|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
อยากตาย....แต่มัจจุราชไม่เป็นใจ----ตอนที่ 5
จากที่นั่งมองยาแก้แพ้อยู่นานพอเริ่มรุ่งเช้าก็เริ่มทานยาไปเรื่อยๆ จำได้มีว่าทานไปจนหมดกระปุก แล้วก็เริ่มง่วงๆซึม ค่อยๆอยากหลับ ตอนนั้นสามีและลูกตื่นแล้ว แต่เรายังมีสติบอกว่าไม่สบาย ขอนอนหน่อย จากนั้นมันมีอาการหลอนๆ ก็โทรไปหาเพื่อนสนิท แล้วโทรบอกว่าฝากมาดูลูกด้วยนะ(ตอนนั้นไม่รู้เรื่องเพื่อนเล่าให้ฟัง) แล้วมันซึมๆแล้วก็เหมือนหลอน ตอนนั้นเพื่อนสนิทอยู่ไม่ไกลเลยพุ่งมาหาที่บ้าน ซึ่งเพื่อนเข้ามาบ้านแล้วบอกแม่พ่อ ที่บ้านแล้วก็สามีให้ขึ้นไปดูเราที่ห้องนอน มาถึงเพื่อนก็เขย่าตัวเราพอรู้เรื่องนะบอกให้อาเจียนออกมา ทานยาอะไร แต่เราไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วหล่ะ สามีกะเพื่อนเลยหามเราไปส่งโรงพยาบาลแล้วพยายามตบหน้าเรียกไม่ให้หลับ ตอนนั้นได้เสียงแม่ร้องไห้ โมโหเพราะเริ่มรู้เรื่องว่าเราทำธุรกิจเจ๊งและมากินยาหนีตาย แม่ทั้งร้องไห้แล้วก็ต่อว่าตามไปเลยหล่ะ ไปถึงโรงพยาบาล ก็ถูกล้างท้อง วิธีคือพยาบาลเอาสายสอดเข้าไปในรูจมูกแสบคอมาก แล้วเอาน้ำเกลือใส่ไปล้างท้องเราเห็นยาสีเหลืองไหลออกมาอีกข้างหนึ่ง นานมากเหมือนกันจนหมดจนไม่มีแล้ว จากนั้นเมื่อพ้นขีดอันตรายก็ไปนอนพักที่ห้องรวม สามีก็มาเฝ้าหน้าเศร้ามากแล้วถามว่า"ไม่อยากอยู่กะพี่และลูกแล้วเหรอ ทำไมคิดจะทิ้งพี่กะลูกหล่ะ" เราไม่ได้พูดอะไรได้แต่น้ำตาไหล ระหว่างนั้นเจ้าหนี้ทั้งหลายเริ่มโทรมาที่เครื่องของสามีแล้วถามว่าทำไมเราปิดเครื่อง สามีตอบว่าเราไม่สบายเดี๋ยวออกจากโรงพยาบาลแล้วจะโทรกลับ เราก็ยังเบลอๆ ต่อมาพยาบาลบอกว่าต้องกลืนถ่านดูดพิษนะต้องกลืนให้หมด เราก็กลืนไปแบบมันเฝื่อนมาก แต่ต้องกลืนให้หมดเพราะพยาบาลดุมาก สักพักหมอมาตรวจอาการดูแล้วบอกว่า ยังไงอยากตายทำไมลูกยังเล็กไม่ใช่เหรอ ตัดช่องน้อยแต่พอตัวตายไปลูกจะลำบากนะ มีแม่แต่จนหน่อยดีกว่าไม่มีแม่ไว้ซุกอกอุ่นๆยามลูกต้องการนะ พอเค้าโตไปเค้าคงเสียใจที่แม่ทิ้งเค้าไปแบบนี้ เราร้องไห้โฮเลย แต่พูดอะไรไม่ออก สามีไม่ว่าอะไรเราสักคำได้แต่ลูบหัวเรา หมอบอกว่าโชคยังดีที่เราทานยาแก้แพ้ ถ้าเรากินพาราไปขนาดที่เรากินไป รับรองไม่รอดแล้ว ขอให้โชคดีที่ยังรอดมาได้ขอให้ต่อไปเป็นช่วงที่เราทำในสิ่งดีๆเพื่อลูกและสามีแล้วกันอย่าคิดหนีอย่างนี้อีก จากนั้นสักพักจนเย็นหมอถามว่าอยากนอนพักต่อไหมแต่เราไม่นอนขอกลับบ้าน สามีพาเรากลับบ้าน มีลูกๆมายืนเกาะรั้วหน้าบ้าน หน้าตาเค้าห่วงเรามากแล้วถามว่าแม่ไม่สบายเหรอ แล้วเอามือมาแตะหน้าผากเราเหมือนที่เราดูแลเค้าเวลาไม่สบาย ตอนนั้นบอกได้เลยเราอายลูกมากไม่อยากมองหน้าเค้าเลย ส่วนพ่อแม่มองหน้าเราอย่างเจ็บช้ำน้ำใจมาก ไม่มองได้ไงเราทำให้เค้าแย่ไปด้วย เค้าต้องมาลำบากกับเราตอนแก่ ตอนนั้นเราฝังตัวอยู่แต่ในห้องอีกอย่างการที่ทานยาไปมากถึงแม้จะปลอดภัยแล้วแต่อาการง่วงซึมเพราะยาบางส่วนมาซึมเข้าร่างกายแล้วอีกฤทธิ์ เราง่วงซึมง่วงๆๆอย่างนั้นไป2-3 วันเลย อยากบอกว่าการฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางอีกของการหนีปัญหา แต่เราเข้าใจนะว่าทำไมคนเราถึงคิดสั้น เพราะความที่ไม่กล้าบอกปัญหากะใคร มันเครียดการที่อยู่กับตัวเองจนเกินไปมันคิดอะไรไม่ออกหรอกค่ะ ดังนั้นเวลาเกิดเรื่องอะไรต่างๆอย่าอยู่คนเดียวพยายามโทรหาใครที่เราไว้ใจเล่าไปเลยค่ะ หาเพื่อนไปเลยค่ะแล้วเล่าให้หมดการคิดแก้ปัญหาคนเดียวมันไม่ได้ทำให้มีทางมากขึ้น แต่การที่ได้เล่าให้ใครฟังมันช่วยให้เราไม่คิดอะไรมากจนเกินตัวหรอก ค่ะ อีกอย่างการฆ่าตัวตายเป็นการทิ้งปัญหาให้คนข้างหลัง คนที่เรารักและคนที่รักเราเจอปัญหาที่เราก่อไว้ ปัญหาไม่ได้ไปกะเรา แต่เราสิทิ้งปัญหาไว้ให้ลูกให้สามีให้พ่อแม่เรา เราต้องอยู่แก้ปัญหาด้วยกัน มีสุขร่วมสุข มีทุกข์ต้องร่วมแก้ไขด้วยกันค่ะ
อีกอย่างลูกๆไม่ได้อยากมีแม่รวยหรือแม่จน แต่ลูกอยากมีแม่ไว้กอดให้ความอบอุ่น ให้หอมแก้ม ให้หนุนตัก แม้จะอยู่อย่างอดๆอยากๆแต่ถ้ามีแม่อยู่ข้างๆความสุขมันก็ล้นเหลือ ต่อมาดิฉันยังอยู่แล้วสู้ต่อ ลูกต้องเปลี่ยนโรงเรียนจากโรงเรียนดีมาอยู่โรงเรียนระดับปานกลาง ไม่ค่อยได้เที่ยวห้างไม่ค่อยได้ของเล่นราคาแพงๆอย่างที่เคย แต่ลูกมีแม่ที่มานั่งเล่นหม้อข้าวหม้อแกง(ชุดละ 50 บาท) ขายข้าวแกงเล่นกัน ลูกมีเสียงหัวเราะสุขเหมือนเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิมเพราะแม่ไม่ได้นั่งอมทุกข์เพราะนั่งคิดบัญชีหัวฟูแต่ไม่ค่อยสนใจเค้าสักเท่าไหร่เหมือนเมื่อก่อน มีแม่ที่พาเข้านอนพร้อมเล่านิทานกันจนหลับ มีคุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ และเด็กๆ ที่นั่งทานข้าวพร้อมหน้าตอนเย็น แต่โต๊ะกับข้าวมีอาหารไม่หรูหราเหมือนแต่ก่อน แต่ทานอร่อยสนุกและอิ่มเหมือนเดิม แถมอิ่มใจมากกว่าเดิมด้วยค่ะ
Create Date : 04 พฤษภาคม 2550 |
|
7 comments |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2550 10:08:09 น. |
Counter : 728 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: d IP: 125.24.144.194 4 พฤษภาคม 2550 11:26:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: atchy 4 พฤษภาคม 2550 12:32:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yai IP: 75.55.3.250 5 พฤษภาคม 2550 3:16:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: หน่อย IP: 124.121.56.46 8 พฤษภาคม 2550 7:47:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทิพย์ IP: 210.213.20.90 21 พฤศจิกายน 2550 11:35:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: นลินนา IP: 58.9.123.32 17 กุมภาพันธ์ 2557 22:53:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
บ้านเราก็เคยเป็นหนี้หลายสิบล้านบาท แต่ก็หมดหนี้แล้ว ตอนนี้พ่อเสียแล้ว แต่บางทีก็นึกถึง คิดว่ายอมจน แต่มีพ่อแม่อยู่ครบ ดีกว่าค่ะ