|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
In god we trust, In gold we trust, In rice we trust: Then eat what you trust!
In god we trust, In gold we trust, In rice we trust: Then eat what you trust!
ใครๆก็รู้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกานั้น มีที่แปลกประหลาดกว่าคนอื่นอย่างมากอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือสหรัฐอเมริกา เลิกใช้มูลค่าทองคำในการค้ำประกันมูลค่าธนบัตรของตนเองมาตั้งนมนานแล้ว สิ่งที่ใช้แทนมูลค่าทองคำก็เป็นสินค้าต่างๆที่ผลิตขึ้น และที่สำคัญ สิทธิบัตร และลิขสิทธ์ จากสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่สะสมมานานต่างๆ ซึ่งทำให้สหรัฐอเมริกามีความได้เปรียบประเทศอื่นๆ อยู่ค่อนข้างมาก
แรงผลักดันที่ทำให้วิธีการที่สหรัฐอเมริกากำลังใช้อยู่นี้คงทนอยู่ได้ โดยที่ประเทศต่างๆไม่สามารถลอกเลียนแบบได้เลย ก็เนื่องจาก สหรัฐอเมริกามีขนาดของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดโดยตลอดมา และด้วยที่ตัวเองเป็นสมาชิกถาวรขององค์การสหประชาชาติ เป็นผู้กำหนดทิศทางของนโยบายต่างๆที่เกิดขึ้นในโลก แบบที่เรียกว่า ตำรวจโลก ใครมาแตะต้องทรัพย์สินสำคัญประเภทสิทธิบัตร และลิขสิทธ์จะต้องถูกประณาม และถูกลดชั้นสิทธิพิเศษต่างๆนานา แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าสงครามเป็นอันดับหนึ่งของโลก ต่างๆเหล่านี้ล้วนมีข้อผูกพันธ์ กลายเป็นกฎ ให้ประเทศน้อยใหญ่ มีความจำเป็นที่จะต้องค้าขายกับสหรัฐอเมริกา จำใจต้องมีการแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐ อย่างไม่มีทางเลือก อีกทั้งยังต้องสำรองเงินตราในประเทศของตนเป็นเงินสกุลดอลล่าร์ในอัตราที่สูงมากกว่าเงินสกุลอื่น เว้นแต่ถ้าไม่อยากค้าขายกับสหรัฐอเมริกา ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะทำเช่นนั้น ไม่เชื่อก็ลองถามพม่าดูก็ได้ ว่าทำไมสิงคโปร์ถึงรวยนัก
แต่อย่างไรก็ตามมีกลุ่มประเทศในยุโรป มีความเห็นว่าสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นดินแดนใหม่ ในสายตาพวกเขา ไม่ควรมีบทบาททางการค้า และทางการเมือง ผ่านรูปแบบการค้าแบบเอาดอลล่าร์เป็นหลัก มาเป็นผู้กำหนดบทบาทให้กับพวกตน จึงได้อุบัติ แนวความคิดเรื่องเงินสกุลยูโร และก็สามารถทำให้สำเร็จให้เป็นรูปธรรมได้โดยมีอังกฤษมิตรที่ดีตลอดกาลของสหรัฐอเมริกา เป็นก้างขวางคอที่สำคัญจวบจนปัจจุบัน และเมื่อการคาดการณ์อนาคตถูกต้องส่งผลให้ เมื่อเศรษฐกิจของสหรัฐเกิดอาการฟองสบู่ ก็จึงไม่สงผลกระทบมากมายอะไรนัก นอกจากดัชนีบางตัว ที่มักนิยมใช้วัดกันในตลาดหุ้น และอีกหลายบริษัทการเงินในยุโรปที่ล้มละลาย เนื่องจากความเชื่อมั่นในพระเจ้าของสหรัฐอเมริกา แต่ไม่เชื่อมั่นในทองคำของตน
เมื่อยุโรปทำสำเร็จเอเชียก็อยากจะทำบ้าง ก็เริ่มต้นจากกรณีวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ทำให้เกิดแนวความคิดการก่อตั้งเอเชียบอนด์ เพี่อเป็นรากฐานสำคัญไปสู่การใช้เงินสกุลเดียวภายในเอเชีย แน่นอนว่าสหรัฐอเมริกาซึ่งเคยพลาดให้เยอรมันตะวันออก และตะวันตกรวมตัวกันได้ จนเป็นจุดเริ่มต้นของของเงินสกุลยูโร กระทั่งมีระบบดาวเทียมบอกพิกัดเป็นของตนเอง หลังจากยืมใช้ของสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่แรก เป็นเอกราชเรื่องข้อมูลทางการทหาร สหรัฐอเมริกาย่อมไม่มีวันจะยอมให้เกิดขึ้นอีกครั้งในเอเชีย และพื้นที่ไหนจะเป็นเป้าหมายของสหรัฐในครั้งนี้ และทางเอเชียจะตอบโต้อย่างไร และได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ผมบอกไม่ได้ เพราะมันเป็นความลับ แต่ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำ
หากเรายังจำกันได้ว่าสหรัฐอเมริกามีความต่าง และมันกำลังจะเป็นจุดอ่อน ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็ทราบจุดอ่อนข้อนี้เป็นอย่างดี การมีทองคำเก็บไว้น้อยเกินกว่ามูลค่าของเงินดอลล่าร์ผลที่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากความพยายามลดดอกเบี้ย ก็คือการประกาศลดค่าเงินดอลล่าร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้น เพราะไม่มีใครรู้ปริมาณเงินที่แน่นอนของดอลล่าร์ และเงินดอลล่าร์เป็นเงินที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก มีการหมุนเวียนเร็ว และมากเกินกว่าการจะหยุดเพื่อนับ สหรัฐอเมริกาใช้วิธีการกระจายความเสี่ยง เพราะสหรัฐอเมริกามองเห็นว่าทองคำเป็นทรัพยากรธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่บังเอิญมีไม่มากในประเทศของตน จะมีทรัพยากรธรรมชาติอย่างอื่นอีกมั้ยที่จะนำมากระจายความเสี่ยงตามหลังทองคำ และคำตอบก็คือทองคำดำหรือน้ำมันนั่นเอง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอิรักจึงถูกหลอกให้บุกคูเวต เพราะมีบางประเทศกำลังจะตีตลบหลังได้ทั้งน้ำมันนอกโควต้า และได้ทั้งขายอาวุธ และโดยผ่านบริษัทเอกชนซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของทั้งสองพรรคใหญ่ สหรัฐอเมริกาก็ได้สัมปทานบ่อน้ำมันไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในพม่า
นอกจากน้ำมันแล้วก็มีตลาดโลหะเสถียร ซึ่งสาเหตุของมิตรตลอดกาลระหว่างสหรัฐกับอังกฤษ ก็เพราะอังกฤษเป็นเจ้าตลาดโลหะพวกนี้อยู่ ทั้งเหล็กทั้งทองแดง ดีบุกตะกัว อื่นๆอีกจิปาถะ รวมทั้งธาตุที่บอกไม่ได้อีกหลายอย่าง เช่นยูเรเนี่ยม พลูโตเนียม และเรเดี่ยม และอย่าลืมว่าอดีตเจ้าอาณานิคมประเทศนี้ ยังมีออสเตรเลีย ประเทศในเครือจักรภพ เป็นลูกน้องสำคัญที่ซื่อสัตย์ตลอดกาล ไม่เปลี่ยนแปลง คอยสร้างความไม่มีเสถียรภาพให้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดูตัวอย่างที่ติมอร์ตะวันออก อาเจห์ และที่อื่นๆที่เป็นข่าวทุกวันในบ้านเรา ที่พวกเขาทำได้ก็เพราะเครือข่ายของชาวยิวอันยิ่งใหญ่ ที่มีอยู่ทุกหนแห่งในโลก ชนชาติที่ครอบครองการค้าเพ็ชร และก็เพิ่งมาครอบครองการค้าพลอยแทนคนไทย นึกแล้วอยากจะขอไปเยี่ยมหลุมศพฮิตเล่อร์ เพื่อลำรึกอดีต
ไม่บอกซักทีว่าทำยังไง บอกเลยก็แล้วกัน ง่ายนิดเดียวทุกประเทศมีทองคำแท่งสำรองอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ อันนั้นอย่าไปแตะต้อง เอาเงินดอลล่าร์สหรัฐที่สำรองอยู่ไปซื้อทองคำให้เหลือดอลล่าร์ให้น้อยที่สุด ค่อยๆซื้อ อย่าให้ตลาดตกใจ อย่าให้ยิวได้ยิน ซื้อมาแล้วก็เอามาทำเหรียญทองใช้ผสมกับธนบัตรที่ใช้ตามปรกติ เอาให้มีมาตราฐานคุณภาพและน้ำหนักเดียวกัน และอาจเริ่มโดยการใช้แทนเงินดอลล่าร์สหรัฐ ในการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งถ้าทำกันในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บวกสาม ลักษณะของการซื้อขายก็จะกลายเป็นระบบ บาร์เทอร์เทรด และหากมีการบริหารจัดการดีๆ ก็แทบจะไม่ต้องมีการเคลื่อนย้ายเงินเหรียญออกจากคลังเลย แค่ตัดตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น เหมือนทองคำในสวิสเซอร์แลนด์ ประเทศไหนเป็นหนี้ใครเท่าไหร่ พอสิ้นเดือนค่อยย้ายทองคำแท่งไปไว้อีกห้องนึง ก็เท่านั้น
ทำอย่างนี้ได้ซักปีเดียวมูลค่าที่แท้จริงของเงินดอลล่าร์ก็จะปรากฎออกมา เกิดเป็นการเร่งปฏิกริยาที่ทุกประเทศต้องระบายเงินดอลล่าร์สหรัฐออกจากระบบของตนเอง ประเทศที่มีศักยภาพต่างๆก็ควรเข้าไปจับจองเป็นเจ้าของเทคโนโลยีราคาถูกได้ ไม่นับบริษัทห้างร้านต่างๆที่สหรัฐอเมริกาจะทยอยขายออกให้คนต่างชาติ เนื่องจากเงินดอลล่าร์สหรัฐล้นประเทศ อัตราเงินเฟ้อสูง ค่าของเงินลด อัตราการว่างงาน อาชญากรรมเพิ่ม อื่นๆตามมาเป็นแพ็คเกจ ของเวรกรรม สำหรับประเทศไทยก็ขอแนะนำว่าเวลาทำเหรียญทองคำ นอกจากพิมพ์คำว่า Kingdom of Thailand ไว้บนเหรียญแล้ว อีกด้านหนึ่งก็ให้พิมพ์คำว่า In Rice We Trust ไว้ด้วย เพื่อเป็นการค้ำประกันว่าไม่ว่าใครก็ตามที่นำเหรียญนี้มาที่ประเทศไทย จะได้รับสิ่งตอบแทนเป็นข้าว ตามมูลค่าของทองที่ได้กำหนดไว้แล้ว และจะไม่มีใครอดตายเนื่องจากอดข้าวอย่างแน่นอน...
Create Date : 31 ตุลาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2551 6:20:14 น. |
Counter : 1201 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
เหนือลิขิต |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สวัสดีท่านที่หลงเข้ามาในเว็บบล๊อกแห่งนี้ทุกท่าน
อย่าเพิ่งแปลกใจที่ได้อ่านอะไรไปโดยที่ยังไม่ได้เห็นแม้เงาของผู้เขียน อยากจะบอกว่าผมเอง เป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย จนหลายคนอาจจะตกใจกับการปฏิบัติตน แนวความคิดของผม ไม่ถึงกับต่อต้านสังคม เพียงแต่อยากให้สังคมได้รับรู้ และมีทางเลือกในสิ่งที่ดีกว่า เพราะการมีโอกาสได้รู้ ได้เห็น ในสิ่งต่างๆ มามากพอควรแล้ว ต่อไปนี้จึงเป็นการลงมือทำ โดยเริ่มต้นด้วยการเขียน และสิ่งต่างๆที่เขียนก็ล้วนเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ในประเทศไทยของเรานี้
ขอทุกท่านจงโปรดช่วยชี้แนะ
|
|
|
|