รักษาได้หรือไม่
การรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก โดยทั่วไปไม่มีการผ่าตัด เช่น ถ้าเป็นชนิด ALL ทำโดยการให้ยาเคมีบำบัดเป็นหลัก หรืออาจมีการฉายรังสีบริเวณศีรษะร่วมด้วย เป็นต้น ในรายที่โรคมะเร็งกลับเป็นซ้ำต้องรักษาอย่างต่อเนื่องอาจทำการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก
เคมีบำบัด
เป็นวิธีการรักษามะเร็งที่ได้ผลดี คุณหมออาจแนะนำให้ยาเคมีบำบัดหลายชนิดพร้อมกัน หรือตามลำดับที่เหมาะสม ตามแต่ชนิดของมะเร็ง เพราะทำให้มีโอกาสหาย ผลข้างเคียงที่ยอมรับได้
ฉายรังสี
ในบางรายการให้ยาเคมีบำบัดยังไม่เพียงพอที่จะลดการเกิดโรค หรือกรณีที่มีความเสี่ยงจะเกิดการแพร่กระจายของโรคเข้าสู่สมอง อาจมีการฉายรังสีแบบป้องกันบริเวณสมอง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค ควรหลีกเลี่ยงการฉายรังสีในเด็กเล็ก โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 3 ปี เนื่องจากสมองกำลังเจริญเติบโต
ปลูกถ่ายไขกระดูก
ด้วยโรคโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว สามารถกลับมาเกิดซ้ำได้อีก วิธีการปลูกถ่ายไขกระดูก จะช่วยรักษาโรคให้หายได้เพิ่มขึ้นเป็น 60-70% และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อาจต้องได้ไขกระดูกจากพ่อแม่ ญาติ หรือพี่น้อง ที่มีคุณสมบัติเข้าได้กับผู้ป่วยในขั้นตอนนี้การรักษา จะอยู่ในดุลยพินิจของคุณหมอเป็นสำคัญ
นอกจากข้อมูลเบื้องต้น รายละเอียดที่อธิบาย เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักโรคมะเร็งในเด็กเล็ก ลำดับต่อไปคือ บทสัมภาษณ์คุณแม่ ที่ผ่านพ้นเรื่องราวของลูก เราไปติดตามเรื่องราว ประสบการณ์ของคุณแม่มาถ่ายทอดให้ฟังกันค่ะ
น้องเนเน่
คุณกรุณา อิ่มจันทร์ เป็นคุณแม่มือใหม่ ที่ออกจากงาน เพื่อเตรียมพร้อมดูแลลูกน้อย น้องเนเน่ - ด.ญ. ศุภกร ชิณเกตุ ในช่วงที่ไม่สบาย และจากความกังวลใจ ความสับสนที่มี ถึงวันนี้เธอแข็งแกร่ง พร้อมสู้เพื่อลูกน้อยวัย 8 เดือน (ณ วันสัมภาษณ์) เพราะกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง
ตอนนั้นน้องเนเน่ อายุได้เพียง 5 เดือน อาการเริ่มแรกน้องมีไข้ แล้วก็ถ่ายเหลว ท้องเสีย คิดว่าเขายืดตัว ก็พาไปโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลต้นสังกัด สันนิษฐานว่า จะเกี่ยวข้องกับเรื่องลำไส้ อาจเป็นอาการลำไส้อุดตันเพราะน้องมีอาการท้องผูก จากนั้นย้ายตัวมาเอ็กซเรย์และเจาะเลือดน้องที่โรงพยาบาลฉะเชิงเทราอีกครั้ง พบว่า มีก้อนเนื้อที่ช่องท้องด้านหลัง ขนาดประมาณ 10 เซนติเมตร เลือดก็มีปัญหา ปรากฏว่า ฟิล์มที่เอ็กซเรย์ไม่ค่อยชัด ก็เลยให้คำตอบไม่แน่ชัด ต้องส่งตัวมาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ หลังจากย้ายมาพบคุณหมอโป่ง (พญ.ดารินทร์) คุณหมอก็รีบดำเนินการทันที รับน้องไปเจาะเลือด และให้ยารักษาตามขั้นตอน คุณแม่รู้สึกสบายใจมากขึ้น แต่ก็มีผลจากการใช้ยา คือน้องผมร่วงแล้วก็ตัวซีด ซึ่งคุณหมอบอกคุณแม่ล่วงหน้าแล้ว ก็ไม่กังวลเท่าไหร่ ค่ะ
รู้สึกว่า ความเป็นแม่ ยอมที่จะทำทุกวิธีที่จะช่วยลูก จากที่ทำงานก็ออกจากงาน เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดให้มากที่สุดผ่านปัญหาตอนนั้นมาได้ เหมือนวิกฤตคือโอกาส เพราะทุกคนในครอบครัวหันหน้าเข้าหากัน เพราะน้องเนเน่เป็นหลานคนเดียวของบ้าน ตายยายค่อนข้างกังวล เป็นห่วงมาก พอน้องเนเน่ไม่สบาย ก็เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมหมดเลย ทำบ้านหลังใหม่ แยกกันอยู่เพราะกลัวเรื่องติดเชื้อ เรื่องฝุ่นจากที่คุณตาไม่เคยเข้าวัด ก็เข้าวัด ปฏิบัติธรรมเพื่อหลานค่ะ
คุยกับหมอโป่ง
การวินิจฉัยเบื้องต้นของทางการแพทย์ ผศ. พญ. ดารินทร์ ซอโสตถิกุล หนึ่งในทีมดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กเล็กและวัยรุ่น อธิบายถึงกรณีการป่วยของน้องเนเน่ให้ฟังว่า
น้องมีความผิดปกติของเลือดค่อนข้างมาก ทำให้สงสัยว่า น่าจะเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว และอาจมีลักษณะต่อมน้ำเหลืองโตได้ แต่ไม่มีก้อนขนาดใหญ่ ทำให้สงสัยว่า ก้อนเนื้อดังกล่าวคืออะไร ก็เลยคิดว่า ต้องส่งตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องอีกครั้ง แต่ด้วยน้องมีไข้มาหลายวันแล้ว ไม่อยากเสียเวลา หมอใช้วิธีตรวจไขกระดูก ประเมินดูว่า อาการที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่ประเมินไว้หรือเปล่า
กรณีของเนเน่ ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลันชนิด Acute Myelocytic Leukemia : AML คือ ชนิดที่อาการและการเปลี่ยนแปลงของอาการรวดเร็ว พบได้ในเด็กและผู้ใหญ่ โอกาสรักษาให้หายขาดยาก ต้องให้ยาหลายครั้งเพื่อทำลายเซลล์ การดูแลรักษาทำในลักษณะเป็นคอร์สๆ น้องเนเน่อยู่ในขั้นตอนที่ 2 คือผ่านการให้ยาบำบัดเคมีมาแล้ว การให้ยาเคมีบำบัดจะเกิดผลข้างเคียง คือภาวะซีดกว่าปกติ อาเจียน มีจ้ำเลือดตามร่างกายหรือผมร่วงก็ได้ (จะให้ยาป้องกันการอาเจียนก่อนใช้ยา)
สำหรับการดูแลลูกน้อยที่บ้านสำคัญมาก เนื่องจากเด็กอยู่ในภาวะเกล็ดเลือดต่ำ พ่อแม่ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ระวังอุบัติเหตุ ความซุกซนเพื่อให้ลูกน้อยเกิดแผลหรือมีจ้ำเลือดได้ง่าย เรื่องต่อมาคือ อาหารการกินของลูกจึงต้องเน้นสุก สะอาด และใหม่เสมอค่ะ เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำโอกาสติดเชื้อเกิดได้ง่าย หากกินอาหารที่ไม่สะอาดหรือมีเชื้อโรค จะทำให้ท้องเสีย ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ โดยเฉพาะเมื่อลูกมีไข้ ควรรีบพาลูกมาพบคุณหมอทันที เพราะอาการไข้ บ่งบอกได้ว่า เด็กอยู่ในภาวะที่เม็ดเลือดขาวต่ำมาก อาจเกิดการติดเชื้อ จำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้อทันที
น้องซัน
คุณศิรวดี มณีชื่น คุณแม่ลูกแฝด น้องเซท.- ด.ช. ติณห์ และน้องซัน.- ด.ช. กฤษฏิ์ อัสสธีรนุวัฒน์ อีกหนึ่งครอบครัวที่เราได้ทำความรู้จัก รู้ว่า น้องซัน เจ็บป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ด้วยวัยเพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่แม่เบียร์กลับมีรอยยิ้ม กับสิ่งที่เผชิญ ด้วยเพราะคำว่าลูกของแม่
น้องซันมาหาคุณหมอช่วง 2 เดือนที่แล้ว (เดือนพฤษภาคม) ตอนนี้ก็เท่ากับอยู่โรงพยาบาลมาเป็นเดือน ตอนนั้นอาการที่รู้คือ เป็นหวัด หายใจครืดคราด แล้วก็ซึมผิดปกติ รู้สึกได้ก่อน 1 วันที่จะพาน้องซันไปโรงพยาบาล อีกหนึ่งอาการที่สังเกตเห็นความผิดปกติ คือเขาหายใจทางปาก หายใจเร็ว ด้วยลูกยังเล็กมากตอนเช้าก็เลยพาไปโรงพยาบาล
คุณหมอทดสอบเรื่องไข้หวัดก่อนค่ะ ปอดและทุกอย่างปกติ คุณหมอจึงขอเจาะเลือดไปตรวจ ก็พบว่า ค่าเม็ดเลือดขาวสูงมาก ช่วงที่น้องรักษาตัว น้องซันต้องเจาะเลือด 2 วันต่อครั้ง เพื่อหาเส้นเลือดที่จะนำไปตรวจ จนแขน ขา นี่ก็เจาะหาไปหมดแล้ว ตอนนี้เปลี่ยนมาเจาะเส้นเลือดที่ศีรษะ (สังเกตทรงผมสิคะ เท่ห์มาก 555) บางวันทนดูได้ บางวันทนไม่ได้ ก็เดินออกมา
ช่วงแรกที่เจอปัญหา ก็ย่อมสับสนอยู่สักพัก แต่เมื่อมีสติทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลายค่ะ และเท่าที่ฟังคุณหมออธิบายถึงตัวโรค โรคก็ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิดไว้ตอนแรก สำหรับคุณแม่เองยังมีน้องอีก 1 คนรออยู่ที่บ้าน ถ้าจะจมอยู่กับปัญหาคงไม่ได้ ต้องแบ่งใจ ทำใจยอมรับความเป็นจริง และคงไม่ใช่เราคนเดียวที่ประสบกับปัญหา คุณแม่คนอื่นๆ ก็อาจเจอปัญหาเหมือนเราก็ได้ พอมองปัญหาแบบบวก คิดแบบนี้ ก็ช่วยให้มีกำลังใจได้อีกเยอะค่ะ
คุยกับหมอปัญญา
ทีมงานได้ข้อมูล แนะนำจากคุณหมออีกหนึ่งท่าน นั่นก็คือ รศ. นพ. ปัญญา เสกสรรค์ ที่เฝ้าติดตามอาการ รักษา ดูแลน้องซันอย่างใกล้ชิด คุณหมอพูดถึงกรณีของน้องซันว่า
น้องซันต้องถ่ายเลือด เพื่อดึงเอาเซลล์มะเร็งออกมา และเพราะเซลล์มะเร็งตัวร้ายจะมีขนาดใหญ่ อาจไปอุดตันเส้นเลือดบริเวณปอด ทำให้น้องซันหายใจลำบากหลังเปลี่ยนถ่ายเลือด เราให้ยาเคมีบำบัดไปแล้ว 1 ชุด ตอนนี้กำลังดูว่า ผลเป็นอย่างไร เพื่อดูว่าน้องมีปัญหาติดเชื้อ เลือดออกหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้น้องซันมีแผลที่ก้นลึกมากเกิดจากเวลาน้องขับถ่าย อุจจาระอาจบาดก้นทำให้เกิดแผลบริเวณนี้ กัดลึกลงไปเรื่อยๆ แต่ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากการรักษาอาการแล้ว การรักษาเด็กเล็ก ยิ่งเล็กก็ยิ่งยาก เช่น การเจาะเลือด อาจจะหาเส้นเลือดยากหน่อย
น้องซันเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเดียวกับน้องเนเน่ (แบบ AML) มีแนวโน้มว่า อาจต้องปลูกถ่ายไขกระดูกของคนพี่ เนื่องจากเป็นพี่น้องเด็กแฝดกัน ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนเช็กข้อมูลว่า กรุ๊ปเลือดตรงกันหรือไม่ และเป็นไข่คนละใบหรือเปล่า (ข้อมูลต้องตรงกันทั้ง 2 ส่วน) ถามว่า คนพี่มีโอกาสที่จะเป็นหรือไม่นั้น ก็ไม่เสมอไป แค่มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปเท่านั้นเอง ช่วงที่ให้ยารักษาแรกๆ ส่วนใหญ่มักต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อให้โรคสงบอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน แล้วแต่ชนิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาว เมื่ออาการดีขึ้นก็จะให้กลับบ้านและมาพบหมอตามนัดปกติ
การป้องกันนั้น คงทำได้ไม่เต็มร้อย สิ่งที่ทำได้ คือการให้ความรู้ และเมื่อลูกป่วย มีอาการผิดปกติควรรีบพาลูกมาพบคุณหมอ เพื่อวินิจฉัยโรคได้ทันท่วงทีครับ
เก็บตกก่อนจากกัน เราได้คำแนะนำจากคุณหมอโป่งของเด็กๆ ที่เตือนสติคุณพ่อแม่ว่า เราเลือกปฏิเสธปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้ ฉะนั้น ก็ต้องแก้ไขอย่างถูกวิธีและมีสติ ยิ่งเด็กเล็กเจ็บป่วย อาจเป็นเรื่องหนักใจของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย และญาติๆ แต่หากมองอีกหนึ่งมุมของปัญหา ก็ถือว่า เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่คนในครอบครัวจะได้ใกล้ชิด ดูแล เอาใจใส่ต่อกันมากขึ้น เรียกว่า พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสนั่นเองค่ะ
Source: Mothere&Care Vol.8 No.93 September 2012
Link: //www.motherandcare.in.th