Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
5 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
เกาะคิวชูไม่ไปไม่รู้ (ตอน2)

ความเดิมจากตอนที่แล้วอิอิ...(นานมากกกก)

หลังจากถึงสนามบินฟูกุโอกะแล้วเดินทางต่อไปยัง ศาลเจ้าดาไซฟุ

จากนั้นก็เดินทางเข้าตัวเมือง ฟุกุโอกะ เพื่อนไปทานอาหารมื้อแรกที่นี่กัน

ทางไกด์ได้เสนอให้ทานเป็นพวก ชาบู ชาบู เพราะน่าจะทานง่ายสำหรับบางคน

ที่ไม่ชอบทานอาหารญี่ปุ่น ก่อนถึงร้านไกด์ได้แนะนำการรับประทาน ชาบู ชาบู ไว้ว่า

คนญี่ปุ่นมักจะนำเนื้อไปต้มและนำเนื้อที่ต้มแล้วมาชุปไข่ดิบ จิ้มซอสเปรี้ยวทาน

(ไข่ที่ญี่ปุ่นมีวันหมดอายุค่ะ เนื่องจากคนที่นี่ชอบทานไข่ดิบ จึงต้องมีวันหมดอายุ ถ้าหลังจากหมดอายุแล้วทำไงละ ก็นำมาทำไข่ต้ม ไข่เจียวไงจ๊ะ และถ้าสังเกตุกันดีๆจะเห็นว่า ไข่แดงที่นี่สวยมากมาตรฐานเท่ากันทุกใบ)

แต่คิดว่าคนไทยคงทานกันไม่ได้เลยไกด์หนุ่มเลยเตรียมน้ำจิ้มสุกี้มาให้ด้วย

สำหรับเราแล้วไม่สนน้ำจิ้มสุกี้อยากทานแบบธรรมดาที่เค้าทานกันอยากจะทราบว่าจะทานได้หรือไม่วัดใจกันมื้อนี้อิอิ....

แต่ต้องขออภัยด้วยความหิวจัดไม่มีภาพอาหารมาให้ชมน้า

ปกติเราไม่ทานเนื้อวัว เพราะเราว่ามันคาว แต่มาญี่ปุ่นไม่ทานก็เหมือนมาไม่ถึง

เนื้อที่นี่อร่อยสุดยอดจริงๆค่ะ พอทานแล้วก็ตบะแตกทันทีทานกันแบบไม่มียั้ง แอบคิดถึงเนื้อที่ญี่ปุ่นจังมื้อนั้นทานเนื้อล้วนไป 1กิโลได้มั้ง

แต่พวกผู้สูงอายุอิอิ..บ่นกันใหญ่หลังจากทานกันเสร็จ

ว่าโหนั่งเครื่องบินเมื่อยไปหมด ให้มานั่งกินเนื้อต้มเนี๊ยนะ

ตามโปรกแกรมของทัวร์ตอนแรกทัวร์จะพาไปที่ ชิราคาวาโกะ

เป็นหมู่บ้านโบราณมรดกโลก

แต่โปรกแกรมโดนเปลี่ยนเพราะอะไรไม่ทราบอดไปเลย

ทัวร์ดันพาไปชมเครื่องปั้นดินเผา

บ้านเฮาก็มีพามาดูทำไมกันงะ....แต่ก็ดีค่ะทำให้ได้ทราบว่า

แต่ละบ้านในหมู่บ้านนั้นมีประวัติการทำเครื่องปั้นดินเผายาวนาน

หลายร้อยปีและแต่ละตระกูลของเค้าก็ทำลายออกมาแบบที่ยากจะเรียนแบบกัน

จะสอนเฉพาะคนที่เป็นลูกหลานเท่านั้นไม่สอนให้ใคร



หลังจากนั้นก็ไปเข้าที่พักเร็วหน่อยเพราะว่าไม่ได้อาบน้ำกันตั้งแต่เช้า

เข้าห้องน้ำต้องประหลาดใจกับครีมอาบน้ำ แชมพู โอ้ขวดใหญ่มาก(ขนกลับไม่ได้อะจิ)

ที่โรงแรมนี้ใช้ของยี่ห้อ POLA ครีมอาบน้ำหอมละมุนมากๆๆๆๆ

ชอบสุดๆเลยค่ะ ตื่นมายังหอมติดเนื้ออยู่เลย

โรงแรมในญี่ปุ่นแทบจะทุกโรงแรมจะใช้สบู่ ยาสระผมของมียี่ห้อหมด Shisedo Kose Kao

ไกด์หนุ่มบอกอีกว่าคนไทยที่มาแถบเมืองนี้บ่อยๆจะทราบกันดีว่า

โรงแรมในเมืองนี้จะใช้ สบู่อาบน้ำ ยาสระผมไซด์ใหญ่

จึงมีคนไทยบางคนที่มาบ่อยขนขวดเปล่ามาใส่ สบู่ ยาสระผม กลับไปใช้ที่เมืองไทย


ตอนค่ำออกไปช๊อปนิดหน่อยเพราะที่พักใกล้กับใต้สถานีรถไฟ

แต่ร้านที่นี่ปิดเร็วมากๆ เลยได้แต่ขนมจากร้าน 100 เยนมาเพียบไว้กินระหว่างทางเวลานั่งรถนานๆอิอิ..

เข้าที่พักมานอนดูทีวี เราชอบดูโฆษณาของต่างประเทศ ได้ดูไอเดียแปลกๆ

ช่วงนี้ที่นู้นคงดังเรื่องการเต้นระบำหน้าท้อง เห็นโฆษณาจนอยากจะไปเต้นกับเค้าด้วยจริงๆ



หลังจากรับประทานอาหารเช้าแบบไม่ค่อยอร่อยมากนัก


ก็ออกเดินทางสู่สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Paek)

สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหยื่อระเบิดปรมาณูที่กระหายน้ำจนเสียชีวิต

ที่นี่จะมีอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน เป็นรูปปั้นผู้ชาย มือขวาชี้ขึ้นไปบนฟ้า สื้อถึงการเตือนให้เห็นภัยคุกคามจากระเบิดปรมาณู

แขนซ้ายขนาบไปตามแนวราบ อันสื่อความหมายถึงปรารถนาในสันติภาพของชาวโลก

ที่นี่มักจะมีนักเรียนมาถ่ายรูปกัน(อาจารย์น่ารักก๊ากกกกกกกกก)



หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยัง พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณู ที่นี่เองที่เรายืนดูรูปภาพที่แสนหดหู....

ดูไปแล้วน้ำตารินแต่ไม่ไหลเพราะ...

เด็กหนุ่มฮิปฮอปชาวญี่ปุ่นข้างๆชิงร้องไห้ซะก่อนอะ

เราหันไปเจอน้องเค้าร้องเราเลยนิ่ง...ไม่กล้าร้องรีบเดินหนีออกมาอย่างไว



เดินออกมามุมของฝากอีกแล้ว
ซื้อโปสการ์ดเขียนหาตัวเองที่ไทย

แล้วโปสการ์ดก็มาถึงบ้านเราก่อนที่เราจะกลับถึงไทยซะอีก



หลังจากนั้นก็ได้เวลาอาหารแสนอร่อยมื้อนี้มีปลาดิปด้วยค๊า


ได้ทานปลาดิบจนจุก เพราะคนที่ไปด้วยส่วนมาทานไม่ค่อยเป็นเลยยกปลาดิบให้เราทานอิอิ...

แต่ละในคณะที่ไปด้วยกันควักน้ำพริกส่วนตัวกันมาคนละกระปุก



หลักจากทานอิ่มแล้วก็เดินทางสู่ ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)

ปราสาทคุมาโมโตะ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง คุมาโมโตะ

ติดอันดับปราสาทใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น

เราก็ว่างั้นกว่าจะขึ้นไปถึงชั้นบนลมแทบจับ แต่ขึ้นไปถึงแล้วก็ชื่นใจ

ไม่มีรูปด้านในมากนักเนื่องจากห้ามถ่ายภาพ



หลังจากนั้นแวะซื้อของที่ระลึกตามปกติของคนไทยซื้อทุกอย่างที่เห็น

ส่วนมากเน้นขนมและที่ห้อยโทรศัพท์ เรานับๆแค่ที่ห้อยโทรศัพท์ก็ปาไป 20 กว่าชิ้นแล้ว

จากนั้นก็เดินทางสู่ที่พักสุดเก๋แต่ก่อนถึงที่พักก็แวะอีกค๊า

รถแวะเติมน้ำมัน เราเลยว่างไม่ได้ซื้อของอีกแล้วที่ซุปเปอร์

ได้สาเกรสบ๊วยแสนอร่อยมาเยอะพอสมควร

และคืนนี้แหละที่จะอองเซนฮี่ๆ

สงสัยต้องอัพใหม่บล๊อคหน้าแล้วค่ะยาวเกินไปเดี๋ยวหลับคาจอกันพอดี




Create Date : 05 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 19 กรกฎาคม 2552 13:50:30 น. 9 comments
Counter : 832 Pageviews.

 
แวะมาเที่ยวญี่ปุ่นต่อค่ะพี่รี่
นางแบบจ๋วยอ่ะ
...
ตอนนี้เอ๋ ก็คงเดินเล่นอยู่ที่ญี่ปุ่น กลับมาศุกร์หน้าแน่ะ ไปสิบวันเลยทีเดียว
...
ส่วนบล็อคที่ดองไว้ก็ขอดองต่อ
เนื่องจากจัดเรียงรูปอยู่ เยอะมาก อิอิ
...
คิดถุงนะค๊า


โดย: Serendipity_t วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:13:09 น.  

 
น่าอิจฉาจัง


โดย: ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:24:30 น.  

 
พี่รี่ ทำไมถึงเป็นคนสวยแบบนี้

จริง ๆ นะ ยกนิ้วเลย

ชักอยากไปเกิดเป็นนักศึกษา ม.นี้แล้วสิ จารย์หล่อเหลือเกิน

รักษาสุขภาพจ้า

คิดถึง ๆ นะ


โดย: Envi_NY วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:23:24 น.  

 
จีน เกาหลี ญี่ปุ่น น้ำจิ้มพวกสุกี้ สงสัยรสชาดจะใกล้เคียงกันนะคะ เห็นมีไกด์เอาเครื่องเคียงไปด้วย

เล่าซะอยากไปเที่ยวมั่งแล้วจิ


โดย: วันวานที่ผ่านมา วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:04:36 น.  

 


น่ากระโดดตามไปเชียวค่ะ





โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:08:19 น.  

 
หนีงานมาอัพบล็อคแล้วค่ะพี่รี่ อิอิ
...
ไปเที่ยวกัน อิอิ


โดย: Serendipity_t วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:07:36 น.  

 
น่าไปเที่ยวจังเลย
เราจะมีโอกาสมั้ยเนียะ...
นางแบบสวยจัง


โดย: แพนด้าเริงระบำ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:2:17:13 น.  

 
อาหารน่ากินจังค่ะ อิอิอิอิ


โดย: น้ำผึ้งเดือนสิบสาม วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:2:02:24 น.  

 


โดย: maelona (maelona ) วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:10:27:48 น.  

Sugar and spice
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Sugar and spice's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.