ชีวิตมนุษย์และใจมนุษย์ ไม่มีที่สิ้นสุดของการเรียนรู้
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
21 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
ที่ว่างของความเสียใจ

พฤษภาคม 2553 วันนี้วันเกิด คือ วันพิเศษของคุณ คนอย่างคุณไม่เคยรักใครจริงหรอก เพราะคุณรักตัวคุณเองมากที่สุดซึ่งเราเองก็รู้ว่าคุณเป็นคนแบบนี้ ถ้าคุณรักคนนั้นคุณคงไม่ทำแบบนี้


และถ้าเรารักตัวเองมากกว่านี้ เราคงไม่อยู่เพื่อรอคุณเพียงแค่ ให้คุณหยิบยื่นเศษเวลาเล็กๆมาหาเท่านั้น อย่าพูดเลยว่าคุณรักทั้งสองคน ลองถามตัวคุณดีกว่า


ว่าความรักของคุณที่มีให้คนทั้งสองมันคืออะไรหรือ?

คนนึงเค้าเป็นที่พึ่งของคุณทุกอย่าง เค้าไม่เคยนอกใจคุณ เค้าดูแลคุณได้ทั้ง คุณวุฒิ และฐานะก็ดีกว่าเรา
และเค้าเองก็คบคุณมาก่อนที่เราเจอ เค้ารักคุณมากซึ่งคุณก็เลือกที่จะเอามาเป็นคู่ชีวิต

ส่วนเราล่ะ เราผิดตรงที่ เรามาทีหลัง แต่เรามาทำให้คุณสบายใจ เรามาเติมเต็มความสุขความสดใสในสิ่งที่คุณไม่ได้พบเจอมานาน

และรูปร่างหน้าตาก็ดูดีกว่าคู่ชีวิตของคุณ(ของใหม่ๆอะไรๆก็ดีล่ะ)และในหลายๆๆเรื่องที่เราเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา ที่ไม่ใช่ วุฒิการศึกษาและฐานะแบบเขา


ซึ่งอาจจะหาไม่ได้กับคู่ชีวิตของคุณ ที่เค้าจะยอมรับคุณได้ แต่สุดท้าย การยอมรับและการให้อภัยที่เขามีต่อคุณ มันเป็นแค่ลมปาก เพราะทุกวันนี้เขาก็ยังคอยหวาดระแวงคุณตลอดเวลา แต่คุณหลอกเราแต่เรากลับให้อภัย และยังรักคุณ เพราะเราเองเราก็ถือว่าเรามีส่วนผิด ที่รักคนมีเจ้าของอย่างคุณ

ในเมื่อชีวิตมันไม่สามารถ "เลือก" ทั้ง 2 คนที่รักพร้อมๆ กันได้ คุณบอกแบบนั้น

จริงหรือ คุณสามารถบอกได้หรือ ว่าถ้าคุณไปจากชีวิตเราจริงๆคุณจะไม่คบกับคนอื่นอีก และเราก็ไม่เชื่อว่า คนอย่างคุณจะเดินหันหลัง
จากเราก่อน ถ้าไม่โดนบีบบังคับจริงๆ เพราะคนอย่างคุณมันอ่อนแอ..


ยิ่งเราคบกันนานขึ้น เรื่อยๆก็ยิ่งผูกพัน
การที่เราใช้ความดีซื้อใจคนอย่างคุณ มันเหมือนโยนก้อนกิน ลงทะเลก็เท่านั้น...คนอย่างคุณรู้ทุกอย่าง แต่ไม่เคยสำนึก..


แต่สุดท้าย เราก็ยังรักคุณเสมอ..เหมือนที่คุณบอกว่าเราเหมือนเพลงผู้ป่วยความจำเสื่อม แต่เราว่า เราเหมือนเพลงนี้อีกหนึ่งเพลง..เราจะ ไล้ลงแผ่นให้คุณฟัง.....










Create Date : 21 มิถุนายน 2553
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 12:36:22 น. 3 comments
Counter : 482 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

"การยอมรับและการให้อภัยที่เขามีต่อคุณ มันเป็นแค่ลมปาก เพราะทุกวันนี้เขาก็ยังคอยหวาดระแวงคุณตลอดเวลา "

พี่เข้าใจ ความรู้สึกนี้นะคะ เพราะทุกวันนี้ สามีพี่ก็บอกพี่แบบนี้และ ว่า พี่ไม่เคยไว้ใจ ไม่เคยเชื่อใจเขา...

เขาขอให้เชื่อใจ เขาให้เข้าใจในความเป็นตัวตนของเขา ในขณะที่เขา ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง...
ซึ่งความจริง ก็รู้ๆกันอยู่ ว่าเขา เชื่อใจได้แค่ไหน


ความเชื่อใจ จะเกิดขึ้นได้ เมื่ออีกคนสร้างน่าเชื่อถือขึ้น หากเขาให้เกียรติตัวเอง หากเขามีความซื่อสัตย์ต่อคำพูดของตัวเอง ความน่าเชื่อถือ หรือ เชื่อใจ จะเกิดขึ้นได้เอง โดยไม่ร้องขอ..

หากเขา ทำอย่างที่เขาพูด ความเชื่อใจ การให้อภัย จะเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ลมปาก...


แน่นอน คนที่มาทีหลัง ย่อมเข้าใจกว่า ย่อมถูกใจกว่า ย่อมแสนดี ให้ความสุขได้มากกว่า เพราะ

คนมาทีหลัง ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขามีภรรยา

คนที่มาทีหลัง จะโวยวาย จะแสดงออกถึงความไม่พอใจในสิ่งที่เขาเป็นไม่ได้ โวยเมื่อไหร่ เขาก็ทิ้งไปเมื่อนั้น

คนที่มาทีหลัง จะแสดงออกถึงความอยากที่จะเป็นที่หนึ่ง หรือหนึ่งเดียวไม่ได้ เมื่อแสดงออกมาเมื่อไหร่ เขาก็ไปเมื่อนั้น

คนที่มาทีหลัง ต้องเป็นฝ่ายให้ ให้ความสบายใจ ให้ความสุข มากที่สุดเท่าที่เขาต้องการ
ต้องเอาความดีเข้าแลกเท่านั้น...
คนมาทีหลัง ต้องเติมเต็มส่วนที่เขาขาด...


คนที่มาทีหลัง ต้องสำนึกตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าหากกดดัน ให้เขาอึดอัดเมื่อไหร่ เขาจะเห็นภรรยาดีกว่าขึ้นมาทันที

ดังนั้น ยิ่งคนมาทีหลัง แสนดี รู้ใจ รับได้ทุกอย่าง ทุกสภาพ ยิ่งเป็นแม่พระได้ ยิ่งจะได้อยู่นาน ได้เป็นเมียน้อยตลอดไปจนแก่เฒ่า จน ตายจากกันไป หรือไม่ก็จนกว่า ภรรยาเขาจะทนไม่ไหว หย่าขาดให้
คนมาทีหลัง ก็จะได้มีโอกาสเป็นภรรยา กับเขาซะที

ผู้ชาย เขาจะไม่มีวันทิ้งคนมาทีหลัง...
ตราบใดที่คนมาทีหลังไม่วุ่นวายกับภรรยาเขา


ผู้ชายจะทิ้งหย่าขาดจากภรรยา
ตราบใดที่ภรรยายังให้โอกาส และให้อภัย...

...

ในเมื่อเลือกที่จะอยู่แบบนี้ จะเป็นแบบนี้
ก็ขออย่าได้เปรียบเทียบตัวเอง กับภรรยาเขาเลย
ภรรยาเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับแหม่มเลยแม้แต่น้อย
ภรรยาเขา ไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับแหม่มเลย
ภรรยาเขาอยู่ในที่มืด ที่มองไม่เห็นแหม่ม

แต่แหม่มอยู่ในที่สว่างกว่า
แหม่มอยู่ในมุมที่มองเห็นได้มากกว่า..
เพราะผู้ชาย จะส่งข่าว เล่าเรืองเกี่ยวกับเธอให้แหม่มรับรู้
ขณะที่เขาจะไม่เคยพูดถึงแหม่มให้เธอฟังเลย...

ขอให้เชื่อมั่นว่า

หากแหม่มไม่มีดีจริง เขาก็ทิ้งแหม่มไปนานแล้ว
หากภรรยาเขาไม่ดีจริง เขาไม่มีความสุขจริงๆ เขาก็ทิ้งภรรยาไปนานแล้ว

ผู้ชาย เขาไม่หวังแค่เงินทองหรอก ถ้าหากเขาอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข...

เป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: LoveTurJang วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:10:03:56 น.  

 
ขอบพระคุณนะคะพี่แฟนต้า
ที่สละเวลา ให้ข้อคิดดีๆกับแหม่ม แหม่มรับทราบค่ะว่า เราไม่ควรเอาตัวเราไปเปรียบกับภรรยาของเขา แต่จริงๆในห้วงอารมณ์ของคนมาทีหลัง แล้วมันอดน้อยเนื้อต่ำใจตนเองไม่ได้ เขารักและผูกพันกันค่ะ ถ้าพี่แฟนต้าได้อ่านเรื่องที่แหม่มเขียนในบล๊อคตอนแรกๆ คงพอเข้าใจ เขาบอกว่า
"แหม่ม เค้าเป็นแฟนคนแรกของพี่"
ความผูกพันที่เขามีร่วมกันมา มากกว่าที่คบกับแหม่ม สิ่งที่ภรรยาเขาช่วยเหลือ หลายๆด้าน สิ่งที่แหม่มอยากบอกว่าเขามีความสุขเพราะเขาผูกพันกัน เขาบอกว่า ผู้หญิงคนนี้เป้นคนรักคนแรกของเขา(ซึ่งเท็จจริงประการใดไม่ทราบได้นอกจากตัวเขาเอง)

และอีกอย่างที่แหม่มต้องทำใจให้เป็นกลาง คือ ภรรยาเขาไม่เคยผิดอะไรกับเขาเลยเท่าที่ทราบ นอกจากจะมีนิสัยที่เป็นปกติของผู้หญิงทั่วไป ซึ่งมันก็ไม่ใช่เหตุอันสมควรที่เขาควรจะทอดทิ้งคนที่เขารักและผูกพันมาตั้งแต่ต้น และ.......ที่แหม่มยังไม่ได้เขียนในโอกาสต่อไปอีก แต่ที่รู้ก็คือเขามีความสุขกับภรรยา เขาในบางเรื่อง ส่วนกับแหม่มก็มีให้เขาในบางเรื่องที่ภรรยาให้เขาไม่มีให้

ถ้าหากคนๆนี้ไม่ใช่คนเจ้าชู้โดยสันดานมาตั้งแต่ต้น ถ้าหากคนๆนี้เป็นคนที่ไม่เคยนอกใจแฟนเลยตลอดเวลา 7 ปี จริงๆ อย่างที่เขาบอกแหม่ม


แล้วที่เขามาเป็นแบบนี้เพราะมาเจอแหม่ม มันน่าคิดนะคะ ว่า ในเมื่อเขามีชีวิตสมบูรณ์ มีแฟน การศึกษาสูง ฐานะหน้าที่การดี แต่ทำไม ถึงต้องมาเป็นแบบนี้


ในวันแรกที่แหม่มเจอเขา แหม่มก็ตั้งลิมิตไว้ว่าไปเจอได้ แต่เราต้องวางตัวเป็นเพื่อนเขาเท่านั้น เพราะเขามีแฟนแล้ว

แต่ตัวเขาเอง ถ้าอ่านให้ละเอียด มันเหมือนเขาเอง
สับสนตัวเองน่ะค่ะ

ทุกวันนี้แหม่มไม่ทราบเรื่องภรรยาของเขาหรอกค่ะ ตั้งแต่เขาเป็นคู่ชีวิตกันจริงๆ เวลาคุยเขาจะคุยเรื่องงานและสัพเพเหระมากกว่า แหม่มจะรู้ก็แค่เรื่องที่ผ่านมาก็เท่านั้น


นารีมีรูปเป็นทรัพย์ แต่ทรัพย์ที่เป็นรูปธรรมนั้น สักวันมันต้องเสื่อม
แต่นั่นคือ สิ่งที่ผู้คนสามารถ มองเห็นได้มากกว่า นามธรรม เช่น นิสัย ซึ่งต้องมาเรียนรู้กันทีหลัง


ขอโทษนะคะ ถ้าจะพูดตรงๆที่เขาชอบแหม่ม(ไม่ขอใช้คำว่ารัก เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ได้รักใคร แม้แต่ภรรยาของเขาก็ตาม แหม่มถือว่า คนที่รักกันไม่ควรทำเช่นนี้) ก็คือ


1. วันแรกที่เจอ ที่เขาเห็น คือ รูปร่างหน้าตาของแหม่ม (อันนี้ไม่ได้ยกย่องตนเอง คนอื่นพูดแม้แต่ตัวของผู้ชายคนนั้นเอง) แหม่มเป็นคนดูแลตัวเองและรู้จักแต่งตัวให้เข้ากับบุคคลิกตนเอง ส่วน แฟนเขาเป็นผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาค่ะ แหม่มเคยเห็นในรูปแล้ว สูง 155 และอ้วน สิ่งที่ภรรยาควรมีคือ การดูแลตัวเอง ให้สามี รู้สึกดี
ถึงเขาไม่ดูแลตัวเอง แต่เราก็ไม่ควรปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้เป็นยายเพิ้ง แรกๆคบกัน หลายๆคนดูน่ารักสดใส พออยุ่ด้วยกันจริงๆแล้วกลับปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ทรุดโทรม ความเบื่อหน่ายย่อมเกิดขึ้นได้ค่ะ
ถ้าลองแหม่ม เป็นคนขี้เหร่ เขาคงไม่คบจนถึงกระทั่งทุกวันนี้ อันนี้คือรูปธรรม


2. เวลาทะเลาะกัน หรือไม่พอใจเขา ไม่ว่าจะแรงแค่ไหน แหม่มจะไม่ใช้วาจา จาบจ้วง เขา แบบหยาบคาย เหมือนที่เขาเจอกับภรรยาเขา แหม่มคิดว่านั่นคือการให้เกียรติ ในตัวเขาและตัวเราเอง การพูดจาด่าทอหยาบคาย คือการประจานตัวเอง คำพูดที่ดีและมีเหตุผล นั่นคือสิ่งที่ เขาได้รับจากแหม่มเวลาทะเลาะกัน แหม่มจะใช้คำพูดสุภาพแต่ฟังแล้ว เสียดแทงใจเขามากกว่า แหม่มว่ามันเจ็บกว่าการที่เราต้องไปด่าทอเขาเสียอีก สำหรับคนแบบผู้ชายคนนี้ เขาเคยถามว่า ต่อไปแหม่มจะเปลี่ยนแปลงมั้ย
ซึ่งตรงนี้เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า เราไม่ใช่ทำดีเพื่อเอาชนะใจเขา แต่ตรงนี้คือนิสัยที่แท้จริงของเรา และ จงลืมๆเรื่องแย่ๆที่เขามีต่อเรา ให้อภัย แล้ว ควรจบ เพราะสิ่งที่เราพูดถึงการกระทำแย่ๆของเขาอีก ไม่ใช่เขาคนเดียวที่รุ้สึกเบื่อหน่าย แต่ตัวเรานี่แหล่ะ ที่เจ็บที่สุดเวลาเอ่ยถึง อภัย เถอะค่ะ จงใช้ใจและความรักที่มี อภัยให้เขา ไม่ว่าเขาจะซึบซาบถึงความดีของเราหรือไม่ก็ตาม แต่มันจะเป็นเหตุหนึ่งที่เขา ยังคิดถึงเราอยู่...


3. ความอ่อนหวานและความเป็นผู้หญิงที่เขาพบเห็นจากเรา ยอมรับว่าผู้หญิงทุกคน มีความเป็นลูกผู้หญิงทั้งนั้น แต่บางอย่างที่ส่วนมากผู้หญิงสมัยนี้ไม่มีคือ ความเป็นแม่บ้านแม่เรือน ทำกับข้าวให้ครอบครัวตนเอง กิน ผู้หญิงสมัยนี้ เก่งข้างนอกบ้านแล้ว ควรจะทำให้ที่บ้านตนเองด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้บ้านเรือนตนเอง รก อย่างที่แหม่มเห็นในห้องของผู้ชายคนนั้น(เขียนไว้แล้ว ว่าเคยไปเห็นสภาพห้องเขา ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาอ้างว่าแฟนเขาแค่เทียวไปเทียวมา ไม่ได้อยุ่ด้วย)แต่ในเมื่อเป็นแฟนกัน และอาจจะเป็นคู่ชีวิตในอนาคตก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยเรื่องงานบ้าน คุณแต่งตัวสะอาด แต่ห้องหับคุณไม่จัดไม่ดูแล ผู้ชายคนไหนจะรู้สึกดีคะ หากคุณทำอะไรให้สามีคุณกินได้ก็ลองๆทำไปเถอะ ทอดไข่ ผัดมาม่าก็ยังดี ใช่ค่ะ คนสมัยนี้ ไม่สนใจในอาหารการกินเท่าที่ควร ตัวเขาและภรรยาเอง ก็ซื้อกับข้าวข้างนอกหรืออาหารแช่แข็งมากิน
ลึกๆๆแล้วถ้าเลือกได้ไม่มีใครชอบกินหรอกค่ะอาหารแบบนั้น แค่กินเพื่ออยู่ไปวันๆเท่านั้นเอง จริงๆแล้ว มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ

3. การให้เกียรติเคราพ ซึ่งกันและกัน แหม่มไม่ได้ให้เกียรติและเคราพผู้ชายคนนี้ ที่การศึกษา หรือ การงานที่ดี แต่เพราะแหม่มถือว่าเขาเป็น สามีแหม่ม ถ้าอะไรที่ไม่ดีแหม่มก็จะแย้งและให้เหตุผลกับเขาทุกครั้ง เถียงได้แต่ไม่ใช่เพื่อเอาชนะ แต่เพื่อให้เขารับรู้ว่า ที่ตำหนิที่ว่าเขานั้นเพราะอะไร ซึ่งตรงนี้เขาบอกแหม่มว่า เเหม่มมีความเป็นผู้ใหญ่ในความคิดมากกว่าภรรยาของเขา

4.ดีกับเขาเสมอต้นเสมอปลาย เหมือนตอนที่เจอกันใหม่ๆ นี่คือสิ่งที่คนส่วนมากมักพบเจอ ใหม่ๆอะไรก็หอมหวาน พออยุ่ด้วยกันสักพัก ธาตุแท้ก็ออก แต่สำหรับแหม่ม เป็นคนยังไง แหม่มก็เป็นแบบนั้นน่ะค่ะ เพราะเราไม่ได้เสแสร้งคบเขาตั้งแต่วันที่เจอ



และถึง ณ.ตรงนี้ อยากบอกกับพี่แฟนต้าว่า ความดี เอาชนะใจได้แค่คนที่ไม่เห็นแก่ตัวและเอาเปรียบเราเท่านั้น

แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ไม่มีทางหรอกพี่แฟนต้า
เพราะเขารับรู้ทุกอย่าง แต่เขาไม่ซาบซึ้งหรอกค่ะ
เขาแค่มองว่าแหม่มเป็นคนดีก็เท่านั้นเอง

แหม่มคบกับเขาแหม่มรู้ค่ะ ไม่มีทางที่เขากับภรรยาจะเลิกกันได้แน่นอน เขาเป็นคนที่รับผิดชอบต่อหน้าที่มาก แม้กระทั่งงานที่เขาทำทุกวันนี้ วันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดราชการ เขาก็ต้องไปทำ ทั้งๆที่ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงหาลู่ทางหาอนาคตใหม่ๆให้กับตนเองมากกว่างาน ที่ทำอยู่แน่นอน แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเหนื่อย ที่จะโดนต่อว่าเรื่องงานไม่ลุล่วง ก็ยังทนทำ ทั้งที่การศึกษาประสบการณ์อย่างเขาสามารถหางานอื่นที่สบายกว่านี้ทำง่ายมาก นี่คือนิสัยของเขา แต่ที่แหม่มอยู่ ที่แหม่มคบ แหม่มยอมรับสถานะ ของตนเอง ถ้าเรายอมรับในสิ่งที่เขาเป็นได้ เราก็จะไม่ทุกข์มากไปกว่าที่เป็น มีหน้าที่อะไรก็ทำของเราไป

พี่คะแหม่มว่า ถ้าคนเรา แค่อยากทำดีเพื่อชนะใจคนอื่น
โดยที่ตนเองต้องเสแสร้ง ต้องอดทน แหม่มว่าเหนื่อยนะแหม่มไม่ทำหรอกค่ะ เพระรุ้ว่าเป็นคนที่ทนอะไรได้ไม่นาน และสักวัน สิ่งที่เราเสแสร้งมันจะเปิดเผย ออกมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งคงใช้เวลาไม่นานเป็นหลายๆปีแน่นอน

อีกอย่างแหม่มรุ้จักนิสัยใจคอผู้ชายคนนี้แล้ว ไม่มีทางจะเปลี่ยนอะไรเขาง่ายๆหรอกค่ะ ฉะนั้น แค่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ก็พอแล้ว อย่าไปคิดครอบครองเขาเลย แค่เขายังคิดถึงเรา เห็นคุณค่าเราบ้างก็พอ...







โดย: Passion Theme วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:13:12:48 น.  

 
ความรัก.. เป็นเรื่องของคน 2คน
ถ้ามีมากกว่า 2 คนขึ้นไป มันก็ค่อนข้างเจ็บ..

ยังไงขอเป็นกำลังใจให้กับคุณแหม่มด้วยค่า


โดย: coco-wine วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:14:02:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Passion Theme
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนเราย่อมมีทั้งดีและเลวปะปนกันไป ในบางเรื่องราวที่อ่าน ผู้เขียน แค่อยากนำเสนอในบางแง่มุม ซึ่งอาจจะมีทั้ง ดีและไม่ดีคละเคล้า กันไป ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ ถ้าเรื่องราว บางอย่างอาจจะไปกระทบกับ ชีวิตของคนอื่นเข้า...
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเข้ามาคอมเม้นท์นะคะ....ชื่อ ของแต่ละคนและสถานที่ๆอยู่ในบล๊อคเป็นเพียงชื่อสมมุติค่ะ
Friends' blogs
[Add Passion Theme's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.