สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
9 สิงหาคม 2553

ปัญหาเกิดทุกที เมื่อมีแฟนเด็ก (กว่าเยอะมากๆ)

คือว่า ฉันรักเด็กค่ะ...แต่ฉันไม่ได้เป็นนางงามนะคะ ฉันเป็นสาวออฟฟิศทั่วๆไปนี่แหละค่ะ... และฉันก็เจาะจงรักแต่เด็กผู้ชายเท่านั้น เอากันตรงๆเลยแล้วกัน นั่นแหล่ะค่ะ ฉันหลงรักผู้ชายที่เด็กกว่า (มากๆ) มิหนำซ้ำยังจับเค้ามาเป็นแฟนอีกแน่ะ

จะเด็กกว่ามากแค่ไหน...อืม... คุณๆก็ลองนึกเอาละกันนะคะว่า ถ้าย้อนเวลากลับไป ตอนฉันเข้าปีหนึ่งมหาวิทยาลัย แฟนฉันคนนี้ยังนุ่งกางเกงสีกากี หัวเกรียน แบกกระเป๋านักเรียนสีดำใบโตๆอยู่เลยอ่ะค่ะ

แต่ขอโทษ...ณ ตอนนี้ ลองฉันไม่บอกใครๆว่าเขามีอายุอ่อนกว่าฉันเท่าไหร่ จ้างให้ชาวบ้านก็เดากันไม่ออกหรอกค่ะ เพราะฉันโชคดีเกิดมาอายุขนาดนี้แล้วยังไม่มีริ้วรอย มันเป็นผลพลอยได้จากการทานน้ำ ทานผัก และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไหนจะเครื่องสำอางอีกเป็นกระบุงที่พยุงส่งเสริม แต่ถึงแม้ลักษณะทางกายภาพจะไม่สามารถบอกความจริงได้ แต่สถานภาพทางสังคมและหน้าที่การงานนี่แหละค่ะ ที่กำลังสร้างปัญหาหนักอกหนักใจใหญ่หลวง

เพราะถึงแม้ฉันจะดูดีหน้าเด็กขนาดไหนก็ตาม มันก็คนละเรื่องกับที่ฉันจะมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานไปตามเวลา ตอนนี้ฉันเป็นรุ่นพี่ซีเนียร์สุดๆในบริษัทแล้วค่ะ (ดีจาย) แต่ว่าสุดที่รักของฉันน่ะ เพิ่งจะเข้าทำงานแห่งนี้เป็นที่แรกในชีวิต (แอบเศร้า) ความหวานปนตื่นเต้นในความรักของฉันในช่วงแรกๆ ทำให้ฉันลืมคิดถึงเรื่องอื่นๆไปเลย ถึงขั้นหายหน้าหายตาไปจากก๊วนเพื่อนฝูงอยู่หลายเดือน แต่วันนี้ ฉันทุกข์ระทม รู้สึกอึดอัดและมีอะไรบางอย่างส่อเค้าว่ารักของเรากำลังจะมีปัญหา ฉันจึงสรุปความไม่สบายใจ และเหตุผลที่มาของมันได้ดังนี้

ผล: ฉันไม่สบายใจ เวลาที่พ่อแม่ของฉันถามว่า แฟนเป็นใคร ทำงานอะไร อายุเท่าไหร่
เหตุ: ก็จะให้บอกได้ไงเล่า บอกไปก็เป็นห่วงอีก เดี๋ยวจะว่าหลอกเด็ก หรือไม่ก็จะได้ฟังคำเตือนประเภทที่ว่า..คบเด็ก เดี๋ยวก็โดนเด็กหลอก...ไม่อยากฟัง

ผล: ฉันอึดอัดใจ เวลาที่แฟนจะพาไปบ้านของเขา
เหตุ: ไม่รู้จะวางตัวยังไง พี่คนโตของเขายังต้องยกมือไหว้ฉันเลย หลายครั้งที่ฉันต้องไปคุยกับแม่ของเขาแทน เพราะดูจะพูดกันรู้เรื่องกว่า

ผล: ฉันกังวลใจ ที่เขามักมีเวลาส่วนตัวไปสังสรรค์กับเพื่อนๆผู้ชาย (ประสาพวกที่เพิ่งเรียนจบและมีงานทำ มีเงินเดือนกิน)
เหตุ: เพราะฉันเคยไปด้วย และเห็นว่าพวกเขาคุยกันในสิ่งที่ฉันคิดว่าไร้สาระ และนั่นทำให้ฉันหงุดหงิดมากเวลาเขาจะต้องไป ฉันไม่อยากให้เขาไปเลย ถึงขั้นขอร้อง แต่เขาก็ยังไป

ผล: ฉันหึง เวลาที่ได้ยินน้องผู้หญิงในที่ทำงานพูดถึงเขาด้วยความชื่นชม
เหตุ: เพราะน้องผู้หญิงคนนั้นสวย และที่สำคัญ...เอ๊าะกว่าฉัน ดูท่าทางน้องคนนี้จะสนใจเขาซะจริงๆ และถ้าเป็นอย่างงี้ ถ้าเขาเกิดรู้ว่ามีหญิงเอ๊าะๆ สนใจเขาขึ้นมาจริงๆ มันอาจจะทำให้เขาเปลี่ยนใจ

ผล: ฉันหึงอย่างร้ายกาจ เมื่อได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับคนที่ฉันไม่รู้จัก หรืออีกนัยหนึ่งคือเขาไม่ยอมแนะนำให้รู้จัก และแน่นอนว่าคนๆนั้นเป็น(เด็ก)ผู้หญิง
เหตุ: เพราะฉันระแวงว่าเด็กคนนั้นจะเป็นแฟนเก่า กิ๊กเก่า หรือแม้แต่เพื่อนเก่าที่ตอนนี้สวยพริ้งและฉลาดปราดเปรื่อง และที่สำคัญ...ไม่แก่ขนาดฉัน (เพิ่งเริ่มรู้สึกตัว) และเดี๋ยวจะทำให้เขาเปลี่ยนใจ (อีกแล้ว)

ผล: ฉันรู้สึกแย่แทนเขา เวลาที่จะต้องเข้าห้องประชุมเรื่องงาน และฉันต้องนั่งอยู่หัวโต๊ะ พูดเรื่องซีเรียสด้วยมาดของผู้บริหารหญิงที่น่าเกรงขาม ส่วนเขานั่งอยู่ในกลุ่มจูเนียร์มุมๆห้อง เม้าแตกกับเพื่อนๆไม่เคยเสนอความคิดเห็นอะไรได้เลย
เหตุ: เพราะฉันรู้สึกไม่โอเคที่ตัวเองเก่งกว่าเขา กังวลว่าเขาจะโดนเพื่อนร่วมงานดูถูก หรือกลัวว่าจะมีคนนินทาว่าร้าย ว่าเขามาคบกับฉันเพราะหวังไต่เต้า ในขณะที่สำหรับฉัน...แน่นอน...สุภาษิตสุดคลาสสิก...สมภารกินไก่วัด...โคแก่กินหญ้าอ่อน...มออออออ

ผล: ฉันไม่สบายใจ ที่จะต้องลองเลียบๆเคียงๆถามเขาถึงเรื่องคำมั่นสัญญา และการแต่งงาน
เหตุ: เพราะฉันรู้คำตอบดีว่าเขายังไม่พร้อม (แต่ฉันก็จะเลยวัยแต่งงานแล้วนะ...คัมม่อน)



และเพราะคำถามสุดท้ายนี้เอง ที่ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไป (เขาเหวอค่ะ) ฉันไม่ได้คำตอบที่ถูกใจกลับมา และแน่นอน ฉันรู้สึกแล้วว่าเรามีปัญหาแล้วจริงๆ ฉันยอมรับว่าตอนคบกันแรกๆฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องการแต่งงานเลย แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจ และฉันคาดหวังในตัวเขา คาดหวังกับอนาคตของเรามากขึ้น

ตอนนี้คุณๆคงอยากจะถามฉันว่า อีตอนเริ่มปิ๊งกันใหม่ๆทำไมไม่ดูตาม้าตาเรือซะก่อนว่ามันจะมีปัญหา น่าจะรู้ทั้งรู้ว่าอายุที่แตกต่างมันอาจทำให้ความรักผิดปกติ คุณขา...ก็ตอนนั้นฉันมีเพียงความรักนำทางโดยแท้ ส่งผลให้หน้ามืด หูหนวก ตาบอด และสมองเสื่อมค่ะ ความรักครั้งนี้มันยากที่จะปฏิเสธมาก

คุณๆลองคิดดู สมัยเรียนฉันเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนจนจบปริญญาโท ไม่เคยริอาจมีแฟน มีคนมาจีบนะ แต่ฉันไม่เคยสนใจ จนเรียนจบ มีงานทำ นั่นแหละธรรมชาติมันถึงเรียกร้อง แล้วพอถึงตอนนี้ หนุ่มๆรุ่นกระทงที่เหมาะกับการมาอยู่เป็นคู่กับฉัน ก็ล้วนแล้วแต่มีเจ้าของกันไปหมด สถิติยังบอกไว้เลยว่า ในโลกนี้มีอัตราส่วนผู้ชายต่อผู้หญิงเท่ากับ 2:3 ผู้หญิงอย่างฉันคงจะเป็นส่วนที่เหลือจากการจับคู่ (เศร้าดีแท้)

ซ้ำร้าย..ผู้ชายสองส่วนที่ว่ายังมีบางส่วนที่ไร้คุณภาพ (ขี้เหล้า เมายา เจ้าชู้ ขาดความรับผิดชอบ ไม่มีเป้าหมายใดๆในชีวิต) และอีกบางส่วนที่แปรพรรคมาเป็นผู้หญิงกะเขามั่ง เป็นแบบนี้แล้ว คุณๆจะให้ฉันหาเนื้อคู่ตุนาหงันได้จากที่ไหนกันเล่า ถ้าไม่ใช่ในกลุ่มเด็กผู้ชายรุ่นใหม่ๆ ซึ่งนอกจากจะยังไม่มีเจ้าของแล้ว พวกเขายังแสนสวีทซะขนาดนั้น เอาอกเอาใจไปเสียทุกเรื่อง เวลาที่ฉันเครียดเรื่องงาน ดูเหมือนว่าเขาจะทำให้ฉันผ่อนคลายได้ดี เขาคุยสนุก ถ่ายรูปเก่ง ร้องคาราโอเกะเพราะ ฯลฯ อยู่กับเขาแล้วเหมือนกับว่าโลกทั้งโลกมันช่างสดใสเสียนี่กะไร เหมือนโลกหยุดหมุน จะมีก็แต่เราสองคน มันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นนางเอกในมิวสิควีดีโอยังไงยังงั้นเลย....ว้าวววววว

แต่ฉันก็มีความสุขอยู่ได้แป๊บเดียวเท่านั้น แป๊บเดียวจริงๆ ยังไม่ทันเต็มอิ่มให้ได้ลืมช่วงเวลาที่แสนอับเฉา ปัญหาสารพันก็เริ่มรวมกันจนหนักหน่วง เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆคงเป็นเหมือนตะกอนหยาบที่ทำให้ปัญหาของฉันกับเขาพอกพูนขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ถึงขั้นคุยกันทีไรก็ต้องมีเรื่องให้หมางใจไร้ความสุขทุกทีสิน่า แล้วเขาก็มาบอกว่า เขาคิดว่าเขายังไม่พร้อม และไม่ดีพอสำหรับฉัน เขาบอกว่าเขายังไม่แน่ใจเลยว่าจะไปเรียนต่อดีหรือไม่ จะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดี นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการลงหลักปักฐานกับฉันซึ่งเหมือนจะโดนเลื่อนกำหนดการออกไปอย่างไม่รู้อนาคต (ว่าแล้วเชียว)

ตอนนี้ฉันขอเวลาไปทำใจก่อน ทะลงทะเล แม่น้ำภูเขา ฟังเพลงเหงา หรือรีสอร์ตสปา คงไม่ช่วยแก้ปัญหาของฉันได้แน่ๆ จะมีก็แค่ทำให้ฉันเศร้าหนักกว่าเดิม (เพราะต้องไปคนเดียว) ฉันเลยว่าจะอยู่นิ่งๆ ทำใจซักพัก เมื่อเข้มแข็งแล้วจึงจะพิจารณาดูว่าต้นเหตุของปัญหามันอยู่ตรงไหน แต่จริงๆไม่ต้องพิจารณา ฉันก็พอเข้าใจ ฉันปลอบใจตัวเองว่าฉันไม่ผิด ที่กามเทพมาแผลงศรให้ฉันหลงรักผู้ชายที่อายุน้อยกว่า (มากๆ) แต่เพราะความต่างนี่เอง พวกผู้ใหญ่พูดถูก ว่าความต่างของอายุ ฐานะทางการศึกษา สถานะการเงิน และสภาพสังคม ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดช่องว่างบางอย่างในความสัมพันธ์และจะนำมาซึ่งปัญหาที่ทำให้ทุกคู่รักต้องเลือกเดินทางใครทางมันในที่สุด

ฉันโทรไปหาเพื่อน...บอกเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน เพื่อนบอกว่าพอจะเดาออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าฉันคบกับผู้ชายคนนี้ แต่ตอนนั้นที่ไม่ได้ตักเตือนอะไรเพราะเห็นว่าฉันมีความสุขมาก (ปล่อยมันบ้าไปก่อน) แต่ฉันก็เพิ่งมาคิดได้ว่า ปัญหาเหล่านี้อาจจะไม่เกิดก็ได้หากว่าฉันและเขาเกิดมาเป็นคู่กันจริงๆ เพราะสำหรับคู่แท้ ความต่างใดๆอาจจะไม่ใช่อุปสรรค (ยังไม่เข็ด) อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่า หากมองในแง่ดี สิ่งดีๆที่เกิดขึ้นแม้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ คงจะเป็นประสบการณ์ และเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับฉันได้ในอนาคต อย่างน้อยๆฉันก็ได้รู้แล้วว่า ความรักในรูปแบบนี้มันก็มีปัญหายังงี้นั่นแหละ โฮ่ๆๆๆๆๆ






Create Date : 09 สิงหาคม 2553
Last Update : 9 สิงหาคม 2553 22:22:56 น. 2 comments
Counter : 797 Pageviews.  

 
เป็นกำลังใจให้นะครับ

คงจะหัวอกเดียวกันและ ความรักไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่คาดหวัง

ทำไรไม่ได้นอกจากยิ้มเข้าไว้


โดย: MTX900 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:1:58:09 น.  

 
สวัสดีค่ะ "ความต่างของอายุ ฐานะทางการศึกษา สถานะการเงิน และสภาพสังคม ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดช่องว่างบางอย่างในความสัมพันธ์และจะนำมา ซึ่งปัญหาที่ทำให้ทุกคู่รักต้องเลือกเดินทางใครทางมันในที่สุด " เป็นเรื่องจริงค่ะ
หลายๆคนบอกว่าถ้ารักกัน เข้าใจกัน ก้อคงไปกันได้ ใหม่ๆก้อได้อยู่หรอกค่ะ (เพราะเวลารักกันอะไรก้อดี อะไรก้อสวยไปหมด ทนได้ทุกอย่าง)แต่พอเวลาผ่านไป เริ่มเก่าๆกันแล้ว เราจะรู้ว่าช่องว่างเหล่านี้เราจะเริ่มรับไม่ได้ กลายเป็นปัญหาทำให้เราทนกันไม่ได้จนต้องเลิกลากันไป นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งงานกัน เขายังคิดว่าเขายังไม่พร้อม และไม่ดีพอ ฯลฯ เหมือนเราคิดไปฝ่ายเดียว แล้วเราจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่หล่ะค่ะ
ตัดใจเถิดค่ะ เสียใจตอนนี้ยังดีกว่าอยู่ด้วยกันแล้ว ไปกันไม่ไ้ด้
ต้องเลิกกันไป จะทั้งเสียใจ เจ็บใจ น้อยใจ มากกว่านะค่ะ
ขอให้คุณโชคดี หาทางออกได้นะค่ะ


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:14:24:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นิ่นของจี๊ด
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add นิ่นของจี๊ด's blog to your web]