วิธีน้อมใจก่อนกราบพระ และอุทิศกุศล
ก่อนกราบพระ หรือทำบุญใดๆ๑.ให้นึกถึงศีลของเรา... ว่าสะอาด ผ่องใส่ บริสุทธิ์ บริบูรณ์ดีอยู่หรือเปล่าถ้าไม่ ...ให้ตั้งใจ อาราธนาศีล... ถ้ารักษาเต็มวันไม่ได้ ก็ตั้งใจ สมาทาน เท่าที่เราจะรักษาได้ จะกี่ชม. ก็ตาม แต่ตั้งใจ โดยเอาชีวิตเข้าแลก..ว่า จากนี้ ไปตั้งแต่เวลา... ถึงเวลา... เราจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะมีสิ่งใดมายั่วยุขนาดไหนเราขอยอมตายดีกว่าศีลขาด... (หายใจเข้าและออกอย่างมีสติระลึกรู้)๒. นึกน้อมระลึกบูชาถึงพระคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มารดาบิดา ครูบาอาจารย์ และจะแสดงกตเวฑิตาต่อท่าน ด้วยการตั้งใจนำความดีที่เรากำลังจะกระทำนี้(และที่ได้กระทำไปแล้วทั้งหมดที่ผ่านมา) ทดแทนบูชาพระคุณ (หายใจเข้าและออกอย่างมีสติระลึกรู้)๓. มองเห็นความทุกข์ ความไม่เที่ยง และบังคับอะไรไม่ได้ จึงไม่ใช่ของเราหรือของใคร ...ในสรรพสิ่งทั้งหลาย...โดยเฉพาะ ร่างกายเราเอง (หายใจเข้าและออกอย่างมีสติระลึกรู้)นั่งหลังตรง ชายนั่งท่าเทพบุตร หญิงนั่งท่าเทพธิดาพนมมือขึ้น หายใจเข้า ก้มศรีษะหัวแม่มือจรดหว่างคิ้ว หายใจออก โน้มตัวลงกราบ ระลึกถึงพระคุณ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหายใจออกให้หมด..กลั้นหายใจ ตั้งตัวตรงหายใจเข้า ก้มศรีษะหัวแม่มือจรดหว่างคิ้ว หายใจออก โน้มตัวลงกราบ ระลึกถึงพระคุณของพระธรรม...หายใจออกให้หมด..กลั้นหายใจ ตั้งตัวตรงหายใจเข้า ก้มศรีษะหัวแม่มือจรดหว่างคิ้ว หายใจออก โน้มตัวลงกราบ ระลึกถึงพระคุณของพระสงฆ์...หายใจออกให้หมด..กลั้นหายใจ ตั้งตัวตรงหายใจเข้า ก้มศรีษะหัวแม่มือจรดหว่างคิ้ว หายใจออก โน้มตัวลงกราบ ระลึกถึงพระคุณมารดาบิดา...หายใจออกให้หมด..กลั้นหายใจ ตั้งตัวตรงหายใจเข้า ก้มศรีษะหัวแม่มือจรดหว่างคิ้ว หายใจออก โน้มตัวลงกราบ ระลึกถึงพระคุณครูบาอาจารย์...หายใจออกให้หมด..กลั้นหายใจ ตั้งตัวตรงบทอุทิศกุศลบุญทั้งหมด ที่เราทำมาแล้ว ในอดีต จนถึงปัจจุบัน ขอจงรวมตัวกัน แทนเครื่องสักการะบูชา ขอน้อมบูชาถวาย ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอน้อมบูชาถวาย ต่อพระธรรม ขอน้อมบูชาถวาย ต่อพระสงฆ์ขอน้อมบูชาถวายต่อพระคุณมารดาบิดา ครูบาอาจารย์ ทุกภพทุกชาติที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันขอน้อมบูชาถวาย ต่อพรหม-เทวดา -สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คุ้มครองรักษาชีวิตเรา...ที่คุ้มครองรักษาที่พักอาศัย ที่ทำงานของเราและที่คุ้มครองรักษาพุทธศาสนสถานทั่วโลกด้วย...บูชาตลอดไปจนถึงดวงจิต ดวงใจของพุทธศาสนิกชน ผู้เป็นสัมมาทิฏฐิทุกท่าน(หายใจเข้าลึก หายใจออกยาว..มีสติระลึกรู้ทุกลมหายใจ...)บุญทั้งหมดที่เราทำมา เราขออุทิศให้กับทุกๆดวงจิตดวงใจ ที่เคยทำร้ายล่วงเกินเรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งที่เราจำได้และมิได้ก็ดี เพื่อจะประกาศสัจจะวาจาในวันนี้ว่า เราอโหสิกรรมให้ทั้งหมดขึ้นชื่อว่าความพยาบาท เบียดเบียน จองเวรผู้หนึ่งผู้ใด ไม่เหลือเชื้อในใจเราตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยสัจจะวาจานี้..ด้วยอำนาจแห่งอภัยทานอันยิ่งใหญ่นี้..ขอบุญทั้งหมดจงรวมตัวกัน อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายขอท่านทั้งหลายจงมีความสุข และพ้นจากทุกข์ และอโหสิกรรมให้แก่เราด้วยเถิด(หายใจเข้าลึก หายใจออกยาว..มีสติระลึกรู้ทุกลมหายใจ...)บุญทั้งหมดที่เราทำมา... ขออุทิศให้กับทุกๆดวงจิตดวงใจ..ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง..ไม่ว่าท่านเหล่านั้นจะอยู่ในภพภูมิใดก็ตามขอจงมีส่วนในบุญที่เราทำมาแล้วทั้งหมดทั้งสิ้น(หายใจเข้าลึก หายใจออกยาว..มีสติระลึกรู้ทุกลมหายใจ...)บุญทั้งหมดที่เราทำมา ขอจงเป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้เราทั้งหลาย ได้เข้าถึงอมตบท บทดับตัณหาทั้งปวง คือพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ(หายใจเข้าลึก หายใจออกยาว..มีสติระลึกรู้ทุกลมหายใจ...)กรรมฐานกองสำคัญที่ควรระลึกถึงอยู่เสมอคือ มรณานุสสติ ลองสมมุติว่า ถ้าเรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นวันสุดท้ายเราพร้อมที่จะจากทุกสิ่งไปหรือยัง..ฝึกระลึกถึงบ่อยๆ เพราะเมื่อความตายมาถึง เราจะพร้อมหรือไม่ก็ตาม ก็จะไม่สามารถผัดเพี้ยนต่อพญามัจจุราชได้