|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
แมวตัวที่หก
แมวตัวที่ 6 คือ " yellow "
yellow เป็นแมวข้างถนนจริงๆ เก็บมาจากริมถนนจรัญสนิทวงค์ ประมาณซอย 51 ได้ ตอนเจอตัวดำมากๆ แทบจะมองไม่ออกเลยก็ว่าเป็นแมวสีอะไร
วันนั้นขับรถแบบไม่เร็วมาก สายตาก็เลยเหลือบไปเห็นก้อนอะไรกลมๆ อยู่ที่ริมถนน ก็เลยชะลอรถ แล้วขับเข้าไปดู ปรากฎว่า yellow นั่งตัวสั่นอยู่ ไม่ลุกหนีไปไหน ก็เลยจอดรถแล้วอุ้มขึ้นมา มองสภาพแล้วน่าเวทนาสุดๆ
จากนั้นก็ไปทำธุระต่อ โดยมี yellow แอบอยู่ใต้เบาะรถไปตลอดทาง ตอนลงไปทำธุระ ก็ทิ้งไว้ในรถ แล้วเปิดกระจกไว้นิดหน่อยให้อากาศเข้าไป แต่ว่ารถจอดตากแดดอยู่ เลยต้องรีบทำแล้วรีบกลับ เพราะกลัวว่าจะเป็นแมวแดดเดียวซะก่อน
กลับมาบ้านก็จับเช็ดเนื้อเช็ดตัวเช็ดหน้า ค่อยดูหล่อขึ้นมาหน่อย แล้วจึงมองออกว่าเป็นสีเหลือง แถบหางสั้นๆ อีกต่างหาก น่ารักจัง แล้วก็เลยตั้งชื่อแบบสิ้นคิดว่า " yellow " ตามสีของตัว
ส่วนตัว yellow เองก็กลัวจะไม่หล่อ รีบแต่งตัวให้ตัวเองใหญ่เลย
yellow เป็นแมวน่ารักเลี้ยงง่าย เวลานอนชอบดูดคอนก พอปิดไฟนอนปุ๊บ yellow จะเดินมาที่คอนกทันทีแล้วก็ลงมือดูดที่คอ ดังจ๊วบๆ เจ็บก็เจ็บ จั๊กจี้ ก็ จั๊กจี้ แต่นกก็ให้ดูด เพราะเห็นว่าชอบ แต่พอดูดไปนานเข้าเริ่มไม่ไหว ก็เล่นดูดไม่เลิก นกเลยต้องเอาผ้าห่มมาปิดที่คอไว้
yellow ก็ไม่ละความพยายาม เปลี่ยนจากดูดข้างขวา มาดูดข้างซ้ายก็ได้ ดูดอยู่นั่นแหละไม่ยอมเลิก จนนกต้องเอาผ้าปิดคอสองข้าง คราวนี้หละไม่มีคอให้ดูดแล้ว นกก็นึกว่าจะนอนได้ ที่ไหนได้ yellow เล่นดูดหน้าผากเลย นกเลยต้องเอาผ้าคลุมหน้า แต่ yellow ไม่ละความพยายาม ในเมื่อแม่ปิดหมดใช่ไหม งั้นดูดผมก็ได้
ตอนแรกนกก็ต้องนอนคลุมโปง yellow ก็พยายามหาทางเข้าไปในผ้าห่มให้ได้เพื่อที่จะไปดูดคอ หรืออะไรก็ได้ บางทีเผลอหลับไปผ้าหลุด ก็เข้าได้ดูดจนนกตกใจตื่น ก็จับโยนออกมา แต่ก็เป็นอย่างนี้ทุกคืน จนนกทนไม่ไหว ก็เลยปล่อยให้ดูดไปตามใจชอบ แต่ต้องย้ายที่บ้างนะ เพราะมันเจ็บ แต่จะไม่ให้ดูดหน้าเพราะกลัวสิวขึ้น ส่วนใหญ่มักจะให้ดูดผมมากกว่า คิดดูแล้วกันตื่นขึ้นมาผมเป็นก้อนๆ มีแต่น้ำลายแมวทั้งนั้น แต่นกก็ยอมรับได้ เพราะรักคำเดียว
พอย้ายบ้าน ก็ไม่นอนกับ yellow แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า yellow ไปนอนดูดใครหรือเปล่า แต่มีวันหนึ่งที่ yellow ไม่สบาย นกเลยเอามานอนเพื่อดูอาการ
คืนนั้นกำลังหลับอยู่ ก็ต้องตกใจเหมือนโดนอะไรกัดที่คอ สะดุ้งตื่นขึ้นมา yellow นอนดูดคอสบายใจเฉิบ
โธ่ๆๆ ไม่ได้นอนด้วยกันตั้งนาน ยังจำได้อีกเหรอลูก ว่าต้องนอนดูดคอแม่
yellow โตวันโตคืน แถมหล่อมากๆ แล้วก็นิสัยดี เรียกก็มา ไม่ดื้อไม่ซนเท่าไร
yellow อ้วนขึ้นมากๆ ก็ดีใจ ที่ลูกอ้วน ไม่ได้เอ่ะใจอะไร ได้แต่มองว่ารู้สึกพักนี้ yellow ไม่ค่อยวิ่งเล่น ชอบนอนอยู่นิ่งๆ แต่ก็ไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าโตแล้วเลยไม่วิ่งเล่นมากเหมือนเมื่อก่อน แล้วนอกจากนั้นก็ยังปกติดี คือ กินข้าว กินน้ำได้ อ้อนแม่ตามปกติ
และแล้ววันที่แม่ต้องเสียใจมากที่สุดก็มาถึง เมื่อ orange เป็นโรค FIP ซึ่งตอนนั้นโรคนี้ยังไม่ค่อยมีแมวเป็นกันมากนัก แต่พอ orange เป็นก็เลยศึกษาหาข้อมูล ว่าโรคนี้ ถ้าแมวเป็น บางตัวก็อ้วนมาก บางตัวก็ผอมมาก ซึ่งในกรณีของ orange คือผอม
คราวนี้ก็เลยมามองที่ yellow ว่าทำไมตอนนี้รู้สึกอ้วนเยอะมาก แล้วก็ซึมๆ ไปด้วย เลยกังวลใจ เลยพาไปหาหมอที่คลินิคแถวบ้าน หมอก็บอกว่าอาจจะเป็นก็ได้ ให้ลองพาไปที่ รพ.สัตว์เกษตรดีกว่า
วันต่อมา นกเลยลางานแล้วพา yellow ไปหาหมอที่ รพ.สัตว์เกษตร ตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพราะต้องไปรับบัตรคิวก่อน กว่าเขาจะเปิดให้รับบัตรคิวก็ตั้ง เกือบ 8 โมง รับบัตรคิวเสร็จก็นั่งรอหมอมาอีก yellow นอนอยู่ในตะกร้าไม่ร้องเลย ได้แต่มองหน้าแม่ ว่าแม่พามาที่ไหนเนี่ย เห็นแล้วน้ำตาไหล อุ้มออกมาไว้บนตัก ก็ไม่ดิ้นไม่ซนเลย ในใจก็คิดภาวนาว่าอย่าเป็นเลยนะลูกโรคนี้ เพราะส่วนใหญ่โรคนี้เป็นแล้วมักจะไม่ค่อยรอด
พอหมอมาก็เขาไปพบหมอ หมอก็เจาะเลือดไปตรวจ กว่าจะเจาะได้ ทำเอา yellow เจ็บไปหลายที เพราะเลือดไม่ยอมออก จากนั้นก็รอผลเลือดอีกเป็นชั่วโมง
พอผลเลือดออกมาก็สรุปว่าเป็น FIP ชัวร์ หมอบอกว่าให้พาไปเจาะท้องเพื่อเอาน้ำในท้องออก ก็พาไปอีกห้องนึง เขาให้หมอเด็กๆ มาเจาะท้อง แล้วเหมือนหมอเด็กทำอะไรยังไม่ค่อยเป็น จับ yellow มัดแขนมัดขากันดิ้น แล้วก็เอาเข็มจิ้มที่ท้อง เพื่อดูดน้ำในท้องออกมา
แต่...น้ำกลับไม่ออก ทำเท่าไหร่ก็ไม่ออก หมอเด็กก็เลยเรียกหมออีกคนหนึ่งมาช่วย ซึ่งเป็นหมอคนที่ตรวจเมื่อกี้นี้ พอหมอคนนี้มา ก็เปลี่ยนเข็มอันใหม่ แล้วเจาะเข้าไปที่ท้อง คราวนี้น้ำในท้องไหลออกมาเต็มเลย เป็นน้ำสีเหลืองเหนียวๆ จากที่น้ำในท้องไหลออกมาเรื่อย แล้ว ณ.เวลานั้น yellow ก็เหมือนจะหยุดหายใจ เพราะตัวแน่นิ่ง นกตกใจมากๆ บอกหมอว่าแมวไม่หายใจแล้ว หมอคนนั้นก็ตกใจ รีบแก้เชือก แล้วรีบพาไปห้องฉุกเฉิน
เวลานั้นนกน้ำตาไหลพราก คิดในใจว่าอย่าเป็นอะไรไปนะลูก แล้วก็วิ่งตามไปที่ห้องฉุกเฉิน
ไปถึงห้องฉุกเฉิน หมอก็ให้ออกซิเจน เหมือนคนเลย คือ เอามาครอบตรงหัว แล้วก็ปั้มหัวใจเล็กน้อย นกยื่นร้องไห้แบบไม่อายใครเลย ภาวนาให้ลูกฟื้น
แล้วสักพัก yellow ก็ฟื้นขึ้นมา นกดีใจมากๆ พวกหมอๆ ก็ดีใจ นกมองหน้าหมออย่างอาคาตแค้นแล้วพูดว่า ถ้าแมวหนูเป็นอะไรนะ หมออาจจะไม่มีหน้าไปมองใครอีกก็ได้ หนูจะบอกคนเขาให้ทั่วเลยว่าหมอทำแมวหนูตาย โดยที่แมวหนูไม่ได้เป็นไรเลย หมอคนนั้นหน้าเสียไปเลย
พอ yellow อาการดีขึ้น หมอก็ส่งไปเอ๊กซเรย์ แล้วก็ให้น้ำเกลือ จากนั้นก็รอรับยา
วันนี้เป็นวันที่ yellow ดูบอบช้ำมากๆ เห็นแล้วสงสารลูกสุดๆ ได้แต่พูดกับลูกว่าเดี๋ยวก็หาย เพราะหมอบอกว่าอาจจะหาย แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน เต็มที่ ก็ปี หรือ สองปีเท่านั้น แต่ ณ.เวลานั้น ยังไงก็ขอให้ลูกอยู่กับนกไปนานที่สุด ไม่ว่าต้องจะทำยังไงก็ตาม ที่จะทำให้ลูกอยู่กับนกได้
พอรับยาแล้วหมอก็นัดอีก 1 อาทิตย์ก็มาดูอาการ แล้วก็ให้ถือขวดน้ำเกลือไปให้ต่อที่บ้าน คราวนี้การกลับบ้านเป็นการยากลำบากมาก เพราะต้องแขวนน้ำเกลือไว้ แล้วน้ำเกลือก็แกว่งไป แกว่งมา ทำให้น้ำเกลือหยดเร็วเกินไป ก็กลัวว่าจะเป็นอันตราย กว่าจะกลับถึงบ้านได้ เล่นเอาใจเสียไปตลอดทาง
กลับมาถึงบ้านก็ต้องแยก yellow ให้อยู่คนเดียว เพราะโรคนี้ติดต่อกันทางสัมผัส ทางน้ำลาย
yellow ในวันนี้หน้าตาเศร้าหมองมากๆ เพราะคงไม่อยากอยู่คนเดียว คงอยากอยู่กับเพื่อนๆ yellow พยายามดันกรงเพื่อจะออกมา แล้วกลับไปอยู่กับเพื่อนในห้องให้ได้ ทำสายน้ำเกลือหลุดตั้งหลายครั้ง ต้องพาไปให้หมอที่คลีนิคแถวบ้านใส่ให้ใหม่ตั้งหลายรอบ
หลังจากที่กลับมาจากหาหมอคราวนี้ yellow อาการไม่ดีขึ้นเลย ข้าวก็ไม่กิน น้ำก็ไม่กิน ต้องป้อนกันตลอด แต่ก็กินเข้าไปนิดเดียว เพราะส่วนใหญ่จะถุยออกมาหมด ป้อนไปก็ร้องไห้กันไปทุกมื้อ
และวันที่ทำให้หัวใจแม่สลายก็คือเช้าวันเสาร์ นกตื่นมาเห็น yellow นอนนิ่งก็รีบเข้าไปดู ผลปรากฏว่า yellow ไม่อยู่แล้ว yellow หนีแม่ไปอยู่บนสวรรค์แล้ว
นกอุ้มร่าง yellow ขึ้นมากอด แล้วก็ร้องไห้อยู่อย่างนั้น ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีแต่เรื่องเศร้าๆ เพราะก่อนหน้านี้ 1 อาทิตย์ orange ก็เพิ่งจากไป นี่ yellow ก็ยังจะมาทิ้งไปอีก กว่านกจะทำใจเอา yellow ไปฝังได้ก็เย็นแล้ว ขุดดินไปร้องไห้ไป เอา yellow ลงไปในหลุมก็ไม่อยากจะเอาดินกลบ เพราะกลัวจะเจ็บ ร้องไห้น้ำตาจะเป็นสายเลือด แต่ยังไง ก็ต้องทำใจว่า yellow ไปสบายแล้ว
ช่วงนั้นนกเลยเศร้าไปเป็นอาทิตย์เพราะแมวมาตายติดๆ กันเลย 2 ตัว
ทุกวันนี้แม่ยังคิดถึง yellow อยู่เสมอ และก็ยังรักลูกอยู่ตลอด ลูกยังอยู่ในใจแม่ตลอดมา และก็จะตลอดไปด้วย
" แม่รักลูกมากนะ "
ตอนเด็ก
โตขึ้นมาหน่อย
เริ่มหล่อขึ้นแล้ว
ทั้งหล่อ ทั้งน่ารัก ขึ้นทุกวัน
เก๊กสุดๆ
นอนเพื่อเตรียมตัวจะดูดคอแม่
นอนชมธรรมชาติในสวน
รูปสุดท้าย
Create Date : 28 สิงหาคม 2549 |
Last Update : 31 สิงหาคม 2549 9:08:46 น. |
|
21 comments
|
Counter : 716 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ดาริกามณี วันที่: 28 สิงหาคม 2549 เวลา:16:56:34 น. |
|
|
|
โดย: Jiguli วันที่: 28 สิงหาคม 2549 เวลา:18:03:04 น. |
|
|
|
โดย: กบน้อย IP: 58.181.182.40 วันที่: 28 สิงหาคม 2549 เวลา:22:21:54 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:11:06:14 น. |
|
|
|
โดย: สงครามกวี IP: 203.156.85.163 วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:11:47:47 น. |
|
|
|
โดย: แตงโม (rabbit doll ) วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:12:30:07 น. |
|
|
|
โดย: MAY IP: 64.254.116.14 วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:15:05:53 น. |
|
|
|
โดย: ultima_sun IP: 203.121.167.252 วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:16:57:43 น. |
|
|
|
โดย: ปิงปอง (tarapiw ) วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:2:16:07 น. |
|
|
|
โดย: นายเบียร์ วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:5:01:39 น. |
|
|
|
โดย: จิ๊บ (jipprincess ) วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:18:46:26 น. |
|
|
|
โดย: (แตนต่อย ไม่ได้ LogIn) (แตนต่อย ) วันที่: 31 สิงหาคม 2549 เวลา:1:10:48 น. |
|
|
|
โดย: jusmin (jusmin_ja ) วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:13:06:37 น. |
|
|
|
โดย: 5555 IP: 192.168.1.101, 110.164.233.91 วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:15:05:51 น. |
|
|
|
โดย: 5555 IP: 192.168.1.101, 110.164.233.91 วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:15:08:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่เค้าไปสบายแล้วล่ะ
พี่เคยมีประสบการณ์แมวตายไปต่อหน้าเยอะเหมือนกัน
พอจะเข้าใจความรู้สึกที่เสียใจคะ
เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านตัวเอง
มีแมวเยอะคะ
แถมพี่สาวพี่ก็ชอบเอาแมวมาเลี้ยง
เป็นแมวที่โดนทิ้งนั่นแหละ
มาดูน้องเหมียวในบล็อกนี้แล้วอยากกลับบ้านที่บางบัวทองจังเลยคะ
อยากไปเล่นเหมียวๆ