต์เนี่ยขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้
ขนาดที่นักเขียนที่เราชื่นชอบ เดินทางมาแล้วรอบโลก ไปอียิปต์ยังถึงกับตกเครื่อง เพราะเจอโชเฟอร์แท็กซี่โกง
พาออกนอกเส้นทาง เพื่อจะเรียกเงินเพิ่ม พอไม่ให้ก็ไม่พาไปสนามบิน
แล้วสุดท้าย ถึงโบกแท็กซี่คันใหม่ได้ แต่ก็ตกเครื่องอยู่ดี

พอตัดสินใจได้แล้วว่าจะไปทัวร์ คราวนี้ก็มาถึงการหาข้อมูลบริษัททัวร์
อย่างที่รู้ว่าบริษัททัวร์มีอยู่เยอะแยะมากมาย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าบริษัทไหนดี อันนี้ก็เลยต้องหาข้อมูลกันมากซะหน่อย
หลังจากไปเดินงานท่องเที่ยวมาหลายๆ ครั้ง ทุกๆ ครั้งก็เดินเข้าไปพูดคุย สอบถามข้อมูลกับบริษัทที่ทำเส้นทางนี้
ประกอบกับรีวิวที่ไปอียิปต์กับทัวร์ในห้องบลูแพล็นเน็ต pantip.com
สุดท้าย เราก็เลือกจองทัวร์ไปกับบริษัท "Planet World Wide" ซึ่งเป็น 1 ในทัวร์ที่ชำนาญเส้นทางนี้เป็นอย่างดี

ได้ข้อมูลบริษัททัวร์มาแล้ว ก็ต้องมานั่งดูโปรแกรมท่องเที่ยวกันต่ออีกหน่อย
เพราะโปรแกรมเที่ยวอียิปต์เนี่ย นอกจากจะมีหลากหลายราคาแล้ว ก็ยังมีให้เลือกหลายแบบอีกต่างหาก
ไม่ว่าจะเป็นแบบสั้นๆ 6 วัน 3 คืน เจาะเฉพาะไฮไลท์ (อันนี้ไม่แนะนำ)
หรือแบบเที่ยวเฉพาะไฮไลท์อียิปต์ แล้วก็แถมไปประเทศอื่นๆ อย่าง จอร์แดน ด้วยก็มี
หรือจะเป็นแบบยาวๆ ก็มีให้เลือกทั้งแบบ Grand Egypt 8 วัน 5 คืน หรือ 9 วัน 6 คืน
หรือแบบยาวๆ แถมล่องเรือเที่ยวไปตามแม่น้ำไนล์อย่าง Egypt Nile Cruise 9 วัน 6 คืน ก็มีให้เลือกอีก

แต่สำหรับเรา อียิปต์มีดีมากกว่าพีระมิดหรือสฟิงซ์ที่เป็นไฮไลท์ที่ใครๆ รู้จัก
ไหนๆ ก็ใช้เวลานั่งเครื่องไปตั้ง 9 ชม. แล้ว เราเลยเลือกทัวร์แบบเจาะลึก ไปเฉพาะประเทศอียิปต์ แถมไปแบบยาวๆ ด้วย
ซึ่งตอนนี้ก็เหลือโปรแกรมแบบ Grand Egypt กับ Egypt Nile Cruise ให้เลือกอยู่ 2 แบบ

ตอนแรกก็ยังลังเลว่าจะเอาโปรแกรมไหนดี แต่เท่าที่คุยกับบริษัททัวร์ ประกอบกับดูรีวิว
สรุปว่า เราเลือกไปแบบ Grand Egypt 9 วัน 6 คืน ดีกว่า เพราะเรือล่องแม่น้ำไม่ได้หรูหราอะไรมาก
แถมไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำอีกต่างหาก อย่างมากก็นั่งๆ นอนๆ อยู่บนเรือแบบนี้ไปตั้ง 3 วัน คง
เบื่อตายพอดี

ก่อนไปจองทัวร์ วันแรกก็ไปดูโปรแกรม แล้วก็ขอข้อมูลจากบริษัททัวร์ก่อน แล้วก็กลับมาคิดกันอีกรอบ
พออีกวันก็กลับไปที่งานท่องเที่ยวเพื่อจองทัวร์กันเลย
สำหรับราคาทัวร์ก็ 64,900 บ.- ต่อคน แต่จองในงานลดไปอีก 2 พันบาทต่อคน แล้วก็ต่อเพิ่มอีกหน่อย
สุดท้ายได้ราคาสุทธิอยู่ที่ 62,500 บ.- ต่อคน (จองปั๊บ กระเป๋าเบาเลยทีเดียว)

หลังจากจองทัวร์ไปก่อนล่วงหน้า 3 เดือนเต็ม ในที่สุดก็ถึงวันเดินทางซะที

.
.

1 ธ.ค. 2555 (ส)

วันแรกของการเดินทาง
เรามีนัดกับทัวร์ตอนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม
หลังจากจัดการเรื่องเอกสารและโหลดกระเป๋าเรียบร้อย
ก็แยกย้ายกันไปช้อปปิ้งรอเวลาขึ้นเครื่อง



2 ธ.ค. 2555 (อา)

วันที่สองของการเดินทาง
00.55 น. ออกเดินทางด้วย Egypt Air เที่ยวบินที่ MS961
ผ่านไป 9 ชม. กว่าๆ เราก็เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติไคโร ประเทศอียิปต์ ในเวลา 06.30 น.
(อียิปต์ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกาเหนือ เวลาที่อียิปต์ช้ากว่าไทย 5 ชม.)

ระหว่างรอกระเป๋า หัวหน้าทัวร์จะให้เราไปแลกเงินกันก่อน
โดยก่อนไป เราจะต้องแลกเงินเป็นสกุล USD จากนั้นจึงไปแลกเป็น Egyptian Pound ที่อียิปต์อีกที
(ออกเสียงว่า อียิปต์เชี่ยนพาวด์; ซึ่งในไทยไม่มีเงินสกุลนี้ให้แลกแพร่หลาย
แต่มีข้อมูลว่ามีร้านรับแลกอยู่ที่ซอยนานาเหมือนกัน)

ซึ่งถ้าคิดว่าจะไม่ช้อปปิ้งมากนัก ไกด์แนะนำว่าให้แลกไว้แค่คนละ 100 USD ก็พอแล้ว
และแนะนำว่าเวลาแลกเงินที่สนามบิน ต้องขอแบงค์ใบเล็กๆ เพราะไม่อย่างนั้นเวลาใช้อาจจะใช้ยากซักหน่อย
(แต่ในความจริง ตอนไปถึงนักท่องเที่ยวที่ไปกับ ทัวร์ก็มีเยอะ ดังนั้นทุกคนก็จะไม่มีทางได้แบงค์เล็กกันทุกคน
เพียงแต่เราโชคดีอยู่หน่อยตรงที่ได้แลกเงินเป็นคนที่ 2 เลยได้แบงค์เล็กมาเยอะมาก เยอะจนนับไม่ไหวเลยหล่ะ)
(* exchange rate as of 2/12/12 : 1 USD = 6.1 L.E. // 6.1 L.E. = 30.7 THB // 1 L.E. = 5.03 THB *)

ตามคำแนะนำ เราก็เลยแลกเงินที่สนามบิน ไป 2 คน ก็แลกไป 200 USD
ได้เงิน Egyptian Pound มาทั้งหมดก็ 1,220 L.E.

จากสนามบิน เราก็เดินทางไปที่โรงแรม เพื่อทานอาหารเช้ากันก่อน
โดยโรงแรมของเราชื่อ Barcelona Pyramids ตั้งอยู่บนถนน Pyramid Street ห่างจากพีระมิดประมาณ 10 นาที
หลังจากทานข้าวเช้าแบบบุฟเฟ่ท์เรียบร้อย ก็ล้างหน้าล้างตา (แต่ยังไม่ได้ check-in)
แล้วก็เริ่มโปรแกรมท่องเที่ยวกันเลย

สำหรับโปรแกรมวันแรกก็สบายๆ หน่อย
เพราะทัวร์เห็นว่า เราใช้เวลาเดินทางกันมา 9 ชม. กว่าๆ แถมเวลาที่นี่ก็ช้ากว่าไทยตั้ง 5 ชม.
ถ้าพาไปเที่ยวเยอะ วันต่อๆ ไปอาจจะแย่ได้

โปรแกรมวันนี้ เราก็เลยไปกันแค่พีระมิด โรงงานกระดาษปาปิรุส โรงงานน้ำหอม
ทานอาหารค่ำ แล้วก็กลับเข้าโรงแรมนอน

v
v

ใต้เงามหาพีระมิดแห่งกิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ
The great pyramid of Giza

อียิปต์ แหล่งกำเนิดของอารยธรรมอันเก่าแก่ ยิ่งใหญ่ และรุ่งเรืองของโลก
เริ่มต้นเมื่อ 5 พันกว่าปีก่อน
ความอัศจรรย์ของดินแดนที่มีแม่น้ำไนล์สายน้ำแห่งชีวิต และเป็นแม่น้ำที่ไหลจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือ
เราจึงเรียกอียิปต์ที่อยู่ทางตอนใต้ว่า อียิปต์บน (Upper Egypt)
ในขณะที่เรียกอียิปต์ที่อยู่ทางตอนเหนือว่า อียิปต์ล่าง (Lower Egypt)
(สับสนดีจริงๆ)

.
.

กิซ่า (Giza) เป็นเขตเมืองเก่า อยู่ห่างจากตัวเมืองไคโรซึ่งเป็นเมืองหลวงประมาณ 20 กม.
โดยไคโร (Cairo) จะอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ ถือว่าเป็นเมืองคนเป็น
ส่วนกิซ่าจะอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ถือว่าเป็นเมืองคนตาย
ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งของสุสานประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พีระมิด หรือมาสตาบา (สุสานยุคแรกๆ)

โดยในอดีตจะมีการแบ่งแยกฝั่ง ระหว่างเมืองกับสุสานกันอย่างชัดเจน
แต่ปัจจุบันเนื่องจากมีคนอาศัยอยู่ในเมืองไคโรถึงกว่า 22 ล้านคน
ดังนั้นเขตเมืองจึงขยายเข้าไปจนถึงฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นเขตเมืองกิซ่า
และบ้านคนก็เริ่มขยายเข้าไปยังเขตของพีระมิดมากขึ้นๆ

.

จากโรงแรม ใช้เวลาเดินทางกันราว 15-20 นาที เราก็มาถึงพีระมิดกันแล้ว
(ถึงแม้ระยะทางจะใกล้แค่ 10 นาที แต่การจราจรในอียิปต์ โดยเฉพาะไคโรเนี่ย รถติดมากจ้ะ)

มาถึงด้านหน้าทางเข้า ระหว่างที่รอไกด์ไปรับตั๋ว
หัวหน้าทัวร์คนไทย ก็สอบถามลูกทัวร์ก่อน (ลืมบอกว่าทริปนี้มีลูกทัวร์ 2 บัสๆ ละ 25 คน)
ว่ามีใครจะเข้าไปชมด้านในพีระมิดหรือเปล่า? เพราะจะต้องซื้อตั๋วกันตรงจุดนี้เลย

ซึ่งในวันนี้ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ทางเข้าพีระมิดเปิดให้เข้าชมทั้ง 2 องค์
ลูกทัวร์ก็เลยให้เลือกได้ว่าจะเข้าองค์ไหน จะเข้าทั้ง 2 องค์ หรือจะไม่เข้าก็ได้
อันนี้ทัวร์ไม่ได้บังคับ เพราะถ้าจะเข้าก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มกันเอาเอง

* สำหรับข้อมูลการเข้าชมด้านในพีระมิด *
พีระมิดที่เข้าชมได้มี 2 องค์ คือ มหาพีระมิดคูฟู และพีระมิดเครเฟร
ส่วน คชจ. ในการเข้าชม สำหรับมหาพีระมิดคูฟู (องค์แรก) 100 L.E. (ประมาณ 500 บ.-) ความลึกประมาณ 90 ม.
ส่วนพีระมิดเครเฟร (องค์กลาง) 30 L.E. (ประมาณ 150 บ.-) ความลึกประมาณ 30 ม.

.
.

ส่วนเราไม่ได้เข้าไปดูพีระมิดทั้ง 2 องค์ เพราะว่าดูจากสารคดีแล้ว ข้างในก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดู อากาศก็น้อย
แถมทางเข้าก็แคบและเตี้ย ต้องคลานเข้าไปเกือบตลอดทาง เลยตัดสินใจไม่เข้าดีกว่า
เพราะกลัวว่าถ้าปวดหลังปวดเข่าขึ้นมาจะแย่ แล้วจะทำให้วันอื่นเที่ยวไม่สนุก
แต่ถ้าใครคิดว่า ไหนๆ ก็มาแล้ว อยากจะมี ประสบการณ์ในการเข้าไปชมด้านในพีระมิดก็ดีจ้ะ

หลังจากแบ่งกลุ่มกันเรียบร้อย ไกด์ท้องถิ่นก็แจกตั๋วกันคนละใบ
แล้วก็เดินเข้าไปด้านในกันเลย





สำหรับจุดชมวิวพีระมิดจะมี 3 จุด คือ
(1) มหาพีระมิดคูฟู
(2) จุดชมวิว Panorama ที่เห็นพีระมิดทั้ง 3 องค์ และเป็นจุดขี่อูฐ
(3) สฟิงค์ (the great sphinx of giza)

แต่เราได้แวะ 4 จุดๆ ที่ 4 คือ พีระมิดเครเฟร เพราะว่ามีคนจะเข้าไปด้านในพีระมิดองค์นี้ด้วย

.
.

สำหรับพีระมิด (Pyramid) ที่เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่จนถึงปัจจุบันคือ
พีระมิดองค์แรก คือ มหาพีระมิดคูฟู (The great pyramid of Khufu) ซึ่งเป็นของกษัตริย์คูฟูเท่านั้น
(แต่คนส่วนใหญ่รวมทั้งเราด้วย มักเข้าใจผิดว่าเป็นหมู่พีระมิดทั้ง 3 องค์)
โดยความสูงเดิมของพีระมิดองค์นี้คือ 147 ม. แต่ปัจจุบันเหลือความสูงแค่ 137 ม. ลดลง 10 ม.
เนื่องจากพื้นทรุด และส่วนยอดของพีระมิดที่เป็นหินปูน (limestone) สึกกร่อนลงไป

ส่วนพีระมิดองค์กลางคือ พีระมิดเครเฟร (the pyramid of Khafre) ของกษัตรย์เครเฟร (ลูกของคูฟู)
ถ้าดูด้วยตาเปล่า ดูเหมือนจะมีขนาดสูงใหญ่กว่า แต่จริงๆ สูงแค่ 137 ม. เท่านั้น
แต่เนื่องจากอยู่บนพื้นที่ที่สูงกว่าพีระมิดองค์แรกถึง 10 ม. เลยทำให้ดูเหมือนสูงใหญ่กว่า
อีกทั้งส่วนยอดของพีระมิดที่เป็นหินปูนขัดมันก็ยังคงอยู่นั่นเอง

พีระมิดองค์ที่ 3 คือ พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) หลานของคูฟู มีความสูงเพียง 65 ม.
ปัจจุบันสูงแค่ 62 ม .

.
.

แค่แรกสบตา "พีระมิด" ใจก็หวั่นไหว
โผล่พ้นประตูทางเข้าด้านหน้าที่มีเครื่องแสกนตั้งอยู่ เราก็ได้สบตากับพีระมิดองค์แรก
คือ มหาพีระมิดคูฟู ซึ่งเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณของโลก
แค่สบตา ใจก็เต้นเป็นจังหวะร็อคแอนด์รัว ทั้งตื่นเต้นและดีใจ จนบรรยายไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง

ยิ่งเดินเข้าไปใกล้มหาพีระมิดมากเท่าไหร่ ก็รู้สึกว่าตัวเรายิ่งเล็กลงเท่านั้น
ยิ่งเห็น ยิ่งอัศจรรย์ ... รู้แล้วว่าทำไมใครๆ ถึงคิดว่าเอเลี่ยนเป็นคนสร้างพีระมิด
ก็ก้อนหินแต่ละก้อนสูงกว่า 1 ม. แถมหนักเป็นตันๆ ก่อเป็นพีระมิดสูงเท่าตึกไม่รู้กี่สิบชั้น
กับระยะเวลาเมื่อหลายพันปีก่อน แค่เริ่มคิดก็ งง!!! ซะแล้วว่าสร้างกันมาได้ยังไง

ใต้เงามหาพีระมิด
มองไปด้านหลัง คือ พีระมิดเครเฟร







ระหว่างที่ลูกทัวร์ส่วนใหญ่มุดเข้าไปชมด้านในพีระมิด
เราก็ใช้เวลาเดินสำรวจรอบๆ พีระมิดกัน

มองขึ้นไปที่มหาพีระมิด
ช่องที่เห็นด้านบนพีระมิด คือ ทางเข้าที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชม





ข้อควรระวังในจุดนี้ คือ ไม่ควรยกกล้องขึ้นถ่ายรูปสิ่งมีชีวิตที่ดูแล้วเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สัญชาติอียิปต์
เพราะคุณจะโดนไถเงินแน่นอน

อย่างรูปล่าง ตั้งใจถ่ายกับอูฐ ก็ว่าดูดีแล้วนะว่าไม่มีเจ้าของอูฐอยู่ใกล้ๆ
แต่พอถ่ายเสร็จเท่านั้นแหล่ะ เจ้าของเดินมาไหนก็ไม่รู้เข้ามาไถเงินเราทันที
แต่แขกอียิปต์หรือจะสู้ชะนีไทย เดินหนีโล้ดดดดค่า
แถมพอแขกพูดมา ชะนีไทยทำหน้าฟังไม่รู้เรื่อง แล้วก็พูดตอบกลับไปเสียงดังว่า "พูดอะไรอ่ะ ไม่เข้าใจ พูดไทยซี่"
แขกอียิปต์เจอมุขนี้เข้าไปคงถึงกับ งง!!! เกาหัวแกรกๆ แล้วก็เดินกลับไป

อีกอย่างก็คือ ระวังถูกแขกจับยกขึ้นไปขี่อูฐ เพราะคุณจะลงเองไม่ได้ ถ้าไม่ยอมจ่ายเงิน
นั่นก็เพราะอูฐสูงถึง 2 ม. กว่าๆ ถ้าไม่ยอมจ่ายเงิน แขกก็ไม่ให้ลง อันนี้เห็นมากับตา
แต่ก่อนจะลงจากรถ ไกด์ก็เตือนไว้แล้วว่า อย่าพยายามแตกกลุ่มไปตามลำพัง แล้วก็ให้ระวังเจอแบบนี้ด้วย

กับพีระมิดและอูฐ







หลังจากเดินอยู่ด้านล่างกันพักใหญ่ ก็ลองปีนขึ้นไปด้านบนพีระมิดกันบ้าง
ท่านี้แปลว่า "พีระมิด"





ท่านี้ก็แปลว่า "พีระมิด" เหมือนกัน





รอมาหลายปี ในที่สุด เรา 2 คน ก็ได้มา อียิปต์กันซะที :)





จากจุดแรก คือ มหาพีระมิดคูฟู
ทัวร์ก็พาเราไปที่จุดที่ 2 ซึ่งเป็น จุดชมวิว Panorama ที่เห็นพีระมิดทั้ง 3 องค์ และเป็นจุดขี่อูฐ

(ซ้ายไปขวา) มหาพีระมิดคูฟู, พีระมิดเครเฟร, พีระมิดเมนคูเร





ขโมยถ่ายตูดอูฐ





ฮวนจังแห่งทุ่งดินแดง กับหมู่พีระมิดแห่งทุ่งกิซ่า





อูฐกับหมู่พีระมิด







ท่ายอดฮิต พีระมิดที่ว่าใหญ่แค่ไหน ก็มาอยู่ได้ที่ปลายนิ้ว





ขี่อูฐส่องพีระมิด
ชื่นชมกับวิวแบบ panorama ของหมู่พีระมิดกันไปแล้ว ไกด์ก็พาเราไปขี่อูฐกัน
มาถึงอียิปต์ทั้งที ยืนดูพีระมิดเฉยๆ คงไม่ได้อารมณ์เท่า "ขี่อูฐ" ดูพีระมิดแน่นอน
สำหรับการขี่อูฐจะไม่รวมอยู่ในแพ็คเกจทัวร์ ถ้าจะขี่ก็ต้องจ่ายเพิ่ม ซึ่งก่อนไปทัวร์แจ้งราคาไว้ที่ 15-30 USD ต่อคน
แต่วันนั้นไกด์ดีลราคาได้ที่ 10 USD หรือประมาณ 300 บ.- ต่อคนเท่านั้น

ปกติเห็นอูฐตามนิตยสารท่องเที่ยว ดูสวย สะอาด แล้วก็ขนนุ่มเชียว แต่อูฐจริงๆ ก็เป็นอย่างที่เห็น





สำหรับการขี่อูฐส่องพีระมิด เราก็จะได้นั่งอูฐไปกลับระยะทางประมาณ 200 ม.
ดูเหมือนจะสั้น แต่แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเรา เพราะการขี่อูฐน่ากลัวมาก
อูฐสูงมาก เวลาขึ้นว่าเสียวแล้ว เวลาลงเสียวกว่าเยอะเลยหล่ะ
เพราะเค้าจะต้องตีขาเพื่อให้อูฐย่อก่อน แล้วเราก็จะหน้าทิ่ม เสียวสุดๆ ไปเลยอ่ะ TT

ขึ้นอูฐแล้ว แทบยิ้มไม่ออก จะสูงไปไหนเนี่ย!!!
(วันนั้นเราขี่อูฐคนเดียว ส่วนพ่อตัวดีไม่ยอมขี่ เพราะฮีบอกว่า ถ้าฮีขี่ แล้วใครจะถ่ายรูปขี่อูฐให้เรา)







ระหว่างทางขี่อูฐกลับ กับฉากหลังเป็นหมู่พีระมิด
200 ม. ที่แสนยาวไกล กับประสบการณ์ขี่อูฐที่เสียวจนต้องจำไปอีกนาน





จุดจอดของอูฐวิน





มีพีระมิดแค่ 3 องค์ แต่ถ่ายรูปกันไม่รู้เบื่อ







จากจุดที่ 2 เรามากันที่ ด้านหน้าพีระมิดเครเฟร
ซึ่งปกติถ้าไม่มีลูกทัวร์เข้าชมที่พีระมิดองค์นี้ ทัวร์ก็จะไม่ได้พาเรามาแวะที่นี่
แต่พอดีวันนี้มีลูกทัวร์จะเข้าไปชม เราก็เลยได้แวะมาถ่ายรูปด้วย





มองย้อนกลับไปที่มหาพีระมิดคูฟู





หลังจ่ากลูกทัวร์กลับออกมาจากพีระมิดเครเฟร
ไกด์ก็พาไปที่จุดชมวิวจุดสุดท้าย คือ สฟิงค์ (the great sphinx of giza)

จากการศึกษาสันนิษฐานว่า สฟิงซ์ตัวนี้ถูกสร้างมาก่อนหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า
เนื่องจากทางเดินที่เชื่อมระหว่างวิหารที่สฟิงซ์ไปยังพีระมิดเครเฟร เป็นทางเดินอ้อมสฟิงซ์ไป
นั่นทำให้คิดว่า ถ้าสร้างพีระมิดก่อน ก็น่าจะสร้างทางเดินจากพีระมิดมาตรงๆ มากกว่า

สำหรับสฟิงซ์ตัวนี้ ถือเป็นสฟิงซ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จนเรียกได้ว่าเป็น มหาสฟิงซ์แห่งกิซ่า

มหาสฟิงซ์ กับฉากหลังเป็นพีระมิดเครเฟร





ด้านหน้าคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว





เดินเข้าไปด้านใน จะเป็นมุมด้านข้างของสฟิงซ์









สบตาสฟิงซ์ชัดๆ





สฟิงซ์ กับพีระมิดทั้ง 3 องค์แห่งกิซ่า





ใช้เวลาชมพีระมิดที่นี่กันประมาณ 3 ชม. กว่าๆ ทัวร์ก็พาเราไปทานอาหารกลางวัน
ก่อนจะพาไปชมโรงงานกระดาษปาปิรุส (ราคาแพงเลยไม่ได้ซื้อ)
แล้วก็โรงงานน้ำหอม (ก่อนไปหาข้อมูลไว้เหมือนกัน แต่พอลองดมแล้วเฉยๆ เลยไม่ได้ซื้อมา)
จากนั้นก็ทานอาหารเย็น แล้วก็กลับเข้าโรงแรม เป็นอันจบโปรแกรมของวันแรกในอียิปต์

-:- โปรดติดตามตอนต่อไป -:-

v
v

>> ก่อนจบ <<

เรื่องเล่าจากไกด์
สำหรับเรื่องสมบัติในสุสานของกษัตริย์ นอกจากสมบัติที่ขุดคนพบจากสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมนแล้ว
ในการขุดค้นสุสานทุกแห่ง รวมทั้งพีระมิดทุกแห่ง ไม่เคยปรากฎร่องรอยของการค้นพบสมบัติแต่อย่างใด
เพราะในการขุดค้น ไม่เคยเจอว่ามีการทุบทำลายสุสานหรือพีระมิด
คือไม่เจอร่องรอยว่ามีการทำลายประตูทางเข้าใดๆ (ไม่มีการแตกหัก) เพื่อเข้าไปขโมยสมบัติเลย
(ประมาณว่าถ้าโจรจะเข้าไปขโมย คงไม่ทุบประตูทางเข้าสุสาน แล้วมาก่อใหม่ให้ดูเรียบร้อยเหมือนเดิม)

เลยมีข้อสันนิษฐานว่า อาจจะมีการทำพิธีฝังพอเป็นพิธี
จากนั้นก็ทำการโยกย้ายสมบัติกลับออกไป เหลือแต่มัมมี่ไว้เท่านั้น
แต่การศึกษาก็มีข้อสันนิษฐานต่างกันออกไป แล้วก็ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง
เรื่องนี้ก็เลยยังเป็นปริศนาต่อไป



ข้อควรระวังในการท่องเที่ยวที่อียิปต์
(1) ไม่ควรแตกกลุ่ม หรือเดินออกไปไกลจากกลุ่มตามลำพัง
(2) ไม่ควรยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปสิ่งมีชีวิตที่ดูแล้ว เป็นคน สัตว์ สิ่งของ สัญชาติอียิปต์
เช่น คนจูงอูฐ จูงม้า หรือเดินขายของ ตรงๆ ไม่อย่างนั้น อาจะจะโดนไถเงินได้
(3) พวกคนขายของที่ระลึกตามสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง จะถูกสอนมาเหมือนกันหมดว่าให้บอกขายของราคา 1 Dollar
แต่ให้จำไว้ว่า มันไม่ใช่ราคานี้จริงๆ ฉะนั้นห้ามไปรับของมาก่อนจะตกลงราคากันแน่นอนแล้ว
(4) เวลาซื้อของ ถ้าให้แบงค์ใหญ่กว่า ควรให้เค้ายื่นเงินทอนมาก่อน ค่อยให้เงินไปจะดีกว่า
ไม่งั้นอาจจะโดนโกง ไม่ได้เงินทอน



อื่นๆ
(1) ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวประเทศอียิปต์ คือ ช่วงเดือนธันวาคม ถึงกุมภาพันธ์
ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศอียิปต์ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15-25 องศา อากาศจะกำลังดี
ช่วงเช้าและค่ำอากาศจะค่อนข้างเย็น แต่กลางวันแดดจะค่อนข้างแรง (แต่ไม่ร้อนมาก)
ดังนั้นต้องเตรียมเสื้อกันหนาว กันลม และกันแดด รวมทั้งหมวกและแว่นตา และที่สำคัญคือครีมกันแดดไปด้วย
ส่วนรองเท้า แนะนำว่าใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหุ้มส้นดีที่สุด เพราะกันทั้งแดดและฝุ่นจากทรายได้

(2) ทัวร์อียิปต์ทุกกรุ๊ปจะใช้ไกด์ท้องถิ่นเป็นคนอียิปต์ ซึ่งจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารตลอดทริป
ส่วนหัวหน้าทัวร์ไทยจะเสริมเป็นภาษาไทยบ้าง แต่ไม่ทั้งหมด ถ้าจะไปลองอ่านข้อมูลไปก่อนก็ดี
ถ้าเน้นเรื่องราวความสำคัญและประวัติศาสตร์ แนะนำหนังสือชื่อ
"เปิดโลกไอยคุปต์: บันทึก(ไม่)ลับจากอเล็กซานเดรียจรดอบูซิมเบล" ของสืบ สิบสามและทีมงานไอยคุปต์
กับอีกเล่มชื่อ "ความลับแห่งลุ่มน้ำไนล์" ของธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์

แต่ถ้าเน้นเอาประสบการณ์ทั่วไปของนักท่องเที่ยว แนะนำหนังสือชื่อ "จิบไนล์ไต่พีระมิด"
ของกาญจนา หงษ์ทอง เล่มนี้อ่านสนุกมาก อ่านเป็นสิบๆ รอบแล้วก็ไม่เบื่อ
จริงๆ ไปแล้วค่อยกลับมาอ่าน จะเข้าใจมากกว่า แต่อ่านไปก่อนก็ดี เพราะจะได้รู้เรื่องบ้างนะจ๊ะ

(3) ประเทศอียิปต์ เป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และค่อนข้างเคร่งครัด
จึงควรแต่งกายให้รัดกุม และเลี่ยงการใส่เสื้อแขนกุด แขนเว้า หรือขาสั้นไป

ส่วนเรื่องอาหาร ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกแค่เนื้อวัว เนื้อแกะ และไก่
จะมีปลาทอดหรือย่างให้เลือกเป็นบางมื้อ แต่จะไม่มีเนื้อหมู (และห้ามนำเข้าประเทศด้วย)
ถ้าใครไม่ทานเนื้อ ก็เรียกว่าต้องทานไก่กันไปจนเบื่อ เพราะขนาดเราทานเนื้อ ยังรู้สีกว่าเนื้อมีกลิ่นสาป
แต่เนื้อของบางร้านก็อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว

ดังนั้นถ้าใครคิดว่าอาจจะเบื่อๆ เลี่ยนๆ กับอาหารพวกนี้ หรือว่าจะทานไม่ได้
แนะนำว่าให้เตรียมมาม่าคัพ โจ๊กคัพ หรืออาหารกระป๋องไปด้วยก็จะดี
(แต่ทางทัวร์ก็จะมีเตรียมน้ำพริก มาม่ากับโจ๊กให้เหมือนกัน แต่เตรียมไปเองด้วยจะดีที่สุด)

เวลาเข้าห้องน้ำตามสถานที่ท่องเที่ยว จะต้องเสียค่าเข้าห้องน้ำเกือบทุกที่ (ยกเว้นร้านอาหารกับสนามบิน)
คนละประมาณ 1-3 L.E.

(4) เวลาซื้อของ ให้ต่อรองไปเลย 70% ถ้าเค้าบอกไม่ได้ ก็ให้เดินออกมา
แต่ถ้าเค้าขายได้ เค้าจะเรียกเราเอง



สุดท้าย!!!
คำถามที่มักโดนถามอยู่บ่อยๆ เลย คือ "อียิปต์ร้อนมั๊ย?"
เพราะดูจากคนท้องถิ่นแต่งตัวแบบใส่ชุดยาวคลุมทั้งตัว แถมผ้าปิดหน้าอีกต่างหาก
ขอตอบว่า แดดจัดและแรง แต่ร้อนมั๊ย ไม่ร้อนมากอย่างที่คิดค่ะ
แต่อันนี้เป็นเพราะว่าช่วงที่เราเลือกไปเป็นฤดูหนาว แถมมีลมเย็นๆ พัดตลอดทั้งวัน
แต่ถ้ากลัวดำ ก็ใส่เสื้อแขนยาวหรือเสื้อคลุมก็ช่วยได้

เพียงแต่เราเป็นขี้รำคาญ ถ้าเลือกได้จะไม่ใส่เสื้อแขนยาวหรือเสื้อคลุม แต่ก็กลัวดำอยู่เหมือนกัน
เลยใช้วิธี พกสเปรย์กันแดดไปด้วย แล้วก็ฉีดเติมบ่อยๆ เติมกันทั้งวันก็ช่วยได้ระดับนึง แต่กลับมาก็คล้ำไปเหมือนกัน
แต่คนท้องถิ่นที่เห็นใส่ชุดปกปิดมิดชิด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
เลยค่อนข้างเคร่งเรื่องการแต่งตัว คือ ห้ามแต่งตัวโป๊ด้วยค่ะ



ท้ายสุด!!! (น่าจะหมดแล้วนะ)
อีกเรื่องคือ "การจราจลในอียิปต์อันตรายมั๊ย มีผลกับการท่องเที่ยวหรือเปล่า?"
อันนี้ เราก็กลัวอยู่เหมือนกัน ก่อนไปก็เลยโทรเช็คกับทางทัวร์ว่ายังไปได้อยู่หรือเปล่า
พอไปกลับมาแล้ว ก็ขอบอกในมุมมองของนักท่องเที่ยวว่า
การจราจลที่อียิปต์ก็เหมือนบ้านเรา คนประท้วงก็จะอยู่เฉพาะบริเวณที่ประท้วงเท่านั้น
ไม่ได้ลุกลามไปจนกระทบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไปกันเลย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าจองทัวร์ไปแล้วก็ลองสอบถามทัวร์ได้เลย
ถ้าทัวร์บอกว่าไม่เป็นไรก็คือไม่เป็นไร เดินทางได้จริงๆ ไม่มีอะไรน่าห่วงค่ะ
เพราะอย่างช่วงที่เราไปก็เกิดการจราจลอย่างหนัก เกิดการเผาประท้วงกันเลยด้วยซ้ำ
แต่ระหว่างที่ไปเที่ยว เราก็ไม่ได้เจอเหตุการณ์อะไรที่เป็นผลกระทบจากเหตุการณ์ประท้วงเลย
แม้กระทั่งวันที่ไป Egyptian Museum ที่อยู่ติดกับบริเวณการชุมนุมก็ตาม




 

Create Date : 16 กรกฎาคม 2558
5 comments
Last Update : 16 กรกฎาคม 2558 17:34:08 น.
Counter : 1999 Pageviews.

 

เป็นประเทศที่เราและแม่อยากไปมากๆ เลยค่ะ

มาชมผ่านบล็อกก่อน โหวตให้ค่ะ

นิดนึง - ทำไมตัวอักษรเล็กมากๆ เลยอะคะ? กำหนดว่าเป็นฟอนท์ขนาด 1 เหรอคะ?

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 กรกฎาคม 2558 17:26:15 น.  

 

ตอบ คุณสาวไกด์ใจซื้อ
พอดีตุ๊ก copy มาจากเวปไดอารี่ค่ะ จริงๆ set ไว้เป็น tahoma 10 เลยไม่ได้ดูอีกที ตอนนี้แก้เป็น font #2 เรียบร้อยแล้วค่า

ขอบคุณสำหรับ comment ด้วยนะคะ

 

โดย: หมูอ้วนจ้ำม่ำ 16 กรกฎาคม 2558 17:35:36 น.  

 

สวยมากค่ะน่าสนุกจัง

 

โดย: mariabamboo 16 กรกฎาคม 2558 19:46:46 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 17 กรกฎาคม 2558 3:16:52 น.  

 

ขอบคุณที่นำภาพมาฝากค่ะ สวยมากกก น่าไป ร้อนมั้ยคะ

 

โดย: Mintra-april 17 กรกฎาคม 2558 13:29:08 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


หมูอ้วนจ้ำม่ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบการเดินทางและท่องเที่ยว
เป็นชีวิตจิตใจ ชีพจรลงเท้า
มีเวลาว่างเป็นไม่ได้
ต้องคอยหาที่ไปเที่ยวอยู่เสมอๆ
ไม่ว่าจะใกล้ หรือไกล
ในประเทศหรือต่างประเทศ
แล้วแต่กำลังทรัพย์ในกระเป๋า

สถานที่ที่อยากไปมากที่สุดตอนนี้
คือ อียิปต์ รัสเซีย และญี่ปุ่น


Friends' blogs
[Add หมูอ้วนจ้ำม่ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.