
พร้อมแล้ว ก็นั่งประจำที่ตาม seat ที่ระบุบนตั๋วค่ะ ขอสำรวจภายในรถไฟด่วนกันหน่อยนะคะ
ซึไกไลน์เนอร์ไฮเทคฯ นี้ ถูกออกแบบมาตาม concept คือ เร็วและสะดวกสบายค่า
เริ่มจากที่นั่ง กว้างกำลังดี มีปุ่มพาวเวอร์ตรงอาร์มสำหรับปรับหมุนเอนเบาะได้ตามใจชอบด้วยนะคะ
นอกจากนี้ ยังมีโต๊ะหน้าที่นั่ง (เหมือนบนเครื่องบิน) ที่ปลดล๊อคเพื่อใช้วางของได้อีก
โดยรวมแล้ว Skyliner ก็ดีเลิศไปหมดทุกอย่างค่า
ที่สำคัญ คือ Fare หรือราคา มันช่างสูงจริง แพงจริง ถ้าไม่ได้รีบอะไรมากมาย
แนะนำว่า นั่ง Keisei Main Line LTD EXP ราคา 1000 yen ก็อะเครนะคะ
( Fare ในช่วง JAN14 )
แต่ว่า พุทราจำเป็นค่า เรานัดเดอะแกงส์ที่เดินทางมาล่วงหน้า และ flight ยังมาดีเลย์อีก งานนี้ เลยต้องยอมจ่ายแพงค่า
มาถึงจุดหมายที่สถานี Ueno (ในภาพเป็น Subway Metro Ueno) เราขอไป Check In+ฝากสัมภาระที่โรงแรมกันก่อนค่า
ทริปนี้ พุทราและพี่ๆน้องๆ เลือกที่พักที่ The Sutton Place Hotel ย่าน Ueno
ที่นี่ พุทราเคยมาพักและสมัคร member ไว้ตอนมาเที่ยวโตเกียวเมื่อหลายปีก่อน
มีเวลา จะทำรีวิวห้องพัก สำหรับเป็นอีกทางเลือกให้เพื่อนๆที่จะมาเที่ยวนะคะ
Check In เรียบร้อย ก็สอบถามเรื่อง Wifi Pocket ที่จองออนไลน์ ระบุรับเครื่องที่โรงแรมค่ะ
ส่วนใหญ่ ที่ญี่ปุ่นหา Free Wifi ยากมากจริงๆ ค่า ที่สำคัญ ทริปนี้ มากัน 8 คน
เราเลยต้องมีอุปกรณ์ช่วยเพื่อใช้ในการติดต่อกันค่ะ
พุทราสอบถามพี่ๆ ที่ทำงานที่เป็นสาวกเจแปน พี่เค้าแนะนำของ Global Advanced ค่ะ
การใช้งาน ง่ายมากค่า แค่เปิดที่ปุ่มด้านหน้าค้างไว้ ใส่ Username&Password ด้านหลังเครื่อง
แล้วเปิด Wifi ที่ smart phone เราก็สามารถ join สัญญาณกันได้แล้วค่า
ทริปนี้ เราจอง Pocket Wifi 2 เครื่อง เลือกแบบความเร็ว 75 Mbps ใน period 1-4 Days ราคา 3,960 เยน(ต่อเครื่อง) ค่ะ
ส่วนประสิทธิภาพการใช้งาน โดยรวม ก็แรงดีในระดับหนึ่งนะคะ คือ ถ้าไม่ได้อยู่ในจุดอับสัญญาณ
ใน Subway ใช้งานได้ค่ะ แต่ที่ Meji Jingu Shrine สัญญาณรับไม่ได้ค่ะ
Trip Tokyo (Day1) ขอซาโยนาระกันตรงนี้ก่อนน๊า
NexT BloG....
GirL GanG on Tour...ตามมาสนุกกันต่อในทริป Day2 คร่า