 มีแนวทางง่ายๆให้ท่านเอาวอลุ่มมาช่วยวิเคราะห์การเคลื่อนไหวราคาได้อประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยหลักและตัวช่วย ๗ ข้อดังนี้ ๑) วอลุ่มบอกความสนใจของคนในตลาดได้ อธิบายง่ายๆคือ ๑) ถ้าราคาวิ่งขึ้น + วอลุ่มน้อย = ดูอ่อนแอ = ไปต่อได้ไม่ไกล ๒) ถ้าราคาร่วงลง + วอลุ่มแยะ = สัญญาณแข็งแกร่ง = ไม่ต่อได้เยอะ เนื่องจากพื้นฐานอาจเกิดความเปลี่ยนแปลง
๒) การเคลื่อนไหวที่อ่อนแรง วอลุ่มบอกได้ ในช่วงที่ตลาดทำจุดสูงสุดนั้น มักจะมีคนเข้ามาร่วมวงเป็นจำนวนมาก จึงมักจะเกิดการแกว่งตัวสูงพร้อมกับมีวอลุ่มมหาศาล
ในช่วงที่ตลาดทำจุดต่ำสุดก็เช่นกัน มักจะมีการขายหุ้นออกเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแกว่งสูงพร้อมกับวอลุ่มมหาศาล
๓) สัญญาณที่บ่งบอกว่าตลาดขึ้นมาได้สุดทางแล้ว ถึงจุดสูงสุดแล้ว วอลุ่มช่วยระบุได้ ๑) จำนวนหุ้นที่ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ หรือ 52 week high ลดลงไปมาก หรือบางทีก็ไม่มีเลย มันเป็นสัญญาณบอกว่า ไม่มีเงินเข้ามาซื้อหุ้นมากนัก คนชักมีความกลัวมากกว่ากล้า จึงไม่อยากเสี่ยงซื้อหุ้นให้มากไป
๔) วอลุ่มบอกสัญญาณกระทิงได้ - วอลุ่มลด ในขณะที่ราคาวิ่งขึ้น จากนั้นราคาก็ย่อ ถ้าท่านเห็นแบบนี้ ให้ดูจุดต่ำสุดของการย่อ หากเห็นมันยกโลว์ แถมวอลุ่มในขาย่อนั้นมันน้อยลง แสดงว่าเป็นสัญญาณกระทิง
๕) วอลุ่มบอกสัญญาณการกลับตัวได้ หลังจากที่ราคาทำแนวโน้มอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้น หรือขาลง แล้วจากนั้นแท่งราคาเกิดแท่งสั้น แต่วอลุ่มกลับออกมาสูงปรี๊ด มันเป็นสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม
๖) วอลุ่มกับการ Breakout และ False breakout เมื่อราคาเกิดการ breakout ไปจากกรอบการบีบตัว หรือ chart pattern วอลุ่มต้องสูงขึ้นเข้ามาสนับสนุน การเพิ่มขึ้นของวอลุ่มเป็นตัวบ่งบอกว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนั้นแข็งแรงมาก ยิ่งเพิ่สูงกว่าเดิมมากยิ่งสื่อว่าแข็งแรง
๗) อินดิเคเตอร์วอลุ่ม ช่วยยืนยันได้
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2561 |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2561 8:07:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1010 Pageviews. |
 |
|