Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 มกราคม 2555
 
All Blogs
 

วิภาวดี-อัมพาต ม็อบก๊าซ ลงเอยถอยคนละก้าว

"ปู"เปิดทำเนียบกล่อมเอง ยันขึ้นเอ็นจีวีควบเยียวยา ปิดถนนครึ่งวันก่อนสลาย



ปิดถนน - ม็อบรถบรรทุกปิดถนนทางคู่ขนานวิภาวดีฯ ขาออก บริเวณหน้า ปตท.สำนักงานใหญ่ กระทรวงพลังงาน คัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี เป็นเหตุให�การจราจรติดขัดลุกลามทั่วกรุง เมื่อวันที่ 9 ม.ค.

ม็อบขนส่งปิดถ.วิภาวดีฯหน้าปตท. ประท้วงขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี รถติดขัดยาวตั้งแต่แยกลาดพร้าวถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ขณะที่ม็อบแท็กซี่ยอมสลายตัวจากหน้าทำเนียบ -ลานพระบรมรูปทรงม้าตั้งแต่ช่วงเที่ยง หลัง ยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์-พิชัย-บิ๊กพลังงาน-ปตท. เปิดทำเนียบถกเครียดจนพอใจ ส่วนม็อบขนส่งต้องเจรจาหลายรอบกระทั่งเย็นจึงได้ข้อยุติ รัฐบาลยันเดินหน้าขึ้นราคาเอ็นจีวีตามมติครม. แต่จะพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการให้ดีที่สุด

แท็กซี่นับร้อยปิดหน้าทำเนียบ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่ถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ นำรถแท็กซี่กว่า 100 คัน ปิดถนน 2 ช่องจราจร ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนักเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนของชาวกทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรต้องระดมกำลังมาบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้รถใช้ถนน

ประท้วงรัฐบาลขึ้นราคาก๊าซ

ทั้งนี้ เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่เรียกร้องรัฐบาลยกเลิกมติครม.วันที่ 4 ต.ค. 2554 ที่ให้ปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีและก๊าซเอ็นจีวี เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี นอกจากนี้ ยังขอให้เพิ่มจำนวนการให้การบริการให้เพียงพอทั้งปริมาณและคุณภาพของก๊าซ และหากจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขอ ให้มีตัวแทนของผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้ามีส่วน ร่วมพิจารณาด้วยทุกครั้ง โดยกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ประกาศรอคำตอบจากรัฐบาลก่อนเวลา 12.00 น. หากรัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ เป็นที่น่าพอใจจะยกระดับการชุมนุมต่อไป

ต่อมาเวลา 10.30 น. น.พ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ รรท.รองผบช.น. เชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม ได้แก่ นายสุวรรณ โชติเชาวกิจ ประธานสหกรณ์ปทุมวันแท็กซี่ นางเกษมศานต์ ชมพูแดง ผจก.สหกรณ์ภูมิพลังแท็กซี่ จำกัด นายวิฑูรย์ แนวพาณิชย์ ประธานกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่สยาม เข้าหารือที่ห้องรับเรื่องราวร้องทุกข์

โดย น.พ.ประสิทธิ์ยืนยันว่าการเรียกร้องของกลุ่มแท็กซี่และผู้ประกอบกิจการ นายกฯ รับทราบปัญหาแล้ว และเรียกรมต.ที่เกี่ยวข้องมาหารือแล้ว จึงขอให้ผู้ชุมนุมใจเย็นๆ และนายกฯ จะเรียกตัวแทนเข้าร่วมหารือกับรมต. และหน่วยงานด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องด้วย แต่ต้องการให้การชุมนุมยุติลงก่อน แล้วมาหารือกันเพื่อหาทางออก เพราะอาจจะพิจารณายกเลิกมติครม. เรื่องปรับขึ้นราคาก๊าซก็เป็นได้

พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า ขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ที่ไม่กระทบต่อการจราจร ยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังจัดระบบการจราจรได้ แต่ไม่ต้อง การให้การชุมนุมยืดเยื้อ

ด้านนางเกษมศานต์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ปตท. มีผลกำไรสูง และสหกรณ์แท็กซี่ต่างๆ ส่วนใหญ่สนับสุนนพรรคเพื่อไทย จึงอยากให้นายกฯ ทบทวนเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาตัวแทนแท็กซี่ เคยไปคุยกับปตท. กระทรวงพลังงาน แต่ไม่ได้รับคำตอบ ดังนั้นถ้าไม่ทบทวนเรื่องนี้ยืนยันจะชุมนุมต่อไป และอาจยกระดับการชุมนุมไปทั่วกทม.

"ปู"ถกด่วนกิตติรัตน์-พิชัย-ปตท.

จากนั้นเวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว. พาณิชย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. มาหารือปัญหาชุมนุมคัดค้านการ ขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี นานประมาณ 35 นาที

นายกิตติรัตน์ให้สัมภาษณ์ว่า ในความเห็นภาพใหญ่ตนไม่ทราบ แต่ความเห็นส่วนตัวต้องยึดถือมติครม.

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อทบทวนหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า คนอื่นไม่รู้ แต่พูดได้ว่าขอให้ประชาชนตำหนิ ผู้ที่ทำให้เดือดร้อนอย่างจริงจังด้วย เมื่อถามว่ายังยืนยันมติครม.เดิมอยู่ใช่หรือไม่ นายกิตติ รัตน์กล่าวว่า เรื่องไหนที่ทำตามมติครม.หากจะเปลี่ยนแปลงใดๆ ต้องเป็นไปตามมติครม. แม้แต่ตัวนายกฯ ก็ต้องทำตามมติครม. ถือเป็นหน้าที่ ใครจะรับปากอะไรใครไว้ ตนไม่ทราบ เพราะในการเสนอเรื่องก็ผ่านกพช.ขึ้นมา แม้ นายกฯ จะเป็นประธานกพช. และมีตนเป็นรองประธานกพช. แต่ยังมีส่วนราชการและผู้เกี่ยว ข้องอีกจำนวนมาก ฉะนั้นการจะปรับเปลี่ยนใดๆ ต้องเป็นไปตามกระบวนการ

"บิ๊กโต้ง"วอนมาคุยดีกว่ากดดัน

ต่อข้อถามว่าแสดงว่าต้องนำเรื่องกลับไปที่กพช.พิจารณาอีกครั้งก่อนใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ถ้าจะแก้ต้องเป็นไปตามนั้น แต่จะแก้หรือเปล่ายังไม่รู้ เมื่อถามว่าแสดงว่าในการหารือร่วมกับนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องยังมีความเห็นต่างกันอยู่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า "ผมว่าต้องมาพูดกัน ไม่ใช่มากดดันกันอย่างนี้" เมื่อถามว่าการหารือของนายกฯ ครั้งนี้เป็นแค่ซื้อเวลา เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมขีดเส้นภายในเที่ยงวันนี้ ไม่เช่นนั้นจะยกระดับการชุมนุม นายกิตติรัตน์กล่าวย้อนว่า ไม่เห็นขีดเส้นเขาก็มากันแล้ว ถ้าขีดเส้นว่าถ้าไม่คุยกันแล้วจะมา ถึงจะเรียกว่าขีดเส้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ารัฐบาลไม่กลัวว่าม็อบจะยกระดับการชุมนุม นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ก็กลัว ใครจะอยากให้ประชาชนเดือดร้อน การทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นสิ่งไม่ดี ขอร้องว่าอย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อนเลย

"ต้องขอความกรุณาตัวแทนหรือผู้ที่มารวมกันในภาคขนส่งที่ใช้ก๊าซธรรมชาติว่า กระบวน การที่ทำกันมานั้น มีขั้นตอน มีประชุมในกพช. และนำเข้าครม. ฉะนั้นเรื่องพวกนี้ควรคุยกัน การเอารถเอาคนมาเป็นเรื่องที่ลำบาก เดือดร้อนทั้งคนที่มาและประชาชน จึงขอร้องเมื่อยื่นเรื่องแล้วก็มานั่งคุยกัน อย่าใช้วิธีเอารถมาและกำหนดว่าจะต้องได้คำตอบกี่โมง ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องการปรึกษาหารือ ทุกคนอยากให้บ้านเมืองก้าวหน้า การปรึกษาหารือกันดีที่สุด" นายกิตติรัตน์กล่าว

เมื่อถามว่าสุดท้ายยังยืนยันไม่แก้ไขมติครม. ใช่หรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ถ้ายังไม่มีการ เปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น เรื่องทุกเรื่องคุยกันได้ และเห็นใจผู้เกี่ยวข้อง ถ้าโอนอ่อนไปตามการชุมนุมเรียกร้อง เราจะกลายเป็นบ้านเมืองแห่งการชุมนุมเรียกร้อง ซึ่งไม่น่าจะจำเป็น ขอย้ำว่าถ้ามีอะไรต้องคุยกัน ในส่วนราชการ ผู้ประกอบการ ว่ากันตามขั้นตอนของราชการ เชื่อว่าจะมีทางออกที่ดี เมื่อถามว่าถ้าไม่ทบทวนมติ ครม.จะมีมาตรการบรรเทาเยียวยาอย่างไร นาย กิตติรัตน์ปฏิเสธตอบคำถาม แล้วหัวเราะหึหึ

เจรจายุติยอมถอยฝ่ายละก้าว

เวลาประมาณ 12.00 น. ภายหลังเสร็จการเจรจาระหว่างตัวแทนรัฐบาลกับกลุ่มแท็กซี่ผู้ ชุมนุม นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ ขึ้นรถกระจายเสียงแถลงผลเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่า ผลเจรจาออกมาว่าไม่ต้องการให้ผู้ขับแท็กซี่ต้องได้รับผลกระทบ แต่วิธีการจะทำอย่างไรนั้น ให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยมีรองนายกฯรับผิดชอบ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตนและตัวแทนแท็กซี่ร่วมเป็นคณะทำงาน ใช้เวลาแก้ปัญหาเยียวยา 4 เดือน แต่จริงๆ อาจใช้เวลาเพียง 1-2 เดือนก็ได้ ส่วนบัตรเครดิตพลังงาน จะปรับเปลี่ยนเป็นบัตรลดราคาให้ เรื่องสถานีบริการ รัฐบาลรับปากว่ากำลังเพิ่มจำนวนซึ่งจะไม่ทำให้พวกเราเดือดร้อน แต่ถ้าการเยียวยาไม่เป็นผลภายใน 4 เดือนนี้ พวกเราต้องมีมาตรการกดดันรัฐบาลให้เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงที่เรายื่นไปในครั้งนี้ และการชุมนุมครั้งนั้นจะรุนแรงมากกว่าครั้งนี้ วันนี้เรายอมถอยก้าวหนึ่งเพื่อให้รัฐบาลถอยก้าวหนึ่ง

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ตลอดปี 2555 ทุกคนต้องไม่ได้รับผลกระทบ ถือว่าได้ทำตามที่พวกเราร้องขอทุกประการ ไม่ว่าจะขอให้ระงับการขึ้นราคาใน 1 ปี ขอให้มีส่วนร่วมพิจารณา ขอให้เพิ่มจุดจำหน่ายให้เพียงพอ นอกจากนี้ ในการเจรจาปตท.ยังรับปากว่า จากนี้ไปก๊าซทุกกิโลกรัมจะคืนกำไรเป็นสวัสดิการให้กับผู้ขับแท็กซี่ อาทิ เรื่องตาย บาดเจ็บจากการทำงาน หรือปัญหาด้านคดีความต่างๆ ปทต.จะช่วย แก้ปัญหาให้กับคนขับแท็กซี่ ส่วนการแก้ไขมติ ครม.ต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องผ่านการหารือของที่ประชุมกพช.ด้วย ก่อนนำเสนอครม.เพื่อทบทวน ดังนั้นมติครม.อาจได้รับการยกเลิกก็ได้ หรือถ้าไม่ยกเลิก ต้องมีมาตรการเยียวยาออกมาโดยไม่ให้กระทบต่อคนขับแท็กซี่ เพราะฉะนั้นวันนี้ขอให้สลายตัวไปก่อน พวกเราได้รับ คำตอบครอบคลุมและยังได้ของแถมจากการเจรจาคือเรื่องสวัสดิการด้วย

"รองแต้ม"กล่อมอีกรอบจนยอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นกลุ่มรถแท็กซี่ที่ชุมนุมอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าประมาณร้อยคันเคลื่อนมาสมทบกับกลุ่มแท็กซี่ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลโดยวิ่งบีบแตรมาตลอดทาง เมื่อมาถึงรถแท็กซี่ทุกคันปิดถนนทุกช่องทางจราจร ทำให้การจราจรถนนพิษณุโลกเป็นอัมพาตทันที จากนั้น ผู้ขับลงมารับฟังคำแถลงของนายวิฑูรย์ แต่รับฟังแล้วมีบางส่วนยังไม่ พอใจ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ต้องใช้รถเครื่องขยายเสียงมาชี้แจงด้วยตัวเอง เนื่องจากร่วมฟังการเจรจาด้วย นอกจากนี้ยังให้นายวิฑูรย์และตัวแทนผู้ขับแท็กซี่ที่เข้าเจรจามาร่วมแถลงซ้ำอีกครั้ง จนคนขับรถแท็กซี่ทั้งหมดที่มีทั้งพอใจและไม่พอใจยอมสลายตัวเปิดถนนในเวลา 12.30 น.

พล.ต.ต.วิชัยกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ผลเจรจาทางรัฐบาลยอมทุกอย่าง แต่การแก้ไขมติ ครม.ต้องใช้เวลา และจะออกคูปองส่วนลดให้กับทุกคน และตั้งคณะทำงานขึ้นมาหารือว่าจะยกเลิกมติครม.ได้อย่างไร ดังนั้นใน 4 เดือนที่คณะทำงานนี้ทำงานทุกคนจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แท็กซี่จะได้รับประโยชน์ทุกเรื่องที่ยื่นร้องขอไป

"ปู"จำเป็นต้องแก้ระยะยาว

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานหนังสือ พิมพ์มติชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจาหาข้อยุติเกี่ยวกับการขึ้นราคาก๊าซว่า ขณะนี้ปัญหาคลี่คลายแล้ว รัฐบาลจะรับเรื่องและข้อเสนอจากกลุ่มรถแท็กซี่มาพิจารณาอีกครั้ง

เมื่อถามว่าแนวทางที่จะไม่ให้ปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า ความจริงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ เพราะการรับภาระระยะยาวไม่ได้ทำให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตามเข้าใจถึงภาวะเศรษฐกิจและความจำเป็นช่วงนี้โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ รัฐบาลจึงจะรับปัญหานี้มาพิจารณา ความจริงเรามีโครงการบัตรเครดิตพลังงาน ซึ่งจะเป็นจุดช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ เพราะมีส่วนลดให้กับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ เพียงแต่ยังไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ทันในช่วงนี้ เพราะต้องใช้ระยะเวลาในกระบวนการผลิตบัตร ซึ่งเบื้องต้นฝ่ายรถแท็กซี่เข้าใจแล้วว่าจะต้องขึ้นราคาเอ็นจีวีเดือนละ 50 สตางค์เป็นเวลา 4 เดือนก่อน จากนั้นต้องหาทางพูดคุยและหาทางออกร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าภาระจะตกกับประชาชนผู้ใช้บริการรถแท็กซี่ที่อาจจะปรับขึ้นราคาค่าโดยสารหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ราคารถแท็กซี่ยังเหมือนเดิม เพราะระยะยาวต้องคุยกับกลุ่มรถแท็กซี่อีกครั้ง เบื้องต้นถือว่าได้รับฟังข้อเรียกร้องของกลุ่มรถแท็กซี่และจะตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและหาแนวทางร่วมกัน แต่เจตนาของรัฐบาลคืออยากขอให้ราคาก๊าซเอ็นจีวีเป็นไปตามกลไก เพียงแต่จะทำอย่างไรที่จะต้องประคองค่าครองชีพหรือค่าใช้จ่ายของผู้ใช้บริการรถแท็กซี่

เรื่องไม่ทันนำเข้าครม.10ม.ค.

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรนอกจากเรื่องของบัตรเครดิตพลังงาน นายกฯ กล่าวว่า ขอรับเรื่องนี้ไปก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามวิธีบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรถแท็กซี่คงจะนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ไม่ทันวันที่ 10 ม.ค. เพราะต้องนำผลหารือทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมกพช.ให้ความเห็นชอบก่อน จากนั้นจึงจะแจ้งครม.ทราบอีกครั้ง

ต่อข้อถามว่าแสดงว่าจะไม่ทบทวนมติครม. ที่ให้ขึ้นราคาเอ็นจีวีใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทบทวน เพราะมติครม. ออกไปแบบนั้นแล้ว ดังนั้นต้องหาแนวทางดูแลผู้ใช้เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อน ทั้งนี้คงต้อง ให้เวลาคณะทำงานได้หารือกันก่อน โดยตนมอบหมายนายกิตติรัตน์ รองนายกฯและรมว. พาณิชย์ รวมถึงนายพิชัย รมว.พลังงาน หารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง หากมีทางออกชัดเจนก็จะชี้แจงรายละเอียดให้ทราบ แต่ยืนยันว่าเบื้องต้นกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่เข้าใจแล้ว

"บิ๊กโต้ง"ไม่ทบทวนปรับราคา

ขณะที่นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลยังคงยืนยันที่จะไม่ทบทวนการปรับขึ้นราคาในวันที่ 16 ม.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากเห็นว่ามาตรการดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากกพช. และครม. แล้ว ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการได้ออกนโยบายเรื่องบัตรเครดิตพลังงานที่จะมีส่วนลดราคา ที่ จะทำให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะสามารถให้ผู้ประกอบการใช้ราคาเท่าเดิมที่ 8.50 บาท เป็นเวลา 4 เดือน แม้ว่าจะปรับขึ้นราคาเดือนละ 50 สตางค์ก็ตาม ซึ่งผู้ประกอบการแท็กซี่และกลุ่มรถขนส่งมวลชนมีความเข้าใจมากขึ้น และยังยืนว่าจะเดินรถตามปกติ และราคาค่าโดยสารก็ยังคงเดิมไม่ปรับขึ้นราคา เนื่อง จากทั้งสองกลุ่มนี้อยู่ในกลไกควบคุมราคาของกรมการขนส่งทางบกอยู่แล้ว ทั้งนี้จะตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เพื่อหารือในการแก้ปัญหาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรถขนส่งสาธารณะ เช่น การจัดหาพื้นที่ในส่วนของราชการเพื่อตั้งเป็นสถานีบริการเชื้อเพลิงบริเวณใจกลางเมืองให้มากขึ้น

นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้าเอกชน ยังจะต้องหารือถึงความเหมาะสมเรื่องต้นทุนการขนส่งในช่วงบ่ายวันที่ 9 ม.ค. เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ประกอบการจำนวน 700,000 ราย มีผู้ใช้เอ็นจีวีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ทำให้ราคาขนส่งยังคงอ้างอิงจากราคาน้ำมันดีเซลอยู่ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้ระหว่างการหารือกับนายกฯช่วงเช้า นายกฯย้ำว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากการสื่อสารไม่ชัดเจน และก็ทำท่าทีโกรธตน ซึ่งตนยอมรับว่าอาจจะสื่อสารไม่ชัดเจน และนายกฯกำชับว่า มติครม.ที่ได้อนุมัติไปนั้นชัดเจนอยู่แล้ว จึงให้หาทางพูดคุยให้เรียบร้อย

ม็อบปิดหน้าปตท.เช้ามืด

สำหรับสถานการณ์การชุมนุมประท้วงของกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลและลานพระบรมรูปทรงม้าแล้ว ตั้งแต่เช้ามืดกลุ่มผู้ประกอบการขนส่ง รถแท็กซี่ รถร่วมบริการ เอกชน และรถบรรทุก ทยอยมาปิดการจราจรถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ช่องคู่ขนาน 2 ช่องทาง ตั้งแต่สามแยกปตท. หรือทางแยกเข้าสวนรถไฟ มาถึงหน้าสำนักงานใหญ่ ปตท. ส่งผลให้ช่องคู่ขนานถูกปิดโดยอัตโนมัติไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ตำรวจสน.บางซื่อ และสน.วิภา วดี ต้องระดมกำลังมาดูแลการจราจรและความสงบเรียบร้อย

ต่อมาผู้ประกอบการทยอยนำรถบรรทุก รถโดยสารร่วมบริการเอกชน รถสองแถว สิบล้อ มาจอดทิ้งไว้ในช่องจราจรคู่ขนาน 2 ช่องทางจราจร หน้าอาคารปตท. เวลา 07.30 น. รถจอดเต็ม 3 ช่องจราจรคู่ขนาน โดยหัวแถวอยู่ใกล้วัดเสมียนนารี ท้ายแถวบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว

นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลชะลอปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี ตามมติกพช.ที่เห็นชอบให้ปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาท จนครบ 12 เดือน หรือเพิ่มขึ้นอีก 6 บาทต่อ ก.ก.ออกไปไม่มีกำหนด และหากจะปรับราคาขึ้นขอให้เจรจาร่วมกันทุกฝ่ายเพิ่มกำหนดกลไกการปรับขึ้นราคาอย่างเหมาะสมเป็นธรรม

โวยภาระตกกับประชาชน

นายวิทยา กล่าวว่า นายพิชัย รมว.พลังงาน รับฟังข้อมูลเรื่องต้นทุนราคาก๊าซจากปตท.เพียงฝ่ายเดียว แต่ไม่เคยพิจารณาถึงต้นทุนของผู้ประกอบการเลย แม้ว่าราคาเอ็นจีวีจะถูกกว่าน้ำมันกว่าครึ่ง แต่การเผาไหม้สูงกว่าเกือบ 140% และภาระค่าซ่อมบำรุงก็สูงกว่า 100% โดยรถใช้น้ำมันมีภาระประมาณ 20,000 บาท แต่รถเอ็นจีวีมีภาระ 30,000-35,000 บาท ต่อปี ซึ่งทั้งหมดเป็นเพราะผู้ประกอบการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลสนับสนุนให้ใช้เอ็นจีวี

น.ส.ภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคม ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่า หากปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี และผู้ประกอบการทนไม่ได้สุดท้ายภาระทั้งหมดจะตกอยู่ที่ประชาชน ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลบริหารประเทศมา 2-3 เดือน แต่ทำไมถึงเอาปัญหาเรื่องเอ็นจีวีมาพิจารณาก่อน ดังนั้นปตท.ต้องชะลอการปรับขึ้นราคาก๊าซออกไป โดยเฉพาะขณะนี้ที่ประชาชนกำลังเดือนร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม ไม่ควรเพิ่มภาระเพื่อซ้ำเติมประชาชน

เชิญแกนนำเข้าทำเนียบ

ขณะที่นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากภาครัฐเมินเฉยต่อปัญหา จำเป็นต้องเพิ่มระดับการชุมนุม 3 มาตรการ ประกอบด้วย 1.เตรียมเพิ่มช่องทางปิดจราจรบริเวณเส้นทางขาออกสายหลักอีก 2 ช่องทาง 2.เตรียมนำรถบรรทุกเข้าปิดสถานีแม่บริการเอ็นจีวี 3 แห่ง ได้แก่ สถานีน้ำพอง จ.ขอนแก่น สถานีสามโคก จ.ปทุมธานี และสถานีสระบุรี และ 3.กรณีไม่ได้รับคำตอบภายในวันนี้ รถร่วมขสมก.จะหยุดให้บริการทั้งหมด ทั้งนี้นโยบายบัตรเครดิตพลังงานช่วยเหลือค่าเอ็นจีวีเป็นส่วนลด 2 บาทต่อก.ก. เป็นการช่วยเฉพาะรถแท็กซี่แต่ไม่รวมถึงรถอื่นๆ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ

นายยู กล่าวอีกว่า การขึ้นเอ็นจีวีอีก 6 บาทจะทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 70 % เป็นภาระที่ผู้ประกอบการต้องขอปรับเพิ่มราคาขนส่งอีก 25 % ส่วนแท็กซี่ ราคาก๊าซปัจจุบันที่ 8.50 บาทต่อก.ก. ทำให้แท็กซี่มีรายได้เหลือต่อวันที่ 300-350 บาท แต่หากปรับราคาขึ้น จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อวันอีก 245 บาท ซึ่งแท็กซี่จะไม่เหลือเงินเลย

เวลา 12.45 น. ผู้ประกอบการนำรถบรรทุก 6 คันจอดขวางทางสายหลัก 2 ช่องทาง เหลือช่องทางเดินรถ 1 ช่องทางขาออก บริเวณหน้าปตท. ตรงข้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว ส่งผลให้การจราจรขาออกติดขัดอย่างหนัก

เวลา 13.15 น. แกนนำกลุ่มขนส่งแจ้งว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง โทรศัพท์สายตรงมาเชิญแกนนำ 4 คน ประกอบด้วย นายวิทยา น.ส.ภัทรวดี นายฉัตรชัย ภู่อารีย์ ประธานชมรมผู้ประกอบการรถโดยสาร หมวด 4 เอกชน(รถสองแถว) และนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง อดีตประธานสหพันธ์การขนส่งทางบก เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อสรุปจะยกระดับการชุมนุม โดยปิดการจราจรถนนวิภาวดีฯขาเข้าตอนเย็นวันนี้

แยกลาดพร้าวติดยาวถึงอนุสาวรีย์

เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ปรีดา สถาวร ผกก. ฝอ.3 บก.อก.บช.น. ในฐานะโฆษกบช.น. ราย งานสถานการณ์ว่า ตั้งแต่เช้ามีกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นคนขับรถแท็กซี่ชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าเคลื่อนตัวไปรอบทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก ใช้พื้นที่ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐจนถึงแยกสวนมิสกวัน ล่าสุดยุติการชุมนุมแล้ว และกลุ่มของสมาพันธ์การขนส่งทางบกชุมนุมที่กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต มีทั้งรถบรรทุก รถบัส ทำให้การจราจรห้าแยกลาดพร้าวจนถึงตัดถนนรัชดาภิเษกใช้การไม่ได้ พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รรท.ผบก.น.2 จัดกำลังควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย 150 นาย ตำรวจจราจร และฝ่ายสืบสวนอีก 50 นาย ช่วยแก้ไขสถานการณ์พร้อมกับกำลังสนับสนุนเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รรท.รองผบช.น.กำลังเจรจากลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอเปิดจราจรเพิ่มเติมซึ่งสถานการณ์ไม่น่ายืดเยื้อ

ต่อมานายยูกล่าวภายหลังหารือกับพล.ต.ต. เมธีว่า กลุ่มผู้ชุมนุมรับข้อเสนอของตำรวจที่ขอเปิดจราจรเพิ่มอีก 1 ช่องทางหลักขาออก จากเดิมปิดไป 2 เหลือ 1 ช่องทาง เป็นเปิด 2 ช่องทาง เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชนในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะรถสะสมมากท้ายแถวติดถึงใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติรัตน์หารือกับ4 แกนนำที่ทำเนียบรัฐบาล รอบแรกยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จึงย้ายมาหารืออีกครั้งเวลา 16.00 น. ที่ชั้น 15 ตึกเอ็นโก้ กระทรวงพลังงาน ร่วมกับนายพิชัย ข้าราชการระดับสูงของกระ ทรวงพลังงานและปตท.

รัฐบาล-ผู้ชุมนุมเข้าใจกันแล้ว

เวลา 17.30 น.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับรมว.พลังงาน และผู้ประกอบการขนส่งว่า ได้หารือและขอโทษ กรณีที่ผ่านมาไม่ได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับการขึ้นราคาเอ็นจีวี ซึ่งผู้ประกอบการก็ยอมรับและเข้าใจว่าการขึ้นราคาเอ็นจีวีจำเป็น สามารถปรับได้ตามความเหมาะสม แต่ยังมีบางประเด็นที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าเรื่องราคา คือเรื่องสถานีบริการไม่เพียงพอ ขาดตอน เรื่องนี้ต้องหารือกับภาคเอกชน ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลอย่างใกล้ชิด

"การขึ้นราคาเอ็นจีวีจะยังเป็นไปตามกรอบมติที่ประชุมกพช. ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธาน โดยวันที่ 16 ม.ค.2555 จะปรับขึ้นอีกก.ก.ละ 0.50 บาท ซึ่งผู้ประกอบการเข้าใจดีว่าทุกวันนี้ระดับราคาที่ขาย 8.50 บาทต่อก.ก. นั้นถูกเกินไป ผมเลยขอให้เดือนม.ค.นี้ปรับขึ้นไปก่อน หลังจากนี้มีเวลาพิจารณาแนวทางช่วยเหลือก่อนปรับขึ้นครั้งที่ 2 เดือนก.พ." นายกิตติรัตน์ กล่าว

ด้านนายยู กล่าวว่า ผู้ประกอบการได้รับคำชี้แจงของรัฐบาล และยินยอมให้ปรับราคาขึ้นในวันที่ 16 ม.ค.นี้ โดยจะรับไปเจรจากับผู้ชุมนุม แต่ยังไม่สลายการชุมนุม จนกว่าจะมีแนวทางช่วยเหลือชัดเจนจากกระทรวงพลังงานและปตท.ว่าจะดำเนินการอย่างไร

6โมงเย็นม็อบขนส่งยอมสลาย

ต่อมาเวลา 18.30 น.นายพิชัย รมว.พลังงาน กล่าวว่า จะปรับราคาเอ็นจีวี วันที่ 16 ม.ค.ตามมติกพช.อีก 0.50 บาทต่อก.ก. หลังจากนั้นจะตั้งคณะกรรมการร่วมกับภาคขนส่ง โดยตนเป็นประธานเพื่อพิจารณาการปรับราคาครั้งต่อไปว่าจะปรับจำนวนเท่าใด ยืนยันว่าจะไม่ยืดเยื้อเกิน 1 เดือน ส่วนบัตรเครดิตพลังงานจะเดินหน้า ต่อไป จึงขอให้ผู้ขับแท็กซี่ที่ยังไม่ได้ยื่นขอสิทธิ มาลงทะเบียน เพราะจะได้รับสนับสนุนค่าก๊าซถึง 2 บาท หลังจากเดือนเม.ย.2555 เป็นต้นไป ส่วนแท็กซี่ที่ยังไม่ได้ทำบัตรเครดิต ก็ใช้บัตร เอ็นจีวีของปตท.แสดงเพื่อขอรับสิทธิส่วนลดได้เช่นกัน แต่จะไม่ได้วงเงินเครดิตเดือนละ 3,000 บาท

ส่วนนายยู ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่า หลังจากนี้จะไม่มีการชุมนุมของกลุ่มผู้ขนส่งอีก โดยผู้ประกอบการยืนยันให้ภาครัฐรับทราบว่าสามารถรับต้นทุนเอ็นจีวีที่เพิ่มขึ้นได้อีก 2 บาท ต่อก.ก. หรือปรับราคาก๊าซเพิ่มขึ้นได้ 4 เดือน(ม.ค.-เม.ย.) ซึ่งหลังจากนี้จะต้องประสานกับคณะกรรมการเจรจาร่วมที่ตั้งขึ้นมา เพื่อกำหนดกรอบการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีในระยะต่อไป ซึ่งหากจะปรับเพิ่มราคาเกินกว่า 2 บาท ก็ต้องศึกษาให้เป็นธรรม

"กลุ่มขนส่งพอใจกับการหารือกับรัฐบาลในวันนี้ ซึ่งรัฐบาลรับเรื่องร้องเรียนและตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษา เพราะรายละเอียดเรื่องนี้มีมาก ทั้งกลุ่มแท็กซี่ รถบรรทุก และรถโดยสาร ก็ต้องไปดูให้เหมาะสม ส่วนหลังจากนี้จะมีม็อบหรือไม่ ภาคขนส่งยอมให้ปรับราคาได้อีกไม่เกิน 4 เดือนเท่านั้น โดยการชุมนุมวันนี้ต้องยุติลงไปก่อน" นายยู กล่าว




 

Create Date : 10 มกราคม 2555
0 comments
Last Update : 10 มกราคม 2555 16:12:22 น.
Counter : 393 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


byjai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add byjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.