กว่าจะมาเป็นผู้ชาย : เรียนรู้และรับฮอร์โมนชายไปตลอดชีวิต

สวัสดีคับผม ชิน ภัธราปกรณ์ หลายๆ คนคงคุ้นกับผมดี จากรายการ ปากโป้ง และที่ทำให้ผมอยู่ในวงกว้างทั่วประเทศอีกครั้งก็คงไม่พ้นรายการ I Can See Your Voie Ep.44 ปุ๊ อัญชลี ซึ่งผมได้ไปปรากฏตัวและแสดงความสามารถบวกกับทั้งประเทศได้รู้ว่าแท้จริงแล้วผมเองเป็นผู้หญิงตั้งแต่กำเนิดนั่นเอง วันนี้ผมได้มีเวลารวบรวมข้อมูลด้านต่างๆที่ผมได้ผ่านมาและเขียนจากประสบการณ์จริง เพื่อเป็นประโยชน์แก่น้องๆและเพื่อนๆทุกคนที่หาข้อมูลไม่ได้เลย หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจ ผมก็จะอธิบายในแบบของผมให้เข้าใจง่ายๆ นะคับ เพราะนี่คือชีวิตผมล้วนๆ

"ทุกบทความต่อจากนี้ผมอยากให้อ่านทุกคำพูดที่ผมเขียนเพราะมันมีประโยชน์กับคนที่คิดจะเปลี่ยนแปลง

และได้หาคำตอบให้ตัวเองได้ โดยไม่ต้องถามซ้ำๆ อีก"

"Transman หรือ ผู้ชายข้ามเพศ" สำหรับผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืออะไรมากจากไหน ผมรู้แค่ว่าผมจำความได้ ผมก็ไม่เอาเลยกระโปรง กิ๊ฟติดผม ลามไปถึงอีกหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับผู้หญิง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบผู้หญินะคับ คือตั้งแต่การแต่งตัวที่ผมชอบที่จะเป็นผู้ชายมากกว่า* [ในส่วนนี้ผมยกไปอยู่ในบทความ "เขียนไว้ให้ชิน" นะคับ]*

ผมเริ่มหาคำตอบของการแปลงเพศจากชายเป็นหญิงมามากกว่า 5 ปี ดูไปเรื่อยๆ แปลได้มั่งไม่ได้มั่ง ก็ถือว่าได้เรียนกภาษาอังกฤษไปในตัว แต่ก็ได้สาระและกฏเกณฑ์ของธรรมชาติของร่างกายชายหญิงมากพอสมควร

เรามาเช้าเรื่องในแบบของผมกันดีกว่า....

นี่คือรูปของผมก่อนการรับฮอร์โมนนะคับ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมหน้าตาหรือร่างกายมันเปลี่ยนไปอัตโนมัติเพียงนี้

แต่พอจะสรุปได้คร่าวๆ ว่าฮอร์โมนเพศชายในตัวผมเยอะพอสมควรคับ

หลังกจากตรงนี้ดูคลิบผมอธิบายไปด้วยและสังเกตุว่าตัวผมเริ่มเปลี่ยนไปยังไงบ้างนะคับ^^

สวัสดีคับ ผม FTM จาก ประเทศไทยนี่เป็นการบันทึกการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับตัวผม ในทุกๆเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่ต้องการรู้เกี่ยวกับ FTM ซึ่งไม่มีเจตนาชักชวนให้กระทำตาม ทุกๆอย่างผ่านการพิจรณาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และโปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังแล้วให้คิดให้ดีก่อนตัดสินใจฉีด เพราะเราไม่สามารถหยุดมันได้ เราต้องฉีดไปตลอดชีวิต โปรดใช้วาจาสุภาพในการแสดงความคิดเห็นนะคับHi everyone , My name is Chinz. I'm a Transman from Thailand I made this clip to record the changes of myself every month. For the benefit to people who want to know more about FTM , This is subjected to the medical consideration by certified doctor. No persuasive intention to make. Please be discretionary in listening and think carefully before deciding to take hormones. please use the polite word for comment.

จำหน้านี้ไว้นะคับ ใสและโครงหน้าผม ผมของผม ทุกส่วน^

1 : ก่อนการตัดสินใจรับฮอร์โมน

แน่นอนว่าตั้งแต่เด็กๆมา ผมเองแทบไม่เคยคิดอยากจะแต่งหน้าทาปาก หรือใส่ประโปรงเลยสักนิด ซึ่งเรื่องนี้ทางบ้านผมรู้กันดีว่า ผมเฟี้ยวเงาะแค่ไหน ซึ่งเริ่มทำความเข้าใจตั้งแต่ตรงนี้นะคับว่า "ครอบครัวสำคัญมากๆ" ถ้าหากครองครัวไม่โอเคกับคุณ คุณต้องหาวิธีใหม่* ผมโชคดีที่บ้านรับได้และปล่อยให้ผมเรียนรู้แบบเด็กผู้ชาย

สมัยที่ผมอยู่ ณ ตอนนั้นต้องย้อนไป 20 ปีได้ไม่มีวิวัฒนาการทางแพทย์ขนาดนี้นะคับ และการเปิดรับเพศที่เค้าตั้งมาว่าที่ 3 เนี้ย ก็ยากมากแก่การเข้าใจ ผมเองก็โดนเหยียดมาตั้งแต่เด็ก เพื่อนผมเป็นตุ๊ดก็โดนพ่อมันตีทุกวัน แต่บอกเลยว่าตีให้ตายก็ไม่หาย นี่แหละถึงบอกว่า "ครอบครัวสำคัญ" สิ่งที่ผมอยากให้น้องๆที่ติดตามผมมาให้อ่านเยอะๆ และคิดเยอะๆ ไม่ใช่เอาแต่ใจเพื่ออยากเป็นแต่ไม่คิดหน้าคิดหลัง ปัญหามันมาหาได้ทุกด้านนะคับ...

หากรู้แล้วว่าเราลึกๆข้างใน เราไม่ได้ต้องการเป็นอย่างเพศสภาพที่เป็นเลย ก็เตรียมตัวง่ายๆ

• เริ่มหันหน้าเข้าหาพ่อแม่ คุย กล่อม หรือบอกให้รู้ "แบบป่าล้อมเมือง" ให้ท่านได้รู้ว่า "หนูอยากเป็นผม" คับ และเราต้องไม่ก้าวร้าวเพราะยังไงในมุมของพ่อแม่เราก็คือ เด็กน้อยสำหรับท่าน
• สำหรับทอมน้อยๆ แน่นอนความอหังการ ก้าวร้าว มีในตัวทอมตัวน้อยคนนี้ทุกคน ฉะนั้น ผมบอกวิธีแล้วนะ เก็บอารมณ์ไว้ และพยายามเป็นเด็กที่ดีของพ่อแม่สะ กรณีนี้ผมบอกไว้เลย ไม่เกิน20 ยังไม่จบไม่มีงานอยู่ในกรอบด้วย เพราะอย่าลืมคนที่ต้องดูแลเรายังคงเป็น พ่อแม่และครอบครัวที่ต้องให้เงินกินใช้ คิดตรงนี้ด้วยนะ
• ช่วงฮอร์โมนวัยหว้าวุ่นผมเข้าใจ ผมเป็นมาหมดแล้ว ช่วงมหาวิทยาลัย ทอมส่วนใหญ่ติดแฟนมาก สายเป เที่ยว โชว์รวย หรือไม่ยับยั้งการใช้ชีวิต(บางคน) ไม่ได้เสียดายเงินอะไรตรงนั้น แน่นอนมันเงินพ่อแม่ส่งมาทุกเดือนๆ แต่ถ้าคิดว่าต้องรับฮอร์โมนเพื่อเปลี่ยนแปลงในอนาคต ปรับตัวเองใหม่นะ เพราะการที่เอาเงินไปเที่ยวเล่นขนาดนั้นนอกจากสุขภาพแย่ไปแล้วรับฮอร์ต่อไปอาจจะมีผลกับร่างกายโดยตรง เก็บเงินไว้ทบๆ เพื่ออนาคตที่เราจะมาทำตรงนี้ดีกว่า ถ้าตั้งใจอะไรก็ทำได้
• คนที่มีแฟน "ระลึกไว้เลย" ผู้หญิงที่เค้าคบทอมน่ะ เพราะเค้าชอบที่เราเป็น "ทอม" ไม่ได้ชอบควาหยาบกร้าน และการไม่สนอกสนใจของผู้ชาย อย่าลืมนะ ทำไมทอมเข้าใจผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ก็เพราะทอมก็คือ ผู้หญิงเหมือนกัน ฉะนั้น คิดดีๆ อาจจะเสียแฟนไปได้โดยไม่รู้ตัว เพราะเค้าไม่ต้องการให้เราเป็นอีกคนก็ได้ อันนี้ส่วนใหญ่จะมีปัญหาที่แตกหักและเลิกราได้สบายๆ
• ณ ขนะที่เรียนเป็นวัยรุ่น ก็อยากจะบอกเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในกรอบของมหาวิทยาลัยหรือสถาบันไหนๆก็ตาม กรณีที่ครอบครัวยอมรับและให้เข้ารับฮอร์โมนได้นะ บางทีการแต่งกาย หรือระเบียบที่สภาบันเค้าได้ตั้งไว้ ก็อย่าพึ่งไปแหกคอกมากนัก เดี๋ยวนี้เค้ามีการขอเรื่องการใส่ชุดนักศึกษา อาจจะไปขอเป็นกรณีไปให้ตรงกับที่เราเป็น มันคงไม่ใจร้ายไปถ้าสมมติเปลี่ยนมากจนหนวดมาเต็มหน้า อาจารย์ก็คงไม่ให้ใส่กระโปรงเป็นหมีควายหรอก-*- เพราะอย่างผมจะใส่กระโปรงส่วนใหญ่ นอกจากวิชาไหน อาจารย์ใจดีก็กางเกงไป เพราะช่วงนั้นผมไม่ได้รับฮอร์โมนนะ ผมก็ทอมนี่แหละ และก็ดุเหมือนผู้ชายมากกว่าทอมทั่วไป
• รับการเหยียด การดูถูก การเรียกสรรนามของสังคมไว้ดีๆ แน่นอนคงไม่มีใครชอบหรอกให้เรียก ทอมๆ บางคนไม่อยากให้เรียนก นางสาวด้วยซ้ำ อาจจะไม่อยากตอกย้ำสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ ไม่ชอบการพูดตอกย้ำ สำหรับผมอยากให้คิดแบบนี้ เราไม่สามารถบอกคนทั้งโลกให้เค้าเข้าใจเราได้หรอก มันเป็นเรื่องที่สังคมแม่งเข้าใจกันแบบนี้แล้ว ขนาดผมเรียกว่าสตรีข้ามเพศ รายการยังงงเลย พอบอกกะเทย แม่งอ๋อกันทั้งสตู คือนี่ขนาดผมพยายามใช้ศัพย์ที่สากลแล้วนะ ฉะนั้นรับมือดีๆ การต่อต้าน ยิ่งทำให้สังคมเกลียดเราวงกว้าง เราอ่อนน้อมและค่อยๆอธิบายไปเรื่อยๆ ดีกว่าคับ
• อนาคตการทำงาน อันนี้เตรียมใจเลย หลายๆที่ยังไม่เข้าใจถึงเพศแบบเราๆกัน เพราะว่าสตรีข้ามเพศเค้านำผู้ชายข้ามเพศไปไกลมาก เค้าสู้กันมา 20 กว่าปี อย่างเราๆ ยังไปไม่ถึงไหนกันเลย มัวแต่อิจฉากันมันก็เลยวนอยู่กับที่ เพราะแบบนี้เราต้องรู้แล้ว่า เราจะทำงานอะไร ระบบข้าราชการ องกรณ์ใหญ่ๆ และศาสนาแม่งก็วุ่นวายมาก คิดให้ดีๆเยอะๆหลายๆอย่างเลย นี่เป็นตัวตัดสินเลย

ผมบอกแนวคิดแบบผมคร่าวๆ เริ่มแรกจากเรื่องนี้นะคับ อาทิตย์ต่อไปผมจะมาเขียนเรื่องเกี่ยวกับร่างการที่ต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงและต้องรับสภาพแบบผมยังไงบ้าง

หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคนนะคับอยากให้คิดดีๆ เพราะจริงๆแล้ว

"คุณแมนมาตั้งแต่ใจแล้ว" ร่างกายที่ได้เปลี่ยนเพราะวิวัฒนาการทางแพทย์ที่มาช่วย

ปัจจัยที่จำเป็นที่สุดคือ "ครอบครัว คนรัก โรคภัย การเงินและการงาน"

ขั้นตอนการรับฮอร์โมน (หากอายุต่ำ 20 ปี ต้องพาผู้ปกครองไปด้วย)

- ถามตัวเองให้ดีก่อนแน่ใจหรือไม่กับสิ่งที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลง

- เตรียมความพร้อมเรื่องเงินเพราะแน่นอนคุณต้องใช้จ่ายเรื่องยางเรื่องการตรวจรักษารวมถึงผ่าตัดในอนาคต

- ติดต่อเข้าพบจิตแพทย์และแพทย์ต่อมไร้ท่อ ตรงนี้สำคัญนะคับข้ามขั้นตอนนี้ไปคุณอาจจะพลาดไปทั้งชีวิต

- รับฮอร์โมน 1 ครั้ง / 2 - 3 สัปดาห์ [จำนวนปริมาณแต่ละคนไม่เท่ากันนนะคับ หมอจะพิจราณาตามผลตรวจเลือดว่าร่างกายเรารับได้มากน้อยแค่ไหน ดูดซึมแล้วทำปฏิกิริยากับร่างกายไวเพียงใด]

- *ผลกระทบ เรื่องสิว, อารมณ์, คริสตอริคใหญ่ขึ้น, ขนต่างๆ ตามร่างกาย, เสียงแตกหนุ่ม, มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น, ทานอาหารมากขึ้น (ระยะแรก) ผลต่างๆขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของแต่ละบุคคลด้วย บางคนอาจจะมีหนวดเครา บางคนอาจจะไม่มีก็ได้เช่นกัน ผิวหยาบกร้าน รูขุมขนใหญ่ขึ้น (ผลกระทบชนิดถาวร เมื่อเลิกฉีดแล้วจะยังคงอยู่คือเสียง และขนต่างๆ ตามร่างกาย แค่ขนจะเส้นบางลงไม่ดกดำเหมือนตอนที่ฉีด) หัวล้านแล้วแต่พันธุกรรม

*ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเมื่อรับฮอร์โมนเพศชายเข้าไปแล้ว อิงจากพันธุกรรมของครอบครัวนับย้อนไปรุ่นคุณปู่เลยคับฝั่งคุณพ่อว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีโรคกรรมพันธุ์มาตามสายเลือด [อันนี้ไม่น่าจะผ่านมาถึงขั้นตอนการรับได้นะ] หัวล้านมีก็เตรียมตัวเลยคับเพราะล้านแน่นอน*

**หน้าที่ของ "ฮอร์โมนเทสโทสตอโรน" จะไปกดการทำงานของมดลูก เพื่อให้ผลิตเอสโตรเจนได้น้อยลง ว่ากันง่ายๆคือ ระบบฮอร์โมนชายไปแทนที่ฮอร์โมนเพศหญิง นั่นคือประจำเดือนก็จะเริ่มหดหายไป แต่ก็อย่าลืมว่าต่อมหมวกไตยังคงผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้อยู่แต่ในปริมาณที่น้อยมาก

เมื่อคุณตัดสินใจเริ่มรับฮอร์โมนแล้วสิ่งที่จะต้องรู้คือ ผลที่เกิดกับร่างกาย แบบไหนบ้าง

แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. ประเภท เปลี่ยนแล้ว กลับตัวไม่ได้

- เสียง คือ เมื่อเสียงแตกแล้ว ก็จะไม่สามารถกลับมาเป็นเสียง ผู้หญิงได้อีก

- เส้นขน คือถ้าหัวล้านแล้ว คือล้านเลย, มีหนวดแล้วก็จะยังมีอยู่อย่างนั้น (อิงพันธุกรรม )

- มีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถมีบุตรได้อีก (เกิดจากการกดทับของฮอร์โมนเพศชายจนเกิดอาการไข่ฝ่อหรือมะเร็งรังไข่ได้ หากไม่ได้ผ่าตัดมดลูกรังไข่ออก)

*การผ่าตัดหน้าอกไม่จำเป็ฯต้องรับฮอร์โมนเพศชาย แต่ต้องเข้ารับการตรวจเลือดและพบจิตแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

**การผ่าตัดมดลูกรังไข่สำหรับการเข้ารับการแปลงเพศชายเป็นหญิง กรณีนี้ต้องรับฮอร์โมนเพศชาย 2 ปีขึ้นไป หากจะผ่าตัดโดยไม่เกี่ยวกับฮอร์โมนเพศชายต้องอยู่ในการพิจรณาของแพทย์**

2. ประเภท หยุดรับฮอร์โมนเพศชาย แล้วจะกลับมาสภาพเดิมหรือยิ่งกว่าเดิมคือ

- อารมณ์ จะกลับมาเป็นเหมือนปรกติ และอาจจะขึ้นๆลงๆ ไม่คงที่

- ความต้องการทางเพศ (จากที่เรารับฮอร์โมนเพศชายไปจะมีความต้องการทางเพศมากกว่า ญ)

- สิว ตามตัวหรือหน้าอาจจะลดลงเพราะไม่มีฮอร์โมนเพศชายเข้าไปในร่างกายแล้ว แต่อาจจะคุมเรื่องผิวกว่าจะกลับมาปกติใช้เวลานานพอสมควร

- มวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นหลังจากรับฮอร์โมนไป ก็จะย้วยเหลวกลับมาเป็นสมัยสาวๆเช่นเดิม กรณีคนที่ไม่ออกกำลังกายนะคับ

- ประจำเดือน (การรับฮอร์โมนเพศชายจะกดทับทำให้ประจำเดือนหยุด) เมื่อไม่ได้รับแล้วก็จะกลับมาแน่นอนและจะไม่สามารถกะวันและเวลามาได้ การกลับมาครั้งนี้ของประจำเดือนคือ x2 นะคับไม่รวมปวดท้องที่ตามมาด้วย

- การเคลื่อนย้ายของไขมัน (สะโพกเล็กลง หน้าอกเล็กลง เมื่อหยุดรับแล้วก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม)

- ความดันโลหิต (ความดันเลือดผู้ชายส่วนใหญ่สูงกว่าเพศหญิง) ก็จะกลับมาเช่นเดิม

- คลอเรสเตอรอล (ผู้ชายส่วนใหญ่ มีคอเลสเตอรอลสูงกว่าเพศหญิง) ก็จะกลับมาเหมือนเดิม

- ความเข้มข้นของเลือดสูงขึ้น ก็จะะค่อยๆกลับมาคงสภาพแต่ถ้ารับฮอร์โมนเพศชายเกิน 1 ปีไปแล้ว อาจจะต้องเข้าเชคเลือดถี่กว่าเดิมอาจจะมีการสวิงของเกร็ดเลือดได้

- ค่าตับ ไต และมวลกระดูกและอีกมากมายที่ต้องเชคให้ละเอียด

นี่คือเหตุผลก่อนการเข้ารับฮอร์โมนเพศชาย ว่าทำไมต้องผ่านจิตแพทย์ 2 คน ตรวจเลือด ตรวจภายใน

เพราะร่างกายผู้หญิงมันมีส่วนละเอียดและเยอะมากที่จะเกิดผลกระทบในระยะยาวได้ การตัดสินใจรับไวไม่ได้มีผลดีเลย เราต้องรู้ร่างกายตัวเราเองให้ดี และศึกษาข้อมูลให้มากพอ ที่สำคัญควรเข้าพบหมด หากยังไม่กล้าหาหมอคุณก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรอกคับ มันจะทำให้คนข้างๆคุณ ครอบคุณเดือดร้อนไปกับคุณเปล่าๆ

ผลกระทบอื่นๆ ที่ทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ ดังนั้น Transman ทุกท่านจำเป็นที่จะต้องทำการตรวจร่างกายทั้งก่อนรับฮอร์โมนเพศชายและทุกๆ 3 เดือนหรือ 6 เดือนนะคับ

***ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลโดยรวมที่เกิดขึ้นกับตัวผมและเหล่าบรรดาเพื่อนๆผม***

**ตรวจเลือดระบุดังนี้ เพื่อใช้ในการรับฮอร์โมน**

Lap 11อย่าง ที่ใช้ในการตรวจก่อนเทคฮอรโมน (สำหรับคนไม่เคยเทค) งดน้ำอาหารก่อนตรวจ

1 CBC  

2 BUN  

3 Cr  

4 Electrolyte  

5 LFT  

6 FBS  

7 HbA1C  

8 Lipid profile  

9 Estradiol  

10 Testosteronr  

11 prolactin  

-พบจิตแพทย์ 3 - 6 เดือน

-ตรวจเลือด ตรวจสุขภาพทั่วไป 3 - 6 เดือน

-รับฮอร์โมน 1 - 2 -3 / สัปดาห์ หรือ 1 ครั้งต่อเดือน

(ขึ้นอยู่กับการปรับสภาพของร่างกายแต่ละบุคคลและดุลพินิจของแพทย์)

**การรับปริมาณเยอะไม่ได้แสดงว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นชายจะไวขึ้น และเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เพราะ ระบบในร่างกายไม่สามารถปรับเปลี่ยนตั้งรับการเปลี่ยนแปลงได้ทัน อาจจะเกิดอาการช๊อค ความดันโลหิตสูงและเลือดจางได้**

ยาในคำสั่งของคุณหมอเท่านั้น!!!

ปริมาณเทียบของยา ฮอร์โมน Testroviron

ไซริงเบอร์3ml ดูจากขีดที่ไซริงคือ เช่น 1 ขีดของไซริง 0.1= 25ml

0.1=25ml

0.2=50

0.3=75

0.4=100

0.5=125

0.6=150

0.7=175

0.8=200

0.9=225

1.0=250

*ยา ฮอร์โมน Nebido จะรับทุกๆ 3 เดือน นิยมใช้ในต่างประเทศและผู้ที่ต้องเดินทางไปมาบ่อยๆ

** หากอยู่ ต่างปรเทศ สามารถใช้กระบวนการเดียวกับที่ผมกล่าวมาได้เลย และขอใบรับรองว่าเราข้ามเพศหรือใบยืนยันเพื่อใช้คู่กับหนังสือเดินทางนะคับ ส่วนถ้าอยุ่ไทยแล้วต้องการเดินทางให้ทาง โรงพยาบาลออกให้เป็นภาษาอังกฤษ ส่วใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลยันฮี และโรงพยาบาลกมล ที่นิยมไปขอใบรับรองคับ

การรับยาจะเน้นเข้าที่ : สะโพก, หน้าขา บริเวณที่กล้ามเนื้อเยอะที่สุดเพราะยาต้องเทคลงกล้ามเนื้อเท่านั้น

****หากนำไปฉีดเองพลาดโดนเส้นเลือดจะทำให้เกิดอาการชาและเนื้อตาย จนไปถึงน๊อคเพระาเลือดไม่ไหลเวียนจนถึงเสียชีวิตได้คับ***

*หมอจะเขียนระบุเฉพาะคนในกรณีรับยาไปนอกโรงพยาบาล ต้องตามใบหมอสั่งนะคับ

*หมอจะระบุให้พยาบาลหรือคลินิกนอกเหนือจากโรงพยาบาลเพื่อให้เข้าใจตรงกัน

สถานที่ให้บริการจากการรวบรวมกลุ่ม 

รพ.รามา/สยามเมส คลินิก/รพ.ยันฮี/รพ.ศัลยกรรมกมล/รพ.จุฬา/แทนเจอรีน คลินิก(สภากาชาด)/รพ.เชียงใหม่ราม/รพ.สวนดอก/ ภูเก็ค รพ กรุงเทพ/กับวชิระ(รัฐบาล) ติดต่อแผนกต่อมไร้ท่อ/สถานที่อื่นๆ ควรโทรสอบถามก่อนเข้าพบแพทย์

กระบวนการเข้าพบแพทย์

- เข้าคลินิกเพศหลากหลายจะมีจิตแพทย์อยู่ ต้องพบจิตแพทย์ประเมิน

- พบสูตินารีแพทย์ , ต่อมไร้ท่อ

- ตรวจเลือดเชคระดับไขมัน ฮอโมน ฯลฯ

- ถ้าต้องการรับฮอร์โมนจะส่งพบหมอฮอร์โมน -ถ้าต้องการผ่าตัดไม่อยากได้ฮอร์โมน

ก็ส่งมาพบหมอผ่าตัด เช่นตัดหน้าอก ดูดไขมันต้นขา สะโพก แปลงเพศ เป็นต้น

วัดความดัน น้ำหนัก ส่วนสูง ทำบัตรผู้ป่วยใหม่

พบหมอจิต -- 500-700บ.

พบหมอสู-- 500-700บ.

เข้าตรวจภายใน เชคมดลูก--อันนี้ไม่แน่ใจราคาเราะชินเชคกับที่อื่นมา

ตรวจเลือดระดับไขมัน ฮอโมน ฯลฯ --2200บ.

ค่าพยาบาล--50-100บ.

หมอฮอโมน--300-500บ.

*การเทค หมอจะปรับสภาพแล้วแต่คนเหมือนกัน อาจจะเริ่มที่ 1ครั้งต่อเดือน*

**ราคาขึ้นอยู่กับสถาณที่ให้บริการเอกชน รัฐบาล**

เครดิตรูป : จิมมี่ กฤตธีพัฒน์  TMAT เครือข่ายผู้ชายข้ามเพศ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : TransJunior/TMAT/สยามเมส คลินิก

*การรับฮอร์โมนเพศชายจะต้องรับต่อเนื่องตามระยะเวลาที่หมดได้ระบุ การรับล้าช้าหรือเลื่อนไปมาอาจจะทำให้เกิดการขับ บีบรัดตัวของมดลูกที่กลับมาทำงาน ฉะนั้นประจำเดือนจะกลับมาได้หากล้าช้าเกินกำหนดรอบเดือน

** ฮอร์โมนจะทำงานได้ดีถ้าลด ละ เลิก บุหรี่ และ เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ เพราะพวกนี้จะส่งผลไปยังไต ทำให้ทำงานหนักและทำให้ฮอร์โมนที่เข้าไปสะลายไวจากฤทธิ์แอลกอร์ฮอร์ส่วนนิโคติน ที่รู้ๆอยู่ว่าทำให้ผิวเราแห้งเหี่ยวแก่ไว หลังจากเราเอาฮอร์โมเพศชายเข้าไปเราก็จะเริ่มผิวหยาบกร้านและคล้ำลง ถ้าเรายังสูบมันอยู่ก็จะดูแลผิวพรรณยากพอสมควร

แนะนำ

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

- ลดความถี่และปริมาณแอลกอฮอร์ลง 

- สังเกตุการปลี่ยนแปลงตัวเองบ่อยๆ

- อย่าปล่อย อย่าละเลยชีวิตตัวเอง หากคิดจะเปลี่ยนแปลงแล้ว ควรจะเปลี่ยนให้มันเป็นชายที่ดูดี ไม่ใช่ซกมกและโทรม

คลิบนี้เป็นคลิบที่ 2 

อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงจากเข็มแรกที่เริ่ม

อาการทีเป็นคือ - เสียงที่ฮัมวอมเสียงทุกเช้ามันอาการแหบและเสียงขาด การบังคับเสียงร้อง ต้องใช้พลังเยอะกว่าเดิมจากเดิมที่ร้องเพลงสบายๆไม่ต้องเกร็งคอ มีอาการเคืองคอเล็กน้อยแต่ไม่เจ็บ เหมือนมีสเลสตลอดเวลา ตอนนี้กินน้ำ เยอะมากๆ- มีผดขึ้นตามตัว คันบางจุด เยอะสุดที่ก้น อันนั้นคันจริงจัง แต่พยายามไม่เกา สิวขึ้นที่หัวและหลัง- เมื่อยตัว แบบเมื่อยทั้งตัวเลย และง่วงตลอดเวลา หิวบ่อย- ฉี่ฉุนมาก ปกติกินน้ำเยอะ ไม่เคยฉุนแบบนี้ ฉุนเหมือนคนไม่ค่อยกินน้ำ เหมือนกินเหล้ามาเยอะๆ แล้วฉี่- น้ำหนักลงไป 1 โล ทั้งๆที่กินกระจุยเลยค๊า นอนไม่ค่อยหลับ [เวลาปกติที่ไม่ได้ไปร้องเพลง] แต่ถ้าวันไหนร้องเพลงกลับมาหลับตาย- เจ็บที่จิมิ๊ แบบเหมือนมันบวมๆมานิดๆแต่พอดีเป็นคนใส่บ๊อคเซอเลยไม่ค่อย โดนน้องเท่าไหร่แต่เวลาจับจะเจ็บนิดๆ

คลิบนี้เป็นคลิบที่ 3 

อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงจากเข็มแรก

จนมาเทคเข็มที่ 2 ก็สรุปอาการจากเข็มแรกด้วยนะคับ - เสียงกังวาลขึ้นและต่ำลง ไม่เจบและระคายเคืองคอเหมือนแรกๆ- ลูกกระเดือกใหญ่ขึ้นเห็นชัดเจน- ไรขนหนวด เริ่มออกมาแล้ว ตรงขนหน้าแข้งดำขึ้น ตรงอื่นก็ตามมาด้วย555- กินเยอะกว่าเดิม แต่น้ำหนักไม่ขึ้น- การออกกำลังกายจากเดิม มีกำลังมากขึ้น กล้ามเห็นชัดขึ้น- กลิ่นตัวออกรอบข้างเริ่มบอกมีกลิ่นทั้งๆที่ใช้โรออน และน้ำหอมทุกวัน- หน้ามันกว่าเดิมมาก สิวเต็มที่หัวและหลัง ตรงก้นหายไป- ก้นและต้นขาเล็กลง ตอบลง อาจจะเพราะการออกกำลังกายต่อเนื่องด้วยควบกัน**ขอบคุณที่ติดตามนะคับ ยินดีให้ข้อมูลจากตัวผม ไม่แนะนำใดๆทั้งสิ้นไปรับฮอโมนเอง ต้องพบแพทย์นะคับ อันตรายถึงชีวิต ผมมีกระบวนการต่อเนื่องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งนะคับ**

คลิบนี้เป็นคลิบที่ 4

อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงจากเข็มที่ 2

สรุปอาการจากเข็มที่ 2 นะคับ- เสียงทุ้มเเน่นมากๆ- เจ็บตรงปุ่มคริตอลิต มีอาการแดงบวมเห็นชัด มีคราบขาวๆรอบๆ คริตอลิต - ลูกกระเดือกใหญ่ขึ้นเห็นชัดเจน ไม่เจ็บคอ- ไรขนหนวด เริ่มออกมาแล้ว ตรงขนหน้าแข้งดำขึ้น ตรงอื่นก็ตามมาด้วย555- การออกกำลังกายจากเดิม มีกำลังมากขึ้น กล้ามเห็นชัดขึ้น- กลิ่นตัวออกรอบข้างเริ่มบอกมีกลิ่นทั้งๆที่ใช้โรออน และน้ำหอมทุกวัน- หน้ามันกว่าเดิมมาก สิวเต็มที่หัวและหลัง ตรงหลังเพิ่มและคันมาก- สะโพก ก้นและต้นขาเล็กลง ตอบลง อาจจะเพราะการออกกำลังกายต่อเนื่องด้วยควบกัน**ขอบคุณที่ติดตามนะคับ ยินดีให้ข้อมูลจากตัวผม ไม่แนะนำใดๆทั้งสิ้นไปรับฮอโมนเอง ต้องพบแพทย์นะคับ อันตรายถึงชีวิต ผมมีกระบวนการต่อเนื่องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งนะคับ**

หน้าอย่างใส ณ ตอนนั้น และมันก็กว่าจะกลบัมาหน้าได้แบบนี้ก็เหนื่อยมากเลย จะเห็นได้ว่าไรหนวดเริ่มมาบางๆนะคับ โครงหน้าผมเริ่มเปลี่ยน

คลิบนี้เป็นคลิบที่ 5

เริ่มเข็มที่ 3 นะคับ คลิบนี้เสียงผมเริ่มไปชัดมาก*- เสียงทุ้มเเน่นมากคงที่มากขึ้น - เจ็บตรงปุ่มคริตอลิต มีอาการแดงบวมเห็นชัด มีคราบขาวๆรอบๆ คริตอลิต - ลูกกระเดือกใหญ่ขึ้นเห็นชัดเจน ไม่เจ็บคอ- ไรขนหนวด เริ่มออกมาแล้ว ตรงขนหน้าแข้งดำขึ้น ตรงอื่นก็ตามมาด้วย555- การออกกำลังกายจากเดิม มีกำลังมากขึ้น กล้ามเห็นชัดขึ้น- กลิ่นตัวออกรอบข้างเริ่มบอกมีกลิ่นทั้งๆที่ใช้โรออน และน้ำหอมทุกวัน- หน้ามันกว่าเดิมมาก สิวเพิ่มมาที่หน้า และเต็มที่หัวและหลัง ตรงหลังเพิ่มและคันมาก- สะโพก ก้นและต้นขาเล็กลง ตอบลง อาจจะเพราะการออกกำลังกายต่อเนื่องด้วยควบกัน**ขอบคุณที่ติดตามนะคับ ยินดีให้ข้อมูลจากตัวผม ไม่แนะนำใดๆทั้งสิ้นไปรับฮอโมนเอง ต้องพบแพทย์นะคับ อันตรายถึงชีวิต ผมมีกระบวนการต่อเนื่องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งนะคับ**

คลิบนี้เป็นคลิบที่ 6 นะคับ รีวิวจากเข็มที่ 3 นะคับ- เสียงทุ้มเเน่นมากคงที่มากขึ้น - ลูกกระเดือกใหญ่ขึ้นเห็นชัดเจน ไม่เจ็บคอ- ไรขนหนวด ชัดเจน- ประจำเดือนไม่มาแล้ว- การออกกำลังกายจากเดิม มีกำลังมากขึ้น กล้ามเห็นชัดขึ้น- กลิ่นตัวออกรอบข้างเริ่มบอกมีกลิ่นทั้งๆที่ใช้โรออน และน้ำหอมทุกวัน- หน้ามันกว่าเดิมมาก สิวหนักไปที่ก้น- สะโพก ก้นและต้นขาเล็กลง ตอบลง อาจจะเพราะการออกกำลังกายต่อเนื่องด้วยควบกัน**ขอบคุณที่ติดตามนะคับ ยินดีให้ข้อมูลจากตัวผม ไม่แนะนำใดๆทั้งสิ้นไปรับฮอโมนเอง ต้องพบแพทย์นะคับ อันตรายถึงชีวิต ผมมีกระบวนการต่อเนื่องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งนะคับ**

คลิบนี้เป็นคลิบที่ 7

รีวิวจากเข็มที่ 4 นะคับ- เสียงทุ้มเเน่น มีตกหล่นบ้างบางจังหวะ- ขนดำเห็นชัดขึ้นมากกว่าเดิม- อารมณ์มีอาการหงุดหงิดบ้างนิดหน่อย- กินเยอะต้องพยายามคุมน้ำหนักอย่างเคร่งครัด- ลดปริมาณฮอโมนลง เพราะแพทย์เล็งเห็นว่า ฮอโมนชายเยอะมา และปรับไวกลัวจะเป็นปัญหาตอนปลาย**ขอบคุณที่ติดตามนะคับ ยินดีให้ข้อมูลจากตัวผม ไม่แนะนำใดๆทั้งสิ้นไปรับฮอโมนเอง ต้องพบแพทย์นะคับ อันตรายถึงชีวิต ผมมีกระบวนการต่อเนื่องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งนะคับ**

คลิบนี้เป็นคลิบที่ 11

รีวิวจากเข็มที่ 7 นะคับ- เหงื่อออกเยอะมากกว่าปกติ และมีอารมณ์ทางเพศสูง- มีอารมณ์แปรปรวนเล็กน้อย - มีกลิ่นตัวเยอะขึ้นชี้แจงเรื่องยาฮอโมนและอันตรายที่เกิดขึ้นกับร่างกายแนะนำการเตรียมตัวก่อน ผ่าตัดหน้าอกแนะนำวิธีผ่าตัดหน้าอกแบบต่างๆขั้นตอนการผ่าตัดก่อนผ่าตัด...1.อยากให้ออกกำลังกาย เน้นบริเวณหน้าอกและด้านข้างลำตัว 2.การกิน ก่อนผ่าตัด กินหมูเยอะๆคับ มีพี่ๆบอกมาว่ามันช่วยเกี่ยวกับเนื้อหนังกล้ามเนื้อ และหลังผ่าก็ควรกินหมูเป็นมื้อหลัก3.ของที่กินได้หลังผ่าตัดได้แก่ หมู ปลาน้ำจืด น้ำใบบัวบก ผัก และผลไม้4.ควรงดวิตามินที่เพิ่มเลือดก่อนการผ่าตัดหมายเหตุ หลังการผ่าตัด * ห้ามกิน - เนื้อไก่ เพราะมีสารเร่งโตเยอะ มันจะทำให้เกิดการชดเชยของเซลล์เนื้อเยื้อ ยิ่งแผลใหญ่และกว้าง มันก็จะยิ่งสร้างเนื้อขึ้นมาชดเชย- ไข่ไก่ ทำให้แผลนู้น พอๆกับ เนื้อไก่- โปรตีน ต่างๆ เช่น เวย์- ของหมัก ของดอง- อาหารทะเล ปลาน้ำเค็ม- หน่อไม้- ของแสลง ต่างๆ เช่น ส้มตำ ข้าวเหนียว 

**ขอบคุณที่ติดตามนะคับ ยินดีให้ข้อมูลจากตัวผม ไม่แนะนำใดๆทั้งสิ้นไปรับฮอโมนเอง ต้องพบแพทย์นะคับ อันตรายถึงชีวิต ผมมีกระบวนการต่อเนื่องกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งนะคับ**

โอเคนะคับทีนี้มันจะไปจบตรงเตรียมตัวผ่าหน้าอก [จะอยู่ในหัวข้อ Chinz' Top Suergery ก่อนหน้านี้แล้ว] ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นเรื่องการแก้ไขและเรื่องอัปเดทโดยรวมซึ่งมาดูกันต่อคับ

เป็นการอัพเดทให้เห็นถึงการเปลียนแปลงของเสียง ของผมนะคับตอนนี้เสียงผมคงที่แล้วไม่มีอาการอะไรแล้ว ร้องเพลงได้ปกติเช่นเดิม แต่ยังคงต้องวอมเสียงและฝึกร้องในคีย์ ดรอฟกว่าเดิม คือ Eb นะคับ โทนเสียงผู้ชาย ที่อยู่ในระดับ สูงได้ ต่ำได้นะคับ ต้องฝึกเยอะๆ เหมือนเริ่มแรกที่เราร้องเพลงนะคับ

คลิบนี้เดือนที่ 8 เข็มที่ 15 กำลังไปเดือนที่ 9 นะคับ

เพราะหลังจากตรงนี้ผมก็รับฮอร์โมน เดือนละครั้งเท่านั้นคับ

เป็นการอัพเดทให้เห็นถึงการเปลียนแปลงของฮอร์โมนที่ผ่านนะคับ- เรื่องอาการบวมน้ำ- อาการนอนกรน- อาการหงุดหงิดง่าย

และหลังจากนั้นผมก็ได้ไปออกรายการปากโป้ง

ซึ่งผมได้พูดเป็นนิยามตัวผม บอกเล่าเรื่องราวของผมได้รู้กันคับ

และก็ตามมาด้วยรายการ i can see you voice ซึ่งบอกได้เต็มปากว่าไม่มั่นใจในการร้องเพลงอย่างที่สุด เพราะถือว่าการคุมเสียงของผมยังไม่ดีพอ

แต่โอกาสมาแล้วหลังจากออดิชั่นไว้ข้ามปี ก็ต้องคว้าไว้ และผ่านมาได้ด้วยดี จนกลายเป็นนามสกุลของผมไปแล้ว

ก็มาสรุปใน 1 ปีกว่าๆที่ผ่านมา กับความเปลี่ยนแปลงของตัวผม- ผลของฮอร์โมนที่ได้รับไป- อาการข้างเคียง- สังคมรอบด้าน- การใช้ชีวิต- อนาคตที่ดำเนินต่อไป- สิ่งที่อยากจะบอกไม่ต้องห่วงเลยผมตัวจริงกับในรูปเหมือนกัน^^โดยรวมตัวผมถือว่าโอเคนะคับ สำหรับคนอื่นๆ ผมก็ยังยืนยันให้ไปหาข้อมูลให้เยอะที่สุด เพราะการเปลี่ยนแปลงมันคือชีวิตทั้งชีวิต ปรึกษาครอบครัว ปรึกษาคนไกล้ตัว และคิดถึงอนาคตที่ตามมาด้วยนะคับ อย่าคิดว่ามันง่าย อย่าคิดว่ามันเท่ ผลเสียหรือโรคที่ตามมามันมี และแต่ละคนไม่เหมือนกัน เชคตัวเองก่อนนะคับ^^

2 : เตรียมความพร้อมจากฮอร์โมน

ต่อจาก #1 เมื่อทบทวนข้อดีเสียของหลายๆ อย่างแล้ว ทีนี้สำหรับตัวผม ไม่ได้รีบร้อนอะไรขนาดที่พอรู้ว่ามีวิวัฒนาทางการแพทย์ทำได้ "ก็สักแต่ว่าไปทำเลย" ไม่เลยคับ เพราะขณะที่ผมเขียนเรื่องราวของผมให้เพื่อนๆ อ่านกัน กันยา 2560 ที่จะถึงนี้ ผมจะครบสองปีที่รับฮอร์โมน ไม่ได้รับมาหลายๆปีอย่างที่พูดกันมั่วซั่วนะคับ ทีนี้มาดูเรื่องของผมว่าทำไมถึงเปลี่ยนแปลงและรับมือกับฮอร์โมนเพศชายได้ไว

หลังจากผมจบมหาวิทยาลัยแล้วผมทำงานรวมๆ แล้วนานหลายปีมาก และก็ยังไม่มีการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงหญิงมาเป็นชายให้เห็นสักที แต่โชคดีกว่าเดิมตรงที่ว่าผมไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งร้านเน็ตเพื่อหาข้อมูลแบบอายๆ ผมก็เปิดหาในออฟฟิตสบายๆ อ่านไปอ่านมาเจอบทความหลายๆคนที่ จากชายเป็นหญิง พูดถึงเรื่องผิวพรรณของตนเองที่จากหยาบกร้านค่อยๆมีน้ำมีนวลขึ้น ผมก็เลยเริ่มถามเพื่อนผมที่เป็นสปีชี่นี้ นี่เลยเป็นอีกเรื่องให้ผมใช้เวลานานกว่าเดิม

หลักๆที่ผมต้องหาข้อมูลใส่สมองผมเพิ่มเติมคือเรื่องต่อไปนี้

• ผิวพรรณจากหญิงเป็นชาย มันต้องสลับกันแน่นอน
• ประจำเดือนจะมาไม่มายังไง มีผลกับเรามากน้อยแค่ไหน ทั้งๆที่ผมแทบไม่ค่อยมาด้วยซ้ำ
• ทำไมกะเทยถึงมีนมได้ทั้งไที่ไม่ไ้ดผ่าตัดเลย แล้วกินยาต้องขนาดไหน ตับไตไม่พังเหรอ
• ขณะที่รูปร่างและสภาพเป็นผู้หญิงหมดแล้ว ทำไมลักษณันิสัยยังมีความแมนอยู่มาก
• เสียงของกะเทยทำไมยังต้องดัด ต้องบีบเสียง และที่สำคัญลูกกระเดือกยังอยู่
• ทำไมเปลี่ยนตัวเองกันไวจัง คือหาเงินกันทางไหน และรพ หรือคลินิกเค้าพัฒนาไปไกลแล้วเหรอ

มันเป็นคำถามผมในหัวตลอดเวลานะ พอถามๆแยบๆ ให้มีแนวทางได้รู้บ้าง ผมก็ได้เข้าใจหลักของโครงสร้างๆ ไม่ว่าจะเป็น เฮโมโกลบิน hemoglobin, กายวิภาค Anatomy, แต่สำคัญสุดคือ "ฮอร์โมน"

ฮอร์โมนทั้งเพศชายและเพศหญิงที่มีอยู่ในตัวเรานั้นมีส่วนสำคัญต่อการใช้ชีวิตอย่างมากๆ

ที่เราเกิดมาจะแยกชัดเจนคือเรื่องทางสรีระ ในสมองของคนเราจะมีต่อม "พิทูอิทารี Pituitary gland" ที่สร้างฮอร์โมนในการ และก็กำหนดความแตกต่างในร่างกายของชายหญิง ในทุกๆอย่างรวมไปเรื่องอารมณ์ต่างๆ ที่เราแสดงออกมากันด้วย คือภายในตัวเรานี่มันน่ากลัวนะเพราะไม่สามารถลงไปเข้าไปในตัวเพื่อคุยกับมันได้เลย

ทีนี้ก็มาเข้าใจกับไอฮอร์โมนเพศเนี้ยนิดหนึ่งที่มาที่ไปของมันคือ มันถูกสร้างขึ้นในต่อมไร้ท่อที่เรียกว่า "ต่อมเพศหรือต่อมไร้ท่อ Gonad gland" ซึ่งฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของเพศหญิงเรียกว่า "เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน Androsterone Progesterone" มีหน้าที่ทำให้ผู้หญิงพัฒนาจากเด็กไปสู่วัยสาว ทำให้เรามีหน้าอก มีสะโพกผาย น้ำเสียงเเหลมนุ่ม อารมณ์อ่อนไหว เอาง่ายๆก็มีรูปร่างสะโอดสะอง และที่สำคัญคือ "มีประจำเดือน" ก็ขึ้นอยู่ว่าแต่ละคนจะสภาพร่างกานสมบูรณ์แค่ไหน บางคนมีตอนอายุ 13-15 ก็มีแต่ผมนี่ประมาณ 17 ถึงจะมาให้รู้ว่าเธอๆ เธอนั่งฉี่นะอย่าลืมตัว55

มาในส่วนของผู้ชายกันบ้าง กลุ่มฮอร์โมน "แอนโดรเจน Androgen" อ่ะเดี๋ยวจะงง คือแบบนี้นะคับ ไอตัว"แอนโดรเจน Androgen" มันถูกสร้างจากต่อมหมวกไตส่วนนอกชั้นในสุด สร้างฮอร์โมนเพศชายที่มีผลต่อร่างกายน้อยกว่าที่ "ผลิตจากอัณฑะ" มีปริมาณทั้งหมดประมาณ 15 เปอร์เซนต์ของฮอร์โมนเพศชายทั้งหมด โดยจะถูกเปลี่ยนเป็น เทสโทสเทอโรน ที่เป็นรูปที่ออกฤทธิ์ซึ่งทำหน้าที่สร้างความเป็นชายทำให้เด็กชายที่กำลังเข้าสู่วัยหนุ่มมีเสียงห้าวทุ่มต่ำขึ้น เริ่มมีหนวด มีขนบางคนได้พันธุกรรมดีๆ กันมา เช่น สูงไว อ้วนไว สิวเยอะ หัวล้าน เคราดกดำ ผมหยิก และไอเจ้าตัวนี้ก็มีทบาทมากกับ "อารมณ์ของทั้งสองเพศด้วย"

ก็คือถ้าเริ่มเข้าสู่วัย หนุ่มสาวแล้วเรื่องการต้องการทางเพศนี่ปกติมากๆ นะคับ น่าจะพอเห็นภาพกันได้ว่าเราเปลี่ยนมาจากตรงไหนกันบ้างเนอะ :)

คือผมก็อ่านๆหลายบทความมา ก็มาเขียนแบบภาษาของผม ได้เข้าใจง่ายๆ ไม่ได้เรียนหมอแต่ผมคิดนะว่าถ้าผมต้องทำอะไรเกี่ยวกับร่างกายเรื่องพวกนี้ผมต้องเข้าใจหลักของมัน

❝เพื่อไม่ให้เดือดร้อนคนอื่นเวลาที่ตัดสินใจไปแล้ว แล้วต้องเกิดผลเสียกับตัวเอง❞

เครดิตความรู้ :

https://th.wikipedia.org/wiki/เทสโทสเตอโรน

https://www.siamhealth.net/public_html/mother_child/menopause/estrogen.htm#.WW336TOB3YU

https://www.il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter4/androgen.htm

ขอบคุณคับ

#ประสบการณ์โดยตรงของชีวิตผม #เตรียมความพร้อมจากฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของผมจนถึงวันนี้ 2 ปีและค๊าบ^^

Chinz Phattarapakorn

หากต้องการปรึกษาการผ่าหน้าอก

แอดไลน์@ที่ @surgery2466 [กลุ่มพีอาร์สยามเมสคลินิก]

https://line.me/R/ti/p/%40surgery2466

FB : www.facebook.com/chinz.phattarapakorn

Fanpage: www.facebook.com/Chinz.Artist/

IG : www.instagram.com/chinzphatt/

Twitter : www.twitter.com/ChinzPhatt

Create Date : 31 ตุลาคม 2560		0 comments
Last Update : 29 มกราคม 2561 12:58:14 น.
Counter : 14462 Pageviews.
Share Tweet