|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
บทที่2 ความวุ่นวายของการไปโรงพยาบาลวันแรก
วันที่ 18.1.55
ไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาครั้งแรกค่ะ ก่อนเริ่ม ขอเท้าความก่อน ว่าก่อนหน้านี้ เราไม่ชอบโรงพยาบาลศิริราชเลยค่ะ เพราะว่าเราเคยโดนแมวกัด แล้วก็มารักษาที่ศิริราช เกิดมาเพิ่งเคยเจอค่ะ เราต้องเดินทั้งๆที่ผ้าก๊อตพันเต็มขา ข้ามตึก ไปซื้อยา แล้วเดินกลับมา ให้คุณหมอฉีดยาให้ T^T หรือตอนที่แม่เราไม่สบาย เราก็ต้องเดินไปนู้นไปนี่ ทำบัตร ซื้อยา จ่ายเงิน วุ่นวายมาก ไม่เหมือนโรงพยาบาลเอกชน ที่มีคุณพยาบาลพูดจาหวานๆ ให้เรานั่งรอ จ่ายเงินอย่างเดียว ที่เหลือบริการให้หมด
แต่ก็นะ ด้วยงบประมาณแค่นี้ เดินซื้อยาเองก็ยอมค่ะ 555 อ่านหาข้อมูลว่าต้องไปที่ไหนยังไงก่อน ก็ได้ความว่า ต้องไปแบบว่าเช้ามากๆ หกเจ็ดโมงเช้ากันเลย ไปทำบัตรก่อน จากนั้นเค้าก็จะส่งเราไปตามหน่วยต่างๆอีกที (เดี๋ยวจะเล่าต่อจากนี้ค่ะ) เราก็เลยแบบว่า ต้องแหกขี้ตาตื่นกันตั้งแต่ตี 5 แต่ทำใจไม่ได้ค่ะ กว่าจะลุกกันได้ก็เกือบ 6 โมง 555 รอรถเมล์ไม่มีอีก (ไม่ขับรถไปเพราะขี้เกียดหาที่จอดค่ะ เคยขับรถไปทีนึง แล้วก็ต้องกลับไปจอดบ้าน แล้วนั่งรถเมล์มาอยู่ดี 555) กว่าจะถึงโรงพยาบาลก็เจ็ดโมงกว่า แม่เจ้า คนเยอะมากค่ะ เต็มตึกผู้ป่วยนอกเลย (ตึกด้านหน้าสุดของโรงพยาบาล ที่ให้รถไปจอดเสยบนชั้น 1 ได้อ่ะคะ) เดินงงๆหันซ้ายหันขวาซักพัก ก็เลยหาพนักงานถามค่ะ ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง สรุปได้ว่าสำหรับผู้ทำบัตรใหม่ เราต้องกรอกเอกสาร (จะมีเคาเตอร์ คล้ายๆเคาเตอร์ที่เขียนพวกใบฝากของธนาคารอ่ะคะ ตรงนั้นจะมีเอกสารตั้งอยู่สำหรับกรอกทำบัตร พกปากกาไปเองจะดีมากค่ะ ปากกาไม่เพียงพอต่อความต้องการ) จากนั้น ยื่นให้กับพยาบาลที่นั่งโต๊ะรออยู่ พยาบาลจะถามเราว่าวันนี้มาทำอะไร ก็ตอบไปค่ะว่ามาปรึกษามีบุตรยาก จากนั้นก็ซักประวัตินิดหน่อย วัดความดัน แล้วก็ไปต่อคิวทำบัตรค่ะ จุดต่างๆจะดูวกไปวนมานะคะ ถ้าหาไม่เจอยังไง ลองมองหาพนักงานถามได้ค่ะ พนักงานโซนนี้จะออกแนวดุๆหน่อย ก็ใจเย็นๆ ร่มๆเข้าไว้นะคะ พอถึงคิวทำบัตร ผู้หญิงจะไม่ต้องรอบัตรค่ะ เค้าจะส่งไปแผนกสูติเลย อยู่ตึกเดียวกัน ชั้น 3 จากนั้นก็ยื่นเอกสาร นั่งรอวัดความดัน พยาบาลก็จะถามเราอีกว่า วันนี้มาทำอะไร แล้วทุกครั้งที่เราบอกว่ามาปรึกษาภาวะมีบุตรยาก ทุกคนก็จะ ห๊ะ ยังเด็กอยู่เลย ไม่ต้องหรอก โดนพูดอย่างงี้จนเราชักจะเซงเลยคะ 555 พอวัดความดัน ชั่งน้ำหนักเสร็จ ก็หลับรอหมอเลยคะ ใครที่ยังไม่ได้กินอะไรมา แอบไปหาของกินกินรองท้องได้เลยคะ เพราะจะมาถึงจุดนี้ประมาณแปดโมงนิดหน่อย แต่หมอจะเข้า เก้าโมงค่ะ กว่าจะถึงคิวเราอีก รอกันหลับคะ
ระหว่างที่ฝั่งผู้หญิงกำลังนั่งรอคุณหมอที่แผนกสูติ ฝั่งคุณผู้ชายก็จะงงๆ เพราะเค้าจะบอกว่า วันนี้ไม่ต้องทำอะไรนิ มาทำไม 555 แล้วก็ให้รอรับบัตรเลย คุณผู้ชายก็รับบัตร แล้วก็เดินงงๆมารอภรรยาที่แผนกสูติได้เลยนะคะ หรือจะไปเดินหาซื้ออะไรมาให้ภรรยากินระหว่างรอคุณหมอก็ได้ค่ะ
หลังจากหลับไป 3 ตลบ ก็ได้เวลาพบคุณหมอ เป็นคุณหมอผู้หญิง กับนศ.แพทย์ผู้หญิง อีก 2 คนค่ะ (อันนี้แล้วแต่นะคะบางคนอาจจะเจอแต่คุณหมอไม่เจอนศ.แพทย์ก็เป็นได้) นศ.แพทย์จะเป็นคนซักประวัติเราค่ะ วันนี้มาทำอะไร แล้วก็เสต็ปเดิม ยังอายุน้อยอยู่เลย 555 แล้วก็ถามพวก แต่งงานมากี่ปี คุมกำเนิดรึเปล่าอะไรพวกนี้เรื่องตามราว แล้วก็หันไปปรึกษาอาจารย์หมอ แล้วก็เชิญเราเปลี่ยนผ้าถุง ขึ้นเตียงค่ะ (แล้วเยอะจัง 555)
เกิดมาก็เป็นเด็กกรุงเทพ นุ่งผ้าถุงไม่เป็นค่ะ งงเลยทีนี้ ใส่ยังไงว้า........ ก็มัดๆไปมั่วๆ ไม่ให้มันหลุดก็พอค่ะ จากนั้นก็ขึ้นเตียง ไม่เหมือนที่คิดไว้เลยค่ะ คิดว่ามันจะมีขาหยั่งให้เราเอาขาพาดไว้เหมือนในหนัง แต่อันนี้เป็นเตียงเฉยๆเลยค่ะ แล้วก็ให้เราชันขาขึ้นเอง นศ.แพทย์จะเข้ามาคุยกับเรา ถามว่ากลัวมั๊ย ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวหมอจะค่อยๆบอกว่าทำอะไรอยู่ บร๊ะ ยิ่งน่ากลัวมั๊ยหล่ะนั่น 555555555 ระหว่านศ.แพทย์กำลังล้วงไปตรวจไป ในห้องนั้นก็จะมีพยาบาล และอาจารย์หมออยู่ด้วยนะคะ เอาให้มันอายมุดดินกันไปข้างนึงเลย เรารึก็ไม่เคยตรวจภายในค่ะ หมอก็สั่งอย่าหุบขา เดี๋ยวจะเจ็บนะ แหม หมอ หนูก็อายเป็นนะคะ หลังจากหุบๆอ้าๆกันอยู่ซักพักก็ตรวจเสร็จ นศ.แพทย์ก็หันไปคุยภาษาแพทย์ ให้เราไม่เข้าใจกับอาจารย์หมอ จากนั้น อาจารย์หมอก็มาตรวจเราอีกรอบค่ะ เอาให้คุ้มกันเลยทีเดียว T^T เสร็จแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งฟังผลค่ะ นศ.แพทย์บอกว่า ผลตรวจเบื้องต้นปกติดี มีการเก็บตัวอย่างไว้ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วย ผลสามารถเลือกได้ว่าจะมาฟังผลเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ หรือส่งทาง e-mail ด้วยค่ะ เราเลือกทางไปรษณีย์ค่ะ ไม่ค่อยไว้ใจ e-mail 555 จากนั้นคุณหมอก็ส่งเราไปศูนย์มีบุตรยากค่ะ คราวนี้ก็จูงมือคุณสามีไปศูนย์มีบุตรยากด้วยกันเลยค่ะ
ศูนย์มีบุตรยาก ของโรงพยาบาลศิริราช อยู่ที่ตึก 100 ปีพระศรีฯ ชั้น 6 ค่ะ ช่วงนี้กำลังปรับปรุงอยู่ สถานที่เลยดูคับแคบมากๆ พอมาถึงก็ติดต่อกับคุณพยาบาล ว่าคุณหมอส่งมารักษาภาวะมีบุตรยาก คุณพยาบาลก็จะถามเรื่องประจำเดือนครั้งล่าสุด แล้วก็จะส่งเรากับคุณสามีไปเจาะเลือดค่ะ เพื่อตรวจดูระดับฮอร์โมน และตรวจหาเชื้อต่างๆเช่น HIV ไวรัสตับอักเสบB ธาลัสซีเมีย อะไรพวกนี้ ซึ่ง ถ้าใครเคยตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน นำผลตรวจไปแจ้งกับคุณพยาบาลได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียเงินตรวจเพิ่มอีก ของเราก็พกไปค่ะ ดังนั้นเลยตรวจแค่ฮอร์โมน กับ HIV เพราะผลที่เราพกมา บอกเป็นตัวหนังสือค่ะ ไม่มีผลตัวเลขอ้างอิง เฉพาะแค่ HIV อย่างเดียวด้วย คุณพยาบาลก็งงๆค่ะ ว่าทำไมถึงไม่มี เราเลยบอกว่าเจาะเพิ่มก็ได้ค่ะ ^^
ขอแทรกนิดหน่อยเรื่องการบริการ ในโซนผู้ป่วยนอกที่แสนชุลมุนวุ่นวาย การบริการก็จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะคะ หน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะพนักงานต้องรับมือกับคนไข้เยอะมากค่ะ เห็นใจเหมือนกันค่ะ แต่พอแยกมารักษาเฉพาะทางแล้ว การบริการจะดีขึ้นโดยแปรผกผันกับปริมาณคนไข้ค่ะ ดังนั้นที่ศูนย์มีบุตรยากนั้น คุณพยาบาลน่ารักมากค่ะ พยายามช่วยเรา อธิบายอะไรหลายๆอย่างที่เราสงสัย ตอนช่วงแรกที่ยังอยู่โซนผู้ป่วยนอกก็ใจร่มๆไว้นะคะ อดทนหน่อยแป๊บเดียวๆ
กลับมาที่ฉากคุยกับคุณพยาบาล คุณพยาบาลจะบอกเราคราวๆว่าวันนี้จะต้องเจาะเลือด เก็บน้ำเชื้อของคุณสามี จากนั้น มาเจอกันอีกทีตอนมีประจำเดือนครั้งต่อไปเลย และครั้งต่อไปก็จะต้องตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมนของผู้หญิงอีกรอบ พอดิบพอดีกับตอนที่เราตรวจภายใน คุณหมอบอกว่า ประจำเดือนกำลังจะมา เพราะมีเลือดออกปนด้วย เราเลยบอกคุณพยาบาลเรื่องนี้ เค้าเลยบอกว่า งั้นวันนี้เรายังไม่ต้องเจาะเลือดค่ะ ไว้เจาะวันประจำเดือนมาเลย จะได้เจ็บตัวทีเดียว วันนี้เก็บตัวอย่างแค่ของคุณสามีก่อน เก็บน้ำเชื้อ เจาะเลือด และกลับบ้านได้เลย ^^
สรุปว่าวันแรก ยังไม่ได้พบคุณหมอแผนกมีบุตรยากเลยค่ะ 555
สรุปค่าใช้จ่าย ค่าตรวจภายใน 3000 ตรวจเลือด(ชาย) 820 กรวดน้ำเชื้อ(ชาย) 120 รวม 1240 บาท **ค่าใช้จ่ายนี้สำหรับคนอื่นอาจจะไม่เท่ากันนะค่ะ เพราะอย่างค่าเจาะเลือด เราไม่ได้เจาะครบทุกตัวค่ะ ดั้งนั้นถ้าใครเจาะครบทุกตัวก็น่าจะต้องแพงกว่านี้นะคะ**
Create Date : 08 มีนาคม 2555 |
Last Update : 8 มีนาคม 2555 23:26:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 15776 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|