Bloggang.com : ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ : ประสบการณ์ช่วงประกวด "นางงามจักรวาล" ของ "เอมมี่-มรกต กิตติสาระ" MISS THAILAND UNIVERSE 2004

ประสบการณ์ช่วงประกวด "นางงามจักรวาล" ของ "เอมมี่-มรกต กิตติสาระ" MISS THAILAND UNIVERSE 2004

สำหรับบทสัมภาษณ์เอมมี่ในครั้งนี้ได้คัดลอกมาจาก //www.clubmee.com ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ด้วยค่ะ

การประกวด “นางงามจักรวาล ประจำปี 2547” หรือ “MISS UNIVERSE 2004” โดยเจ้าภาพในปีนั้นคือประเทศ Ecuador และตัวแทนของผู้หญิงไทยคือ “คุณมรกต กิตติสาระ” หรือ “น้องเอมมี่” ( มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2547 : Miss Thailand Universe 2004 )

ซึ่งในการประกวดมิสยูนิเวิร์สในปีนั้นนางงามจากประเทศ Australia : Jennifer Hawkins เป็นผู้คว้ามงกุฎไปครองโดยมี

รองอันดับ 1 - สหรัฐอเมริกา
รองอันดับ 2 - เปอร์โต ริโก้
รองอันดับ 3 - ปารากวัย
รองอันดับ 4 - ทรินิแดด และ โทเบโก้

หลังจากได้รับตำแหน่งเอมมี่ก็ต้องไปประกวด มิสยูนิเวิร์ส ที่ประเทศเอกวาดอร์, มีการเตรียมตัวยังไงบ้าง

“หูย เตรียมตัวไม่นานอ่ะค่ะ หลังจากวันที่ได้ตำแหน่ง กับวันที่ไปมันมีภารกิจที่จะต้องทำ บวกกับ ต้องไปขัดตัว เตรียมตัว เรียนพูด เรียนการเดินแบบ เรียนแต่งหน้า เรียนทำผม เยอะแยะมากมายค่ะ (พอถามถึงเรื่องการเดินที่จะต้องมีการฝึกการเดินแบบให้หนัก ต้องมีพื้นฐานของการเป็นนางแบบให้มาก) มีส่วนค่ะ!! มีส่วน เพราะว่า...ถ้าสังเกตง่ายๆ การที่เราไปประกวดเมืองนอกเนี่ย มันต้องประชันกับคนที่เค้า ระดับมากกว่านางแบบแล้ว (หัวเราะ) คือแบบมันต้องมั่น!!! ใจ (เน้นเสียงหนักแบบสุดๆ) แบบสุดๆ แล้วอ่ะค่ะ เพราะฉะนั้นจะมาเรียบร้อยก็ไม่ได้คือ อย่างเวทีเมืองไทย o.k. เรียบร้อยได้ แต่เวทีเมืองนอกนี่ต้อง กล้าๆ น่ะค่ะ”

สัมภาระ

“เอาไป 3 ใบค่ะ (เอาไปน้อยจัง) ไม่น้อยนะ กระเป๋าใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย กระเป๋าใหญ่มาก (ลากเสียง), (จากนั้นก็ถามถึงของที่ระลึกที่นำไปแจกเพื่อนผู้เข้าประกวด) ของที่ระลึกที่มี่เอาไปแจกเป็น เข็มกลัดค่ะ เป็นรูปชาวเขาเผ่าต่างๆ อะไรแบบนี้ค่ะ (เห็นว่าเอาอาหารไปด้วยเกรงว่าจะทานอาหารเค้าไม่ได้) มาม่า!! (ทำหน้าทำตาแบบ อาหารสิ้นคิด), (กระเป๋าแตกด้วย) ช่าย!! กระเป๋าแตก กลัว กลัวแบบทานอาหารเค้าไม่ได้ก็เลยเตรียมไปค่ะ ก็กระเป๋าแตกขาไป เพราะใส่ของเยอะไป (ลำบากมั๊ย) แต่ไม่ลำบากมากหรอก ก็คือมันแตกแบบ แตกพอไปได้อ่ะค่ะ”

เท่าที่จำได้ตอนไปประกวดเห็นมีคุณแม่ตามไปด้วย

“ใช่ คุณแม่ตามไปด้วย (ได้ข่าวว่า คุณแม่เอาของฝากไปให้ ทำอาหารไปให้) ช่ายยย ก็แบบ...คือตอนแรกคุณแม่ก็คงรู้แล้วแหละว่ามี่คงทานอะไรไม่ได้ คุณแม่ก็เลยตามไป ไปอยู่แบบ คือ ไปอยู่โรงแรมที่เค้ามีครัวให้น่ะค่ะ แล้วก็ทำแกงเขียวหวาน ทำอะไรแบบนี้มาให้ลูกทานตลอดกลัวลูกทานอะไรไม่ได้ (แล้วอาหารที่เอกวาดอร์ถูกปากมั๊ย) มีแต่ผักอ่ะค่ะ มี่เป็นคนไม่ค่อยทานผัก สลัดผักน่ะค่ะ”

สิ่งแรกที่จะต้องทำเมื่อไปถึงเอกวาดอร์ คือ....

“นอน!! เหนื่อยมาก วันแรกเค้าก็ให้มี่นอน เพราะมี่ไปถึงค่ำแล้วค่ะ มี่ก็นอนก่อน วันรุ่งขึ้นก็ Fitting อ่าม...ถ่ายรูป เอ่อ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับช่วงๆ พิธีการน่ะค่ะ และก็หลังจากนั้นก็มี ภารกิจของนางงาม แล้วก็มีซ้อมทุกวัน”

ถามถึงการต้อนรับที่เอกวาดอร์ เป็นยังไงบ้าง

“ดีค่ะ จากที่มี่รู้ คือ ประเทศเอกวาดอร์ เป็นประเทศที่ต้อนรับได้ดีมากกกก (ลากเสียง) เลยทีเดียว เพราะว่าเค้าทำได้ เนื่องจากประเทศเค้าเล็กมาก เพราะฉะนั้นทุกคนให้ความสนใจ แล้วก็เอาตำรวจ 8,000 คน น่ะค่ะ มาคอยดูแลพวกเรา ก็เลยเป็นอะไรที่แบบยิ่งใหญ่”

ถามถึงรูมเมทว่าเป็นนางงามจากประเทศอะไร

“เกาหลีค่ะ (เป็นยังไงบ้าง) Yoon Young ค่ะ ชื่อ Yoon Young น่าร๊าก (ยิ้มๆ ดูมีความสุขเมื่อพูดถึงเพื่อนร่วมห้องคนนี้) นิสัยดี ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ก็ยังมีคุย กันอยู่ค่ะ (เพื่อนสนิทที่อยู่ที่นู่น) เพื่อนสนิทที่อยู่ที่นู่นเหรอคะ ก็มี เกาหลี แล้วก็มี ยูเอสเอ แล้วก็มี เอ่อ...ออสเตรเลีย แล้วก็มี ทรินิแดด แอนด์ โทเบโก้ มีหลายคนเหมือนกันค่ะ คือจะเป็นเค้าจะแบ่งนางงามเป็น 4 กลุ่มเรียงตามตัวอักษรของประเทศ เราก็จะอยู่กลุ่มสุดท้าย ก็จะสนิทกัน”

แน่นอนว่าการแข่งขันระดับโลกนางงามจะต้องสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองเพื่อให้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน แล้วเอมมี่ล่ะมีวิธีการสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองอย่างไร

“มี่ไม่มีวิธีการยังไงหรอกค่ะ เป็นตัวของตัวเอง คือ ไม่ต้องแต่งตัวจัด หรือต้องแต่งตัวโป๊อะไรแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจอ่ะค่ะ คือใครจะไปสนใจเราในด้านนั้นก็สนใจไป แต่สำหรับมี่ มี่เป็นแบบของเรา แล้วมี่ก็เป็นตัวแทนประเทศไทย เพราะฉะนั้นความมั่นใจมีแค่ในระดับหนึ่ง คือเราต้องรักษาความเป็นไทย พี่เลี้ยงของกองประกวดเค้าก็ยังบอกเลยว่า ก็แบบเนี่ย!! ประเทศไทยเป็นประเทศที่เรียบร้อย แล้วแบบมีมารยาท อย่างเช่น วาจา, การแต่งตัว อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ คือเราก็ต้องทำอะไรให้เหมาะสมกับการเป็นตัวแทนประเทศไทย”

ถามถึงว่าช่วงนั้นมีข่าวว่า มี่นุ่งกระโปรงสั้นก็แล้ว พูดภาษาสเปนก็แล้ว สื่อก็ยังไม่สนใจอีก คือเหมือนประมาณน้อยใจสื่อฯ

“ไม่จริงค่ะ เค้าจะพูดอะไรก็ได้ แต่คนที่จะรู้ความจริงก็คือหนูอ่ะ เพราะว่าหนูอยู่ตรงนั้น มันไม่มีสื่อไทยรู้นี่คะว่า เราทำจริงๆ มันเป็นยังไง แล้วก็...ไม่ได้พูดภาษาสเปนเลย แล้วก็...ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย (สังเกตมั๊ยว่า นางงามทางฝั่งเอเชียไม่ค่อยได้รับความสนใจจากสื่อฯ) เอ่อ...มี่อยากจะบอกว่า มี่ก็โอเคน้า เพราะว่า...เราพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะฉะนั้นสื่อฯ เนี่ย เค้าคุยกับเรารู้เรื่อง แล้วในแง่ของมี่ มี่จำได้เลยว่า 3 วันก่อนประกวด มันมีแบบโพย แบบโหวตอะไร แล้วของเราก็มันก็ไม่ได้ต่ำมากจนน่าเกลียด แล้วมีอันดับ 1 ด้วยวันสองวันไรเงี๊ยอ่ะค่ะ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามาจากไหนนะ (พูดยิ้มๆ) , (มาจากแฟนนางงามไทยเรานี่ล่ะหนู ฮ่าๆๆ) ถูก!!!!!!!!!!!!!!!!!! (เน้นเสียง) หนูก็รู้แหละ (พูดยิ้มๆ พลางหัวเราะ) แบบว่าจี้มาก (โหวตทั้งวันทั้งคืนเลยนะ) ขอบคุณมากค่ะ ฮ่าๆๆ ก็เลยแบบ ก็ยังดีอ่ะ (ยิ้ม ดูสีหน้ามีความสุขที่แฟนนางงามช่วยกันโหวตให้เธอ) คือการสร้างกระแสอันนี้หนูไม่ได้สร้างเองแต่ทุกคนสร้างให้ ซึ่งสื่อฯ ที่เอกวาดอร์เค้าก็ตกใจ และหลังจากนั้นเค้าก็ให้ความสนใจของเค้าเอง แต่ก่อนหน้านั้นมันก็ไม่ได้โลววววว (ลากเสียง) มากจนเกินไปอะไรอย่างเงี๊ยอ่ะค่ะ แต่ทุกคนก็งงเหมือนกันนะ (หัวเราะ)”

อันนี้ไม่ถามไม่ได้ เ รื่องนางงามเขม่นกัน มีตบตีกันบ้างมั๊ย ก็ยกตัวอย่างปี 2003 ที่นางงามสเปนกับนางงามโคลอมเบีย ตบ!! กันในห้องพักเป็นข่าวใหญ่ออกสื่อ CNN แล้วปีของมี่เป็นอย่างไรบ้าง

“มีๆ มีฮ่ะ มีอยู่แล้ว แบบอิจฉากันอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ, อย่างมี่ มี่โดนเหยียบชายกระโปรง (นางงามรัสเซีย) ช่ายย...เหยียบตกบันได (คิดว่าเค้าหมั่นไส้เรารึเปล่า) คือไม่ได้หมั่นไส้เรา คือแบบเป็นเราหรอก แต่แบบ เค้า เค้าคงไม่ได้หมั่นไส้เราแบบนั้นอ่ะค่ะ คงแค่แบบแนว ใครก็ได้ที่อยู่ตรงนั้น (หัวเราะ)”

ต่อไปจะให้เอมมี่พูดถึงเพื่อนนางงามที่ประกวดด้วยกัน ซึ่งก็ไม่พลาดที่จะปริ้น!! นางงามที่ได้รับความนิยมในการประกวดปีนั้นไปให้เอมมี่เล่าให้ฟังว่าแต่ละคนเป็นยังไงกัน

“โอเค รูป รูปแรกเป็น ปานามา ไม่สนิทแต่เค้าได้รางวัลชุดประจำชาติ ซึ่งอลังการมาก มี่ก็เห็นด้วย ก็สวยจริงๆ (อ้าว!! ไหนตอนช่วงประกวดมีเพื่อนนางงามประท้วงกองประกวดด้วยหนิ ซึ่งตอนนั้นเอมมี่ก็ร่วมประท้วงด้วยไม่ใช่เหรอ) เอ่อ...การประท้วงเนี่ยมันมาจากแนวความคิดที่ชุดประจำชาติ ควรจะเป็นชุดประจำชาติจริงๆ ซึ่งของเค้าเนี่ยดูแฟนซีซะมากกว่า พอหลังๆ ก็เลยเข้าใจว่ามันคือคอนเซ็ปท์อ่ะ สรุป มันก็มีคือชุดแฟนซีไม่ใช่ชุดประจำชาติ มันอยู่ที่ว่าชาติไหนทำ!! ของเค้าเนี่ย ทำมาจากทองค่ะ ทองแท้ๆ ก็เลยยิ่งใหญ่, ส่วนโคลอมเบีย ไม่สนิท แต่รู้แต่ว่า พวกประเทศที่พูดภาษาสเปนน่ะ เค้าจะจับกลุ่มกันอยู่แล้วอ่ะค่ะ แบบเค้าเรียกว่าไรนะ (นางงามลาตินจะอยู่ด้วยกัน) เออ ลาตินๆ จะอยู่ด้วยกันไรเงี๊ยะค่ะ”

“ยูเอสเอ Shandi สนิทกัน นิสัยดี น่ารัก แล้วก็แบบหน้าเหมือนบาร์บี้ เวลาไปไหนมาไหนก็จะนั่งด้วยกันตลอด (เห็นว่าเอาแจ็คเก็ตมาแจกเพื่อนด้วย) ใช่ แจ็คเก็ตน่ารักมาก เค้าทำเป็นชื่อประเทศๆ เลย มี่ยังเก็บไว้เลยเขียนว่า Thailand อยู่ข้างหลัง คือทรัพยากรของเค้ามันทำได้ ของเค้าไม่ต้องหิ้วมาเองไงคะ เค้าส่งมาได้ เพราะประเทศมันใกล้กัน อยู่ทวีปอเมริกาก็เลยทำได้ ประเทศคนอื่นๆ เค้าต้องหิ้วมากันเอง เพราะฉะนั้นมันก็เป็นชิ้นเล็กๆ น่ะค่ะ, อินเดีย เอ่อ อินเดีย เค้าก็โดดเด่น แต่เค้าตัวเล็ก แต่ก็ไม่ค่อยสนิท”

“สเปน สเปนจะมั่นๆ ชีจริงๆ แล้วผมสั้น (เน้นเสียงสูง) - คือจริงๆ ผมสั้น เวลาอยู่ด้วยกันอย่างเงี๊ย (สั้นประมาณไหน) คือสั้นเลยอ่ะ แบบสั้นๆ เปรี้ยวปรี๊ด!! มาก แต่ออกไปข้างนอกใส่วิกตลอด ใส่แฮร์พีชตลอด (เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าสเปนใส่วิก) จริงๆ, ฟิลิปปินส์ จะมั่นใจ ฟิลิปปินส์จะไม่ค่อยมาสุงสิงกับพวกเอเชียด้วยกัน (เห็นมั๊ย) เป็นแบบนี้ (เอมมี่เน้นเสียง)”

“เอกวาดอร์ น่ารักค่ะ!! แต่ว่า อ่า ก็น่ารักอ่ะค่ะ แต่ว่า เค้าจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครเพราะเค้าเชี่ยวชาญอยู่แล้ว อีกอย่างอาจจะเป็นประเทศเค้าด้วย (แล้วมีสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนอื่นรึเปล่า) เอ่อ...เค้าลือออออออ (ลากเสียง) กันว่า แต่มี่ก็ไม่รู้ความจริง ก็ลือๆ กันว่า ได้รับสิทธิพิเศษนู่นนี่ นู่นนี่ อะไรอย่างเงี๊ย แต่มี่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรแบบนี้อยู่แล้วอ่ะ ก็...เค้าไม่ได้มาทำอะไรเราก็โอเคแล้ว, เปอร์โตริโก้ ไม่สนิท (แล้วหันไปเม้าทรินิแดดฯ) ทรินิแดด แอนด์ โทเบโก้”

“เป็นเพื่อนเราเอง แล้วแบบสนิทกันมาก น่ารักอ่ะ เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายด้วย เค้าเป็นคนที่แบบ ใจบุญน่ะ คือเค้าอยู่ประเทศเค้า เค้าก็ทำแบบ Charity Event ต่างๆ แล้วเค้าก็จะเป็นคนที่แบบ รักเด็กมากกกกกกกกกก (ลากเสียง) คือใจดี ที่เห็นเค้ามั่นใจแบบนี้ จริงๆ แล้วเค้าเรียบร้อย มีมุมเรียบร้อยของเค้า คือ พ่อแม่เค้าค่อนข้างที่จะ Conservative เหมือนกันอะไรอย่างเงี๊ยค่ะ เอ่อ...แล้วเค้าก็โดนกลั่นแกล้งด้วย!! ชุด ชุดราตรีเค้าโดนกรีดในรอบแรก แต่เค้ามีเผื่อ Spare ไว้ค่ะ แล้วก็เค้าโดนกดดันจากประเทศเค้ามาก เพราะว่าประเทศเค้าเข้ารอบบ่อยเค้าเลยโดนกดดัน แต่ว่าเค้าก็เข้ารอบหนิ”

“เวเน เวเน ก็น่ารักค่ะ สนิทกัน สงสารเค้าค่ะ เค้าก็โดนกดดันเพราะว่าเค้าจะต้องเข้ารอบ แต่เค้าไม่ได้เข้ารอบ วันนั้นเค้าเลยเสียใจร้องไห้มาก (ตกรอบแรกในรอบ 20 ปี) แต่ว่าเค้านิสัยดีนะ คือมี่...มี่มีความรู้สึกว่า บางครั้งหน้าตาอย่างเค้าอาจจะดูหน้าตาวีนๆ แต่จริงๆ แล้ว เค้าไม่วีนอ่ะ เค้านิสัยดี เค้าก็จะสนิทกับ ยูเอสเอ อะไรอย่างเงี๊ย ก็จะอยู่ในรถคันเดียวกันไงคะ ได้รู้จัก สนิทกัน นิสัยดี, เป็นคนแต่งตัว matching ตลอดเวลา ชุดเนี่ยน้า สังเกตุได้เลยว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าเนี่ย เค้าจะเข้ากัน สีจะเข้ากันหมดเลย มีบางชุดที่แบบรองเท้าทำมาจากเนื้อผ้าที่ทำมาจากชุดที่ใส่ คือแบบสั่งทำพิเศษเลย”

“เกาหลี น่ารัก รูมเมทๆๆ (จิ้มไปที่รูปแล้วยิ้ม) ขากลับนี่มี มาม่า เหลือเป็นลังเลย เค้าชอบมาม่าไทยก็เลยให้เค้า อ่า...เค้าเรียนที่แคนาดา ที่ Vancouver ค่ะ, อ่า อิตาลี ไม่สนิทอ่าค่ะ (เห็นว่าได้ตำแหน่ง Miss Congeniality ด้วย) ช่ายๆ เออ ช่ายมั้ง แต่มี่ไม่สนิทกับเค้า (แล้วโหวตให้ใคร) โหวตให้ใครเหรอ มี่โหวตให้ยูเอสเอ”

“ปารากวัย ก็นิสัยดี แต่ก็อย่างที่บอกว่าเป็นแบบแนวลาตินๆ ก็จะอยู่ด้วยกัน, สวิสเซอร์แลนด์ สนิท ก็จะอยู่ด้วยกันตลอด ได้ไปถ่ายวีดีโอถ่ายอะไรด้วยกันด้วย น่ารัก รู้สึกว่าเค้าเคยไปประกวด Miss World มาด้วยไรเงี๊ยค่ะ (เป็นเพื่อนสนิทกับ มิกซ์ เจนจิรา เกิดประสพ Miss Thailand World 2003 ตอนไปประกวดมิสเวิล์ด) ช่าย!! (ถามต่อ แล้วได้คุยถึงมิกซ์บ้างมั๊ย) ก็คุยกัน คือเหมือนประมาณว่า ก็ขอเบอร์มิกซ์เหมือนกัน มี่มีอยู่พอดีก็เลยให้ไป”

“(พอเหลือบมามองรูปมิสรัสเซียแล้วนิ่งซักพัก) ตามนี้ไม่พูดถึง (พร้อมเบ้ปากแบบยิ้มๆ แล้วส่ายหน้า) ก็ไม่มีไรอ่ะ คือมี่ไม่ได้มีอะไรกับเค้าอ่ะ แต่เค้าก็ เออ ช่างเหอะ!! ออสเตรเลีย คือ เพิ่งมาสนิทตอนที่ เจนนิเฟอร์ มาเมืองไทย คือไม่ได้สนิทตอนประกวดตอนนั้น แต่สนิทตอนที่เค้ามาเมืองไทย ก็เลยแบบพาเค้าไปเที่ยว พาไปดูนู่นดูนี่อ่ะค่ะ”

“แล้วก็มีอีกประเทศหนึ่งที่ไม่มีในนี้ (เอานิ้วจิ้มกระดาษ) คือ อุรุกวัย อุรุกวัยเนี่ย มี่ไม่ได้สนิทกับเค้า แต่แม่มี่สนิทกับแม่เค้า (หัวเราะ) คือเหมือนกับว่าตอนไปที่นู่นเค้าก็แบบได้เจอกัน ได้คุยกัน แม่เค้ากับแม่มี่ก็เลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งๆ ที่คุณแม่เค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ คือแบบพูดได้บ้างอะไรเงี๊ยอ่ะค่ะ (หัวเราะ)”

วันประกวดตื่นเต้นมั๊ย

“ก็ตื่นเต้นน้า (แล้วหลังเวทีวุ่นวายมั๊ย) หลังเวทีวุ่นวาย แบบ โอ้โห!! แบบทุกคนวิ่งแก้ผ้ากันไปมา เพราะมันรีบไง แต่เค้าไม่ให้ผู้ชายเข้า ก็แบบ ของชั้นอยู่ไหน นู่นนี่ชั้นอยู่ไหน โอ๊ย!! จะต้องขึ้นเวทีแล้ว ต้องอะไรยังไง ทุกคนวุ่นวายมาก (แต่งหน้าทำผมเองรึเปล่า) ต้องทำเองค่ะ แล้วเค้าก็จะมีโต๊ะส่วนตัวของทุกๆ คน เป็น ไฟ ไฟ ไฟ เป็น ล็อคๆๆๆ โต๊ะใครโต๊ะมัน”

อันนี้ต้องถามถึงการประกาศเข้ารอบ 15 คน ซึ่งแน่นอนว่าชื่อ Thailand ไม่มีอยู่ในนั้น เอมมี่เสียใจหรือไม่

“เอ่อ (นิ่ง) ...ถามว่ามี่ทำเพื่อประเทศ มี่เป็นตัวแทนประเทศ มี่ก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่วันนั้นเราต้องยอมรับว่า เอ่อ...ในที่สุดแล้ว โอเค มันไม่ใช่วันของเราและเราก็ไม่โดดเด่นพอ หรือว่า เอ่อ อะไรเงี๊ยอ่ะค่ะ เพราะฉะนั้นมันก็เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากๆ ในชีวิต ซึ่งแบบ คนๆ หนึ่งจะไปเจอได้ แค่นี้มี่ก็โอเคแล้วอ่ะค่ะ (เลยเล่าให้ฟังว่า ก่อนถ่ายทอดสด รายการข่าวช่วงเช้าทางช่อง 7 ได้พูดถึงเอมมี่ว่าได้ที่ 14 คงจะได้เข้ารอบ ทันใดนั้นเอมมี่ก็...) จริงเหรอ (เสียงสูง) ไม่รู้ เพิ่งรู้นะเนี่ย เหรอ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร คือมันผ่านไปแล้วอ่ะค่ะ”

ไม่พลาดที่จะถามถึงคนที่ตกรอบ 15 คน ว่ามีใครร้องไห้มั๊ย เสียใจ อะไรยังไง

“ก็มีเวเนฯ คืออาจจะมีเยอะกว่านั้นน่ะค่ะ เอ่อ อุรุกวัย เท่าที่มี่เห็นนะ ตรงกลุ่มมี่มันอยู่ตรงนั้นไงคะ เพราะมันอยู่กลุ่มเดียวกัน คนอื่นๆ ก็จะแยกไปเพราะมันจะอยู่กันคนละฝั่งห้อง (มีวิพากษ์วิจารณ์กันมั๊ยว่า ทำไมเวเนฯ ถึงตกรอบ) ก็มีคุยกันน่ะค่ะว่า...ทำไมคนนู้นคนนี้ถึงตกรอบ อะไรอย่างเงี๊ยอ่ะค่ะ แต่ว่าในที่สุดวิจารณ์ไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

ตอนประกาศผล ยูเอสเอ กับ ออสเตรเลีย วินาทีนั้นเอมมี่เชียร์ใครไว้อยู่

“อ่า (นิ่งซักพัก) เพราะเค้าทั้งสองคนก็ดูน่าจะได้ทั้งคู่น่ะค่ะ เจนนิเฟอร์ ก็ห้องตรงข้ามกัน แบบพี่เลี้ยงคนเดียวกันด้วย ก็ดีใจกับเค้าทั้งคู่นะคะ (แล้วมีนางงามคนไหนมั๊ย คัดค้านหรือวีนผลการตัดสิน) เอ่อ ไม่มีค่ะ ไม่มีเหมือนเมืองไทยค่ะ (เอมมี่หัวเราะ)”

ในฐานะผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับการประกวดมิสยูนิเวิร์สมาแล้ว เอมมี่คิดว่าตัวแทนประเทศไทยควรจะมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ที่พอจะไปแข่งขันต่อสู้กับเค้าได้ คืออาจจะหวังถึงเข้ารอบ หรือมากกว่านั้นก็คือ มงกุฎมิสยูนิเวิร์ส

“มี่ว่า ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เพราะว่าในการสื่อสารไม่ว่าจะกับใครก็ตามในงาน คือ มันยากกกก (ลากเสียง) และถ้าภาษาไม่ได้มันก็จะเข้าใจยาก แล้วก็แบบ อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีอะไรอย่างเงี๊ยอ่ะค่ะ เอ่ม...คุณสมบัติอย่างอื่นเหรอคะ ไม่เน้นนะคะมี่ว่า คือมี่ว่าเป็นตัวของตัวเองอ่ะ คือไม่ว่าคุณเป็นตัวของตัวเองคุณไปที่ไหน เป็นคนดี แล้วก็แบบบริสุทธิ์ใจในการทำอะไรต่างๆ เนี่ยค่ะ มี่ว่ามันก็รอดอยู่แล้วอ่ะค่ะ แล้วก็ มันก็จะมีผลดีเองน่ะค่ะ (ถ้าให้ไปประกวดอีกจะไปมั๊ย) ไม่ไปแล้ว (หน้ามุ่ย อิอิ) เหนื่อย!! นอนวันละ 3 ชั่วโมงเงี๊ย!! เหนื่อย ไม่เอาอ่ะ มี่ว่าทุกคนที่ผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาก็ เอ่อ ให้คนอื่นมีโอกาสไปดีกว่า

พูดถึงนางงามแล้ว ตอนนี้ก็เป็น ดารา-นักแสดง เต็มตัว พยายามสลัดภาพนางงามออกมั๊ย

“พยายามอยู่นะ เอ่อ ก็ไม่นะ พอไปงานแบบเป็นนางงามก็เป็นนางงาม งานไหนที่ไม่ได้เป็นนางงามก็ ก็ เป็นตัวเรา”

นับได้ว่าเวทีการประกวดเป็นใบเบิกทางสู่วงการบันเทิง ถ้าสมมุติว่า เอมมี่ ไม่ได้เป็นนางงาม ไม่ได้เป็น ดารา-นักแสดง ป่านนี้คิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่

“ก็คงอยู่อังกฤษ เรียนต่อ หรือว่า อืมม ไรดีล่ะ ไม่ทราบอ่ะค่ะ ตอนนี้ก็อาจจะทำอะไรเกี่ยวกับแฟชั่นก็ได้ ซึ่งตอนนี้รู้สึกว่าจะชอบน่ะค่ะ (เห็นว่ากำลังเรียนทางด้านแฟชั่นอยู่ด้วย) ช่ายย”

คำถามสุดท้ายแล้ว อยากจะให้เอมมี่ ฝากถึงผลงาน

“ก็มีเรื่อง ...ภูติแม่น้ำโขง... เป็นเจ้านางทอหูก เป็นตัวภูติน่ะค่ะ แสดงกับ เวียร์ จุ๋ย ค่ะ แล้วก็ ...มนตราแห่งรัก... เล่นเป็นตัวร้ายค่ะ ร้ายมากๆ เรื่องนี้ก็นักแสดงหลายคน คอยติดตามชมแล้วกัน (ยิ้ม)”

ขอบคุณบทสัมภาษณ์จาก

Create Date : 24 กรกฎาคม 2551

Last Update : 24 กรกฎาคม 2551 12:59:55 น.

4 comments

Counter : 9405 Pageviews.

เธอน่ารัก ไม่เฟค

โดย: Cheria (SwantiJareeCheri

) วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:51:56 น.

ชอบเอมมี่จัง จริงใจ ไม่เฟคเลย

โดย: เราเอง IP: 58.8.236.109 วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:24:45 น.

iologidljdogijogcojgoudojodg

โดย: o IP: 125.24.82.21 วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:22:49 น.

สวยมากค่ะ

โดย: ต้อม IP: 110.164.240.3 วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:22:15:28 น.