Dr.Danai @ DNT Consultants
Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 มกราคม 2550
 
All Blogs
 

ไขปัญหาคาใจ ธุรกิจ การจัดการ บริหารคน การวิจัยปริญญานิพนธ์ (2)

สามารถคุยกับ ดร.ดนัย เทียนพุฒในด้านการจัดการธุรกิจ กลยุทธ การบริหารคน รวมถึงปัญหาการวิจัยทางธุรกิจได้ที่นี่ครับ


ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants




 

Create Date : 22 มกราคม 2550
20 comments
Last Update : 21 มีนาคม 2550 23:23:41 น.
Counter : 1112 Pageviews.

 

ขอ idea ในการเลือกทำ re search เกี่ยวกับธุรกิจง านก่อสร้างค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่ดนัย
ก่อนอื่นหนูก็ต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ หนูชื่อ สุมนา ค่ะ เป็นนักศึกษาปริญญาโท สาขา วิศวะกรรมและการบริหารงานก่อสร้าง ช่วงนี้เป็นช่วงของการเลือกหัวข้อที่จะทำ research ซึ่งต้องส่งภายในสิ้นเดือนนี้ โดยประกอบด้วย หัวข้อที่ทำ, ความเป็นมาและปัญหา, วัตถุประสงค์, สิ่งที่จะได้จากงานวิจัย etc.
เริ่มต้นหนูเองก็ค้นหาโดยการถามตัวเองว่าสนใจเรื่องอะไร จากนั้นหางานวิจัยที่ผ่านมา และเอกสารความรู้ต่างๆมาศึกษา บทสรุปก็คือ หนูสนใจเรื่องเกี่ยวกับ การจัดการกลยุทธ, การประเมิณองค์กร, พวกKPI, BSC เป็นต้น แต่ว่าหนูเองยังจับจุดไม่ถูกว่า กระแสในงานอุตสาหกรรมการก่อสร้างตอนนี้ สนใจเรื่องอะไรและยังขาดอะไรอยู่ เลยไม่รู้ว่าจะวิจัยไปแนวไหนดี เพราะหนูเองไม่เคยเข้าไปทำงานจริงๆภายในองค์กร เลยไม่ทราบว่ามันมีสิ่งไหนบ้างที่เกี่ยวข้องและเป็นปัญหาในการทำงาน
จากการที่หนูอ่านงานวิจัยของพี่ ทำให้หนูเกิด idea ว่าอยากจะเอามาประยุกต์ทำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พวกบ้านจัดสรร ซึ่งเป็นธุรกิจคล้ายๆงานอุตสาหกรรมทั่วๆไป ก็เลยอยากจะถามพี่ว่า ถ้าหากจะทำงานวิจัยเกี่ยวกับแนวที่ว่านี้ น่าจะวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอะไรดีคะ

sumana_cm@yahoo.co.th

 

โดย: Sumana Soontorn IP: 61.91.178.10 22 มกราคม 2550 10:05:31 น.  

 

ผมเห็นว่าแนวทางที่เดินทาข้างต้นถูกต้องแล้วครับคือ
-การอ่านหนังสือ หรือค้นคว้าในงานที่คิดว่าเป็นความสนใจ
จึงได้ข้อสรุปที่อยากทำวิจัย
สิ่งที่ยังขาดอยู่คือ การศึกษาในธุรกิจที่จะทำการวิจัยดังนั้นจึงควรที่จะเข้าไปศึกษาในธุรกิจก่อสร้างก่อนครับ
ลองดูแนวทางนี้ก่อน
หลังจากนั้นจะได้เรื่องที่น่าจะทำการวิจัย ผมอยากให้ทำอย่างนี้ก่อนจึงจะพิจารณาหัวข้อวิจัยได้ดีครับ

ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai (dnt ) 22 มกราคม 2550 10:21:34 น.  

 

ขอเรียนถามเรื่องการประเมิน

อาจารย์ดนัย ที่นับถือ

ขณะนี้ ดิฉันกำลังทำ IS เรื่องเกี่ยวกับสมรรถนะ
ในแบบสอบถามมีการประเมินโดยใช้
หัวหน้าประเมิน ตนเองประเมิน เพื่อนร่วมงานประเมิน
อย่างนี้จะเป็นการประเมินกี่องศา และจะหาหนังสืออะไรสนับสนุน
เพราะปัจจุบันใช้หนังสือ การประเมินระบบ 360 feedback. ของอาจารย์อ้างอิง
แต่อาจารย์ไม่ได้บอกรายละเอียดในการประเมิน 90 ,180 องศา

นับถือ

สุจิตรา ผ่องผดุง

 

โดย: "sujitra pong" <sujitra_pong@hotmail.com> IP: 58.8.117.148 24 มกราคม 2550 13:19:56 น.  

 

การทำวิจัยในเรื่องการประเมินระบบ 360 องศา ผมเชียร์ให้ทำครับเพราะในเมืองไทยมีการทำและใช้ยังไม่ถูกต้องอยู่เยอะ

สำหรับข้อเท็จจริงการประเมินที่บอกเป้นองศานั้นเป็นการสมมติตามทิศ มิติ หรือ ความสัมพันธ์ของการประเมินเช่น
ประเมิน 1 มิติ คือ การประเมินแบบ Topdown
ประเมิน 2 มิติ คือ การประเมิน แบบ Two-way
หรือ การประเมิน Upward คือ การที่ลูกน้องประเมินผู้บังคับบัญชา
การประเมินตนเอง คือ Self-Evaluation
การประเมิน แบบรอบมิติ หรือหลายทิศทาง คือ Multi-sources rater ที่เมืองไทยเรียกว่า 360 องศา ละครับ
สรุปแล้วการประเมิน ถ้าจะให้ถูกต้องเรียกว่าการประเมินตามแหล่งผู้ประเมิน น่าจะถูกต้องกว่าที่จะไปเรียกว่าประเมิน กี่องศา
ซึ่งถ้าศึกษาตามที่ผมบอกจะมีข้อมูลมากทีเดียวครับ

ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai IP: 58.8.117.148 24 มกราคม 2550 13:32:11 น.  

 

เรียน อาจารย์ดนัย ที่เคารพ

ดิฉันเคยเรียนถามอาจารย์ เรื่องการประเมิน 90 ,180 และ 360 องศา มาแล้ว
อยากขอคำแนะนำจากอาจารย์เรื่องชื่อหนังสือค่ะ เพราะอยู่ต่างจังหวัด

นับถือ

สุจิตรา ผ่องผดุง
"sujitra pong"

 

โดย: สุจิตรา ผ่องผดุง IP: 58.8.126.159 26 มกราคม 2550 15:08:48 น.  

 

เรียนคุณสุจิตรา

เรื่องชื่อหนังสือ เช่น

1.The Handbook of Multisource Feedback (2001) by David W.Bracken and others.
2.Performance Management (1994) by Michael Armstrong (ผมเห็นมีพิมพ์ครั้งใหม่แล้ว)
3.Managing & Measuring Employee Perormance (2006) by Houldsworth and Jirasinghe

หากหาหนังสือยากผมคิดว่าในฐานข้อมูลออนไลน์ ของ Emerald (WWW.EMERALDINSIGHT.COM)
จะช่วยได้มากครับถ้า มหา'ลัย เป็นสมาชิกอยู่

ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai IP: 58.8.126.159 26 มกราคม 2550 15:21:55 น.  

 

เรียน อาจารย์ดนัย ที่เคารพ
คือผมเป็นคนที่มีความสนใจส่วนตัวในเรื่องของการตลาด ที่ผมอยากได้ไอเดียใหม่จากอาจารย์ คือ ผมสังเกตเห็นรายการโทรทัศน์ในปัจจุบันพบว่ากระแสรายการโทรทัศน์ที่ทำยากที่สุดในความคิดของผมคือ รายการธรรมะ เพราะมันออกจะเป็นรยาการแบบEducation ผมจึงอยากให้อาจารย์ช่วยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ถ้าจะสร้างรายการธรรมะรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองกับคนทุกวัย ไม่น่าเบื่อ ผมควรจะมีสิ่งใดที่แตกต่างจากรายการธรรมะทั่วไปในปัจจุบันดีครับ

สุทธิศักดิ์ เด่นเพชรกุล
murder_doll@hotmail.com

 

โดย: สุทธิศักดิ์ เด่นเพชรกุล IP: 202.28.181.10 26 มกราคม 2550 23:23:46 น.  

 

เรียนคุณสุทธิศักดิ์

น่าสนใจมากครับที่จะสร้างรายการธรรมะในรูปแบบใหม่
ก่อนอื่นผมเองได้มีโอกาสดูรายการธรรมอยู่บ้างและล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 27 มค.50 ได้เห็นรายการธรรมะ ตอน ตี่หนึ่งกว่า ๆ ซึ่งทำให้สงสัยว่าใครจะเปิดดู หรือ มีกลุ่มพิเศษที่สนใจดู

ประการแรก ถ้าคิดในเชิงการตลาด
ผู้บริโภคสนใจหรือเชื่อผู้ที่เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล เช่นดารา คนดัง ผู้นำประเทศที่เป็นที่ยอมรับ ว่าไม่โกงและทำร้ายประเทศชาติตนเองทั้งในทางลับและทางแจ้ง
หรือ พระที่มีความสามารถทั้งทางธรรม และทางเทศน์

ดังนั้นการเลือกผู้ที่จะมานำเสนอต้องจะต้องมีคุณลักษณะดังนี้
1.เป็นผู้ที่มีอิทธิพล ต่อผู้ดูรายการธรรมะ
2.ต่อมา การคิดออกนอกกรอบ คือ ผู้ที่มาพูดหรือสนทนาธรรม จึงไม่จำเป็นต้องเป็น พระ หรือ แม่ชี เสมอไปยกเว้นว่าเป็นระดับดาราจริงๆ (ติดตลาด) เช่น พระพยอม ท่านเจ้าคุณวัดสุทัศน์ ฯลฯ
เนื่องจากพอเปิดเจออะไรสีขาว ๆ หรือเหลือง ๆ เราก็กดรีโมทเปลี่ยนช่องแล้ว
3.ถ้าเปลียนการแสดงธรรมเป็นการ สนทนาธรรม โดยคนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆ และเป็นที่ยอมรับ คล้าย ฟอรัมการสัมมนา ดูจะน่าสนใจกว่ารูปแบบแสดงธรรม ทางทีวีที่เห็น

ประการสำคัญ วิธีการใหม่ในการนำเสนอ

คงต้องคิดในเชิงการตลาดแบบ IMC (การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ Integrated Marketing Communication ) คือ ใช้ทุกรูปแบบของการสื่อสารการตลาด เช่น Direct marketing Event marketing PR etc

ผมได้ดูรายการ Discovery ที่ไปศึกษาวิธีการเผยแพร่พุทธศาสนาของวัดเส้าหลิน ซึ่งเมืองไทยน่าจะทำได้

-เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินจะมีการเดินสายไปบรรยายทั่วโลก ในเรื่อง กำลังภายในและมวยจีนของวัดที่โด่งดังและสอดแทรกการสอนธรรมไปด้วย
-คนทั่วโลกรู้จักวัดเส้าหลินเพราะมวยจีน หรือ กังฟู ในความจริงคือ การปฎิบัติธรรม และทำสมาธิ ดังนั้นทำอย่างไรจะให้คนสนใจ
จึงไปจ้างนักเขียนการ์ตูน ชาวไต้หวัน มาวาดภาพการ์ตูนกังฟูของวัดเส้าหลิน แล้วทำเป็นหนังการ์ตูนเผยแพร่
ยิ่งทำให้ วัดเส้าหลินโด่งดังมีคนสนใจมาเยี่ยมชมและบริจาคมากขึ้น
-วัดเส้าหลินใช้วิธีการเผยแพร่ศาสนาและมวยกังฟูวัดเส้าหลิน โดยทำในรูป แฟรนไชส์ คือ รูปแบบคล้าย 7-11 ไปทั่วโลก
ประการสุดท้ายสำหรับประเทศไทยเราเผยแพร่ศาสนาอย่างตามบุญตามมี

-ซึ่งจะอยู่ที่เจ้าอาวาส และศรัทธา จะทำอะไรก็ว่ากันไป เช่น วัดม่วงแถว ๆ สระบุรี ปั้น รูปเปรต เยอะไปหมด บ้างวัดก็สร้างศิลปะอลังการณ์ บางวัดก็มีกิจกรรมรำวงกลองยาวแก้บน ฯลฯ
-เราไม่มีแก่นหลักที่เป็นวิชาการในการเผยแพร่ศาสนา
เช่น ถ้าวัดชลประทาน หรือ สวนโมกข์พลาราม เป็นเสาหลักแห่งพุทธธรรม ในการเผยแพร่ ก็ปรับวัดต่าง ๆ ให้เป็นสาขาของวัดดัง ๆ ข้างต้นจะได้มีรูปแบบการจัดการวัดและธรรมที่มีรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ
-คงต้องกำหนดวิธีการในการเข้ามาสู่พุทธศาสนา

เช่น ศรัทธาเข้ามาบวชตามประเพณี เปิดทั่วไป
ศรัทธาที่จะเข้ามาดำรงและสืบต่อพระพุทธศสานาต้องจบอย่างต่ำปริญญาตรี
พระหรือ ผู้ที่จะเผยแพร่ธรรมะทางการสื่อสารการ
ตลาด จะต้อง
1.มีวุฒิทั้งทางโลกและทางธรรม
2.ต้องผ่านหลักสูตร การสอน และวิธีการสื่อสารรู้จักพฤติกรรมผู้ฟัง
3.มีสถาบันทำการพัฒนา ผู้ที่ทำหน้าที่นี้อย่างต่อเนื่อง และ1 และ 2 จะต้องกลับมาทบทวนในกรณีที่มีพัฒนาการใหม่
4.ต้องมีรายได้พอประมาณในการไปพัฒนาตนเองให้ก้าวขึ้นใน 3 ระดับคือ
4.1 ระดับประเทศ
4.2 ระดับภูมิภาค
4.3 ระดับนานาชาติ
ผมอยากเห็นวันที่พุทธศาสนา สามารถดำเนินตามนี้ได้ ประเทศชาติ และมนุษยชาติคงดีกว่านี้ (ไม่ใช่เพื่อศรัทธาไปจับปืนฆ่าคน ดังทีเห็นและเป็นอยู่)

ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai IP: 58.8.122.196 29 มกราคม 2550 10:22:02 น.  

 

ขอบคุณครับที่ให้แนวคิด

นับถือ
สุทธิศักดิ์ เด่นเพชรกุล

 

โดย: สุทธิศักดิ์ เด่นเพชรกุล IP: 202.28.181.10 31 มกราคม 2550 21:59:18 น.  

 

การเข้าสู่ธุรกิจที่ปรึกษา-
เป็นไปได้อย่างไร

 

โดย: Kraikij IP: 58.8.122.94 15 กุมภาพันธ์ 2550 14:29:14 น.  

 

ในเรื่องนี้คงต้องมีข้อมูลมากกว่านี้ครับ
แต่ในทรรศนะของผมถ้าเป็นเรื่องที่เราเชี่ยวชาญและยิ่งมีคนทำได้น้อยก็มีโอกาสสูงมากครับ

ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai IP: 58.8.122.94 15 กุมภาพันธ์ 2550 14:30:23 น.  

 

Qualification ของการเป็น HR Professional มีอะไรบ้างค่ะ
โดยคุณ Keaw

 

โดย: คุณ Keaw IP: 58.8.122.94 15 กุมภาพันธ์ 2550 14:30:59 น.  

 

ผมได้เขียนไว้บ้างใน หนังสือ การบริหารทรัพยากรบุคคลสู่ศตวรรษที่ 21 ในเรื่องที่ว่าด้วย
The Competencies Model for HR Manager
ถ้าจะตอบย่อ ๆ ในที่นี้
- จะต้องมีความรู้ทางด้าน HR สมัยใหม่ ที่เน้นทางด้านทุนมนุษย์
- มีพื้นฐานที่ดีทางด้าน กลยุทธ และการจัดการธุรกิจที่สามารถแปลไปสู่ HR ได้ทุกระบบ
-ความจำเป็นที่จะต้องรู้ด้าน ICT เพื่อการมาปรับใช้ในงาน HR
-คิดเชิงกลยุทธได้เพื่อมอง คนในเชิง " Strategic Player" จึงจะสามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้าน HR ให้เกิดขึ้นในองค์กร
ฯลฯ


ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai IP: 58.8.122.94 15 กุมภาพันธ์ 2550 14:31:56 น.  

 

เรียนถามอาจารย์
หนูกำลังเรียนโท ที่เกาหลี ด้าน Public Policy ทีนี้มี สอง สามวิชาที่ใหม่สำหรับหนูมาก เพราะไม่มีพื้นฐานมาก่อน
-Quantitative Methods
-Analysis Marketing & Public Policy
-Cultural Policy
หนูจะหาอ่านหนังสือเหล่านี้ที่เป็นภาษาไทยได้จากไหนบ้างคะ แนะนำด้วยค่ะ

 

โดย: มัดหมี่ (Princess in the Blue ) 16 กุมภาพันธ์ 2550 23:43:16 น.  

 

ผมขอแนะนำว่า
-Quantitative Methods ไม่แน่ใจว่าเข้าใจตรงกันหรือไม่ปกติจะเป็นวิธีการทางคุณภาพ เช่น การศึกษาหรือวิจัยทางคุณภาพ ซึ่งจะมีภาษาไทยค่อนข้างเยอะเลยครับ
สำหรับการศึกษาด้าน Public Policy น่าจะใช้วิธีการดังกล่าวมากกว่า Qualitative Methods

-Analysis Marketing & Public Policy
ภาษาไทยอาจจะหายากครับ เพราะ เป็นสิ่งที่เพิ่งพูดกันในช่วง 2-3 ปีมานี้ ผมเคยเห็นบทวิเคราะห์ในเวบไซท์ด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ได้พูดในเรื่อง Marketing based economy รวมถึงการกำหนดนโยบายของรัฐบาลด้วย และถ้าในเมืองไทย รัฐบาลที่แล้วใช้เรื่องนี้ เกิน ร้อย %
แต่ถ้าการเมืองในสหรัฐอเมริกา จะเรียนเรื่องเหล่านี้ครับ " คงต้อง google it ครับ"

-Cultural Policy ผมคิดว่า ของเกาหลีมีให้ศึกษามากกว่าของบ้านเราครับ ลอง ค้น ในเรื่องหรือ หัวข้อ " The Korean Wave " ของเกาหลีดูครับ เพราะ เขาเรียกว่าหรืออ้างว่าเป็นวัฒนธรรมใหม่ของเอเซีย

สำหรับที่น่าสนใจอีกอันคือ ของประเทสจีนใช้นโยบายด้านวัฒนธรรมผ่านทาง "สถาบันขงจื๊อ "

และส่วนใน US นั้นจะเรียกว่า Creolization
หนังสือภาษาไทยคงหายากครับ


ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai IP: 58.8.116.145 18 กุมภาพันธ์ 2550 1:08:53 น.  

 

สวัสดีค่ะ ท่านดร.ดนัย เทียนพุฒ
ดิฉัน อยากทราบการทำธุรกิจแบบดีพาร์ทเมนต์สโตร์ค่ะ
ว่ามีหลักการอย่างไร และในปัจจุบีนนี้การแข่งขันรุนแรงมากน้อยเพียงใด และลักษณะการดำเนินงานเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

 

โดย: muaylek IP: 124.157.189.220 21 กุมภาพันธ์ 2550 13:15:27 น.  

 

จากประสบการณ์ของผมในการทำงานกับธุรกิจค้าปลีก (ห้างสรรพสินค้า ค้าส่ง ค้าปลีก ร้านโชห่วย ฯลฯ )

หลักการสำคัญ 3 อย่างแรกคือ

-สิ่งแรกต้องมีความเข้าใจในธุรกิจที่ทำซึ่งก็มีหลายรูปแบบ
ทั้ง ห้างสรรพสินค้า(Department Store) ค้าส่ง ( Whole sales) Supercenter/DiscountStore Food Center Speciality Store / Category Killer Convenience Store/G-Store etc.

-เราจะเข้าไปทำในส่วนตรงไหนของ ซัพพลายเชน แต่ที่สำคัญมากต้องเป็นสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ อาจจะมาจากครอบครัว เคยทำงานในธุรกิจนี้มาก่อน หรือ ร่ำเรียนมาโดยตรง

-สิ่งสุดท้ายแต่สำคัญมาก จะทำด้วยBrand ของตนเอง หรือ อาศัย Global Brand หรือ Chain Store ที่ดังติดตลาดอยู่แล้ว

ส่วนที่สำคัญรองลงมา คือ 5'Ms ที่รู้จักกันดีอยู่แล้วครับ

"สภาพการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีก( Retailing ) "

ต้องบอกว่าในปัจจุบันสูงมาก หน้าใหม่ที่จะเข้ามาแข่งขันได้คงต้องเป็นยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศเท่านั้น
ส่วนผ้ประกอบการไทยที่อยากทำธุรกิจนี้ คงต้องอาศัย Chain Store หรือ Brand ของเจ้าที่ดัง ๆ แล้วเท่านั้น หรือ
ไม่ก็เป็น โชห่วยในซอยลึก ๆ ในหมู่บ้านไกล ๆ ในคอนโด หรือ อพาทเมนต์

การดำเนินงานเป็นเรื่อง "ง่าย ๆ ซื้อมาถูก ๆๆ ขายปริมาณมาก ๆ ๆๆ หมุนเวียนเร็ว ๆๆๆ"

ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai IP: 58.8.122.47 22 กุมภาพันธ์ 2550 9:43:01 น.  

 

เรียนถามท่าน ดร.ดนัย ครับผม
อยากทราบความคิดเห็น การบริหารงานกับนิทานตาบอดคลำช้าง ท่านเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อธิบายโดยละเอียด ให้ผู้โง่เขลาทราบด้วยครับผม กราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง มา ณ ที่นี้ ครับผม

 

โดย: คนโง่ IP: 203.113.61.40 22 กุมภาพันธ์ 2550 14:37:02 น.  

 

เรียนอาจารย์ดนัยที่นับถือ

ดิฉันกำลังเรียน MBA/HRM เป็นเทอมที่สองที่อังกฤษค่ะ รู้สึกหนักใจในหลาย ๆ วิชาเพราะเนื้อหาวิชาใหม่สำหรับความรู้หรือสิ่งที่เคยเรียนมาก่อน อยากเรียนถามอาจารย์ในเรื่อง change management ค่ะ คือดิฉันได้งานมาชิ้นหนึ่งให้เขียนเกี่ยวกับ "the manner in which Leadership can be used within the change process and how it can support managing the complexity of organisational change". ดิฉันรู้สึกว่าหัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่กว้างมาก จึงอยากขอคำแนะนำอาจารย์ว่าดิฉันควรจะเริ่มค้นคว้าอย่างไร และในงานเขียนนั้นควรจะครอบคลุมเรื่องอะไรบ้าง ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

โดย: มณีรัตน์ IP: 138.253.85.32 23 กุมภาพันธ์ 2550 18:57:08 น.  

 

การบริหารงานกับนิทานตาบอดคลำช้าง

ในเรื่องของตาบอดคลำช้าง
ถ้าจะพูดไปแล้วเป็นการอุปมาอุปไมยครับ

หมายความว่า
1.คนเรานั้นมีภูมิหลัง การศึกษาและประสบการณ์ที่แตกต่างกันจึงทำให้การมองสิ่งเดียวกันแต่รับรู้และตีความออกมาในแนวคิดหรือทัศนะที่ต่างกัน เหตุเพราะความแตกต่างตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
2.และด้วยสิ่งที่แตกต่างกันนั้นทำให้คนเรามีความยึดมั่นถือมั่น มีทิฐิ และยอมรับคนอื่นยาก ซึ่งนำไปสู่การมีความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน

ผู้บริหารที่มีความสามารถจะต้อง
-เข้าใจถึงความแตกต่างของคนที่มีอยู่หรือ ทำงานร่วมทีมภายในหน่วยงาน
-ใช้ความสามารถในการบริหารเพื่อดึงความแตกต่างของคนเหล่านั้น มาทำงานให้บรรลุภารกิจ หรือ เป้าหมายขององค์กรให้ได้อย่างชาญฉลาด

ผมเห็นว่าผู้ที่อุปมาอุปไมยเรื่องนี้เก่งทีเดียว (ไม่แน่ใจว่าเป็นของผรั่งชาติใดเพราะเคยอ่านพบและเห็นไว ๆ ครับ)
สรุปแล้วคงทราบนะครับว่าผมเห็นอย่างไร


ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

 

โดย: Dr.Danai IP: 58.8.117.78 24 กุมภาพันธ์ 2550 5:55:52 น.  


dnt
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




ที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำด้านจัดการกลยุทธ
( ผู้นำและริเริ่มการจัดทำ Balanced
Scorecard & KPIs)
การบริหาร HR ที่เน้นความสามารถ
(Competency Based Approach)
การพัฒนา HRD-KM และ
การจัดการสมัยใหม่
*************************
Friends' blogs
[Add dnt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.