นิทานธรรม : ใช่ว่าจะเหมือนกัน


ใช่ว่าจะเหมือนกัน


ป่าไม้แห่งหนึ่งอุดมไปด้วยสัตว์นานาชนิด  รวมถึงเป็นที่หากินของคนที่มีอาชีพเป็นนายพราน  และคนเก็บของป่าด้วย 

ในป่าแห่งนี้ .. มีกระรอกน้อยตัวหนึ่งที่ชอบเที่ยวหาอาหารไปทั่ว พร้อมส่งเสียงหยอกล้อให้เกิดควาามสนุกสนานแก่สัตว์อื่นๆ บางครั้งก็ส่งสัญญาณเตือนภัยให้แก่เพื่อนสัตว์ด้วยกัน

อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่กระรอกกำลังหากิจอยู่บนต้นไม้ ก็มองเห็นงูเขียวตัวหนึ่งกำลังนอนอยู่ใต้ต้นไม้ที่ตัวกระรอกเองได้อาศัยอยู่  ขณะนั้นได้มีนายพรานคนหนึ่งกำลังเดินหาล่าสัตว์อยู่ในป่าแห่งนั้น  กระรอกน้อยจึงร้องขึ้น  ฝ่ายนายพรานเมื่อได้ยินเสียงกระรอกร้อง ก็เดินไปดุที่ต้นไม้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่

เมื่อเดินไปถึงต้นเหตุที่ทำให้กระรอกร้อง  นายพรานก็เห็นงูเขียวตัวหนึ่งนอนอยู่ที่ใต้ต้นไม้  ทำให้รู้ว่าเหตุที่กระรอกร้อง ก็เพราะมันเห็นงูเขียวนั่นเอง  แต่นายพรานก็ไม่ทำร้ายงูเขียวแต่อย่างใด  ได้แต่เดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ่้น เพราะรู้ว่างูเขียวนั้นคงไม่ทำร้ายใคร และนำไปทำเป็นอาหารก็ไม่ได้

---------------------------

ต่อมาก็มีนายพรานอีกคนเดินผ่านต้นไม้ที่งูเขียวนอนอยู่และได้ยินเสียงกระรอกร้องขึ้นอีก  ก็รู้ทันทีว่าคงมีบางอย่างที่ต้นไม้แห่งนี้  จึงเดินเข้าไปเพื่อจะสำรวจสิ่งที่อยู่ใต้ต้นไม้ แต่พอนายพรานเห็นแต่งูเขียวก็เดินจากไปทันที โดยไม่ใส่ใจงูเขียวที่นอนอยู่เลย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในสายตาของงูเห่าโดยตลอด ทำให้มันคิดว่าเหตุที่นายพรานเดินผ่านไปเฉยๆ โดยที่ไม่ทำร้ายงูเขียว  คงเป็นเพราะมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครอง จึงทำให้งูเขียวมีชิวิตอยู่อย่างปลอดภัย  งูเห่าจึงเลื้อยไปยังที่ดังกล่าว แล้วไล่งูเขียวให้ไปอยู่ที่อื่น  โดยที่ตัวเองเข้าไปอยู่แทนที่งูเขียวนั้น

เหตุการณ์ที่งูเห่ากำลังไล่งูเขียว ก็ปรากฎแก่สายตาของกระรอกเช่นเดียวกัน  เมื่อกระรอกเห็นว่ามีนายพรานเดินผ่านมา ก็ร้องส่งเสียงเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยมีงูเห่านอนฟังเสียงและคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน

เมื่อนายพรานคนที่สามเดินผ่านมา และได้ยินเสียงกระรอกร้อง ก็ทำให้เขาต้องคิดตามสัญชาตญาณของผู้ล่า นายพรานได้เดินเข้าไปดูที่ใต้ต้นไม้ แล้วสิ่งที่เขาเจอก็คืองูเห่าตัวหนึ่งกำลังนอนอย่างสบายใจ ซึ่งดูผิดแปลกไปจากงูเห่าตัวอื่นๆ

แม้งูเห่าจะได้ยินเสียงการเดินมาของนายพราน ทว่าด้วยความเชื่อว่าต้นไม้นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ และสามารถคุ้มครองตนให้ปลอดภัยได้ มันจึงได้แต่นอนนิ่งเฉย โดยไม่มีการระวังตัวแต่อย่าใด
เมื่อเป็นเช่นนั้น งูเห่าจึงถูกนายพรานจับตัวอย่างง่ายดาย และถูนำไปทำเป็นอาหารในที่สุด

ครั้นก่อนจะตาย .. งูเห่าได้แต่เฝ้าถามสิ่งที่เกิดขึ้นว่าทำไมงูเขียวถึงไม่ถูกจับ  แต่ทำไมตัวของมันเองกลับต้องถูนายพรานทำร้ายถึงแก่ชีวิตด้วย  ทว่าเจ้างูเห่าก็ไมมีโอกาสที่จะได้รับคำตอบนั้นเลย


ขอขอบคุณ : นิทานธรรมมะ ชุติปัญโญ , 7-themes.com ,




Create Date : 27 สิงหาคม 2558
Last Update : 27 สิงหาคม 2558 15:32:58 น.
Counter : 870 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

katawa
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



สิงหาคม 2558

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
22
23
26
29
30
 
 
All Blog