12 สูตรสวย ด้วยผักและผลไม้ใกล้ตัว ภาค 1
ห่างหายไปนาน วันนี้เลยนำบทความดีๆ มาฝากสาวๆ ที่รักสวยรักงามส่วนหนุ่มๆ จะนำไปใช้บ้างก็ได้นะครับไม่ว่ากัน ขอบคุณบทความจากวารสารหมอชาวบ้าน //www.doctor.or.th/article/detail/1260 การดูแลผิวหน้าด้วยสมุนไพรของสตรีทั่วโลกพบว่ามีการใช้กันมานานมากกว่า ๑พันปีมาแล้วปัจจุบันได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าสมุนไพร ผัก ผลไม้ไข่แดง น้ำผึ้ง นม และสิ่งที่ส่วนใหญ่กินได้เหล่านั้นอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่โปรตีน น้ำตาล และสารธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ประเทศไทยเองมีภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรในการดูแลผิวพรรณมาอย่างยาวนานเช่นกันทั้งยังเป็นประเทศที่ร่ำรวยผักและผลไม้ ซึ่งทำให้สามารถเลือกใช้ได้ตามชนิดต่างๆทุกฤดูกาล ตามภูมิภาคที่สามารถหาผัก ผลไม้ สมุนไพร ได้แตกต่างกันไป สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า ใบหน้าเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำให้คนจดจำผิวหน้า ที่ชุ่มชื้น เรียบเนียน มีความยืดหยุ่น (หรือที่เรียกกันว่าหน้าเด้ง)ไม่มีจุดด่างดำเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่ด้วยสภาพของวัยที่สูงขึ้นและมีโรคประจำตัวบางอย่าง สภาพของวิถีชีวิตเช่น นอนดึก สูบบุหรี่ ดื่มสุรา เครียด เป็นต้นทำให้คนเราไม่สามารถมีผิวเรียบเนียนเช่นนั้นได้การใช้สมุนไพรร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจะส่งผลทำให้มีผิวพรรณที่ดีได้ยาวนาน การใช้สมุนไพรสำหรับผิวหน้ามีหลักการง่ายๆ ดังนี้ - ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสะอาด - สมุนไพรสดใหม่มีคุณภาพดีมีการย่อยขนาดจนละเอียด ไม่มีการระคายเคืองต่อผิวหนัง - เป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยจำง่ายๆ ก็คืออะไรที่กินได้ (เช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ)นั้นสามารถใช้เป็นเครื่องสำอางได้ - ต้องเชื่อมั่นธรรมชาติของผิวหนังที่มีกลไกดูแลตัวเองอยู่แล้วต้องรักษากลไกนั้นไว้นานๆ ข้อควรรู้เกี่ยวกับผิวหนัง ผิวหนังมีหน้าที่ห่อหุ้มอวัยวะภายในมีกลไกในการป้องกันผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ควบคุมอุณหภูมิ ควบคุมการซึมผ่านของสารต่างๆผ่านโครงสร้างของผิวหนัง รูขุมขน ต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ ผิวพรรณที่ดีควรมีความชุ่มชื้นเต่งตึง ไม่แห้งผาก ผิวพรรณที่แห้งผากจะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัย เป็นฝ้าเป็นโรคทางผิวหนังได้ง่าย ซึ่งผิวพรรณจะเต่งตึงได้จาก ๓ องค์ประกอบได้แก่ น้ำซึ่งเป็นองค์ประกอบของเซลล์ถึงร้อยละ ๙๕ สารชุ่มชื้นตามธรรมชาติซึ่งผิวหนังสร้างขึ้นและ น้ำมันซึ่งผิวหนังจะมีกลไกการสูญเสียน้ำโดยมีการสร้างไขมันธรรมชาติปกป้องไม่ให้น้ำระเหยไปจากผิวหนัง(ครีมหรือไขมันตามธรรมชาติไม่ได้ไปเพิ่ม) การล้างหน้าด้วยน้ำร้อน การล้างหน้าบ่อยเกินความจำเป็น การล้างหน้าด้วยสบู่ที่มีความสามารถในการทำความสะอาดสูงๆล้วนทำให้ไขมันและสารที่ให้ความชุมชื้นตามธรรมชาติสูญเสียไป ผิวพรรณสะท้อนสุขภาพภายในความแข็งแรงและกลไกของผิวหนังขึ้นกับเลือด น้ำเหลืองที่มาหล่อ- เลี้ยง ดังนั้นความเครียด อาหาร การออกกำลังกาย พฤติกรรมสุขภาพ ล้วนแล้วแต่มีผลต่อความงามของผิวพรรณรวมถึงกรรมพันธุ์ก็มีส่วนสำคัญต่อการเป็นคนผิวแห้ง ผิวมัน ได้เช่นกัน สมุนไพรที่ใช้เพื่อความงามของผิวหน้า ว่านหางจระเข้ Aloe barbadensis Mill. ป้องกันผิวแห้งทำให้เรียบลื่น เพิ่มความชุ่มชื้นต้านการอักเสบ ป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่ใช้เป็นเครื่องสำอางมาอย่างยาวนานนับพันปีมีบันทึกทั้งใน กรีก โรมัน ซาอุดีอาระเบีย จีน อินเดียเล่ากันว่าเจลจากว่านหาง-จระเข้เป็นเคล็ดลับความงามของพระนางคลีโอพัตรา ใบว่านหางจระเข้มีน้ำเมือกและวุ้นมีสารสมาน ผิวช่วยลอกผิวหนังที่หยาบแห้งและเกิดผิวหนังใหม่ ที่นุ่มนวลขึ้นมาแทนสารนี้เป็นสารช่วยย่อยมีชื่อว่า คาร์บอกซีเพปทิเดส (carboxypeptidase) และสารพวกสารเมือก (mucilage) สารช่วยย่อยตัวนี้จะมีฤทธิ์ลดการเจ็บปวดการอักเสบบวมของแผล ส่วนสารอะล็อก-ทินเอ (aloctin A) เป็นไกลโคโปรตีน จะไปช่วยทำให้เนื้อเยื่อที่ตายแล้วถูกทำลายไปและจะเพิ่มปริมาณของเซลล์ที่เกิดมาใหม่ให้มากขึ้น จึงทำให้แผลหายเร็ว วุ้นจากว่านหางจระเข้ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิวหนังชั้นนอกได้จากสารเมือกและสารโพลีแซ็กคาไรด์ การเตรียมว่านหางจระเข้ ควรใช้ว่านหางจระเข้อายุ๑ ปีขึ้นไป เลือกใบล่างสุด ปอกเปลือกออกใช้ส่วนที่เป็นวุ้นใสๆล้างน้ำยางสีเหลืองออกให้หมดวิธีล้างยางออกให้หมดต้องนำใบหางจระเข้ที่เพิ่งตัดออกมายังไม่ต้องปอกเปลือกให้นำทั้งใบไปแช่น้ำจนน้ำยางสีเหลืองไหลออกมาจนหมดจึงนำไปล้างน้ำอีกครั้งแล้วจึงค่อยปอกเปลือก โดยฝานลึกๆเอาแต่วุ้นข้างในแล้วนำวุ้นมาล้างอีกครั้งหนึ่ง การใช้ว่านหางจระเข้ ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาบริเวณที่เป็นสิวจะทำให้สิวยุบตัว และไม่เป็นแผลเป็น ใช้เจลจากใบสดๆตัดเป็นชิ้นขนาดพอดีกับ เปลือกตาวางทับบนเปลือกตารักษาผิวบริเวณดวงตา บวมช้ำ ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ล้วนๆทาที่ใบหน้าทิ้งไว้เพื่อบำรุงผิว(สำหรับคนหน้าแห้งอาจจะผสมกับครีมทาหน้าทั่วไปก็ได้) ซึ่งจะช่วยแก้ไขรอยหมองคล้ำทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ลบรอยเหี่ยวย่น ใช้เป็นประจำจะลดรอยแผลเป็นจากสิว รักษาฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้า ใช้ทาบนผิวหน้าในลักษณะของโทนเนอร์เพื่อป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตหรือเป็นรองพื้นสำหรับคนที่ผิวมันซึ่งทำให้แต่งหน้าลำบากใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาให้ทั่วใบหน้า เสร็จแล้วแต่งหน้าตามปกติทำให้เครื่องสำอางบนใบหน้าไม่ลบเลือนง่าย ใช้พอกหน้าเพื่อแก้ปัญหาผู้ที่มีรูขุมขนกว้างโดยใช้ว่านหางจระเข้ ๓ ส่วน น้ำผึ้ง ๑ ส่วน น้ำมะนาว ๑ ส่วนผสมให้เข้ากันพอกหน้าทิ้งไว้ ๒๐ นาที จึงล้างออก จะช่วยสมานรูขุมขนและทำให้ผิวหน้านุ่มเนียนขึ้น ใช้ทำเป็นครีมล้างหน้าครีมพอกหน้า เช่น ใช้วุ้น ว่านหางจระเข้ ผสมน้ำนม ทิ้งไว้สัก ๑๐-๑๕ นาทีแล้ว ล้างออก บำรุงผิว ลดการเกิดสิวหรือใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ร่วมกับสมุนไพรตัวอื่น เช่น ว่านหางจระเข้ ๖ ส่วน บัวบก๒ ส่วน รำข้าวสาลี ๒ ส่วน นม ๐.๕ ส่วน น้ำผึ้ง ๐.๕ ส่วน ซึ่งแล้วแต่สภาพผิว ถ้าผิวแห้งก็ใส่นมมากถ้า ผิวมันก็ลดปริมาณนมแล้วเพิ่มปริมาณน้ำผึ้ง นำส่วนผสมมาปั่นผสมกัน พอกหน้าทิ้งไว้สัก ๑๐-๑๕นาที นวดคลึงเบาๆผิวหน้าจะสดใส ลบรอยแผลเป็นและ จุดด่างดำ ให้พอกสม่ำเสมอสัปดาห์ละประมาณ ๑ ครั้ง พรุ่งนี้จะนำบทความตอนต่อไปมาให้ได้อ่านกันนะครับ คลิกหาเพื่อนใหม่ๆ ได้ที่นี่
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2555 19:41:16 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2472 Pageviews. |
|
|