เลทซะโก ทู นครพนม
รู้สึกนะว่าพักนี้จะมีเวลาอัพบล็อกที ก็คงจะมีแต่เรื่องที่ไปเที่ยวมา...ก็มันง่ายดี บางทีนะ ก็อยากจะระบายนุ้น นี่ นั่น แต่พอเขียนบล็อกแล้วมันต้องใช้เวลา เลยเริ่มเหนื่อย...เพราะเวลา..ช่างน้อยนัก (เอาไปเล่นเกมซะเยอะ 555) จนเว้นสักพัก ก็คิดได้ว่า เอาน่า มันก็ผ่านไปแล้ว ก็ช่างมัน แค่นั้น...ให้มันแล้ว แล้วไป (เอ้าใครทันเพลงนี้มั่ง) จะได้ไม่ไปกระทบใคร ให้เสียจังหวะการเดิน จะว่าไปเวลา..นี่เป็นทุกสิ่งจริงๆล่ะเน๊อะ ฉะนั้น มีเวลา ก็เที่ยวซะ 5 5 5 เกี่ยวกันป่าวไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คราวนี้ เที่ยวแบบเซฟ ๆ แต่ก็กินอิ่ม นอนหลับอย่างมีความสุข เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม เราไปลุยกันเต๊อะ พี่น้อง ง้อง ง้องงงงง !! คราวนี้เราได้ตั๋ว 0 บาท ของแอร์เอเชีย เช่นเคย ต้องกราบขอบพระคุณมากๆ นะคะ เพราะทำให้ใคร ๆ ก็บินได้จริง ๆ เลยทำให้มีทริปนี้แบบไม่ต้องลังเล เพราะเป็นความตั้งใจอย่างมาก ที่จะต้องไปไหว้พระธาตุพนมให้ได้ เนื่องจากเป็นพระธาตุสำหรับคนเกิดปีวอก อย่างข้าเจ้านี่แล และถ้าใครจะต้องการข้อมูลประมาณวิชาประวัติศาสตร์ สังคมศึกษา แนะนำว่าให้เสิร์ชเอาจะง่ายกว่า เพราะถ้ามาอ่านในบล็อกเกศินี คงจะไม่ได้อะไรที่เป็นสาระขั้นนั้น (อย่างที่รู้ ๆ กัน หุหุ)
คราวนี้เลยได้โอ้อวดเล็กๆ แบบว่าจองไป 4 คน ราคารวมทั้งหมดสำหรับค่าเครื่องบินที่จ่ายไปคือ 642 บาท ก็ตกแค่คนละ 160.50 บาท ถูกซะยิ่งกว่านั่งรถทัวร์อีกเน๊อะ แต่น่าเสียดาย ที่เพื่อนแอน และคุณครู ไม่ได้ไปในทริปนี้ ไม่เป็นไรน๊า...มาอ่านบล็อกนี้ก็เหมือนได้เที่ยวด้วยกันอยู่ดี
คราวนี้ก็เป็นครั้งแรกที่จะได้ไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง หลังจากที่ไม่ได้ไปนานมากกกกก รีบจับแท็กซี่...นั่งจากบ้านมาด้วยราคา 150 บาท
คราวนี้เลยเอาเป้ลายพรางเขียวอีกใบให้น้องใช้ จะได้คล้ายกัน น่ารักดีเน๊อะ หุหุ ชมตัวเองซะงั้น แถมยังเอากล้องน้อย nikon ที่เป็นลายพรางอีก ก็คงดูไม่ออกเลยว่าชอบอะไรอ่ะนะ
โชว์แท็ก บลูพลาเน็ตซะหน่อย ประหนึ่งเป็นยันต์เลยทีเดียว
ได้รับข้อความมาล่วงหน้าแล้วว่าจะมี Retime เป็นเวลาบ่ายสาม เลยคงไม่ได้ทำอะไรมากมายอยู่แล้วล่ะ เพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วย ถนนคนเดินก็มีแค่วันศุกร์ เสาร์ นี่ล่ะหนา ที่จะต้องทำใจสำหรับตั๋วฟรี แอ๊บถ่ายซะหน่อยก่อนจะหนีกทม.
ไปกันแค่สองสาว พี่กะน้อง ..ส่วนคนข้าง ๆ ไม่เกี่ยว แต่เค้าน่ารักมากเลยนะ เพราะมัวแต่ถ่ายรูปกันเลยไม่ได้มองว่าเค้าย้ายเป้พรางเขียว ไปอีกล็อกนึง กลัวว่าเราจะหาไม่เจอ เลยรีบบอกไว้ก่อน...ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
อดใจไม่ได้ทุกทีที่เหิรฟ้า..อ๊า อ๊า...นึกถึงศรรามขึ้นมาทันที ก็ต้องถ่ายรูปฟ้างามๆ นี่ล่ะ สวยจังฮู้วว ไม่ซิ เราควรจะพูดว่า งามหลาย ประมาณนี้ป่ะ ภาษาอีสานวันละคำซะหน่อย ห่างหายไปนาน...แทบจะลืมกำพืชตัวเอง ว๊ากก
เวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก ก็แค่ชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงแล้ว....นครพนม... อั๊ยยะ !! ตื่นเต้า !! เอ๊ย ตื่นเต้น !!
หลังจากหาข้อมูลมาอย่างดิบดี (หรออออออ) ก็เดินเนิบๆ ไปบอกกะตรงเคาท์เตอร์ให้เช่ารถ...แต่เราไม่เช่า เราจน 555 เราแค่นั่งรถเข้าเมือง เป็นรถตู้ฮิโซ ราคาคนละ 100 บาทนี่แล อ่านกันให้ดีๆ ตอนท้ายมีข้อสอบ กร๊ากก !!
พนักงานบอกว่า ถ้าเวลากลับก็โทรมาบอกแค่นั้นล่ะจ๊ะ ราชรถก็จะมาเกยตื้นถึงที่ เอ๊ะ รถนะ ไม่ใช่ปลาพะยูน ชอบลืมตัวตลอด เมื่อคนนั่งประจำที่...หมีและลิงก็พร้อมค๊าบบ
ระหว่างทางบนรถตู้คันนี้ .. ที่ทำให้เกศินี และโสภิดา ถึงกับเซ็งห่านๆ แต่ไม่ขอเล่าให้รำคาญจิต ปล่อยผ่านมันดีกว่า ทีแรกก็ขอแค่ว่า อย่าได้เจอกันเล๊ยย แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งเด็กอ้วนๆ น่ารักๆ 2 คนให้ต้องพบพาน กับครอบครัวนั้นบ่อยเกิ๊นน และเราก็ได้หาข้อมูลมาบ้าง และเชื่อว่าแผนที่ก็อยู่ที่ปากเรานี่ล่ะ ฉะนั้น เราก็ไม่กลัว พร้อมลุย (กรุณาเปิดเพลงที่รู้สึกฮึกเหิม จะได้อารมณ์มาก)
ไม่นานเท่าไหร่ ก็มาถึงโรงแรมที่จองไว้ผ่าน Booking.com คือ โรงแรม ตองเจ็ด ที่ไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก ของกินก็หาง่ายอยู่ เหมาะมากที่จะเป็นที่กบดานของเราสองคน ราคา 590 ต่อคืน เราพักกัน 2 คืน มีอาหารเช้าเล็กๆ ให้ บรรยากาศภายในห้อง ดูสะอาดตาดีจัง
พี่หมี กะน้องลิง รีบโดดขึ้นเตียงทันที
อร๊ายย ช่วยด้วย เสือบุก!!! 555 จะโดนน้องเตะป่ะเนี่ย
แอ๊บถ่ายคู่บ้างอะไรบ้าง ตามประสาวัยรุ่น
ภายในห้องน้ำ ก็กว้างขวางดีค่ะ มีน้ำอุ่นให้ ใครขาดความอบอุ่นก็พึ่งมันซะ อย่ามาบ่น (เอาเรื่องตัวเองมาพูดซะละ55) กระจกก็กว้างบาน หน้าอิฉันเลยบานตาม ปกติแล้วหน้าเรียวเล็ก หุ่นดีเวอร์นะ ขอบอก !! จริงจริ๊งงง
มีตู้เย็นน้อยๆ มีทีวีพอประมาณ
ที่วางรองเท้าก็มีนะ.. แต่อยากวางตรงนี้ ใครมีปัญหา ไปเคลียร์กะน้องเอ๋เอา ถ้าไม่กลัวน้องล้มทับ หุหุ
วิ๊ฟิ๊ ก็มีให้นะค๊า ...เอ้างงทำไม ไวไฟ นั่นแล
บรรยากาศโดยรอบของโรงแรม
หน้าเคาท์เตอร์ พี่หมีกะน้องลิง ไม่รอท่า รีบโดดไปนั่งแอ๊กท่าให้อิแม่ลิงถ่าย... บางทีเราก็อยากให้หมีกะลิงมีชีวิตนะ จะได้มาถ่ายให้โยกะน้องมั่ง เอาเปรียบนะเจ้าหมีกะลิงเนี่ย หุหุ
ดีนะคะที่นี่ มีที่นั่งพักอยู่พอควร แต่น่าจะมีโต๊ะอีกสักหน่อย เพราะตอนเช้าเวลาคนลงมาทานอาหารเช้า ถึงคนจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่พอลงมาพร้อมกัน ก็ไม่มีที่จะวางจาน วางแก้วอ่ะค่ะ
มีคอมพิวเตอร์ให้เล่นได้ 1 เครื่อง แนะนำว่าอย่าเล่นแคมฟร็อกตรงนี้ เพราะโล่งเกิ๊น 555
มีโซนหนังสือเล็กๆ น่ารักดีค่ะ
ด้านหน้าโรงแรมค่ะ ที่จอดรถมีพร้อม อ ได้เวลาออกหากิน...คนในพื้นที่ "เพื่อนปอย" แนะนำแว่ ให้ไปเดินตรงตลาดโต้รุ่งก็ได้นะคับ จะช้าอยู่ใย ในเมื่อท้องร้องคร่ำครวญขนาดนี้ จัดไปอย่าให้เสีย นี่คือเดินออกมาตรงด้านหน้าโรงแรมหน่อยนึง
อ้อ..ที่โรงแรมเค้ามีแผนที่ให้ด้วยนะ...เราก็หยิบแผนที่มา แล้วก็เดินอ้วนๆ กันสองคนพี่น้อง
หน้าตาดีใจเพราะได้กินแล้วล่ะ ..อันนี้เป็นกรรมพันธุ์ค่ะ ได้กินแล้วจะมีความสุขมาก เห็นม๊ะ เลี้ยงง่ายจะตาย ใครสนใจเอาไปเลี้ยงแทนเฟอร์บี้ ติดต่อได้ที่เบอร์ 1900-1900-xx 555 เดิน ๆ ไปนี่มีแต่ของน่ากินทั้งนั้น เราไม่ได้ตะกละกันเลยค่ะ สาบาน เราเลยต้องเริ่มจาก Main Course กันก่อน เป็นก๋วยเตี๋ยวชามโต ที่อยู่เกือบสุดถนนโต้รุ่งนี้ เสียดายที่คนขายไม่ค่อยเข้าใจภาษากลางที่เราใช้ ก็เลยต้องสื่อสารกันหลายรอบหน่อย กว่าจะได้กินก๋วยเตี๋ยว พี่เค้าลูกค้าคงเยอะ ก็เข้าใจ คงจะมึนกันได้ แต่ก่อนจะไปนั่งก็สั่งไปรอบ และพอน้องลุกไปซื้อลูกชิ้นปลาระเบิดร้านข้างๆ 20 บาท ก็ต้องสั่งอีกรอบ จนเดินกลับมาอีกรอบก็ถามย้ำอีก ไม่เป็นไร เพราะถ้าเป็นเกศินี คงจะลืมตั้งแต่วินาทีที่ 3 คราวหน้าจะให้น้องเอ๋สั่งเป็นภาษาจีน เผื่อพี่เค้าเตรียมพร้อมสำหรับอาเซียน คิดแทนพี่เค้าอีก...ไงล่ะ สรุปสุดท้าย กรูสั่งใหญ่โฟต้มยำ แต่ที่ได้มาคือใหญ่โฟใส่น้ำพริกเผา รสชาติจืดๆ แต่ด้วยความที่หนักเครื่อง และชามโต ๆ โยเลยให้อภัย เพราะเป็นคนที่เน้นปริมาณ ไม่เน้นคุณภาพ อร๊ายย !! แต่ส่วนของคุณน้องเอ๋ ได้ตามที่สั่งไว้ พี่ก็ดีใจน้ำตาจะไหลกะน้องด้วยล่ะ น้องเอ๋ว่า รสชาติโอเคเลย ....น่าเสียดายที่ของพี่จืดไป แล้วปรุงเท่าไหร่ก็ยังไม่ได้ใจ แต่พี่ก็กินเกลี้ยง !! คุณหญิงแม่สอนว่าไม่ให้กินทิ้งกินขว้างค่ะ .. เด็กดีป่ะล่ะ
ราคาก๋วยเตี๋ยวก็ชามละ 30 เอง เออ..ให้อภัย 55 จริงๆอย่างที่อ่านไป คือให้อภัยตั้งแต่ให้เยอะแล้วล่ะ
Main Course แล้วมาต่อด้วยของว่างแบบว่าทานเล่นๆ ขำๆอ่ะค่ะ หลังจากที่เล็งมานาน ระหว่างการกินก๋วยเตี๋ยวชามโต อิฉันก็พิจารณาแล้วว่า ร้านไก่ย่างถังระเบิด นั่น น่าจะอร่อยมิใช่น้อย มันต้องโดน...เลยโดนไป 4 ไม้ เบา ๆ ไม้ละ 5 บาท หร่อยมว๊ากกก ต่อด้วย บัวลอยทอดป่ะ คือเรียกไม่ถูก ต้องทำท่าให้ดูกะน้องถึงจะรู้ว่าคืออะไร ซื้อไป 10 บาท กะมันก้อนกลม ๆ ปิ้ง 10 บาท ยังค่ะยัง กลัวจะติดคอ มาต่อด้วยเฉาก๊วย แก้วนึง 10 บาท โปรตีนยังน้อยไป ไม่เพียงพอต่อร่างกาย เลยจัด บาร์บีคิวหมูมาอีก 2 ไม้ ๆ 10 บาท หร่อยๆ ต่อด้วยของหวานซะหน่อย ก็เป็นข้าวเหนียวสังขยา 10 บาท (ร้านเดียวกันกะบาร์บีคิว) แต่หวานเกิ๊นนน ประมาณว่ากินข้าวเหนียวหน้าน้ำตาลปี๊บกับเลย เบาหวานแทบจะขึ้นตาเลยนะนั่น เต้าฮวยของเอ๋ กะน้ำเต้าหู้ ของโย จัดไปอีก 10 บาท
ตามด้วยวุ้นกะทิ ที่เค้าเคลมว่าอร่อยมว๊ากกก กล่องละ 25 บาท อันนี้ทำเหนื่อย เพราะเครียดมากจะเอาสีอะไร รสอะไรดี 555
ได้เวลากลับ เพราะหนักพุงเต็มทน หอบหิ้วกันมาพะรุงพะรัง และมาหาอ่านข้อมูลนครพนมอีกนิดหน่อย
ขี้เกียจนั่งข้างล่าง เลยยืมมาอ่านบนห้องดีกว่า
อ้อ..ระหว่างทางขึ้นบันได ไต่มาชั้น 3 ที่พักนั่นหนา ก็เจอกับรูปงามๆ ของสะพานมิตรภาพ อยากไปอ๊ะ แต่จะได้ไปถ่ายไหมนะ สวยเน๊อะ อยากมีกล้องโตๆ แล้วอ่ะ 55 คิดไปคิดมา อย่าเลย หนัก !!
ขึ้นห้องเรียบร้อยแล้วเราจะได้เพลิดเพลินกะของกินที่ซื้อมาด้วย โอ้วว สวรรค์ของเรา
ส่งท้ายด้วยวุ้นก่อนนอนคืนนั้น อร่อยจริงๆ ล่ะค่ะ ชอบนะ แต่ยัดไม่หมด ส่งเข้าตู้เย็น ณ บัดนาว พรุ่งนี้เราค่อยละเลียดกันใหม่นะ ลืมบอกไป ว่าช่วงที่เราไปนี้ เป็นช่วงที่เค้ามีงานนมัสการพระธาตุพนมพอดีเลย ซึ่งจะจัดในช่วงอาทิตย์ของวันมาฆบูชา โชคดีจัง เพราะงานเริ่มวันที่จันทร์ที่ 18 ที่เราแพลนไว้พอดี วันนี้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ ตาเริ่มลาย เอิ๊ก ๆ
อ่ะ อ่ะ นักเรียนทั้งหลายจ๊ะ ข้อสอบของคุณครูจะถามว่า... สรุปวันนี้เสียเงินไปเท่าไหร่จ๊ะ ให้เวลา 10 วินาที !! อิอิ สวัสดี
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2556 |
|
23 comments |
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2556 10:07:29 น. |
Counter : 2831 Pageviews. |
|
|
|