การแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์
คำอุทิศ ด้วยอานิสงส์ของการเผยแพร่ความรู้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้มารดา บิดา ญาติพี่น้อง ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ เทวดาทั้งหลาย เปรตทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย จงได้บุญกุศลโดยถ้วนหน้า ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใด หากมีทุกข์ขอให้พ้นทุกข์ หากมีสุขขอให้มีสุข ยิ่งๆ ขึ้นไป เทอญ
โครงสร้างอาคาร จะมีส่วนสำคัญที่สุด คือฐานราก เพราะรับน้ำหนักทั้งหมดของอาคาร ฐานรากโดยทั่วไป แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ฐานรากแผ่และฐานรากเสาเข็ม หากฐานรากมีความมั่นคงและแข็งแรง จะทำให้การใช้งานอาคาร มีความปลอดภัย ฐานรากแผ่ คือฐานรากที่รับน้ำหนักทั้งหมดของอาคาร ซึ่งถ่ายลงมาจากเสาตอม่อ ลงสู่ฐานรากแผ่ และฐานรากแผ่ถ่ายน้ำหนักให้ดิน อีกทอดหนึ่ง ฐานรากเสาเข็ม คือฐานรากที่รับน้ำหนักทั้งหมดของอาคาร ซึ่งถ่ายลงมาจากเสาตอม่อ เช่นเดียวกับฐานรากแผ่ ต่างกันตรงที่ ถ่ายน้ำหนักลงสู่เสาเข็ม และเสาเข็มถ่ายน้ำหนักให้ดินที่อยู่รอบผิวเสาเข็มและปลายเสาเข็ม อีกทอดหนึ่ง เสาเข็ม มีหน้าที่รับน้ำหนักทั้งหมดของอาคาร ซึ่งถ่ายน้ำหนักลงมาจากส่วน ต่างๆ ของโครงสร้างอาคาร เช่น หลังคา พื้น บันได คาน และเสา เป็นต้น และถ่ายน้ำหนักที่รับมาทั้งหมดนี้ ไปยังชั้นดินรอบผิวเสาเข็มและปลายเสาเข็ม อีกทอดหนึ่ง ปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับฐานรากเสาเข็ม ได้แก่ ความคลาดเคลื่อนในการตอกหรือติดตั้งเสาเข็ม ไม่สามารถตอกหรือติดตั้งเสาเข็ม ได้ตามตำแหน่งที่ออกแบบไว้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเยื้องศูนย์ ซึ่งจะมีผลต่อพฤติกรรม ( behavior ) ที่เกิดขึ้นกับเสาเข็ม ดังนั้น เมื่อตอกเสาเข็มเสร็จแล้ว จะต้องตรวจสอบตำแหน่งของเสาเข็ม เปรียบเทียบกับตำแหน่งที่ออกแบบไว้ ระยะที่คลาดเคลื่อน จะเรียกว่าระยะเบี่ยงเบน ( deviation ) เพื่อหาระยะเยื้องศูนย์ระหว่างเสาตอม่อกับเสาเข็ม ซึ่งอาจเยื้องศูนย์แกนเดียวหรือสองแกน ก็ได้ และวิเคราะห์พฤติกรรม ที่เกิดขึ้นกับเสาเข็ม จากนั้นจึงแก้ไขตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ผลจากการเยื้องศูนย์ของเสาเข็ม จะทำให้เกิดโมเมนต์เยื้องศูนย์เพิ่มขึ้นมา นอกเหนือจากแรงตามแนวแกน ซึ่งโมเมนต์เยื้องศูนย์ที่เพิ่มขึ้นมานี้ จะมีผลต่อพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับเสาเข็ม ทำให้การรับน้ำหนักของเสาเข็มแต่ละต้น ไม่เท่ากัน ตามทิศทางของโมเมนต์เยื้องศูนย์ เพราะเกิดแรงอัดและแรงดึงกระทำต่อเสาเข็ม ซึ่งไม่เป็นไปตามที่วิศวกรโครงสร้าง ออกแบบไว้ ดังนั้น จะต้องวิเคราะห์และแก้ไขตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับเสาเข็ม การตรวจสอบและแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์ จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง ก่อนจะเริ่มงานฐานราก การรับน้ำหนักที่เกิดขึ้นของเสาเข็มแต่ละต้น จะต้องไม่มากกว่า ความสามารถในการรับน้ำหนักปลอดภัยของเสาเข็ม มิฉนั้น จะต้องแก้ไข เช่น เพิ่มเสาเข็มหรือเพิ่มโครงสร้าง เป็นต้น เพื่อความปลอดภัย ในการใช้งานอาคาร รายละเอียดของการแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์ มีดังนี้ การแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์ เนื่องจากฐานรากเสาเข็ม จะมีทั้งฐานรากเสาเข็มเดี่ยวและฐานรากเสาเข็มกลุ่ม ดังนั้น การแก้ไขจะอยู่ที่ ประเภทของฐานรากและจำนวนแกนที่เยื้องศูนย์ ดังนี้ ฐานรากเสาเข็มกลุ่ม การแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์ ของฐานรากเสาเข็มกลุ่ม มีดังนี้ 1 ตรวจสอบระยะเบี่ยงเบน ของเสาเข็มแต่ละต้น ในแต่ละแกน 2 คำนวณตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง ของกลุ่มเสาเข็ม ในแต่ละแกน โดยใช้สมการทางกลศาสตร์ 3 หาตำแหน่งเยื้องศูนย์ ( eccentric ) ซึ่งอาจเยื้องศูนย์แกนเดียวหรือสองแกน ก็ได้ 4 คำนวณโมเมนต์เยื้องศูนย์ ในแต่ละแกน 5 คำนวณน้ำหนักที่ถ่ายลงเสาเข็มแต่ละต้น ในแต่ละแกน 6 น้ำหนักทั้งหมดที่ถ่ายลงเสาเข็มแต่ละต้น จะต้องไม่มากกว่า ความสามารถในการรับน้ำหนักปลอดภัยของเสาเข็ม มิฉนั้น จะต้องแก้ไข เช่น เพิ่มเสาเข็มหรือเพิ่มโครงสร้าง เป็นต้น 7 คำนวณเหล็กเสริมในเสาตอม่อ เนื่องจากมีโมเมนต์เยื้องศูนย์เพิ่มขึ้นมา นอกเหนือจากแรงตามแนวแกน 8 คำนวณเหล็กเสริมในฐานราก เนื่องจากแรงกระทำและระยะของเสาเข็ม มีการปลี่ยนแปลงจากเดิม ฐานรากเสาเข็มเดี่ยว การแก้ไขค่อนข้างยุ่งยากกว่า ฐานรากเสาเข็มกลุ่ม แรงดัดจากโมเมนต์เยื้องศูนย์ จะต้องไม่ทำให้เกิดหน่วยแรงดึง ในเสาเข็ม มิฉนั้น จะต้องแก้ไข เช่น เพิ่มเสาเข็มหรือเพิ่มโครงสร้าง เป็นต้น
การหาระยะเยื้องศูนย์ ที่ไม่ทำให้เกิดหน่วยแรงดึง ในเสาเข็ม จะใช้สมการหน่วยแรงตามแนวแกนและหน่วยแรงดัด ดังนี้ S = P/A ± M*c/I โดยที่ S คือผลรวมของหน่วยแรงตามแนวแกนและหน่วยแรงดัด P คือน้ำหนักที่ถ่ายลงเสาเข็ม A คือพื้นที่หน้าตัดของเสาเข็ม M คือโมเมนต์เยื้องศูนย์ ในแต่ละแกน c คือระยะที่ต้องการหาหน่วยแรง ในแต่ละแกน I คือโมเมนต์อิเนอร์เชียของหน้าตัดเสาเข็ม ในแต่ละแกน การหาระยะเยื้องศูนย์ ที่ไม่ทำให้เกิดหน่วยแรงดึง ในเสาเข็ม จะขึ้นอยู่กับหน้าตัดของเสาเข็ม เพราะเกี่ยวข้องกับ ค่า I และ c ซึ่งระยะเยื้องศูนย์ ที่ไม่ทำให้เกิดหน่วยแรงดึง จะต้องมีผลรวมของหน่วยแรงด้านค่าน้อย ในทุกแกน เป็นศูนย์ ดังสมการ S = P/A-M*c/I = 0 กรณีหน้าตัดเสาเข็มเป็นสี่เหลี่ยม จะได้ P/A-6*M/B/(L^2) = 0 P/A-6*P*e/A/L = 0 P/A(1-6*e/L) = 0 1-6*e/L = 0 e = L/6 ดังนั้น ระยะเยื้องศูนย์ ที่ไม่ทำให้เกิดหน่วยแรงดึง ในเสาเข็มหน้าตัดสี่เหลี่ยม ในแต่ละแกน จะอยู่ที่ 1/6 ของความยาวหน้าตัดเสาเข็ม ทำนองเดียวกัน ระยะเยื้องศูนย์ของเสาเข็มกลม จะอยู่ที่ 1/8 ของเส้นผ่านศูนย์กลางเสาเข็ม หากมีระยะเยื้องศูนย์สองแกน ระยะเยื้องศูนย์จะต้องอยู่ภายในพื้นที่เคิร์น ( Kern area ) วิธีการแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์ คือการจัดการโมเมนต์เยื้องศูนย์และหน่วยแรงดึง เป็นหลัก ไม่ใช่ขยายฐาน ครับ ตัวอย่างการแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์ Location : B8 Loadings : area = 4.00*5.75 = 23.00 m^2 estimated LL&LL = 1,200 kg/m^2 floor loading = 23.00*1,200*3 = 82,800 kg roof loading = 23.00*800 = 18,400 kg total loading = 101,200 kg
x = 0.13/2 = 0.065 m y = 1.78/2 = 0.89 m ex = 0.065-0.04 = 0.025 m My = 101,200*0.025 = 2,530 kg m C = T = 2,530*0.065/(0.065^2+0.065^2) = 19,462 kg Max = 70,062 kg => overload Min = 31,138 kg
Location : B9 Loadings : area = 4.00*5.75 = 23.00 m^2 estimated LL&LL = 1,200 kg/m^2 floor loading = 23.00*1,200*3 = 82,800 kg roof loading = 23.00*800 = 18,400 kg total loading = 101,200 kg
x = 0.09/2 = 0.045 m y = 1.70/2 = 0.85 m ex = 0.045 m ey = 0.89-0.85 = 0.04 m Mx = 101,200*0.04 = 4,048 kg m My = 101,200*0.045 = 4,554 kg m C = T = 4,048*0.85/(0.85^2+0.85^2) = 2,381 kg C = T = 4,554*0.045/(0.045^2+0.045^2) = 50,600 kg Max = 98,819 kg => overload Min = 2,381 kg
UB1 ( 0.60*1.40 m ) Location : line B
M = 5,177 kg m As = 3.25 cm^2 => 4.28 use 5DB20 mm V = 101,886 kg use 2RB12 mm @0.10
UB2 ( 0.60*1.40 m ) Location : line 9 M = 18,394 kg m As = 11.53 cm^2 => 15.22 use 5DB20 mm V = 109,483 kg use 3RB12 mm @0.10 หลักการเพิ่มโครงสร้าง 1 จะต้องให้จุดศูนย์ถ่วงของเสาตอม่อ ฐานราก และกลุ่มเสาเข็ม อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน เพื่อตัดโมเมนต์เยื้องศูนย์ออกไป 2 โครงสร้างที่เพิ่มขึ้นมา จะเป็นคานรับเสาอาคาร 3 จำนวนคานรับเสาอาคาร จะขึ้นอยู่กับจำนวนแกนที่เยื้องศูนย์ 4 น้ำหนักที่ถ่ายลงฐานราก จะต้องไม่มากกว่า ความสามารถในการรับน้ำหนักปลอดภัยของเสาเข็ม มิฉนั้น จะต้องเพิ่มเสาเข็ม ที่กล่าวมานี้ ผมหวังว่า ผู้สนใจที่เข้ามาอ่าน คงได้ความรู้และมีความเข้าใจ ในเรื่องการแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์ ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการที่ถูกต้อง ในการแก้ไขเสาเข็มเยื้องศูนย์ คือการจัดการโมเมนต์เยื้องศูนย์และหน่วยแรงดึง เป็นหลัก ไม่ใช่ขยายฐาน ครับ
Create Date : 28 มกราคม 2561 |
|
3 comments |
Last Update : 24 ตุลาคม 2562 16:11:07 น. |
Counter : 50350 Pageviews. |
|
|
|