Have a nice day!!!
วันนี้ต้องการได้ยินคำนี้มากๆๆๆๆๆ...เริ่มที่เมื่อเช้านี้ก่อนออกจากบ้านมาทำงาน เกิดความรู้สึกแปลกๆ สังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ทุกทีไม่เคยรุ้สึกแบบนี้มาก่อนเลยแต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก เราคงคิดมากไปเองเปิดวิทยุฟังข่าวในรถไปเรื่อยเปื่อย ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เหลือบมองนาฬิกา ใกล้จะ 8 โมงเช้าแล้ว รถราบนท้องถนนก็เยอะมากๆในช่วงเวลารีบเร่งแบบนี้ บางคันก็พยายามเบียด แทรก แซง เพื่อให้ตัวเองได้ไปก่อน...โห...มันจะเป็นไปได้ยังไงเนี่ย รถติดเป็นแพแบบนี้ ขับตามๆกันไปจะดีกว่ามั้ยใกล้จะถึงที่ทำงานเราอยู่แล้ว แต่ความรุ้สึกแปลกๆมันยังไม่หายไป แปลกจัง...รถก็ขยับวิ่งกันไปได้เรื่อยๆ มีเบรคบ้างเป็นระยะ จนถึงแยกไฟแดงสุดท้าย รถคันข้างหน้าเรา 2 คันจอดติดไฟแดงอยู่ก่อนแล้ว เราก็ชะลอ แล้วเหยียบเบรคเพราะติดไฟแดง ซึ่งปกติเราเป็นคนไม่ขับรถจี้ติดคันหน้า ก็จะเว้นระยะห่างประมาณ 2 เมตรเสมอ เผื่อว่าเกิดคันหน้าเบรคกะทันหัน ก็จะหยุดรถได้ทันขณะที่รถเราจอดสงบนิ่งติดไฟแดงอยู่นั้น เราก็มองไปที่กระจกส่องหลังเห็นรถคันทีตามหลังมา ทำท่าชะลอรถเตรียมจะจอดติดไฟแดงเหมือนกัน แต่เรารู้สึกสงหรณ์ใจยังไงก็ไม่รู้ เพราะรถเขาเหมือนชะลอๆ มีการเหยียบเบรคแล้ว แต่ยังไม่จอด กลับขยับใกล้รถเราเข้ามาทุกขณะ ในใจเราคิดว่า ชนแน่ๆ ถ้าเธอไม่จอดรถตอนนี้...โครม!!! ชนจริงๆด้วย ทำไมลางสังหรณ์เราจึงแม่นได้ขนาดนี้...งงตัวเองเหมือนกันว่าชนได้ยังไงเนี่ยในเมื่อเราจอดสงบนิ่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้เบรคกะทันหันอะไรเลย...วินาทีนั้นรู้สึกเซ็งชีวิตมากๆ เราเปิดไฟฉุกเฉิน แล้วลงมาจากรถ เพื่อที่จะพูดคุยกับคู่กรณี ตอนนั้นรถก็ยังติดไฟแดงอยู่ ...อารมณ์ตอนนั้นก็ไม่ได้โกรธคนชนเลย แต่ออกแนว เซ็งๆ มากกว่า เพราะมันเสียเวลา ทั้งเรื่องเคลมประกัน และรอรถซ่อม ... เราเดินไปที่รถคู่กรณี มองเข้าไปเห็นเป็นผู้หญิง เธอยังคงไม่ลงจากรถ จนเราเดินเข้าไปใกล้ เธอถึงเปิดประตูรถแต่ก็ยังนั่งอยู่ในรถเหมือนเดิม"ฮ่า ฮ่า ฮ่า รถพี่ xxx เองเหรอ รถเป็นอะไรมากหรือเปล่าพี่" นั่นเป็นประโยคแรกที่เธอพูดกับเรา ...กลายเป็นว่าคนที่ชน เป็นน้องผู้หญิงที่ทำงานในบริษัทเราเองแต่อยู่กันคนละแผนก ...ถึงตอนนี้เราเซ็งยกกำลัง 2 เลย...เราก็ไม่รุ้จะพูดยังไงเลย ถามน้องเขาไปแค่ประโยคเดียวว่า "ขับรถยังไงเนี้ย" แล้วก็ให้ขับตามกันไปคุยที่บริษัทต่อ เพราะถ้าจอดตรงนั้นแล้วรอประกันมาเคลมก็จะทำให้รถคันอื่นติดกันไปหมด อีกอย่างคนกันเองก็ไม่อยากทำให้มันเรื่องมากไปพอถึงที่บริษัท เธอก็ขอโทษเรา รับว่าตัวเองผิดเอง (แน่ละน้อง ผิดเต็มๆเลย) เธอว่าเธอเบลอๆ แล้วคิดว่าเดี๋ยวค่อยเบรคใกล้ๆ อีกนิดคงไม่เป็นไร ไม่นึกว่าจะชน เธอว่าเธอกะระยะผิด...เฮ้อ...พี่ฟังแล้วกลุ้มเลย เธอบอกว่าจะตามประกันของเธอมาเคลียให้วันนี้ตอนบ่าย 2 ...นี่บ่าย 2 กว่าๆ แล้วน้อง พี่ยังไม่เห็นประกันของน้องเลย ความเซ็งของพี่เริ่มเป็นยกกำลัง 3 แล้วน้องเอ๊ย! เฮ้อ..ก็หวังว่าเรื่องแย่ๆของวันนี้ มันจบแค่นี้นะ...ได้มาเขียนระบายความเซ็งใน blog นี่ก็ช่วยได้เหมือนกันนะเนี่ย ยังไงเราก็ขอให้เพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน blog เราHAVE A NICE DAY! ค่ะ
ขอให้พรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้นะคะ ท่องเข้าไว้ๆ