Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
สัมผัสสวรรค์ด้วย1พันบาท

สัมผัสสวรรค์ด้วย1พันบาท

วันอาทิตย์คิดเรื่องเงิน : สัมผัสสวรรค์ด้วย 1 พันบาท

โดย...ขวัญชนก วุฒิกุล k_wuttikul@hotmail.com

ความสุขของผู้คนในเวลานี้ ดูเหมือนจะละลายหายไปกับสายน้ำที่พัดพรากทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งนับเนื่องจนถึงวันนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจ รวมถึงความเสียหายทางจิตใจที่ต้องใช้ระยะเวลาเยียวยาอีกไม่น้อย กว่าจะ “กอบสุข” ให้กลับคืนมา และแน่นอนว่า สำหรับหลายคนแล้ว ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต แม้ว่าวันหนึ่งเหตุการณ์ร้ายแรงนี้จะผ่านไป แต่ใช่ว่า ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม


กำลังใจที่มีให้กันและกัน กลายเป็นของมีค่าที่ต่างแสวงหาและต่างต้องเติมเต็ม
ถ้ากลับมาสู่เรื่องของการจัดการการเงิน ในห้วงเวลานี้ระหว่าง “ผลตอบแทน” กับ “ความเสี่ยง” ก็ต้องเป็นวิถีของการดูแลความเสี่ยง มากกว่าการมุ่งหน้าเข้าหาผลตอบแทน ยึดหลักเลือกจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยไว้ก่อนน่าจะดีที่สุด
หนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจก่อนหน้านี้ นอกจากจะมีคำแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำแล้ว การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือพร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องด้วยธรรมชาติของกองทุนประเภทนี้ที่ปกติจะมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่า ขณะนี้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะหมดความน่าสนใจด้วยเหตุที่ “สินทรัพย์ปลายทาง” ในการเข้าลงทุนนั้นมีความหลากหลาย แตกต่างกัน
ด้วยความแตกต่างของประเภททรัพย์สิน ด้วยความหลากหลายของจุดหมายปลายทาง และด้วยเงินลงทุนจำนวนไม่มาก แต่ได้เป็น “เจ้าของอสังหาริมทรัพย์” ที่เอื้อมไม่ถึง เหล่านี้นี่เองที่ยังเป็นเสน่ห์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ใครจะคิดว่า ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 1 พันบาท จะได้เป็นเจ้าของรีสอร์ทหรูบนเกาะพีพี สวรรค์แห่งการท่องเที่ยวในทะเลอันดามันที่เลื่องชื่อไปทั่วโลก
แค่ 1 พันบาท ไม่ใช่ 1 พันล้านบาท กับการเป็นเจ้าของโรงแรมพีพี ไอแลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งประกอบไปด้วย ที่ดินประมาณ 167 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา รีสอร์ท 112 หลัง สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ และเรืออีก 9 ลำ !!
ถ้าไม่ใช่การลงทุนในรูปแบบของ “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์” ที่รวมเงินลงทุนจากผู้ถือหน่วย คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ใช่เศรษฐีพันล้านคงเข้าไม่ถึง “อสังหาริมทรัพย์” ที่หรูอลังการแบบนี้ได้
กองทุนที่ว่านี้ คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ “เอ็มเอฟซี-อะเมซิ่ง อะลา อันดามัน” ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเข้าซื้อกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในโรงแรมหรูระดับ 4.5 ดาวบนเกาะพีพี ซึ่งสวยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
“โรงแรมพีพี ไอแลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่กองทุนเข้าไปลงทุนนั้น เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงและเป็นที่สนใจของลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจุดเด่นของโรงแรมที่เป็นชายหาดยาวถึง 710 เมตร อยู่บนพื้นที่ขนาด 167 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ซึ่งมีการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นอย่างดี โดยลูกค้าหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรปตะวันออก และออสเตรเลีย ขณะที่ลูกค้าจีนและญี่ปุ่น ให้ความสนใจมากขึ้น ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีอีกด้วย” ทอมมี่ เตชะอุบล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.เอ็มเอฟซี ซึ่งดูแลรับผิดชอบด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน กล่าว
“ทอมมี่” บอกว่า จุดเด่นของกองทุนนี้ นอกจากจะอยู่ที่ศักยภาพของทรัพย์สินที่เข้าลงทุนแล้ว การบริหารจัดการทรัพย์สินยังดำเนินการโดยมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่าทรัพย์สิน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารทรัพย์สินเดิมคือ บริษัทพีพี วิลเลจ แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างโรงแรมแห่งนี้มาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน และที่ผ่านมาก็ได้บริหารงานและสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 20 ปี
ขณะที่ผู้บริหารโรงแรม คือ เอาท์ทริกเกอร์ เอ็นเตอร์ไพร์ส กรุ๊ป (Outrigger Enterprises Group) ที่มีประสบการณ์กว่า 60 ปีในการเป็นเจ้าของ บริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ทในหลายประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบัน เอาท์ทริกเกอร์รับบริหารทรัพย์สินกว่า 45 แห่ง รวมมากกว่า 11,000 ห้องพักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ที่ฮาวาย ออสเตรเลีย ฟิจิ เกาะกวม บาหลี จีน เวียดนาม และไทย
“ทอมมี่” เชื่อว่า กองทุนนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจแก่นักลงทุน เนื่องจากกองทุนมีจุดเด่นหลายอย่าง คือ มีผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์การบริหารโรงแรมแห่งนี้มากกว่า 20 ปี โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึงกว่า 85%
ผู้บริหารหนุ่มของ บลจ.เอ็มเอฟซี บอกด้วยว่า หลังจากที่กองทุนได้เข้าซื้อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว กองทุนจะให้บริษัท พีพี วิลเลจ แอสเซ็ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารเดิม ดำเนินการเช่าทรัพย์สินเป็นระยะเวลา 15 ปี โดยกองทุนจะรับรายได้ค่าเช่าในอัตราคงที่ และปรับเพิ่มขึ้นทุก 3 ปี เพื่อเป็นการควบคุมความเสี่ยงของกองทุนในการรับรายได้ โดยผู้เช่าทรัพย์สินจะให้หลักประกันการเช่าทรัพย์สินคิดเป็นจำนวน 6 เดือนของค่าเช่า แบ่งเป็นเงินสดจำนวน 3 เดือน และหนังสือค้ำประกันธนาคารพาณิชย์ จำนวน 3 เดือน
ส่วนใครที่เป็นห่วงเรื่องของ “สึนามิ” ว่าจะกระทบกับโรงแรมนั้น ทาง บลจ.เอ็มเอฟซี บอกว่า ทำเลที่ตั้งของโรงแรมซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ เมื่อปี 2547 เนื่องจากอยู่คนละด้านกับบริเวณที่ได้รับผลกระทบ และลักษณะของพื้นที่เป็นหาดส่วนตัวซึ่งหันหน้าเข้าหาฝั่งแผ่นดินใหญ่ ประกอบกับด้านหลังยังมีภูเขาโอบล้อมและบังอยู่ ทำให้โอกาสที่โรงแรมจะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามินั้นมีน้อยมาก
จริงๆ แล้ว การเลือกลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สำคัญที่สุด คือ ศักยภาพของทรัพย์สิน ถ้าหากลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมก็ต้องพิจารณาแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่หากลงทุนในโรงแรมที่ตั้งบนแหล่งท่องเที่ยว ก็ต้องเกาะติดเรื่องของการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
หากเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวของไทยยังเติบโต และเชื่อว่าประเทศไทยยังเป็นสวรรค์ของนักเดินทาง ถ้าเชื่อเช่นนั้นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ “เอ็มเอฟซี-อะเมซิ่ง อะลา อันดามัน” ก็คงเป็นสวรรค์ของนักลงทุนได้เช่นกัน


Create Date : 16 ตุลาคม 2554
Last Update : 16 ตุลาคม 2554 12:12:39 น. 1 comments
Counter : 430 Pageviews.

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:8:10:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

byjai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add byjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.