|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องควายควาย 2
ตอนใหม่ค่ะ มาช้าไปหน่อย ต้องขออภัยด้วยนะคะ
2.
ตื่นได้แล้ว สมชาย วันนี้แม่จะพาหนูไปโรงเรียน บัวผันขวิดหลังลูกชายเบาๆ สมชายสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย โดยที่แม่ของมันกุลีกุจอดันหลังมันออกจากคอกโดยไม่ให้มันได้ตั้งตัว นั่นพวกแกจะไปไหนกันแต่เช้าน่ะ บัวผัน นกเอี้ยงตัวหนึ่งถามขึ้น มันเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงประจำบ้านที่เจ้านายเรียกว่าเอี้ยงจ๋า แม้ว่ามันจะเป็นนกตัวผู้ก็ตาม อ้าว...ไอ้เอี้ยง ไม่ได้เจอกันเสียนาน บัวผันทักทาย ฉันจะพาสมชายไปโรงเรียน ให้มันเรียนหนังสือ จะได้ฉลาดเหมือนคนเขา ต่อไปควายอย่างเราจะได้ไม่ต้องมาไถนาให้ใครอีก ไปโรงเรียน ควายเนี่ยนะ แกมันโง่ บัวผัน ควายไปเรียนหนังสือไม่ได้หรอก นกเอี้ยงด่าพวกมันเป็นภาษานก ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากแก่การเข้าใจของพวกควายนัก เพราะภาษาสัตว์นั้นเป็นภาษาสากลที่เข้าใจข้ามสายพันธุ์กันได้อยู่แล้ว ทำไมแกพูดอย่างนั้นล่ะ นกเอี้ยงอธิบายให้บัวผันฟังด้วยท่าทางที่ดูเหมือนอาจารย์สอนลูกศิษย์เจ้าปัญหา มีแต่คนเท่านั้นแหละที่ไปโรงเรียน สัตว์อย่างพวกเราไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือออก เราก็มีที่กินที่อยู่ได้ไม่ต้องมานั่งร้อนใจเหมือนพวกมนุษย์ แต่หนูเคยได้ยินว่ามีโรงเรียนสอนลิง สอนหมาด้วยนี่จ๊ะ น้าเอี้ยง หนูต้องเรียนโรงเรียนแบบนั้นเหรอจ๊ะ สมชายพูดแทรกขึ้นมากลางคัน ไม่ได้นะ สมชาย โรงเรียนแบบนั้นมันเรียนแล้วไม่ได้ความรู้อะไร มีแต่สอนให้พวกลิงพวกหมาเต้นกินรำกิน ไม่ได้อะไรที่เป็นวิชาการเลย แม่ไม่ยอมให้ลูกเรียนหรอก แล้ววิชาการคืออะไรละจ๊ะแม่ คำถามนี้ทำให้บัวผันถึงกับนิ่งไปพักหนึ่ง เพราะมันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้ว สิ่งที่เรียกว่าวิชาการมันคืออะไร นกเอี้ยงจึงต้องมารับหน้าที่เฉลยคำตอบนี้แทน วิชาการคือความรู้ ความรู้ก็คือวิชาการ ถ้าแกอยากมีวิชาการ แกก็ต้องเรียนหนังสือ แล้วถ้าแกจะเรียนหนังสือ แกก็ต้องไปโรงเรียนสอนคน แต่แกไม่ใช่คน เพราะฉะนั้นแกก็จงอยู่เฝ้านาของแกต่อไปเถอะ ชีวิตควายมันก็ใช่ว่าจะลำบากมากมายนะ อยากกินเมื่อไหร่ก็ได้กินไม่ใช่เหรอ บัวผันบัลดาลโทสะขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเอี้ยงจ๋าพูดเช่นนั้น แกไม่ช่วยแล้วอย่างมาขวางนะ ไอ้นกปากมาก แกนึกว่าแกฉลาดพูดภาษาคนได้ แล้วจะมาดูถูกควายอย่างพวกฉันว่าโง่ได้เหรอ ที่ฉันด่าแกว่าโง่ไม่ใช่เพราะว่าพวกแกเป็นควายหรอกนะ แต่แกโง่เพราะแกไม่รู้จักคิดมากกว่า แกจะเอาลูกไปเรียนหนังสือหรืออะไรก็แล้วแต่แกละกัน ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว อยู่ดีไม่ว่าดีจริงๆ ว่าแล้วเจ้านกเอี้ยงก็บินหนีไปโดยทิ้งให้บัวผันยืนสะบัดหางด้วยความโมโห ก่อนที่จะหันไปขวิดลูกชายเบาๆระบายอารมณ์ ไปได้แล้ว สมชาย ฟ้าแจ้งขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย แต่แม่จ๋า หนูว่า... ไม่มีแต่ ตามแม่มาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแม่ขวิดจริงๆด้วยนะ นางดุ สมชายก้มหน้าจ๋อยแล้วเดินตามแม่ของมันไปโรงเรียนด้วยความจำใจ
โรงเรียนวัดหนองกระบือเป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้านเล็กๆที่มีนักเรียนเพียงสามสิบกว่าคน อาคารเรียนไม้สองชั้นเก่าผุพังบ่งบอกถึงสภาพการใช้งานมานานกว่ายี่สิบปี สนามโรงเรียนแห่งนี้เป็นเพียงสนามดินที่ไร้หญ้า นานมาแล้ว สมัยที่มีการเลือกตั้งประมาณเจ็ดแปดปีก่อน มีนักการเมืองผู้ใจบุญท่านหนึ่งในจังหวัดนี้ออกเงินทุนให้โรงเรียนเพื่อบูรณะสนามและอาคารเรียน หากใครก็ตามที่ได้ผ่านการศึกษามาจากโรงเรียนเล็กๆ (ในที่นี้หมายถึงพื้นที่ของโรงเรียน มิใช่ระดับของโรงเรียน) ก็จะรู้ดีถึงพื้นที่ใช่สอยอันครอบจักรวาลของสนามโรงเรียนที่ใช้งานได้ตั้งแต่การเข้าแถวหน้าเสาธงยามเช้าไปจนถึงการแข่งกีฬาประจำหมู่บ้าน บัวผันเงยหน้าขึ้นมองธงสามสีบนยอดเสาที่โบกสะบัดไปตามแรงลมแล้วบอกให้ลูกชายยืนนิ่งอยู่กับที่ห้ามขยับไปไหนโดยเด็ดขาด สมชายพยักหัวแล้วรีบยืนตัวแข็งตามคำสั่งแม่โดยไม่กระดิกกระเดี้ยวแม้เพียงปลายหาง เสียงเพลงชาติไทยดังกังวานก้องไปทั่วทั้งสนามโรงเรียน แม้จะกินเวลาไม่นานนักแต่สำหรับลูกควายไฮเปอร์อย่างสมชาย เวลาสั้นๆแค่นี้ทำให้มันทรมานไม่ใช่น้อยเลย เมื่อเหน็บชาเริ่มเกาะกินขาอ่อนของสมชายจนปวดแปลบ มันก็หันไปถามแม่ของมันอย่างฉงนฉงาย ทำไมหนูต้องยืนนิ่งด้วยละแม่ สมชายเมื่อย สมชายปวดขา ถ้าคนเขายืนกันเราก็ต้องยืนตามไงลูก เดี๋ยวเขาจะด่าเราว่าโง่ ดูนั่นสิเห็นไหม เด็กๆเขายืนเข้าแถวกันเป็นระเบียบเลย เดินไปยืนรวมกับพวกเขาสิลูก บัวผันสั่ง สมชายเดินก้มหน้าคอตกเข้าไปหาเหล่าเด็กน้อยที่กำลังยืนสวดมนตร์หลังเคารพธงชาติ นางควายมองลูกชายจากท้ายสนาม พลางตะโกนย้ำให้ควายน้อยยกสองมือขึ้นพนมตามอย่างที่คนทำ คนเขาทำอย่างไรแกก็ทำตามไปอย่างนั้นล่ะ แต่สมชายไม่มีมือนะจ๊ะ สมชายพูดเสียงอ่อย แล้วพยายามยกขาหน้าสองข้างขึ้นมาพร้อมกัน ซึ่งตามหลักสรีระวิทยาควายไทยแล้ว การที่จะให้สัตว์สายพันธ์นี้พนมมือเหมือนคนได้นั้นยากพอๆกับการให้นักการเมืองไทยเลิกโกงกินเลยทีเดียว บัวผันเฝ้ามองความพยายามในการยกสองกีบเท้าขึ้นมาประกบกันของลูกชายแล้วจึงตัดใจ แล้วเรียกลูกชายให้เดินไปหาอาจารย์ใหญืที่ยืนอยู่ข้างๆเสาธง บัวผันจำได้ว่านายสมพงษ์เคยพาลูกชายมาฝากตัวกับชายแก่คนนี้ก่อนถึงจะเรียนหนังสือได้ หากนางจะให้สมชายได้เรียนหนังสือ ทางเดียวที่จะทำได้คือพามาฝากตัวกับมนุษย์คนนี้เท่านั้น ลุงจ๋า...ฉันพาลูกมาฝากตัวเข้าโรงเรียนจ๊ะ บัวผันทักทายพลางใช้หัวดันก้นสมชายให้เดินไปหานายปริญญา อาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนวัดหนองกระบือ สมชายเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงโปร่งนั้นแล้วส่งยิ้มให้อย่างเขินๆ ชายผู้ทรงคุณวุฒิและวัยวุฒิก้มลงมองควายไทยทั้งสองแล้วตะโกนเรียกภารโรงด้วยความฉุนเฉียวจนสมชายสะดุ้งหางลอย ไอ้ลอย...แกปล่อยให้ควายเดินเข้ามาในสนามโรงเรียนได้ยังไง วันนี้เจ้านายเขาจะมาตรวจเยี่ยมโรงเรียนเราด้วย เดี๋ยวเขาเห็นควายมาป้วนเปี้ยนแถวนี้เขาจะคิดว่าโรงเรียนเรามันบ้านนอก แกรีบเอามันออกไปเลยนะ นายลอย ภารโรงเฒ่าประจำโรงเรียนวิ่งกระหืดกระหอบมาจากท้ายอาคารเรียนจนผ้าขาวม้าที่เหน็บเอวไว้นั้นแทบจะปลิวไปตามลม บัวผันอ้าปากค้างและพยายามอธิบายให้นายปริญญาฟังอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยอะไรออกไป เท้าข้างขวาหรือที่เรียกในภาษาพื้นบ้านว่าตีนขวาของผู้ทรงคุณวุฒิก็ถีบเปรี้ยงเข้าที่ซี่โครงซ้ายของสมชายดั่งพลั่กจนควายน้อยแทบจะเซตามแรงตีน บัวผันร้องดั่งลั่นด้วยความโมโห อาจารย์ใหญ่คะ ฉันแค่พาลูกมาฝากตัวเข้าโรงเรียนเท่านั้น ทำไมถึงทำร้ายลูกฉันอย่างนี้ละคะ แม้เสียงในภาษาควายจะกล่าวออกไปเช่นนั้น แต่นายปริญญาจะเป็นมนุษย์เดินดิน กินเงินเดือนข้าราชการธรรมดา ไม่ใช่พ่อมดผู้วิเศษมาจากไหน จึงไม่อาจเข้าใจในเสียงมอ..........มอ.............ที่ออกจากปากของนางบัวผันได้เลย และยิ่งไปกว่านั้น เสียงร้องของนางควายยังดังลั่นจนบรรดานักเรียนที่กำลังยืนสมาธิต่างหันมามองดูสองควายกับหนึ่งคนกันเป็นตาเดียว ภารโรงเฒ่ารีบลากคอสองแม่ลูกออกจากสนามทันทีก่อนที่เป้าหมายของตีนครูใหญ่จะเปลี่ยนจากควายกลายเป็นคนแทน เดี๋ยวสิจ๊ะ อาจารย์ใหญ่ รับไอ้สมชายเข้าโรงเรียนเถอะค่ะ อาจารย์ใหญ่คะ เดี๋ยวสิคะ บัวผันร้องตามหลังนายปริญญาที่เดินขึ้นไปกล่าวทักทายบรรดานักเรียนตามกิจวัตรหน้าเสาธงเหมือนกับทุกๆเช้าที่ผ่านมา เสียงมอ...มอ...ของนางบัวผันจึงมิอาจทะลุทะลวงหูของเขาได้อีก
แม่จ๋า ไม่เป็นไรหรอกลูก ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะพาลูกมาโรงเรียนอีกครั้ง แม่จะลองขอร้องอาจารย์ใหญ่อีกที บัวผันปลอบลูกชาย แต่จุดประสงค์โดยแท้แล้วคล้ายจะปลอบใจตัวเองเสียมากกว่า เป็นยังไงบ้างล่ะ บัวผัน สมชาย ไปโรงเรียนสนุกไหม เสียงหนึ่งดังมาจากท้องฟ้าเบื้องบน สมชายเงยหน้าขึ้นมองในจังหวะเดียวกับที่เจ้าเอี้ยงจ๋าบินร่อนลงมาเกาะบนหลังนางบัวผันพอดี ไม่ใช่เรื่องอะไรของแก จะไปไหนก็ไปเลย ไอ้เอี้ยง แม่จ๋า ทำไมลุงเขาต้องไล่เราออกมาด้วยล่ะ เราก็ไปพูดกับเขาดีๆนี่นา เขาฟังพวกแกไม่รู้เรื่องหรอก เอี้ยงจ๋าอธิบาย ในบรรดามนุษย์น่ะ มีน้อยคนจริงๆที่จะฟังสัตว์อย่างเรารู้เรื่อง แต่ส่วนใหญ่เขาไม่เข้าใจที่เราพูดหรอก แต่เรายังเข้าใจที่พวกเขาพูดเลยนี่จ๊ะ สมชายถอนใจ ห้านาทีเต็มๆที่สมชายได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นทุ่งของเจ้านกเอี้ยง ที่ร้องราวกับต้องการจะเยาะเย้ยใครบางคนที่อยู่แถวนั้น แล้วตอนนี้แกคิดว่าคนกับควายใครฉลาดกว่ากันล่ะ ไอ้หนู
Create Date : 03 ธันวาคม 2550 |
Last Update : 3 ธันวาคม 2550 16:47:29 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1067 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ปรานทยา วันที่: 23 ธันวาคม 2550 เวลา:23:10:57 น. |
|
|
|
| |
|
|