ภาคต่อ เชียงใหม่ค่ะ
ความเดิมตอนที่แล้ว ถึงตอนที่เที่ยวดอยสุเทพ กลับลงเขามาแล้ว พอมาถึงโรงแรม เพื่อนโทรมา (อุ๊ย !!!! ลืมไปเลยว่ามีช้านอยู่ใช่มั๊ยล่ะ???) โทรมาบอกว่า ทานข้าวกันเรียบร้อยแล้ว อิช้านก็ เหวอนิดนึง "เฮ้ย คืนนี้จองร้านอาหารไว้แล้วน๊า " เพื่อนเลิฟ บอกว่า "ลืม " เฮ้อ ....ทำไงได้ ก็ต้องช่างมันอ่ะดิ ก็เลยไปเดินเล่นตลาดวโรรส ไนท์บาร์ซ่า คนเดียว หรอบเดิมเรย มีรุ่นน้องอยู่เชียงใหม่ก๊ะเค้าคนนึง น้องก็กลัวเจ๊เหงา เลยขับรถจากแม่แตง มาพาเจ๊ไปกินข้าวตอนสามทุ่ม ซึ้งจายจริงๆ เพื่อนเลิฟ โทรมา กินข้าวยัง??? (ควรจะดีใจดีป่ะเนี่ย ) ก็แอบบ่นนิดนึง เรื่องลืมร้านที่จองไว้ โดนกลับมา "ทำไมต้องโทรรายงานทุกชั่วโมงเหรอ " อึ้งง่า ...อ่ะนะ เซ้นส์มันก็บอกตั้งแต่แรกแล้ว ว่าทริปนี้ มีปัญหาชัวร์ ๆๆ ช่างมัน เถอะ ช้อปดีกว่า ช้อปๆๆๆ แล้วก็ช้อป จากนั้น น้องมาถึง ไปทานข้าวที่ร้านผาลาดตะวันรอน บรรยากาศ ดีอ่ะ + หนาวมั๊กมาก หลังจากท้องอิ่มแล้ว ขับรถชมรอบๆ เมืองเชียงใหม่ หลงเสน่ห์ เมืองเชียงใหม่ซะแล้วสิ เสียดายที่ถ่ายภาพตอนกลางคืนไม่ค่อยสวย เลยไม่มีมาลงให้ดูเช้าวันรุ่งขึ้น วันที่สองที่อยู่เชียงใหม่ จะมีรุ่นน้องเพื่อนตามมาอีก 2 คน พอมาถึง ก็บอกกับเราว่า ไม่พักด้วยนะ จะหาที่อื่นพัก ทางโรงแรมไม่ให้พัก 3 คน เลยลองไปถามที่ฟร้อนท์ดู เค้าก็บอกพักได้ เก็บเพิ่ม 200 บาท ตามใจละกัน ทำไรก็ทำกันเถอะ เลยออกไปเที่ยวในเมือง รอบๆ แถวนั้น แทน เดินไปเรื่อยๆ จากโรงแรมไม่ไกล ได้ไป หอศิลปวัฒนธรรม เมืองเชียงใหม่ เลยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับตัวอักษรในเมืองเชียงใหม่ได้ เดินไปไหนก็เห็นมีตัวอักษรแปลกๆ ตามสถานที่ราชการต่างๆ เราก็สงสัยอยุ่ เอ๊...ตัวอักษรอะไร ตัวอักษรพวกนี้ เรียกว่า อักษรธรรม หรือ ตัวเมือง มาจากอักษรมอญ โดยเป็นภาษาเขียนร่วมกัน คือ เชียงใหม่ล้านนา เชียงตุง และสิบสองพันนา จากนั้น ก็เดินต่อค่ะ ไปวัดพระสิงห์ เมื่อก่อนเคยมาแล้ว 7 ปีที่แล้ว เดินไปถึงแล้วก็งงๆ ว่าใช่เหรอ คงเพราะมีการบูรณะไปเยอะ จำไม่ได้จริงๆ แล้วก็เดินอีกค่ะ ไปวัดเจดีย์หลวง จากวัดเจดีย์หลวง ก็บ่ายสองแล้ว เพื่อนโทรมา บอกไปดอยสุเทพด้วยกันมั๊ย ขี่มอไซด์ไปกันแล้วให้เมย์ไปด้วยให้ซ้อนสาม (เหอเหอ ไม่ไปหรอก กลัวง่า) เลยปฏิเสธไปว่า ไม่ไป เพราะเมื่อวานไปมาแล้ว [แต่ไม่รู้ว่ายังไงนะ ทางนู้นเค้าก็เคืองเรา หาว่างอน ต้องง้อ เล่นตัว กำจริงๆ ซึ่ง ณ ตอนนั้นเวลานี้ เราก็ยังไม่รู้นะว่าเค้าคิดยังไง แต่จะมีเฉลยว่า รู้ได้ไง ว่าเค้าคิดแบบนี้ รอต่อไป...วันรุ่งขึ้น] แล้วเคยดูรีวิว คนอื่นๆ ในบล็อคนี่แร่ะ ไปสวนสัตว์เชียงใหม่ หมีแพนด้าน่ารัก เลยอยากไปดูบ้าง โบกรถแดงไปสวนสัตว์เชียงใหม่เลยค่ะ เมื่อวานก็ไป ดู๊...ไมไม่เข้า ไปถึงแล้ว ได้ลองนั่งรถไฟฟ้ารางเดียว (Monorail) ด้วย อยู่ระหว่างทดลองใช้บริการ มีแค่สี่สถานี พนง ประจำรถทำหน้าที่ไกด์ไปในตัวด้วย เราลงสถานี 4 เลย เจอเจ้าตัวนี้เป็นตัวแรก กินเก่งมากๆ แล้วก็ได้เวลาตามหาขวัญใจเราแล้ว ช่วง-ช่วง & หลิน-ฮุ่ย ตอนอยู่บนรถ ไกด์บรรยายว่า เวลา 1 วันของแพนด้า เวลารวม 1 ชั่วโมงของเค้าคือ เล่น ส่วนที่เหลือ กิน + นอน เนี่ย ถ้าใครมาว่าเราเป็นหมีแพนด้า โกรธจริงๆ นะเนี่ย อิอิช่วง-ช่วง โบกมือให้ด้วยแน่ะ (จริงๆ เปล่าหรอกนะ กำลังกินอยู่)มาดู หลิน-ฮุ่ย กันบ้างตัดสินใจไม่ถูกเลยตัวไหน น่ารักกว่ากัน ทางสวนสัตว์จะห้ามไม่ให้ถ่ายรูปโดยใช้แฟลช แต่ที่เห็นยังมีคนเปิดอยู่ คนไทยด้วย แม่-ลูก มีคนตะโกน + ถือป้ายแล้วยังไม่ปิดเลย ตอนแรกถ่ายช่วง-ช่วง พอมีคนตะโกนเดินหนี ไปถ่ายหลิน-ฮุ่ย แทน สักพักมีทางเจ้าหน้าที่เอาสกอตเทปดำมาแปะตรงแฟลช ไร้สำนึกจริงๆ ที่ต้องห้าม เพราะหมีแพนด้าจะไม่ไวกับแสงกระพริบตาไม่ทันเวลาคนยิงแฟลช ซึ่งจะทำให้เค้าตาบอดได้ แอบเครียดนิดนึงนะ แบบว่า อยากให้เที่ยวกันแบบมีวินัย มีจิตสำนึกที่ดีด้วยเอาล่ะได้เวลาบ๊ายบาย สวนสัตว์แล้ว ได้เวลาชอปต่อแล้ว วันนี้วันเสาร์มีถนนคนเดิน ที่วัวลาย รีบโบกรถสองแถวแดงเลยค่ะ ไม่ทันได้ชอปไรมากหรอกค่ะ เพราะเดินมาสองวันแล้ว ปวดขามาก ขอนวดก่อนค่ะ สักครึ่งชั่วโมงพอ สบ๊ายสบาย ราคาก็ไม่แพง 60 บาทเองค่า ช้อปจนเมื่อยแขนแล้ว กลับโรงแรมดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ มาเม้าท์ต่อนะ คืนนี้ง่วงแล้วค่ะ บายๆ ก่อนน๊า
Merry x'Mas and HaPpy New Year 2008 นะคะ
เฮ้อ ....ทำไงได้ ก็ต้องช่างมันอ่ะดิ ก็เลยไปเดินเล่นตลาดวโรรส ไนท์บาร์ซ่า คนเดียว หรอบเดิมเรย 
เหอเหอ ไม่ไปหรอก กลัวง่า) เลยปฏิเสธไปว่า ไม่ไป เพราะเมื่อวานไปมาแล้ว [แต่ไม่รู้ว่ายังไงนะ ทางนู้นเค้าก็เคืองเรา หาว่างอน ต้องง้อ เล่นตัว กำจริงๆ ซึ่ง ณ ตอนนั้นเวลานี้ เราก็ยังไม่รู้นะว่าเค้าคิดยังไง แต่จะมีเฉลยว่า รู้ได้ไง ว่าเค้าคิดแบบนี้ รอต่อไป...วันรุ่งขึ้น] 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
Merry x'Mas and HaPpy New Year 2008 นะคะ