ดีใจไม่ได้ไปลาว (ภาคคนโลเล)
รู้แล้วว่าเป็นคนโลเลมันเหนื่อย
ตลกตัวเองมากเลย เมื่อวานซึ่งเป็นวันศุกร์เผอิญมีคนมาชวนไปลาว ประเทศที่อยากไปตั้งนาน นานมากจนแทบไม่อยากไปแล้ว เพราะความอยากมันตกตะกอนจนเหือดไปหมด
ตอนนั้นก็คิดว่าเออ เอาดิ หนุกๆ แต่มันต้องเตรียมของและใช้พาสปอร์ตด้วยนิ นัดหมายกันหนึ่งทุ่ม ตอนนั้นเพิ่งไม่กี่โมงเอง ไปสี่วัน อืม สบายมากจัดของสิบห้านาทีก็เสร็จ
เลยต้องรีบออกจากออฟฟิศเร็วนิดหนึ่ง รีบบึ่งมุ่งหน้าไปที่บ้านซึ่งพอใกล้เวลาrush hour แล้ววุ่นวายโคตร ทั้งไกลและรถติด นั่งรถเมล์คนขับดันจอดเลยป้ายไปตั้งสองป้าย เวลาก็เหลือน้อย แถมคืนก่อนหน้านี้ยังไม่ได้นอนอีก
พอกลับบ้านก็หัวฟูหาพาสปอร์ต แต่พาสปอร์ตที่เคยเก็บไว้อย่างดีดันหายจ้อยๆ อืม ลางมาเห็นๆ แต่ก็เอาวะ กลับไปหาที่หอพักดีก่า แต่ถ้าไม่เจอทริปนี้ก็ต้องบายแล้วล่ะ ตอนนั้นรู้สึกผิดกับคนชวนเล็กน้อย แต่เริ่มอยากไปลาวขึ้นมาบ้างแล้ว เลยให้เพื่อนลองไปหาพาสปอร์ตที่หอให้ก่อน
อืม เพื่อนโทรมาบอกว่าไม่มี ไม่ได้ไปแล้วล่ะงานนี้
มิวายโทรถามเพื่อนอีกคนซึ่งอุตส่าห์ใจดีเช็กกับกระทรวงบัวแก้วให้...อืม ไปไม่ได้จริงๆ ด้วย
แต่นัดไว้ทุ่มหนึ่งอย่างน้อยก็ต้องไปบอกว่า ไปไม่ได้แล้วน๊า ไปถึงที่นัดก็รู้ว่าไปทำบัตรผ่านแดนก็ได้ถึงตามกฎจะห้ามออกจากเวียงจันทน์แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจหรอก เอ ไปดีหรือเปล่าน๊า ยังสองจิตสองใจ จริงๆ แล้วรู้ๆ ลางๆ ว่าต้องไม่สนุกแน่เลย แถมถามคนที่ไปด้วยเขายังบอกว่าก็ไปนั่งๆ นอนๆ ในสวนไม่มีอะไรทำ อืม ไม่สนุกแหงมๆ แต่แหม ลาวเชียวนะ อาจจะสนุกก็ได้ ไม่ลองให้โอกาสตัวเองหน่อยเหรอจ้ะ ความคาดหวังสูงสุดของการไปลาวเริ่มเต้นระยิบระยับ
ฝันสูงสุดของการไปลาวทริปนี้คือ ได้นั่งเขียนโปสการ์ดถึงเพื่อน แต่สูงสุดจริงๆ คือการเขียนจดหมายถึงเพื่อนพิเศษคนหนึ่ง ตอนนั้นในหัวเราคิดไปแล้วว่า ได้ไปนั่งเปลี่ยนบรรยากาศ รอบข้างไม่คุ้นเคยและเอ็กซอติกสุดๆ เราก็พร้อมจะเขียนจดหมายน้อยถึงคนพิเศษความว่า
***แปลกใจใช่ไหมที่ได้รับจดหมายฉบับนี้จากลาว ขอโทษด้วยที่สัญญาว่าจะเขียนจดหมายถึง***ก่อน แต่ก็วุ่นๆ เหลือเกิน ดีใจที่มีเวลานั่งเงียบๆ เขียนจดหมายฉบับนี้ในที่ซึ่งต่างออกไปจากชีวิตประจำวัน...
พอฝันสูงสุดชัดเจนอย่างนี้แล้ว เออ กลับหอเก็บกระเป๋าก็ได้วะ
แต่พอกลับไปถึงที่นัดหมาย ไอ้คนที่ชวนก็ยังไม่โผล่มา คงมีธุระยุ่ง เราเองก็ด่วนใจเร็วตกปากรับคำว่าจะไปโดยไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย พาหาพาสปอร์ตไม่เจอก็กลับรู้สึกดีที่จะได้ไม่ต้องไป เพราะอยากกินข้าวกับพ่อกับแม่และที่บ้านมากกว่า อีกสองวันก็เป็นวันพ่อ อืม ความจริงก็อยากอยู่บ้านมากกว่าทริปที่ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากได้นั่งเขียนจดหมายถึงเพื่อน
แถมคนที่ไปด้วยยังมหาศาล มีแต่คนที่เราไม่รู้จัก ไม่สนิท ผิดจากความคาดหวังแฮะ ตอนแรกคาดว่า จะเป็นทริปเล็กๆ เงียบๆ ใช้เวลากับตัวเองได้เยอะๆ ไม่ต้องไปฮิฮะตอแหลนิสัยดีใส่คนอื่น แต่เพิ่งรู้ว่ามีคนไปด้วยเป็นสิบอัดกันไปในรถตู้หนึ่งคัน นี่มันชีวิตรวมหมู่ขนาดใหญ่เบิ้มกองอยู่ตรงหน้าเชียวนะ ถ้ากับเพื่อนสนิทยังพอว่า นี่กับคนไม่สนิทเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะซื้อทัวร์ไปลาวนะจ้ะ อืมกลับบ้านดีก่า
หลังจากโลเลมานาน เราก็เลยตัดสินใจว่า ไม่ไปดีก่า คราวนี้เอาจริงไม่มีโลเลนะ ก็เลยแบกเป้ใบหนักลงรถไฟใต้ดินต่อรถไฟฟ้ากลับไปนอนเอาแรงที่หอ
เมื่อคืนนี้นอนหลับเป็นตายจริงๆ ด้วย คงเพราะคืนก่อนหน้านี้ไม่ได้นอนและตอนเย็นต้องวุ่นๆ บนถนนในกรุงเทพ แบกเป้ไปมา บวกกับฤทธิ์ยาแก้หวัดชนิดใหม่ที่เพิ่งกินเข้าไปไม่นาน พอตื่นมาแล้วสดชื่นจริงๆ
เราไม่ต้องไปไหน ไม่ต้องไปปรับโหมดคนดีอยากรู้จักใครต่อใคร แถมมีเวลาของตัวเองตั้งสามวัน ได้ไปกินข้าวกับครอบครัว จะนอนเถือก นั่งเถือก อ่านหนังสือกี่เล่ม เขียนจดหมายถึงคนพิเศษกี่ฉบับก็ได้
แต่ถ้าไม่เลโลแต่แรกคงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้นะจ้ะ
Create Date : 04 ธันวาคม 2548 |
|
3 comments |
Last Update : 4 ธันวาคม 2548 13:00:12 น. |
Counter : 420 Pageviews. |
|
|
|