Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
Visual Culture Reader : เรื่องเตะตา
The Wild Things ::ซ่าห้าร้อยจำพวก
Seasons in the Cities : เรื่องเล่าต่างฤดู
The Hungry Things : ตัณหาคนเมือง
If on Winter Night : ในคืนหนาว
<<
ตุลาคม 2548
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
4 ตุลาคม 2548
งานเก่า Ma now: พลังแห่งชีวิต
งานเก่า Ma now: สองเวลา
งานเก่า Ma now: . . . ก็เธอน่ารัก
งานเก่า Ma now: . . . มีประโยชน์อันใด . . .
All Blogs
ธ เสด็จสวรรคาลัย
เพลงเก่า ๆ ... สำหรับปีใหม่
งานเก่า Ma now: พลังแห่งชีวิต
งานเก่า Ma now: สองเวลา
งานเก่า Ma now: . . . ก็เธอน่ารัก
งานเก่า Ma now: . . . มีประโยชน์อันใด . . .
สัปดาห์นี้ฉันแก่ไปอีกปี (จบ)
สัปดาห์นี้ฉันแก่ไปอีกปี (๒)
สัปดาห์นี้ฉันแก่ไปอีกปี (๑)
Test
งานเก่า Ma now: . . . ก็เธอน่ารัก
เมื่อวานซืนนี้ไม่ต้องไปเวิร์คช็อป
การประชุมสิ้นสุดก่อนกำหนด ทุกคนจึงมีเวลาว่างก่อนจะกลับ
"ฉัน"คิดจะไปเดินเที่ยวชมเมือง
เนื่องจากโรงแรมที่พักอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางไปดอยสุเทพ
"ฉัน"จึงตัดสินใจว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปชมสวนสัตว์เชียงใหม่
ปรกติทางไปสวนสัตว์เชียงใหม่ เข้าได้สองทางคือทางหลังมช.และทางขึ้นไปดอยสุเทพ
การไปครั้งนี้จุดประสงค์ไปดูหมีแพนด้าโดยเฉพาะ
จะว่าเห่อก็คงไม่มีข้อโต้แย้ง
"ฉัน"เรียกรถแดงไปยังที่หมาย
มองดูแล้วการคมนาคมแบบเมืองนี้ก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย
ข้อดีคือนึกอยากจะไปเมื่อไรก็ได้
ข้อเสียคือบางครั้งอาจถูกขูดรีดราคาเกินสมควร
"ฉัน"เคยทราบมาเมื่อเกือบสิบปีก่อนมีการจะสังคยนาระบบการขนส่งแบบนี้มาก่อน
ถ้าเราดูแผนที่ของตัวเมืองจะเห็นว่าค่อนข้างมีระเบียบ
เส้นทางถนนหนทางตัดกันคล้ายเป็นตาราง ซึ่งอาจทำการเดินรถแบ่งเป็นลูป ๆได้แบบต่างประเทศ
ถ้าทำอย่างนั้นก็จะเป็นระเบียบขึ้น
แต่รู้สึกว่ามีการประท้วงของพวกรถแดง อะไรทำนองนั้น
คงเป็นเรื่องการเมือง
มีผู้ได้ประโยชน์ ก็ย่อมมีผู้เสียประโยชน์
ผลเลยเป็นเหมือนเช่นเดิมอย่างนี้กระมัง
สวนสัตว์เชียงใหม่มีทำเลเกาะอยู่บนเนินเขา มีต้นไม้สูงใหญ่มากมาย และมีส่วนหนึ่งของสถานนีช่องเจ็ดตามที่เห็นในแผนที่ตรงบริเวณทางขึ่น
เมื่อไปถึงก็ได้ทราบว่าต้องเสียค่าเข้าชมสวนสัตว์และค่าเข้าชมแพนด้าอีกต่างหาก
สัตว์คู่นี้เป็นสิ่งที่ประเทศจีนให้ยืมมา
เพราะเป็นสัตว์ที่กำลังเหลือน้อย จึงมีการวิจัยเพื่อหาทางรักษาให้สัตว์ประเภทนี้เหลือรอดคงอยู่ได้ในอนาคต
จึงต้องมีค่าใช้จ่ายดำเนินการ และค่าเข้าชมนี้ก็จะได้นำไปใช้จ่ายในการดังกล่าว
ระหว่างทางไปชมก็ผ่านบริเวณสัตว์ทวีปแอฟริกา มียีราฟ นกกระจอกเทศเท่าที่เห็น
นกกระจอกเทศบางตัวก็ขนร่วงในส่วนบั้นท้ายจนน่ากลัว
"ฉัน"อดคิดไปไม่ได้ว่ามันจะเป็นโรคแบบเดียวกันกับหมาหนังกลับหรือเปล่า
แต่ไม่น่าจะใช่ "ฉัน"ก็หวังว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น
ถึงบริเวณอาคารส่วนแสดงหมีแพนด้า มีป้ายบอกข้อมูลส่วนตัวของหมีน้อยทั้งสอง
"ฉัน"รู้สึกสะดุดตาว่ามีตัวหนึ่งเกิดวันเดือนเดียวกับฉัน
นี่ถ้าเป็นโบราณจะเรียกว่ามันเป็น"สหชาติ" (คือเกิดร่วมวันเวลเดียวกัน)ได้ไหม
เมื่อชำระเงินแล้ว ก็เดินไปตามทาง
เราต้องจุ่มรองเท้าให้ผ่านน้ำยาฆ่าเชื้อ. . . กลิ่นเหมือนเด็ตตอล . . . ก่อนจะเข้าอาคาร
เมื่อเข้าไปก็เห็นหมีแพนด้าตัวหนึ่งนั่งนอนจุมปุ๊กคาบนโครงไม้สูง
ทีแรก"ฉัน"นึกว่าเป็นของปลอมแต่ภายหลังจึงรู้ว่าเป็นของจริง
ตัวนั้น ชื่อ ช่วงช่วง หรือเทวัญนอนอุตุอยู่
ถึงมีขยับใบหน้าที่พาดบนคบไม้บ้าง บางครั้ง แต่เพียงชั่วไม่ถุงนาที
อีกตัวคือหลินฮุ้ย หรือเทวีกำลังขบ กัด กิน แทะไม้ไผ่อยู่
ไม้ไผ่ที่มันกินนี้เป็นกิ่งต้นไผ่ทีทจัดเตรียมไว้ กับไม้ไผ่ผ่าเป็นซีกกว้างประมาณสองนิ้วที่เจ้าหน้าที่โยนให้
"ฉัน"มาจังหวะไม่ดี คือตอนที่มันกินอาหารและนอน ซึ่งเป็นปรกติวิสัยของสัตว์คู่นี้ ตามที่เจ้าหน้าที่ว่า
ถ้ามาสบโอกาส ก็อาจจะเห็นมันเล่นหยอกล้อกัน
แต่นี่มาตอนเกือบสิบเอ็ดโมง จึงไม่มีโอกาสเห็นภาพดกล่าวเพราะตัวหนึ่งงีบไปเสียแล้ว
แต่ไม่เป็นไร ถึงยังไงก็ยังได้เห็นอีกตัว
เทวี หมีแพนด้านี้ ตัวออกหมอง ๆ เพราาะคลุกขึ้ดินตามพื้น และเพราะไม่ได้อาบน้ำ มีแต่เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโดยการเช็ด
ลำตัวก็ไม่อ้วนอุ้ยอ้ายอย่างที่คาด ตัวออกยาวๆ เสียด้วยซ้ำ
หรือเป็นเพราะเทวียังเด็กอยู่ อายุแค่ไม่กี่ปี เจ้าหน้าที่บอกเมื่ออายุสักห้าปีก็จะสามารถสืบพันธุ์ได้
แต่อาจเป็นไปได้ยาก เพราะสัตว์ประเภทนี้ติดลูกยาก
อีกทั้ง ตั้งท้องครั้งหนึ่ง จะคลอดออกมาเพียงหนึ่งถึงสามตัว แต่แม่หมีจะเลือกเลี้ยงเฉพาะตัวที่แน่ใจว่าจะอยู่รอดเพียงตัวดียว
ดังนั้น จึงไม่แปลกว่าทำไมสัตว์อย่างนี้จึงมีเหลือน้อย
"ฉัน"คิดในใจว่าเราอาจจะได้เห็นลูกของเทวีเพราะหมีแพนด้าทั้งคู่จะอยู่เมืองไทยประมาณสิบปี
แอบหวังลึก ๆ ว่า ทั้งคู่อาจมีทายาทตัวน้อยในปีที่ฉลองเจ็ดรอบของนายหลวง และภาวนาอยากให้เป็นเช่นนั้น
มันคงดีไม่น้อยเลย
ไม่แน่นะว่าอาจจะเกิดปาฏิหาริย์เช่นนั้นได้ เพราะบุญบารมีของพระองค์ท่าน
"ฉัน" มองดูเทวีแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ในท่าทาง นั่งบ้าง นอนบ้าง ขบเคี้ยวกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
กินไปกินมา เทวีก็ลุกขึ้นยืนไปตามเนินเทียมด้านหลังเพื่อทำกิจตามธรรมชาติ
เมื่อกินของใหม่เข้าไป ของเก่าก็ถูกปล่อยออกมา
มูลของมันสีเขียว
เจ้าหน้าที่บอกว่าคงเพราะกินส่วนที่เป็นใบมาก ถ้ากินลำต้น มูลจะออกเหลือง
ผู้ชมคนหนึ่งพูดติดตลกว่าไม่มีทางเป็นมะเร็งแน่เพราะระบบขับถ่ายดี
ต่อจากนั้นเทวีก็ปีนป่ายเนินเทียมขึ้นไปนอนอีกตัว
กว่ามันจะลุกขึ้นมากินอาหารอีกทีก็ราวเที่ยงและอีกรอบตอนสองโมงตามที่เจ้าหน้ที่บอก
"ฉัน"เห็นว่าคงไม่ไมีอะไรดูแล้วจึงเดินออกมาแวะเข้าไปอาคารที่ขายของที่ระลึกข้าง ๆ
เลือกซื้อได้โพสการ์ด สองสามใบ เพราของอื่นดูไม่ค่อยน่าซื้อ
น่าจะมีใครออกแบบอะไรที่สวย ๆ และน่าสนใจมาขายมากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่
"ฉัน"ออกจากส่วนแสดงหมีแพนด้าอย่างอารมณ์ดี . . . ก็เธอน่ารัก นี่
ออกจากส่วนี้แล้ว"ฉัน"ก็เตร็ดเตร่ต่อไป
เดินไปดู กรงหมีขอ ที่มีสองตัว ตัวใหญ่นอนอยู่ ตัวเล็กหน้าตาบ้องแบ๊วเหมือนแร็คคูนแต่ไม่มีลาย
แล้วเจอะส่วนกรงนก
"ฉัน" เลยเดินเข้าไปสำรวจ
เมื่อเข้าไปจะเจอม่านโซ่เหล็กที่มีคนบอกว่ามีไว้เพื่อกันนกหนี
มีคนบอกว่า ความงามจะสัมผัสได้ต่อเมื่อเราพินิจพิจาณณาอย่าใกล้ชิด เห็นถ้าว่าจะจริง
นี่เป็นครั้งแรกที่"ฉัน" มีโอกาสได้เห็นนกในระยะใกล้ ๆ
นกชาปีไหน นกยูง และนกอื่น ๆที่"ฉัน"ไม่รู้จักชื่อ ดูแล้วล้วนเพลินตาเพลินใจนัก
นกยูงที่เห็นมีทั้งลำตัวสีเขียวและสีน้ำเงิน
โดยเฉพาะสีน้ำเงินนั้นสะดุดตามากเพราะจำไม่ได้ว่ามีนกสีนี้มาก่อน
สีน้ำเงินของมันอธิบายยากนักว่าจะเรียกสีอะไรดี มันเข้มแต่สว่างตา
"ฉัน"เพิ่งเข้าใจว่านกยูงมันสง่าอย่างไรเมื่อเห็นนกยูงทั้งตัวทอดแววหางยาวงามตายิ่งนัก
ออกจากกรงนก ก็เดินผ่านไปเรื่อย ๆ
เห็นหมีดำที่เหมือนหมีในการ์ตูนและหมีควายที่มีลายรูปตัววีสีขาวช่วงอก เล่นน้ำ กอดฟัดกันคู่หนึ่ง
"ฉัน" ว่าท่าทางกอดรัดฟัดกันอย่างที่เห็นคงเป็นที่มาของคำว่า"แบร์ฮัก" ของมวยปล้ำ
ออกจากกรงหมี เจอกรงสิงโต
นกอะไรสักอย่าง (ยังนึกชื่อไม่ออก) ที่มันขายาว ตัวสีชมพูเรื่อ ๆ
ก่อนจะกลับลงมาเห็นนกอีมูของออสเตรเลีย ที่คล้ายนกกระจอกเทศแต่ตัวเล็กว่าและไม่หนังกลับ มันร้องเหมือนเครื่องหางยาวกำลังสตาร์ทเครื่องอะไรพรรค์นั้น
กลับออกมาจากสวนสัตว์ประมาณเที่ยงเศษ
เดินไปหวังจะดูศูนย์ธรรมชาติวิทยาหรือพิพิธภัณฑ์อะไรสักอย่างของมช. ที่อยู่ข้าง ทางเข้าสวนสัตว์
แต่ปรากฏว่ายังไม่เปิดทำการ จึงอดดู ต้องเหมารถแดงกลับเข้าเมืองไปตามระเบียบ
การมาเชียงใหม่เที่ยวนี้ ได้ดูหมีแพนด้าคู่นี้ช่วงสั้น ๆ แต่แค่นั้นก็นับว่าคุ้มแล้ว
จากคุณ : Ma now - [ 28 พ.ค. 47 02:15:09]
ป.ล.ทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกันแล้ว
Create Date : 04 ตุลาคม 2548
Last Update : 4 ตุลาคม 2548 0:39:47 น.
0 comments
Counter : 269 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
แกงได
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
หมาร่าหมาหรอด
รำเพย
Flechazo
YaCuLt
BeNuTe23
Yensid
spiralhead
ปาน-Sapporo
ninaM
moo-burin
sugarhut
สายลมโชยเอื่อย
ต.เตย อยากแจม
ลำพูริมน้ำ
ต้นตุลา
Batgirl 2001
Aka Prita
STAR ALONE
เริงฤดีนะ
note-d
พลทหารไรอัน
Webmaster - BlogGang
[Add แกงได's blog to your web]
Links
พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน
Merriam-Webster Dictionary
Babel Fish Translation
Smithsonian
บริษัท จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์ จำกัด
Emoticon
วิกิพีเดีย
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.