มือถือเป็นเครื่องประดับที่บ่งบอกสถานภาพ
โรคทรัพย์จาง การชอบตามแฟชั่น ทำให้หลายคนต้องหาเงินเพื่อหาซื้อมือถือรุ่นใหม่อยู่ บางคนรสนิยมดีเกินฐานะ จึงเกิดสภาวะทรัพย์จาง โรคขาดความอดทนและใจร้อน อันนี้เป็นข้อเสียที่ทำให้คนเราขาดความอดทนและใจร้อนขึ้นเช่นกัน เพราะความสะดวกสบายในการใช้มือถือทำให้บางครั้งไม่สามารถรอนานๆได้
โรคขาดกาละเทศะ และมารยาท ความไม่ค่อยอดทนรอ และใจร้อนที่ว่า หลายๆ ครั้ง เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ก็จะกดโทรศัพท์ไปหาบุคคลที่เราอยากจะพูด อยากถามในทันที ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นเวลาประชุม เวลานอน เวลารับประทานอาหาร เวลาพักผ่อน หรือเป็นวันหยุด การโทร.ไปเช่นนั้น โดยไม่ดูเวลาหรือกาละเทศะที่ควรโทร. แม้เขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่จริงๆ แล้วเขาก็อาจจะไม่พอใจ หรือโกรธที่เราไปขัดจังหวะเขาอยู่ก็ได้
โรคขาดมนุษยสัมพันธ์ คนส่วนใหญ่จะใช้มือถือพูดคุยกับญาติสนิท มิตรสหายที่ใกล้ชิด ทำให้ขาดความใส่ใจที่จะสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น เมื่อไปงานเลี้ยงสังสรรค์ แทนที่เราจะไปทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ ในงาน สร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้น หลายคนกลับหลบมุมโทร.ไปคุยกับเพื่อน หรือวัยรุ่นอยู่บ้าน แทนที่จะพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองหรือทำกิจกรรม กินข้าวปลาอาหารร่วมกับญาติพี่น้อง ก็มักรีบกินรีบหนีขึ้นห้องโทร.ไปหาเพื่อน และใช้เวลาพูดคุยกันเป็นชั่วโมงๆ นานๆ ไปความสัมพันธ์ในบ้านก็ห่างเหิน ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้โทรศัพท์โทร.หาเพื่อนหรือติดต่อธุรกิจของตน โดยไม่สนใจผู้อื่นอีกต่อไป หากวันไหนไม่ได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อน ก็อาจจะเกิดอาการเฉาหรือเหงาหงอย กลายเป็นคนแยกตัวออกจากสังคม มีโลกของตัวเองต่างหาก และเป็นโรคติดโทรศัพท์ในที่สุด
โรคไม่จริงใจ การพูดคุยทางโทรศัพท์ไม่ต้องเห็นหน้าตา ท่าทาง สายตาและปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ทำให้หลายคนใช้คำหลอกลวง พูดโกหก ทำเสมือนรักใคร่ ผูกพันหรือห่วงใย แต่ที่จริงมิไม่ได้คิดแบบนั้น
สิ่งเหล่านี้ คือโรคร่วมสมัยที่มาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเราควรมีสติและใช้อย่างไปในทางที่ดี