Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
21 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

สาวไทย…ก้าวสู่บันไดนางงามจักรวาล



ความสวยและความงามนับเป็นยอดปรารถนาของผู้หญิงทุกคน และหากความสวยงามนั้นได้มีโอกาสปรากฏสู่สายตาชาวโลกและได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ที่งามที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในจักรวาล นั่นคือสิ่งที่หญิงสาวหลายคนปรารถนา เพราะนอกจากจะนำความภาคภูมิใจมาสู่ตัวเองและครอบครัว แล้วยังหมายถึงชื่อเสียงของประเทศชาติในอันที่จะเป็นที่รู้จักของชาวโลกอีกด้วย

นับตั้งแต่ปี 2499 เป็นต้นมา กองประกวดนางสาวไทยได้ส่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ผู้ที่มีความสวยงามเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเป็นตัวแทนของสาวงาม เข้าสู่เวทีประกวดนางงามจักรวาลหลายต่อหลายคน ซึ่งก็มีนางสาวไทยที่ได้พกพาเอาความงามและความสามารถไปจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในจักรวาลถึง 2 คนด้วยกันคือ “อาภัสรา หงสกุล” และ “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” ส่วนคนอื่นก็มีเพียงแต่เฉียดและอีกหลายๆ คนที่ไม่เข้าตากรรมการตั้งแต่รอบแรกก็มี




ในปี 2499 เป็นปีที่ “อนงค์ อัชวัฒนา” ได้รับตำแหน่งนางสาวไทย แต่ด้วยความไม่พร้อมหลายอย่างทางกองประกวดจึงได้ส่ง “อมรา อัศวนนท์” รองนางสาวไทยอันดับ 1 ซึ่งมีความพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษาที่เธอสามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส กับใบหน้าสวยคมตามแบบฉบับสาวลูกครึ่งและสัดส่วน 35 – 22 - 35 สูง 5 ฟุต 3 นิ้ว รวมถึงคุณสมบัติอันเพียบพร้อมแบบกุลสตรีไทย ไปช่วงชิงความงามอันดับหนึ่งบนเวทีนางงามจักรวาลในนาม “มิสไทยแลนด์” การเดินทางไปประชันโฉมในครั้งนั้นเป็นไปอย่างไม่เป็นทางการ อมราต้องเดินทางไปประกวดด้วยทุนส่วนตัว และยังเดินทางด้วยความยากลำบากเพราะเธอต้องเดินทางสู่อเมริกาด้วยเรือเดินทะเล กว่าการเดินทางจะสิ้นสุดก็ใช้เวลากว่าครึ่งเดือน การเดินทางไปสู่เวทีการประกวดในครั้งนั้นแม้อัมราจะพลาดตำแหน่งนางงามจักรวาล แต่เธอก็ได้ประกาศเกียรติคุณของความเป็นสาวไทย รวมทั้งได้เผยแพร่ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของประเทศไทยสู่สายตาของชาวโลกให้รู้จักเมืองไทยมากยิ่งขึ้น



ในปีถัดมาปรากฏว่ารัฐบาลไทยไม่ให้การสนับสนุนการประกวดนางสาวไทย แม้จะมีการวิ่งเต้นต่อรองด้วยเหตุผลก็ไม่ได้รับความสนใจ กองประกวดนางสาวไทยจึงต้องยุติบทบาทในการคัดเลือกสาวงามไปประกวดในต่างประเทศเรื่อยมา

ปี 2503 มีสาวไทยเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 2 ต่อจากอมรา อัศวนนท์ แต่สาวคนนี้ไม่มีตำแหน่งนางงามหรือมงกุฎการันตีจากเวทีความงามใดๆ มาเลย เธอเข้าประกวดเนื่องจากเพราะกำลังศึกษาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาพอดี ทำให้ สดใส วานิชวัฒนาตัดสินใจหาประสบการณ์ด้วยตัวเองบนเวทีระดับโลก และเธอก็ไม่ได้กลับมามือเปล่า เพราะเธอสามารถคว้าตำแหน่งนางงามมิตรภาพมาครองได้สำเร็จ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีไมตรีจิตรของหญิงไทยได้อย่างมาก



ในปี 2507 กองประกวดนางสาวไทยได้ผงาดขึ้นมาอีกครั้ง และการกลับมาของกองประกวดนางสาวไทยในครั้งนั้น เสมือนหนึ่งกลับมาเพื่อประกาศความงามของหญิงไทยว่าไม่ด้อยไปกว่าสาวงามชาติอื่นๆ เลย ในปีนั้น “อาภัสรา หงสกุล” นักเรียนสาวจากปีนัง ผู้มีความงามอย่างหาที่ติไม่ได้ ได้รับคัดเลือกให้เป็นยอดพธูไทย ที่มีความสวยที่สุดในประเทศ หลังจากที่เชือดเฉือนตำแหน่งกับ “อรัญญา นามวงศ์” เพียงเส้นยาแดงผ่าแปด แน่นอนที่สุดว่าเธอจะต้องทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของสาวไทยทั่วทั้งประเทศ ขึ้นประชันความงามบนเวทีนางงามจักรวาลที่ “ไมอามี่” สหรัฐอเมริกา เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งในจักรวาล การประกวดบนเวทีระดับโลกในครั้งนั้นมีสาวงามจากประเทศต่างๆ นับร้อยคนเข้าร่วมชิงตำแหน่งอันทรงคุณค่านี้ นับตั้งแต่ทราบข่าวการเดินทางไปประกวดของนางสาวไทย ทุกคนต่างก็ตั้งใจรอฟังข่าว โดยเฉพาะผู้ที่หวังในตัวของอาภัสรา ว่าจะต้องคว้าตำแหน่งอันมีเกียรติระดับโลกนี้มาครองอย่างแน่นอน และแล้วในคืนตัดสินรอบสุดท้าย คือวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 “อาภัสรา หงสกุล” ก็ได้รับการยอมรับจากกองประกวดนางงามจักรวาลให้เป็นผู้ที่มีความงามและสวยที่สุดในโลก ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างมากมายและคุ้มค่าที่สุด



ในปีต่อมาคือปี 2508 “จีรนันท์ เศวตนันท์” สาวนักเรียนนอกผู้มีร่างสง่างามด้วยวัย 24 ปี สัดส่วน 36 – 24 – 36 ซึ่งได้รับตำแหน่งนางสาวไทยในปีนั้น เป็นตัวแทนสาวไทยเดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลในปี 2509 ซึ่งมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งผู้ที่ไม่เห็นด้วยให้เหตุผลว่าควรที่จะให้เธอประกวดมิสเวิลด์มากกว่า เพราะในประวัติศาสตร์นางงามจักรวาลไม่เคยมีประเทศใดคว้าตำแหน่งนางงามจักรวาล 2 ปีซ้อน ส่วนผู้ที่เห็นด้วยก็ให้เหตุผลว่าควรที่จะให้เธอประกวดนางงามจักรวาลเพื่อแสดงสปิริต และความเห็นอย่างหลังก็ได้รับการสนับสนุนมากกว่า จีรนันท์เป็นอีกคนหนึ่งที่สร้างผลงานในเวทีนางงามจักรวาลได้ดี เพราะตั้งแต่รอบแรกจนกระทั่งรอบสุดท้ายเธอติดกลุ่มมาโดยตลอด เชือดเฉือนสาวงามจากทั่วทุกมุมโลก แต่แล้วโชคก็ไม่ได้เข้าข้างสาวไทยเสมอไป เธอหวุดหวิดที่จะได้ครองตำแหน่งความเป็นหนึ่งใจักรวาล โดยรับคัดเลือกให้เป็น รองนางงามจักรวาลอันดับ 2 แม้จะได้ตำแหน่งรองแต่ก็ยังแสดงถึงความงามของหญิงไทยที่ไม่ด้อยไปกว่าใครในจักรวาล เพียงเท่านี้ก็สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศแล้ว



ปี 2509 เวทีประกวดนางงามจักรวาลได้ว่างเว้นสาวไทยเข้าไปประชันโฉม เนื่องจากว่า “ประภัสสร พานิชกุล” ผู้มีสัดส่วน 35 – 23 – 36 เป็นผู้รับตำแหน่งนางสาวไทยในปีนี้มีวัยเพียง 16 ปี อายุไม่ครบตามเกณฑ์ของกองประกวดนางงามจักรวาล ซึ่งถือกติกาว่าสาวงามที่เข้าประกวดจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่เพื่อชื่อเสียงของประเทศ ประภัสสรได้บินไปประกวดราชินีแปซิฟิค ที่ประเทศออสเตรเลีย และเธอก็สามารถคว้าตำแหน่งนางงามผู้มีบุคลิกภาพดีเด่นมาครองเป็นรางวัลปลอบใจกลับมา

ปี 2510 นักเรียนสาวจากปีนัง “อภันตรี ประยุทธเสนีย์” คว้าตำแน่งนางสาวไทยมาครองด้วยสัดส่วน 35 – 22 – 35 สูง 165 ซ.ม. เป็นอีกครั้งที่การประกวดในครั้งนี้จัดขึ้นที่ไมอามี่ ที่เดียวกับที่ ”อาภัสรารา หงสกุล” ได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาล อภันตรีจึงเป็นความหวังของคนไทยทั้งประเทศว่ามีโอกาสที่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย อภันตรีเชือดเฉือนความงามกับสาวงามทั่วโลกโดยเธอสามารถผ่านเข้าถึง รอบ 15 คนสุดท้าย แต่แล้วเธอก็พลาดถึงการเข้ารอบต่อไปอย่างน่าเสียดาย ตามข่าวกล่าวว่าที่เธอพลาดนั้นเนื่องมาจากการแต่งหน้าและทำผมไม่รับกับใบหน้าของเธอนั่นเอง อย่างไรก็ตามเธอยังได้รับตำแหน่ง “มิสวูมสูท” หรือนางงามที่ใส่ชุดว่ายน้ำสวยนั่นเอง



ในปี 2511 “แสงเดือน แม้นวงศ์” พนักงานธนาคารสาว เป็นผู้ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งนางสาวไทย ด้วยสัดส่วน 35 – 23 – 35 สูง 164 ซ.ม. เธอได้รับการสนับสนุนเข้าสู่เวทีประกวดนางงามจักรวาลจากกองประกวดนางสาวไทยในปี 2512 เธอได้เดินทางเข้าสู่เวทีการประกวดนางงามจักรวาลที่หาดไมอามี สหรัฐอเมริกา แม้เธอจะพลาดตำแหน่งนางงามจักรวาล แต่เธอก็สามารถเอาความงามของความเป็นหญิงไทยชนะใจกรรมการ จนได้รับตำแหน่ง ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม กลับมาสู่ประเทศ

ปี 2512 “วารุณี แสงศิรินาวิน” ผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปครองด้วยสัดส่วน 35 – 24 – 36 สูง 167 ซ.ม. ได้บินประกวดเพื่อช่วงชิงตำแหน่งความงามอันดับหนึ่งของโลก แต่แล้วก็ต้องบินกลับมาอย่างกะทันหัน เมื่อกองประกวดนางงามจักรวาลแจ้งว่า นางสาวไทยอายุไม่ถึงเกณฑ์ที่สามารถเข้าประกวดได้ จนกระทั่งปี 2513 เป็นปีที่ว่างเว้นจากการประกวดนางสาวไทย และในปี 2514 วารุณีจึงได้รับคัดเลือกให้ไปประกวดนางงามจักรวาลอีกครั้ง แต่โชคก็ไม่ได้เข้าข้างเธอเพราะเธอกลับมาโดยไม่ได้ตำแหน่งอะไรพ่วงท้ายมาเลย

ปี 2514 แอร์โฮสเตสสาว จากสายการบินไทย “นิภาภัทร สุดศิริ” สัดส่วน 36 – 24 – 36 สูง 170 ซ.ม. ผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทยปีนั้น ได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลประจำปี 2515 แต่เธอก็ไปไม่ถึงดวงดาว



ปี 2515 “กนกอร บุญมา” สาวลูกน้ำเค็มจากชลบุรี พกพาเอาสัดส่วน 35 – 23 – 35 สูง 165 ซ.ม. มาอวดสาวตาคณะกรรมการจนได้รับคัดเลือกให้เป็นนางสาวไทยเป็นตัวแทนสาวไทยไปประชันความงามจักรวาลที่ประเทศกรีซ แต่แล้วเธอก็พลาดหมดทุกตำแหน่ง ผู้ที่สามารถคว้าตำแหน่งนางงามจักรวาลในปีนั้นคือ “มิสฟิลิปปินส์” และนอกจากนี้มิสฟิลิปปินส์ยังคว้าตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ พ่วงท้ายอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย

ในปี 2516 กองประกวดนางสาวไทยได้ว่างเว้นการประชันความงามบนเวทีไป เนื่องจากบ้านเมืองอยู่ในสภาพที่ไม่เรียบร้อย แต่เพื่อจะรักษาความงามของหญิงไทยสู่สายตาชาวโลก เมื่อมีการประกวดนางงามจักรวาลปี 2517 นักธุรกิจหนุ่ม “ศักดิ์ จาตรุจินดา” ผู้มีบทบาทในสังคมคนหนึ่งได้ทาบทามสาวลูกครึ่งนาม “เบญจมาศ พลภัทรวิจารณ์” ส่วนสัด 35 – 24 – 35 สูง 162 ซ.ม. ไปประกวดนางงามจักรวาลที่ประเทศฟิลิปปินส์ ผลปรากฏว่าเธอไม่สามารถคว้าตำแหน่งใดๆ กลับมาได้เลย

ปี 2518 “ศักดิ์ จาตุรจินดา” ได้จัดประกวดนางสาวไทยจักรวาลขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อคัดเลือกสาวให้เข้าร่วมประกวดและช่วงชิงตำแหน่งนางงามจักรวาลอย่างต่อเนื่อง และในปีนั้น “ศิริขวัญ นันทศิริ” สาวจากจังหวัดนครปฐม ผู้มีสัดส่วน 35 – 23 – 35 สูง 167 ซ.ม. เป็นผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปครอง แต่ภายหลังศิริขวัญมีปัญหากับทางกองประกวดเรื่องส่วนแบ่งรายได้ที่ไม่ลงตัว จึงได้ขอถอนตัว ทางกองประกวดจึงเลือกรองอันดับ 1 วัลยา โทณะวณิก สาวนักเรียนนอกผู้มีสัดส่วน 33 – 24 – 35 สูง 166 ซ.ม. บินไปประกวดนางงามจักรวาลที่เอลซัลวาดอร์ แต่ความงามของเธอยังเป็นรองสาวงามจากประเทศอื่นอยู่มากจึงหมดโอกาสคว้าตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งกลับมาใคนไทยได้ชื่นชม

ปี 2519 “แคทริยา เอริกุล” สาวสวยผู้มีสัดส่วน 35 – 24 – 35 สูง 166 ซ.ม. ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนางสาวไทยจักรวาลประจำปีนี้และได้บินไปประกวดนางงามจักรวาลที่ฮ่องกง แต่ดวงชะตาและความงามของเธอก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอผ่านเข้ารอบได้

ปี 2520 ลัดดาวัลย์ อินทร์ยา สาวเหนือเจ้าของสัดส่วน 34 – 24 – 36 สูง 170 ซ.ม. คว้าตำแหน่งนางสาวไทยจักรวาลไปครองและได้เป็นตัวแทนไปประกวดนางงามจักรวาล ซึ่งความสวยและความสามารถของเธอยังเป็นรองสาวงามจากประเทศอื่นอยู่มากจึงต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

และในปี 2521 พรพิศ สาครวิจิตร สาวงามผู้เคยขึ้นประชันโฉมบนเวทีนางสาวไทยมาเมื่อปี 2515 และยังเคยผ่านการประกวดนางงามโลกที่อังกฤษมาแล้ว ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยจักรวาลและได้บินไปประกวดนางงามจักรวาลที่เม็กซิโกแล้วเธอก็ต้องพบกับความผิดหวังเช่นเคย



ปี 2522 วงเดือน เกิดพุ่ม นางเอกหนังเรื่อง “ทำไมต้องเป็นเรา” ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นนางสาวไทยจักรวาล เมื่อทางกองประกวดส่งเธอเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลที่ออสเตรเลีย เธอไปด้วยความหวังเหมือนเช่นสาวงามทุกคน แต่แล้วเธอก็ผิดหวังจนได้

ปี 2523 โชคก็ยังไม่เข้าข้างสาวไทยอีกเช่นเคย เมื่อ อาฑิตยา พรหมคุณ สาวงามผู้มีสัดส่วน 34 – 23 –35 สูง 165 ซ.ม. ได้รับคัดเลือกให้เป็นนางสาวไทยจักรวาลและเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลที่เกาหลี ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษของเธอจะดีแต่เธอก็พ่ายแพ้เรื่องสัดส่วนและความงาม เมื่อเทียบกับสาวงามคนอื่นๆ จากทั่วทุกมุมโลก เธอจึงพ่ายแพ้ไม่ติดกลุ่มตั้งแต่ยกแรก



ในปี 2524 ผู้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นนางสาวไทยจักรวาลคือ นิภาพร นาราพานิช ด้วยสัดส่วน 35 – 24 –36 สูง 170 ซ.ม. เธอพกพาเอาความงามบินไปประกวดนางงามจักรวาลด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมแต่แล้วเธอก็ต้องผิดหวังเหมือนเช่นสาวไทยคนก่อนๆ

ปี 2525 มาสสุภา กาพย์ประพันธ์ สาวผิวสีน้ำผึ้ง สัดส่วน 34 - 24 – 35 สูง 165 ซ.ม. ผู้มีพรสวรรค์ในด้านการร้องเพลง ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยจักรวาล แล้วเธอก็ได้เดินทางไปอวดความงามของเรือนร่างและหน้าตาบนเวทีนางงามจักรวาลที่นิวยอร์ค แต่ผลปรากฏว่าเธอไม่ติดอันดับใดๆ ทั้งสิ้น



ปี 2526 จินดา เนินกร่าง สาวมอญหน้าหวาน เจ้าของสัดส่วน 35 – 24 – 35 สูง 165 ซ.ม. ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยจักรวาลไปครองอย่างง่ายดาย และเธอก็เป็นนางงามคนสุดท้ายของการประกวดนางสาวไทยจักรวาล เธอเดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลเหมือนรุ่นพี่ ซึ่งผลก็ไม่ต่างกัน เธอไม่สามารถคว้าตำแหน่งใดๆ กลับมาได้เลย ในยุคนี้เองที่สื่อมวลชนเริ่มตั้งฉายาให้ผู้ที่ตกรอบจากการประกวดนางงามนานาชาติว่า มิสปิ๋ว

ปี 2527 กองประกวดนางสาวไทย ได้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง โดยสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธร่วมกับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จัดการประกวดขึ้นที่เมืองพัทยา ในช่วงเดือนมีนาคม เพื่อให้นางงามมีเวลาเตรียมตัวไปประกวดนางงามจักรวาลในเดือนพฤษภาคม แต่เนื่องจากเป็นปีแรกที่รื้อฟื้นการประกวดเวทีนี้ขึ้นใหม่ จึงมีสาวงามร่วมประกวดไม่เพียงพอ ต้องแก้ปัญหาโดยการว่าจ้างสุภาพสตรีที่พอจะมีแววความงามให้เข้ามาร่วมเดินประกอบฉากด้วย และปรากฏว่าปีนี้ สาวิณี ปะการะนัง ธิดาโดม แอลเอ ผู้มีสัดส่วน 35 – 24 – 35 สูง 168 ซ.ม. สามารถชนะใจคณะกรรมการคว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปครอง และเป็นนางงามคนแรกที่ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่าเป็น “นางงามอิมพอร์ต” หลังจากนั้นเธอก็เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่สหรัฐอเมริกา การเดินทางไปปะกวดครั้งนี้เธอได้รับแรงเชียร์จากคนไทยทั้งในประเทศและนอกประเทศ และเธอก็สามารถผ่านเข้าไปถึง รอบ 10 คนสุดท้ายได้สำเร็จ และจากนั้นไม่กี่ปีสาวิณีก็ได้เข้าร่วมประกวด มิสซิสเวิลด์ (หญิงที่แต่งงานแล้ว)เธอก็สามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 มาครองได้สำเร็จพร้อมตำแหน่งชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม



ปี 2528 เนื่องจากไม่สะดวกกับแขกรับเชิญที่ต้องเดินทางไปถึงเมืองพัทยา นางสาวไทยจึงย้ายมาจัดที่สวยสยาม กรุงเทพฯ ผู้ครองตำแหน่งปีนี้คือ ธารทิพย์ พงษ์สุข สาวเหนือจากจังหวัดน่าน ผู้มีสัดส่วน 35 - 24 – 35 สูง 165 ซ.ม. เธอได้บินไปประกวดนางงามจักรวาลที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งการเดินทางไปประกวดของเธอครั้งนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนว่าเธอจะต้องนำเอาความผิดหวังกลับมา ซึ่งก็จริงอย่างว่าเธอไม่สามารถคว้าตำแหน่งอะไรกลับมาได้เลย



ปี 2529 เวทีนางสาวไทยได้ย้ายไปจัดการประกวดที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมเซ็นทรัล พลาซ่า เนื่องจากสายฝนไม่เป็นใจ สาวงามจากนครสวรรค์ ทวีพร คลังพลอย ผู้มีสัดส่วน 34 – 24 – 36 สูง 166 ซ.ม. เธอเป็นนางสาวไทยที่ได้รับเสียงโห่ต้อนรับแทนเสียงปรบมือกึกก้อง และตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายวัน เนื่องจากไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะได้รับตำแหน่ง ซึ่งเธอได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง บ้างก็ว่าเธอหน้าแก่ ใส่ฟันปลอมทั้งปาก เป็นเด็กเส้น และมีการตั้งฉายาให้เธอว่าว่า เสือยิ้มยาก แต่ถึงแม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรเธอก็ยังคงทำหน้าที่ในการเป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลต่อไปที่ประเทศปานามา ผลที่ออกมาก็คือเธอไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ เหมือนสาวไทยคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ และปัจจุบันเธอเธอทำงานเป็นแอร์โฮสเตส ที่สายการบินไทย



ปี 2530 ชุติมา นัยนา สาวผิวสีน้ำผึ้ง ผู้มีสัดส่วน 33 – 24 – 36 สูง 165 ซ.ม. เป็นผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทยและสาวผิวเนียนไปครอง จากนั้นได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่สิงคโปร์ ถึงแม้จะเสียเปรียบเรื่องรูปร่างแต่เธอก็ได้ทุ่มเทกับการประกวดเป็นอย่างเต็มที่ ถึงขนาดมีข่าวลือออกมาว่าเธอลงทุนตกสระน้ำเพื่อดึงดูดความสนใจ ซึ่งผลการประกวดในครั้งนั้นชุติมาไม่ได้รับตำแหน่งใดกลับมาเช่นกัน แต่เมื่อสิ้นสุดภารกิจนางสาวไทย เธอก็เข้าสู่วงการบันเทิง จนประสบความสำเร็จอยู่จนทุกวันนี้



ปี 2531 สาวอิมพอร์ต กลับคืนสู่เวทีนางสาวไทยอีกครั้งเมื่อ ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก เจ้าของสัดส่วน 33 – 24 – 36 สูง 168 ซ.ม. เป็นผู้พิชิตตำแหน่งนางสาวไทยโดยเฉือนชนะ ปรียานุช ปานประดับ สาวไทยผู้มีความงามไม่แพ้กัน จากนั้นภรณ์ทิพย์ได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่ไต้หวัน ซึ่งปุ๋ยก็ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้กับคนไทยเมื่อเธอสามารถคว้าตำแหน่ง นางงามจักรวาลมาให้คนไทยชื่นชมได้สำเร็จ โดยเธอทำคะแนนนำมาตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบสุดท้าย เรียกว่าแบบม้วนเดียวจบ และนับว่าเป็นสาวไทยคนที่ 2 ที่สามารถคว้าตำแหน่งนี้ และนอกจากนี้ปุ๋ยยังสามารถคว้าตำแหน่ง ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมม มาครองได้อีกตำแหน่งหนึ่ง และถือเป็นสาวไทยคนที่ 2 เช่นกันที่คว้าตำแหน่งนี้ถัดจาก แสงเดือน แม้นวงศ์ เมื่อปี 2511 และปุ๋ยยังเป็นต้นตำรับของคำกล่าวที่ว่า นางงามรักเด็ก ซึ่งกลายเป็นคำติดปากของคนไทยจนถึงปัจจุบันที่คิดว่าผู้ที่เป็นนางงามจะต้องรักเด็ก ปัจจุบันปุ๋ยแต่งงานกับมหาเศรษฐี ชาวสหรัฐฯ เฮิร์บ ไซม่อน และมีบุตรชายด้วยกัน 1 คนคือ ฌอน และเธอก็ยังแวะเวียนกลับมาเมืองไทยและช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสอยู่เสมอ



ปี 2532 ยลดา รองหานาม พกพาสัดส่วน 33 – 25 – 37 สูง 171 ซ.ม. มาอวดโฉมจนสามารถคว้าตำแหน่งนางสาวไทยและขวัญใจช่างภาพไปครอง โดยเฉือนชนะสาวอิมพอร์ตตัวเก็ง ซึ่งมีดีกรีถึงธิดาโดมแอลเอ อย่าง เพชรรัตน์ ศรีแก้ว เรียกได้ว่าเธอเป็นนางงามม้ามืดอีกคน และเธอได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่เม็กซิโก การประกวดครั้งนั้นถึงแม้จะไม่สามารถผ่านเข้ารอบได้ แต่เธอก็ยังสามารถคว้าตำแหน่ง รองอันดับ 1 ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมมาให้คนไทยได้ชื่นชม



ปี 2533 สาวเลือดสะตอจากสงขลา พกพาความงาม ภัสราภรณ์ ชัยมงคล และสัดส่วน 34 – 24 – 36 เอาชนะใจกรรมการและเดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่สหรัฐอเมริกา ผลการประกวดครั้งนั้นเธอก็สามารถชนะใจช่างภาพจากทั่วโลกได้ด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของสาวไทย โดยคว้าตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพ มาครองได้สำเร็จ นับเป็นสาวไทยคนแรกที่สามารถคว้าตำแหน่งนี้ ถึงแม้จะมีข่าวลือขึ้นมาภายหลังว่าเธอได้รับตำแหน่งนี้ก็เพราะช่างภาพที่ลงคะแนนเกินครึ่งเป็นคนไทยนั่นเอง



ปี 2534 ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้งเมื่อเวทีนางสาวไทย ผลคะแนนของผู้ได้ตำแหน่งเกิดมาเท่ากันพอดี ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2510 ซึ่งครั้งนั้น รุ่งทิพย์ ภิญโญ กับ อภันตรี ประยุทธเสนีย์ ส่วนปีนี้คะแนนที่เท่ากันคือ จิระประภา เศวตนันท์ นางงามพัทยา ผู้มีสัดส่วน 33 – 24 – 36 กับสาวอิมพอร์ต วรรณิดา กุญชร ท้ายที่สุดคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ประธานกรรมการของงานเป็นผู้ชี้ขาดให้จิระประภาคว้าตำแหน่งนี้ไปครอง ซึ่งจิระประภาผู้นี้เป็นหลานสาวแท้ๆ ของอดีตนางสาวไทยปี 2508 และรองนางงามจักรวาลอันดับ 2 ปี 2509 จีรนันท์ เศวตนันท์ จากนั้นจิรประภาได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสาวไทยอีกคนที่คนไทยต่างหวังว่าเธอจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ในการประกวดนางงามจักรวาลครั้งนั้นจิระประภาได้ให้สัมภาษณ์กลับเมืองไทยว่าเธอไม่ค่อยชอบชุดว่ายน้ำที่ใส่เนื่องจากโป๊เกินไป และเธอก็ไม่สามารถคว้าตำแหน่งใดๆ กลับมาได้เลย



ปี 2535 เกิดเหตุพลิกล็อคถล่มทลาย เมื่อสาวเหนือจากเชียงใหม่ อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ผู้มีสัดส่วน 32 – 25 – 37 สูง 166 ซ.ม. คว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปครอง เฉือนชนะสาวลูกครึ่งตัวเก็งมาตั้งแต่ต้นอย่าง จีน่า จิดาภา ณ ลำเลียง ซึ่งจีน่ากวาดรางวัลในปีนั้นไปอย่างมากมายทั้งขวัญใจชาวตรัง แต่งกายชุดว่ายน้ำงาม รางวัลใบหน้างาม และขวัญใจช่างภาพ หลายเสียงวิจารณ์ว่าอรอนงค์เป็นสาวงามที่ไม่โดนใจคนดู จีน่าสมควรที่จะเป็นทูตความงามต้อนรับสาวงามทั่วทุกมุมโลกในการประกวดนางงามจักรวาลที่เมืองไทยในปีนี้มากกว่า และเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่โจษจันถึงปัจจุบันนี้ว่าใครว่ากันแน่ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่ากัน ว่ากันว่าที่อรอนงค์ชนะใจคณะกรรมการได้เพราะความสามารถในการฟ้อนสาวไหมที่อ่อนช้อยของเธอ ถึงแม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรอรอนงค์ก็ยังคงทำหน้าที่ของเธอต่อไป เธอสามารถเป็นเจ้าบ้านที่ดีเยี่ยมในการต้อนรับสาวงามจากทั่วโลก การประกวดครั้งนั้นเธอสามารถทำคะแนนได้เป็น ลำดับที่ 20 ถึงแม้ไม่เพียงพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แต่เธอก็ยังสามารถคว้าตำแหน่ง รองอันดับ 2 ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม มาเป็นรางวัลปลอบใจและให้คนไทยได้ชื่นชมอีกด้วย



ปี 2536 ฉัตรฑริกา อุบลศิริ สัดส่วน 33 – 24 – 36 สูง 170 ซ.ม. เป็นผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปครองแบบม้วนเดียวจบ หลายคนพูดกันว่าฉัตรฑริกาต้องได้ตำแหน่งชนะเลิศแน่ๆ เนื่องจากมีชื่อเล่นว่า “ปุ๊ก” ซึ่งเป็นอักษรตัวเดียวกับอดีตนางงามจักรวาลทั้ง 2 คนของไทย การประกวดปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่คือ มีการลดตำแหน่งรองนางงามให้เหลือเพียง 2 คน และให้นางงามที่ชิงชัยรอบสุดท้ายใส่ชุดราตรียาวแทนการใส่ชุดว่ายอย่างที่เคยเป็นมา ทั้งนี้กองประกวดได้แนวคิดมาจากเวทีนางงามจักรวาล ซึ่งเห็นว่าการใส่ชุดราตรีสวยสง่ากว่าการสวมชุดว่ายน้ำ เหมาะกับการอวดโฉมให้ประชาชนได้เห็น เป็นการเดินเพื่อแสดงความยินดีตามประเพณี อีกทั้งตอนนางงามคนปัจจุบันซึ่งแต่งตัวมาอย่างเต็มที่เพื่อมาอำลาตำแหน่งในกาเดินครั้งสุดท้าย จะได้ไม่ดูขัดหูขัดตาและแตกต่างกันมากนัก และฉัตรฑริกาก็ได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่เม็กซิโก แต่เธอก็ไม่สามารถคว้าตำแหน่งใดๆกลับมาได้



ปี 2537 สาวอิมพอร์ตและอดีตนางแบบถ่ายโฆษณายาสีฟัน วัย 22 ปี อารียา สิริโสภา หรือ ป๊อป ด้วยความฉลาดและมีไหวพริบของเธอ ทำให้เธอคว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปปีนี้ครองอย่างง่ายดาย เธอได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่ฟิลิปปินส์ คนไทยทั้งประเทศต่างเอาใจช่วยเธอในการประกวดครั้งนั้น แต่เธอสามารถทำคะแนนได้เพียง ลำดับที่ 13 เท่านั้นต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย นับเป็นสาวไทยที่เข้าใกล้การเข้ารอบนางงามจักรวาลมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา ถึงแม้จะพลาดการเข้ารอบป๊อปก็ยังสามารถคว้าตำแหน่ง นางงามยิ้มสวย มาครองได้สำเร็จ ด้วยรอยยิ้มหวานและแก้มที่มีลักยิ้มของเธอนั่นเอง ป๊อปเขียนเล่าประสบการณ์การประกวดลงในพอกเกตบุ๊คส์ของเธอว่า สาเหตุที่ทำให้เธอตกรอบเป็นเพราะเธอให้สัมภาษณ์กับกรรมการท่านหนึ่งที่เป็นช่างพระเกษาของเจ้าหญิงไดอาน่าว่า เธอไม่ปลื้มเจ้าหญิงไดอาน่า อย่างไรก็ตามป๊อปก็ยังเป็นที่รักใคร่และจดจำของคนไทยทั่วไปจนถึงปัจจุบัน



ปี 2538 สาวอิมพอร์ตจากวิทยาลัยลองบีช สหรัฐอเมริกา ภาวาดี วิเชียรรัตน์ หรือมะปราง เป็นผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทยไปครอง และได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่นามิเบีย มะปรางเป็นสาวไทยอีกคนที่ทำผลงานในการประกวดนางงามได้ดี เธอได้ ลำดับที่ 14 ในการประกวดในครั้งนั้น และรูมเมทของเธอมิสแคนาดาก็ยังสามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 ได้อีกด้วย ปัจจุบันมะปรางแต่งงานกับนักร้องหนุ่มเชน เมืองครุฑ และในปี 22546 มะปรางเข้าร่วมประกวด มิสซิสเวิลด์ และเธอก็สามารถคว้าตำแหน่งมาครองได้สำเร็จพร้อมพ่วงตำแหน่ง ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมมาครองอีกตำแหน่งหนึ่ง



ปี 2539 ปีนี้กองประกวดนางสาวไทยได้งดการประกวด เนื่องจากไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จย่า แต่กองประกวดยังทำการคัดเลือกเพื่อสรรหาสาวงามเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลต่อไป ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่ นิรัชลา คำยา ซึ่งเคยติด 1 ใน 10 นางสาวไทยเมื่อปีที่แล้วและนางสาวเชียงใหม่ปีเดียวกัน และเธอก็ได้เป็นตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา แต่เธอก็ไม่สามารถคว้าตำแหน่งใดๆ กลับมาได้เลย



ปี 2540 สาวนครนายกอดีตนางงามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ เป็นผู้คว้าตำแหน่งนางสาวไทยประจำปีนี้ โดยน้ำฝนได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่ไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ถึงแม้เธอจะไม่สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปหรือได้รับรางวัลใดๆ ในการประกวด แต่เธอก็เป็นสาวไทยเพียงไม่กี่คนที่ทำคะแนนสัมภาษณ์ได้เกิน 9 คะแนนขึ้นไป ปัจจุบันเธอเป็นนักแสดงที่มีฝีมือดีอีกคนหนึ่งของวงการบันเทิง



ปี 2541 พยาบาลสาวนักเรียนนอกและอาร์ติสท์ฝีมือเยี่ยม ชลิดา เถาว์ชาลี พิชิตมงกุฎนางสาวไทยมาครองได้สำเร็จ ชลิดาถือว่าเป็นนางสาวไทยอีกคนที่มีความพร้อมทั้งด้านภาษา ความสามารถ และความงามในการเข้าประกวดนางงามจักรวาลที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา และปีนี้เป็นปีแรกที่กองประกวดนางงามจักรวาลไม่มีการโชว์คะแนนรอบแรกของสาวงามให้คนทั่วไปได้ชม เป็นที่น่าเสียดายที่นก ชลิดา ต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย โดยสาเหตุที่เธอตกรอบนั้น นิตยสารชีวิตต้องสู้ ซึ่งบินไปทำข่าวการประกวดนางงามจักรวาลในปีนั้นได้สัมภาษณ์คณะกรรมการท่านหนึ่งและได้รับคำตอบจากกรรมการว่า สาเหตุที่ทำให้เธอตกรอบเนื่องจากการเลือกชุดราตรีของเธอนั่นเอง ทั้งๆที่ คะแนนสัมภาษณ์ของเธอนำมาเป็นอันดับ 1 ของสาวเอเชีย ซึ่งการที่เธอตัดสินใจไม่เลือกชุดราตรีของร้านระพีด้วยเหตุผลที่ว่าโป๊เกินไปและไม่เหมาะกับเธอ อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเธอในครั้งนั้นก็ได้ เรื่องการเลือกชุดราตรีของเธอยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนนางงามจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันนก ชลิดา แต่งงานแล้วกับแฟนหนุ่มเจ้าของห้างดัง ดิ เอ็มโพเรี่ยม



ปี 2542 เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูสำหรับสองแพทย์สาวที่สลัดเสื้อกาวน์มาใส่ชุดว่ายน้ำประชันความงาม ซึ่ง หมอเบิร์ท อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ตัวเก็งก็สามารถคว้าตำแหน่งนางสาวไปครองตามความคาดหมาย หมอเบิร์ทได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่ประเทศทรินิแดดและโทเบโก้ ซึ่งหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า หมอเบิร์ทมีโอกาสสูงที่จะคว้าตำแหน่งนางงามมิตรภาพมาครอง เนื่องจากเธอเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนนางงามทั่วไป และชุดราตรีมลังเมลืองของเธออาจจะสามารถพาเธอเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ แต่เธอก็ไม่สามารถผ่านเข้ารอบหรือคว้าตำแหน่งใดๆ กลับมาเช่นกัน หมอเบิร์ทถือว่าเป็นนางสาวไทยคนสุดท้ายของยุคช่อง 7 และเป็นนางสาวไทยคนสุดท้ายที่ได้ไปประกวดนางงามจักรวาล ปัจจุบันหมอเบิร์ททำงานเป็นจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา พิธีกรรายการ และผู้ประกาศข่าวของช่อง 7



ปี 2543 เกิดเหตุขัดแย้งขึ้นระหว่างสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธ ซึ่งกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อยู่หลายวันทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องแยกทางเดินจากกันไปคนละทาง โดยที่สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธหันไปจับมือกับไอทีวีจัดประกวดนางสาวไทยต่อไป โดยงดการประกวดในชุดว่ายน้ำ ขณะที่ช่อง 7 ใช้ความสัมพันธ์ที่มีมานานกับกองประกวดนางงามจักรวาล ทำให้ได้รับลิขสิทธิ์ส่งสาวงามเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลต่อไป และได้จัดการประกวดต่อไปในชื่อใหม่ว่า มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ด้วยจุดประสงค์เพื่อค้นหาสาวไทยไปเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลต่อไป โดยมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สคนแรกคือ นักศึกษาสาวคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์หาวิทยาลัย กุลธิดา เย็นประเสริฐ เธอได้รับเสียงวิจารณ์หนาหูพอสมควรว่าสวยไม่พอ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเธอก็เดินทางไปทำหน้าที่ในการประกวดต่อไปที่ประเทศไซปรัส ผลปรากฏเธอไม่สามารถคว้าตำแหน่งใดๆกลับมาได้เลย



ปี 2544 นางงามรีไซเคิ่ล วรินทร ผดุงวิถี ผู้ซึ่งเคยผ่านเข้าถึงรอบ 10 คนสุดท้ายบนเวทีนางสาวไทยเมื่อปี 2541 ในนาม วรินทร เหมทานนท์ ได้กลับเข้าร่วมประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สและคว้าตำแหน่งมาครองได้สำเร็จ ซึ่งว่ากันว่าเธอสามารถชนะใจคณะกรรมการด้วยสีผิวกับใบหน้าที่สวยคมของเธอ อ้วน หรือวรินทรได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่ประเทศเปอร์โตริโก้ ซึ่งการประกวดครั้งนั้นถึงแม้เธอจะไม่ผ่านรอบแรก แต่เธอก็ถือว่าทำผลงานได้ดี โดยหลายคนวิจารณ์กันว่าที่เธอตกรอบเพราะชุดราตรีที่เป็นปัญหาสำหรับสาวไทยมาตลอดหลายปี แต่อ้วนก็ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของสาวไทย เพราะถือว่าเป็นนางงามคนแรกที่ใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซเข้าร่วมประกวดบนเวทีนางงามจักรวาล ถือเป็นข่าวฮือฮาและได้รับคำชมพอสมควร และมีข่าวว่าเธอได้คะแนนในชุดว่ายน้ำเป็นอันดับ 5 เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นการใส่ด้วยภาวะจำยอม (เธอบอกเหตุผลว่าเพราะชุดว่ายน้ำวันพีซมีคนหยิบไปใส่หมดแล้ว) และก็ถือว่าเป็นมาตรฐานของสาวไทยคนต่อไปที่ร่วมประกวดนางงามจักรวาลจะต้องใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซ



ปี 2545 สาวสวยจากพิษณุโลก นักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลูกจัน จันจิรา จันทร์โฉม ผู้มีดีกรีนางสาวถิ่นไทยงามการันตีความงาม เป็นผู้คว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สมาครอง ลูกจันได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่เปอร์โตริโก้ ในการประกวดครั้งนั้นลูกจันได้สร้างความฮือฮาในการเดินแฟชั่นโชว์ในชุดสไปเดอร์แมน ซึ่งกำลังโด่งดังในขณะนั้น รวมถึงการสร้างความโดดเด่นในการใส่ชุดไทยเข้าร่วมในงานเลี้ยง และลูกจันถือเป็นนางงามคนแรกที่มีคนนำข่าวคราวในกองประกวดมาเล่าให้แฟนนางงามฟัง รวมถึงรับฟังคำติชมต่างๆ และถึงแม้เธอจะไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ กลับมา แต่ก็ถือได้ว่าเป็นสาวไทยอีกคนที่ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ และมีข่าวว่าเธอได้รับการโหวตเป็นอันดับ 3 จากการโหวตขวัญใจช่างภาพทางอินเตอร์เนต ปัจจุบันนอกจากจะเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้วลูกจันยังเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 สีอีกด้วย



ปี 2546 อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2000 และนางเอกมิวสิควิดีโอคุณครูครับ ของน้องพลับ เจี๊ยบ เยาวลักษณ์ ไตรสุรัตน์เป็นผู้คว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สประจำปีนี้ไปครอง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์หนาหูว่าเป็นเด็กเส้น รูปร่างก็ไม่ดี ไม่สมควรกับตำแหน่ง แต่แล้วด้วยความมุมานะ และใจรักในการประกวดนางงาม เมื่อเธอเดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่ปานามาก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนนางงามไทยเป็นอย่างมาก เมื่อเธอสามารถสร้างความโดดเด่นในการประกวดครั้งนั้นเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซสีแสด การโพสต์ท่า การเดินแบบแฟชั่นโชว์ที่ได้รับคำชมอย่างมากจากแฟนนางงามทั่วโลก และการปรับปรุงตัวในด้านต่างๆ เพื่อให้เป็นจุดเด่นและเป็นที่สนใจของช่างภาพ รวมถึงมีข่าวว่าเธอติด 1 ใน 10 ของชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม และเป็นตัวเก็งคนหนึ่งจากเอเชีย และปีนี้กองประกวดนางงามจักรวาลได้กลับมาคัดสาวงามเข้ารอบสุดท้ายเป็น 15 คนอีกครั้ง ซึ่งแฟนนางงามไทยก็หวังว่าเธอจะสามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ แต่แล้วเธอก็ไม่สามารถผ่านเข้ารอบได้ ซึ่งก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าสาเหตุนั้นเป็นเพราะชุดราตรีที่ไม่ช่วยส่งเสริมบุคลิกของเธอเลย และการให้สัมภาษณ์ที่ยังทำได้ไม่ดีของเธอ แต่เจี๊ยบก็ถือว่าเป็นนางงามไทยที่อยู่ในใจของแฟนนางงามตลอดไป



ปี 2547 นักศึกษากฎหมายจากประเทศอังกฤษ มรกต เอมมี่ กิตติสาระ เป็นผู้คว้าชัยชนะไปตามคาดในการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส โดยเฉือนชนะนักศึกษาแพทย์จากนอร์เวย์ รัชดาวรรณ นาคประเสริฐ ท่ามกลางข่าวลือว่าเธอเป็นเด็กเส้น และล็อคตำแหน่งไว้ให้เธอแล้ว อย่างไรก็ตามหลายคนต่างก็หวังว่าเอมมี่จะทำผลงานได้ดี เนื่องจากว่านางงามนักเรียนนอกมักจะทำผลงานได้ดีเสมอในการประกวดนางงามจักรวาล เธอเดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่ประเทศเอกวาดอร์ ด้วยการเดินทางมาราธอนถึง 3 วัน การประกวดในครั้งนี้ เอมมี่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สามารถสร้างความโดดเด่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ท่าที่ยังดูเหนียมอาย ชุดว่ายน้ำที่ใส่เหมือนแพมเพอร์ส เมื่อเธอได้ทราบข่าวเธอก็พยายามสร้างความโดดเด่นให้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีพอในท่ามกลางความสนใจของสื่อที่มีต่อสาวงามจากฝั่งตะวันตกมากกว่า แต่เอมมี่ก็ได้รับคำชมจากแฟนนางงามที่เธอไม่เข้าร่วมเดินแฟชั่นโชว์ชุดว่ายน้ำ ด้วยแฟนนางงามเห็นว่าชุดนั้นโป๊เกินไป สาวไทยไม่ควรสวมใส่ และมีข่าวลือว่านางงามจากรัสเซียได้เหยียบเท้าเธอจนสะดุดและเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ที่เมืองไทย แต่เอมมี่ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการเข้าใจผิดและเกิดจากความไม่ตั้งใจมากกว่า นอกจากนี้เธอยังได้รับการโหวตสูงสุดในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเอกวาดอร์ว่าเป็นนางงามที่มีผู้ชื่นชอบมากที่สุด เรียกความสนใจได้ในระดับหนึ่ง (ซึ่งการโหวตนี้แฟนนางงามคนไทยช่วยกันโหวตจนเธอได้คะแนนสูงสุด) ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ผ่านเข้ารอบแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของพี่เลี้ยงในกองประกวดมากพอสมควร ปัจจุบันเอมมี่เป็นนักแสดงสาวที่มีผลงานอย่างต่อเนื่อง และเป็นนางงามเพียงไม่กี่คนที่สามารถก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนางเอกได้



ปี 2548 ปีนี้นางงามจักรวาลกลับมาประกวดที่เมืองไทยอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งผู้ที่ได้ตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สจะเป็นตัวแทนสาวไทยในการต้อนรับสาวงามทั่วโลก ซึ่งผู้ที่คว้าตำแหน่งนี้คือ ว่าที่นักบินสาววัย 23 ปี น้อด ชนันภรณ์ รสจันทร์ น้อดถือว่าเป็นนางงามอีกคนที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร เริ่มตั้งแต่ข่าวว่าหยิ่ง ไม่สวย ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ ไม่เป็นที่พอใจของนักข่าว รวมถึงแฟนนางงามหลายคนที่ไม่ชอบเธอ ไม่สมควรกับตำแหน่งอย่างยิ่ง ถึงขนาดมีการใส่ร้ายต่างๆ นาๆ ในอินเตอร์เนต แต่ด้วยความที่เป็นคนตรง ทำอะไรทำจริง ไม่สนใจกับเรื่องเล็กน้อยรวมทั้งเป็นนางงามคนแรกที่เข้ามาเล่นเวบบอร์ดเพื่อมารับฟังข้อเสนอในการปรับปรุงตัวต่อไป ในที่สุดน้อดก็สามารถเอาชนะใจแฟนนางงามหลายคนที่ไม่ชอบเธอ ในการประกวดนางงามจักรวาลที่เมืองไทยครั้งนี้ น้อดได้รับการวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรจากผู้คนทั่วไป รวมถึงมีข่าวลือมากมายทั้งเรื่องที่เธอไม่พอใจชุดประจำชาติของไทย เรื่องที่เธอไปต่อว่ามิสยูเอสเอ และอีกหลายๆเรื่อง ซึ่งเธอก็ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว ในท่ามกลางกระแสติดลบแฟนนางงามต่างก็ให้กำลังใจเธอเต็มที่ และเธอก็ได้นำไปปรับปรุงตัวจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวเก็งจากเอเชียได้สำเร็จ การประกวดครั้งนี้ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ผ่านเข้ารอบแต่ก็สามารถคว้าตำแหน่ง ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม มาครองได้สำเร็จ แม้หลายเสียงวิจารณ์ว่าชุดไทยไม่ควรได้รับ สาเหตุที่เธอตกรอบหลายคนวิเคราะห์ว่าเนื่องจากเป็นการลดกระแสความไม่พอใจในเรื่องชุดประจำชาติ อย่างไรก็ตามหลังจากประกวดเสร็จน้อดเธอก็ได้สานฝันต่อในการเป็นนักบินของเธอ และเธอเป็นนางงามอีกคนที่จะอยู่ในใจของแฟนนางงามไทยตลอดไป



ข้อมูลอ้างอิง
-สาวงามสาวมงกุฎ
-อัลบั้มรวมภาพ ข่าว นางสาวไทยประจำปี 2538




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2548
21 comments
Last Update : 15 กันยายน 2548 11:13:57 น.
Counter : 6325 Pageviews.

 

เคยผ่านมาและก็เป็นอดีตที่ผ่านไปแล้วค่ะ

แต่ก็มีอะไรที่ประทับจำและจดจำดีค่ะ จนทุกวันนี้

ได้ประสพการณ์ชีวิต ดีค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 21 สิงหาคม 2548 1:43:58 น.  

 

 

โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) 21 สิงหาคม 2548 1:54:40 น.  

 

 

โดย: จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร 21 สิงหาคม 2548 13:29:25 น.  

 


แฟนพันธุ์แท้นางงามเลยนะคะเนี่ย ดีค่ะ ชื่นชมๆ สวยๆกันทั้งนั้นเลย แต่ชอบลุค สาวๆ สมัยก่อนจังค่ะ สวยเข้มดั

 

โดย: Mehndi Laga Ke Rakhna 21 สิงหาคม 2548 14:08:14 น.  

 


สวัสดีค่ะ

ได้ดูคนสวยๆพร้อมประวัติ

เยี่ยมมากๆเลยค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ

มีความสุขในวันอาทิตย์นะคะ


 

โดย: รักดี 21 สิงหาคม 2548 15:46:44 น.  

 

ได้ความรู้ดีจังค่ะ

คุณเจ้าของ blog เก็บรายละเอียดได้ทุกเม็ดจริง ๆ

 

โดย: Tai-Sarunya IP: 58.11.32.11 21 สิงหาคม 2548 16:23:30 น.  

 

WOW

 

โดย: emrysmerlin 21 สิงหาคม 2548 18:00:45 น.  

 

อ่านเพลินไปเลย เยี่ยมมั่กๆค่ะ

 

โดย: จันทร์น้อย 22 สิงหาคม 2548 20:48:45 น.  

 

อยากเห็นรูปน้องนวลในบิกินี่ อะครับ

ต้องทำไงครับ

ที่ถ่าย VTR อะคับ

 

โดย: อยากเห็น (เชษฐภัทร ) 23 สิงหาคม 2548 21:58:44 น.  

 

คงต้องรอวันที่ 25 ค่ะคุณเชษฐภัทร อาจจะได้เห็นกัน

 

โดย: ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ 23 สิงหาคม 2548 23:52:56 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ

 

โดย: แอ้มค่ะ 24 สิงหาคม 2548 6:04:42 น.  

 

ได้อ่านข้อความเกี่ยวกับการประกวดที่ไม่ทราบมาก่อนเลย ดีจังค่ะ

แว่วๆ ใครอยากดูชุดบิกินนี่นะ คิคิ ไว้วันที่ 25 พรุ่งนี้แล้วซิ จะตามมาดูน๊า ฮ่าๆๆๆๆ

 

โดย: goddess_piggy 24 สิงหาคม 2548 13:06:46 น.  

 

คุณปุ๋ยสวยไม่สร่างเลยนะคะเนี่ย ชอบจัง

 

โดย: -S n o w G i r l- 24 สิงหาคม 2548 18:31:42 น.  

 

แวะมาดูคนสวยๆค่ะ ...

 

โดย: ตะกร้าหวายสีขาว IP: 61.47.100.216 24 สิงหาคม 2548 21:32:16 น.  

 

แวะมาชมค่ะ เมื่อก่อนชอบดูประกวดม๊ากกกมาก แต่เราว่านางสาวไทยเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยสวยเลยอ่ะ หน้าตาธรรมดาเกิน

 

โดย: คนขี้เหงาคนหนึ่ง 25 สิงหาคม 2548 12:58:12 น.  

 

เก๋ไก๋ชไนเดอร์มากค่ะ
อ่านแล้วได้ความรู้เยอะดีมาก
ขอบคุณนะคะ

 

โดย: นางงามมิตรตะพาบ(น้ำ) IP: 58.136.90.55 11 กันยายน 2548 21:45:56 น.  

 

Swim Suits avg rank
Puerto Rico
9.9 9.3 9.9 9.9 9.2 9.0 9.0 9.8 9.7 9.543 1
Denmark
8.3 7.7 9.3 8.2 8.1 8.4 8.9 8.7 8.4 8.429 20
Switzerland
9.2 9.4 9.3 9.9 9.1 9.3 9.2 9.9 9.3 9.371 5
Colombia
9.9 9.4 9.0 9.9 8.7 8.9 9.3 9.7 9.8 9.429 3
Ethiopia
8.0 9.0 8.2 8.3 8.6 8.7 9.0 9.1 8.5 8.614 18
Russia
9.0 8.9 9.0 7.8 8.2 8.4 8.4 8.8 8.8 8.643 17
Canada
9.8 9.5 8.7 8.9 9.3 9.8 9.8 9.6 9.5 9.486 2
Japan
9.7 9.3 9.0 8.8 9.2 9.0 9.9 9.9 9.2 9.329 6
Brazil
8.7 9.9 8.7 8.7 9.5 9.5 8.8 8.3 8.5 8.914 14
Sweden
9.2 9.2 9.0 8.8 8.7 8.3 9.0 8.2 9.0 8.857 15
Trinidad
9.7 9.0 8.5 9.2 8.8 9.9 9.7 9.4 9.4 9.314 7
Thailand
8.4 8.9 9.0 8.4 9.6 9.6 9.2 9.0 9.0 9.014 13
Bolivia
9.4 9.2 7.4 9.7 9.1 9.2 9.3 8.8 8.9 9.129 10
Hungary
9.2 9.2 9.0 9.9 8.5 9.2 9.0 8.5 9.1 9.029 12
USA
9.4 9.4 9.5 9.2 9.9 8.9 8.9 9.9 9.5 9.400 4
Paraguay
9.5 9.5 8.3 8.4 9.7 9.3 9.2 9.4 9.3 9.229 8
India
8.3 9.0 8.4 8.6 8.9 9.4 9.5 9.1 8.5 8.843 16
Argentina
7.9 8.9 9.3 9.7 9.3 8.2 8.2 8.2 8.2 8.614 18
Ukraine
9.0 9.9 9.1 9.6 8.3 9.0 9.7 9.0 8.4 9.114 11
Mexico
9.0 9.9 9.2 8.9 9.3 8.7 9.6 9.3 9.3 9.229 8

Evening Gown avg rank
Canada
9.9 9.3 9.9 9.9 9.2 9.0 9.0 9.8 9.7 9.357 7
Trinidad
8.3 7.7 9.3 8.2 8.1 8.4 8.9 8.7 8.4 9.186 9
Bolivia
9.2 9.4 9.3 9.9 9.1 9.3 9.2 9.9 9.3 8.986 10
Japan
9.9 9.4 9.0 9.9 8.7 8.9 9.3 9.7 9.8 9.671 2
Puerto Rico
8.0 9.0 8.2 8.3 8.6 8.7 9.0 9.1 8.5 9.771 1
USA
9.0 8.9 9.0 7.8 8.2 8.4 8.4 8.8 8.8 9.471 4
Switzerland
9.8 9.5 8.7 8.9 9.3 9.8 9.8 9.6 9.5 9.643 3
Mexico
9.7 9.3 9.0 8.8 9.2 9.0 9.9 9.9 9.2 9.257 8
Colombia
8.7 9.9 8.7 8.7 9.5 9.5 8.8 8.3 8.5 9.386 6
Paraguay
9.2 9.2 9.0 8.8 8.7 8.3 9.0 8.2 9.0 9.429 5

Top 5 avg rank
Puerto Rico
9.5 9.8 9.9 9.9 9.3 9.4 8.7 9.7 9.7 9.614 1
Japan
9.9 9.6 9.4 8.4 9.9 8.8 9.9 9.9 9.0 9.500 2
Switzerland
9.8 9.2 9.2 9.9 9.3 9.5 9.3 9.9 9.0 9.457 3
Paraguay
8.7 9.0 9.3 9.5 9.9 9.8 9.0 8.8 9.8 9.314 4
USA
8.4 8.9 9.9 8.7 9.7 9.6 9.6 9.8 8.5 9.257 5

 

โดย: มีคน hack คะแนนจากคอมพ์ได้ IP: 58.9.72.143 23 กันยายน 2549 22:11:49 น.  

 

คุณแฟนนางงามคนที่17ค่ะ ขอทราบเว็บไซด์คะแนนการประกวดค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: sable IP: 203.113.50.16 2 ตุลาคม 2549 0:38:22 น.  

 


สรุปมีการล็อคจริงป่ะเนี่ยยย

 

โดย: p_tham 12 ตุลาคม 2549 5:54:06 น.  

 

ไม่เห็นมีภาพเลยอ่ะ เกมรับบ่ได้ อจึ้ก อจึก

 

โดย: เกม ภูเขาลาล r.s 2 IP: 125.24.133.19 3 พฤษภาคม 2550 13:39:33 น.  

 

คุณวงเดือน เกิดพุ่ม ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ Sydney Australia ค่ะ ขณะนี้เธอป่วยเป็น มะเร็งปอด ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ

 

โดย: Panratri donders IP: 212.47.252.101 6 กรกฎาคม 2560 15:54:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.