|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ดอกส้มสีทอง กับคำถามเรื่องอิทธิพลของสื่อ
กลายเป็นปัญหาระดับชาติไปเสียแล้วสำหรับ ดอกส้มสีทอง ละครทางช่อง 3 ที่แรงทั้งเนื้อหาและกระแส จนผู้ปกครองบางส่วนทนไม่ไหว ต้องโทรศัพท์ไปแจ้งให้ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมว่าละครเรื่องนี้มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม กลัวจะเป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเยาวชน กระทรวงก็รับลูก เรียกร้องให้ปรับบทละครหรือตัดจบ เรื่อยไปจนขู่ว่าจะไม่ต่อสัญญาสัมปทานช่อง 3 หากไม่หยุดออกอากาศ ด้วยเหตุผลเดิมๆ กลัวเด็กจะทำตาม
อันที่จริงอิทธิผลของสื่อที่มีต่อคนดูนั้น เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาเป็นเวลานานแล้ว มีหลายทฤษฎีที่พยายามหาคำตอบถึงความทรงพลังของสื่อว่ามีมากแค่ไหน สิ่งที่ผ่านสื่อทำให้ผู้รับสารทำตามจริงหรือไม่
ในยุคแรกๆ นั้นมีการเชื่อกันว่าสื่อมวลชนมีอิทธิพลมาก และส่งผลต่อผู้รับสารโดยตรงและทันที ทฤษฎีสื่อสารมวลชนในยุคนี้เรียกกันว่า ทฤษฎีเข็มฉีดยา หรือ ทฤษฎีกระสุนปืน ตัวอย่างที่มักนำมาอ้างอิงก็คือการโฆษณาชวนเชื่อของนาซี หรือละครวิทยุอเมริกาเรื่อง War of the Worlds ที่นำเสนอเลียบแบบรายงานข่าว จนทำให้ประชาชนแตกตื่นเมื่อละครบอกว่า มนุษย์ดาวอังคารบุกโลก ดูแล้วกระทรวงวัฒนธรรมคงเชื่อตามทฤษฎีในยุคนี้เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้ไม่นานก็เสื่อมความนิยมลง เนื่องจากพบว่าในหลายต่อหลายครั้ง เรื่องที่ผ่านสื่อมวลชน ผู้รับสารก็ไม่ได้เชื่อแล้วทำตามทันที นี่ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ที่ว่า สื่อนั้นมีอิทธิพลจำกัด แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวผู้รับสารนั้น
ในยุคนี้จะค่อนข้างให้ความสำคัญกับ ผู้นำทางความคิด ของผู้รับสาร เช่น มีโฆษณาทางทีวีให้เลือกพรรค ก. เราอาจไม่ตัดสินใจเลือกทันที แต่หากคนในครอบครัวบอกว่าจะเลือกพรรค ก. เราก็มีแนวโน้มจะเลือกพรรค ก. มากขึ้น เราเรียกทฤษฏีนี้ว่า การสื่อสารสองจังหวะ ซึ่งก็ดูจะตรงกับความคิดของแฟนละครดอกส้มสีทองหลายคน ที่เห็นว่าแค่ลำพังละครไม่น่าจะทำให้คนลุกขึ้นมาอยากเป็นเมียน้อยได้ แต่ต้องมีสภาพแวดล้อมหรือแบบอย่างในชีวิตจริงที่เอื้อด้วย
แต่กระนั้นทฤษฎีก็ใช่ว่าจะได้รับการยอมรับอย่างสมบูรณ์ มีอีกหลายเรื่องที่เราเห็นว่าสื่อมวลชนมีอิทธิพลจริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงมีการประนีประนอมกันด้วยแนวคิดที่ว่า สื่อมวลชนมีอิทธิพลในระดับหนึ่ง และถึงแม้อาจไม่สามารถทำให้คนเชื่อตามได้ทันที แต่ก็ทำให้คนสามารถ คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ได้ และเมื่อผ่านไป เรื่องเหล่านั้นก็จะค่อยๆ ซึมซับลงไปในจิตใจของผู้รับสารโดยไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะละคร อาจไม่ส่งผลให้เห็นโดยตรงและทันที แต่ด้วยเหตุที่เป็นละคร ปราการในการต่อต้านสื่อของเราจะน้อยลง เพราะเชื่อว่ามันไม่สามารถทำอะไรเราได้ แต่จริงๆ แล้วสารจากละครจะค่อยๆ ซึมเข้าไปในใจเราเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น การชมละครหรือภาพยนตร์ที่มีเนื้อหารุนแรงติดต่อกัน อาจไม่ทำให้เราลุกขึ้นมาหยิบปืนออกไปฆ่าใครได้ทันที แต่ก็จะทำให้เราเป็นพวกชาชินต่อความรุนแรงในอนาคตได้
แต่นั่นหาใช่เหตุผลสนับสนุนการแบนดอกส้มสีทอง!!!
แม้ผมจะเห็นด้วยว่าสื่อมวลชนมีอิทธิพลในระดับหนึ่ง แต่ผมเห็นว่าระดับของอิทธิพลนั้นนอกจากขึ้นกับปัจจัยแวดล้อมผู้รับสารแล้ว ยังขึ้นอยู่กับความหลากหลายของตัวสื่อนั้นเองด้วย
ในยุคแรกๆ ที่สื่อสามารถมีอิทธิพลต่อผู้รับสารได้สูง จะสังเกตได้ว่าสื่อในสมัยนั้นมีน้อย ประชาชนมีช่องทางในการรับสื่อไม่มากนัก ทำให้มีโอกาสในการเปรียบเทียบสื่อน้อย สิ่งที่ออกมาจากสื่อจึงค่อนข้างจะมีผลต่อผู้รับสารอย่างมาก
แต่เมื่อสื่อมีความหลากหลายมากขึ้น ประชาชนไม่ได้ถูกจำกัดแค่สื่อใดสื่อหนึ่งอีกต่อไป มีการเปรียบเทียบสารที่ผ่านแต่ละสื่อออกมา ในการณ์นี้ผู้รับสารจะมีโอกาสได้ใช้ดุลยพินิจของตนพิจารณาว่าสื่อใดเหมาะ สื่อใดสม และเขาควรที่จะเลือกเชื่อสื่อไหนเป็นหลัก อิทธิพลของสื่อในช่วงนี้จึงลดลง ไปพร้อมๆ กับการช่วยเพิ่มวิจารณญาณของผู้รับสารไปด้วย
ที่ผ่านมาภาครัฐมักใช้วิธี ควบคุม มากกว่า สร้างความหลากหลาย ภาครัฐอาจเห็นการแบนว่าน่าจะช่วยให้ประชาชนต้องมารับอะไรที่ไม่ดี แต่ในแง่หนึ่งภาครัฐกำลังเอาตัวเองเป็นผู้ตัดสินว่าอะไรดีไม่ดี
การที่เอาแต่ห้าม แต่แบน เป็นเสมือนการดูถูกสติปัญญาว่าประชาชนไม่สามารถคิดว่าอะไรถูกอะไรผิดเองได้ ขณะเดียวกันการหันมาไล่บี้กับสื่อ ก็เป็นการยอมรับกลายๆ ว่ารัฐไม่เชื่อมั่นว่าสังคมจริงจะสามารถเป็นเกราะป้องกันผู้รับสารได้ ซึ่งก็สะท้อนถึงความล้มเหลวในการทำงานของรัฐที่ผ่านมา
ด้วยเหตุนี้ การแบนดอกส้มสีทองจึงไม่ใช่คำตอบ สังคมอุดมปัญญาคือสังคมที่คนในสังคมรู้จักคิด ไม่ใช่เพียงถูกชักนำให้คิดตามที่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งจูงไปเท่านั้น หากอยากทำอะไรจริงๆ แนะนำให้รัฐหรือกระทรวงลงทุนหรือส่งเสริมให้ทำละครสร้างสรรค์สังคมตามแนวคิดของพวกท่านมาแข่งเอง แล้วสุดท้ายคนดูจะเป็นผู้ตัดสินเอง...
Create Date : 02 พฤษภาคม 2554 |
|
7 comments |
Last Update : 2 พฤษภาคม 2554 13:39:00 น. |
Counter : 3279 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: nuch9981 วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:09:18 น. |
|
โดย: คาราเมล IP: 180.183.147.65 วันที่: 3 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:09:55 น. |
|
| |
|
เซียวเล้ง |
|
|
|
|