โอวาทธรรม ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก โอวาทธรรม ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก ก่อนที่จะพูดอะไร ให้ถามตัวเองว่า ที่จะพูดนี้จำเป็นหรือเปล่า คนอื่นเขาด่าเรา เขาก็ลืมไป แต่เราไปเก็บมาคิด เหมือนเขาคายเศษอาหารทิ้งไป เมื่อคิดที่พุทโธแล้วไม่ต้อ เวลาเราทำงานอะไรอยู่ ถ้าเราสังเกตว่าใจเราเสีย ก็ให้หยุดทันที แล้วกลับมาดูใจของตนเอง เราต้องรักษาใจของเราไว้เป็ ธรรมะ เราอ่านมามากแล้ว ฟังมานานแล้ว เราก็ว่าเราเข้าใจ แต่มันถึงใจ ดีจริงหรือยัง ต้องหมั่นมีสติ หมั่นพิจารณาร่างกายจนเป็นเ มันไม่มีใครเจ็บ มันไม่มีใครตาย นั่นแหละ ตรงนั้นแหละ มันมีอยู่แล้วทุกคน เหมือนเราคว่ำมืออยู่ เราก็หงายมือเสีย แต่ผู้ที่มีปัญญาเท่านั้นที่จะทำได้ ถ้าโง่ก็ไม่เห็น ก็ไม่ได้ ไม่พ้นเกิด พ้นตาย คนเราต้องบ้าภาวนา จึงจะภาวนาได้ดี เวลาภาวนาอย่าไปกลัวว่า ภาวนาแล้วจะเป็นนั่นเป็นนี่ ให้ภาวนา อย่ามัวแต่ง่วงนอน นอนกันมาไม่รู้กี่ชาติแล้ว ไม่รู้จักอิ่มสักที มัวแต่เป็นผู้ประมาท ไม่รู้จักมนุษย์สมบัติเอาไว้ระวังจะเหลือไม่เท่าเก่า อะไรๆ ก็ขึ้นอยู่กับความสังเกตของ พระธรรมถามว่า วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่...แล้ว เขาภาวนาเพื่อให้ละ ไม่ใช่ภาวนาเพื่อให้เอา ไปกี่วัดกี่วัด รวมแล้วก็วัดเดียวนั่นแหละคือ วัดตัวเรา คนเราเวลานั่งภาวนา กว่าใจจะสงบได้ก็ต้องใช้เวล เราเกิดมานับอสงไขยไม่ถ้วน ถ้าจะเอากระดูกที่เราเคยตาย ผู้รู้แล้วจะไม่ทุกข์ ผู้ไม่รู้เท่านั้นเป็นทุกข์ ผู้มีปัญญา เมื่อเห็นเช่นนี้ ย่อมเกิดความสลดสังเวชในภพช คนทั้งหลายเขาก็อยู่กับทุกข๋ๆๆ ทั้งนั้น แต่ไม่รู้จักทุกข์จึงพ้นจาก มัวแต่ตัดรากถอนโคน ระวังลูกมันจะหล่นลงมางอกอี ใจจะคิดจะปรุงอะไรก็ปรุงได้ การกำหนดทุกข์ ก็ต้องเอาให้ละเอียด ต้องเอาถึงขนาดแค่ลืมตาปุ๊บ เมื่อรู้แล้ว ก็ให้อยู่เหนือรู้ อย่าทำแต่ถูกใจ ต้องทำให้ถึงใจ ผู้มีปัญญาย่อมใช้อะไรๆ ให้เป็นประโยชน์ได้ทั้งนั้น จิตเปรียบเหมือนพระราชา อารมณ์ทั้งหลายเปรียบเหมือน ปฏิบัติยังไม่เข้าขั้นแล้วอ ของดีจริงไม่ต้องโฆษณา คนชอบขายความดีของตัวเอง ที่จริงขายความโง่ของตัวเอง มัวแต่นึกถึงวันเกิด ให้นึกถึงวันตายเสียบ้าง การภาวนาของเราต้องมี ปีติ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ไม่อย่างนั้น ทำไปๆ มันจะเหี่ยวแห้ง สักวันหนึ่งความตายจะมาถึงเ จิตเห็นจิตตามความเป็นจริง เขาก็วางของเขาเอง อยู่บนที่สูงแล้ว ก็สามารถมองเห็นอะไรๆ ได้หมด ถึงความเห็นของเราจะถูก แต่ถ้าเรายึดเข้าไว้มันก็ผิ การภาวนาต้องทิ้งเป็นขั้นๆ เหมือนเขายิงจรวจในอวกาศพอพ้นจากโลกแล้ว กระสวยอวกาศก็ต้องทิ้งยานแม่จึงจะไปถึงโลกพระจันทร์ได้ คนเราถ้าทำดีแล้วติดดีก็ไปไ ทำดีให้มันถูกตัวดี อย่าให้มันดีแต่กิริยา การภาวนาก็คือการฝึกตาย เพื่อเราจะได้ตายเป็น นิพพานนั้นเป็นเรื่องละเอีย |
ปราชญ์บ้านนอก
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] Group Blog All Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |