📚 โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม ◜◡‾)
Group Blog
เธเนเธฒเธเธเธธเธเธขเธฒเธขเธเธฅเธดเนเธเนเธชเธก
ฤกษ์พรหมประสิทธิ์
ทายนิสัยจาก ....
นึกได้ว่าน่าเขียน
สรรหามาฝาก จากคุณยาย
โหราศาสตร์ โหราศาสตร์
จรรยาบรรณโหร
รู้คร่าวๆก่อนเรียนดวง
ความหมายดาว ตามโหราศาสตร์
ความหมายภพ/เรือน ตามโหราศาสตร์
ความหมายธาตุ ตามโหราศาสตร์
พระเคราะห์ดาวคู่
ต่ำแหน่งดาวมาตราฐาน
ลัคนา
ตนุลัคน์
ตนุเศษ
แสงดาวหรือแสงเงาดาว
เกษตรลัคนา
ดาว กุมลัคน์
พฤหัส กุมลัคน์
เสาร์ กุมลัคน์
ราหู กุมลัคน์
มฤตยู กุมลัคน์
ว่ากันเรื่องของ ดาวเสาร์
ว่ากันเรื่องของ ราหู
ว่ากันเรื่องของ มฤตยู
ดาวอาทิตย์ใน ๑๒ ราศี
ดวงจตุสดัยหรือดวงจตุโกณ
อ่านดวงสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
ปุจฉา วิสัชนา เรื่องพินทุบาทว์
ปุจฉา วิสัชนา เรื่องลัคนาราศี
เก็บเกร็ด_จากตำนาน
เก็บเกร็ด จากครูโหร
เก็บเกร็ด จากครูโหร
เก็บเกร็ด จากครูโหร
เกร็ดทักษา จากครูโหรฯ
เกร็ด 7 ตัว จากครูโหรฯ
หนังสือ..ที่ยายมี
ยามนาฬิกา
ดูดวงจาก....
ดูดวงจากวันที่
ดูดวงจากลัคนาราศี
ดูดวงจากปีเกิด
ดูดวงจาก เบอร์โทรศัพท์
ห้องพระ บ้านคุณยาย
พระคาถา บทสวดมนต์
<<
สิงหาคม 2564
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
27 สิงหาคม 2564
อดีตซาติเวร
All Blogs
ตำนานเรื่องเล่า นิทานราหูอมจันทร์
ตำนานของ_พระราหู (๘)
ตำนานของ_พระเสาร์(๗)
ตำนานของ_พระศุกร์ (๖)
ตำนานของ_พระพฤหัส (๕)
ตำนานของ_พระพุธ (๔)
ตำนานของ_พระอังคาร(๓)
ตำนานของ_พระจันทร์(๒)
ตำนานของ_พระอาทิตย์ (๑)
ทำไมพระราหู(๘) จึงมีกายครึ่งท่อน
อดีตซาติเวร
ตำนานซาติเวร เรื่องที่ ๔.
ตำนานซาติเวร เรื่องที่ ๓.
ตำนานซาติเวร เรื่องที่ ๒.
ตำนานซาติเวร เรื่องที่๑.
เก็บเกร็ด จากตำนาน
อดีตซาติเวร
อดีตซาติเวร
อดีตซาติเวร ก็คือ ผู้ที่ไม่ถูกกันมาตั้งแต่ครั้งอดีตซาติ จะต้องผูกเวร จองเวร พยาบาท มาจนกระทั้งถึงในซาตินี้ที่นำเอาเปรียบเทียบกันให้รุ้ว่า ใครควรจะเป็นมิตรกับใคร และใครควรจะเป็นศัตรูกับใคร ดังนี้
ในตำนานดั้งเดิม ตั้งแต่ในครั้งอดีตกาลนานหนักหนา ยัมีท่านเศรษฐีท่านหนึ่ง มีชื่อว่า
หัสวิไสย
ภายในหมู่บ้านแห่งนั้นใครๆก็รู้จักและคุ้นเคยกับท่านเศรษฐีหัสวิไสย ผู้นี้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังมีเคารพนับถือกันเป็นส่วนใหญ่อีกด้วย ก็เพราะเนื่องจากว่าท่นเศรฐีผู้นี้ท่านเป็นคนดีที่มีน้ำใจทุกสภาวะโดยทั่วไป ชอบการช่วยเหลือและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไม่ว่าใครๆทั้งนั้น จนกระทั่งผู้คนทั้งหลายมีความนิยมชมชอบไปทั่วหัวเมือง
โดยเฉพาะท่านเศรฐีหัสวิไลยผู้นี้ได้มีบุตรชายทั้งหมดอยู่ ๓ คนด้วยกัน และไม่มีบุตรหญิงเลยสักคนเดียวในความเป็นอยู่ของบุตรชายคนโตนั้น มีรูปร่งหน้ตาที่สวยงามน่ารักมาก หล่อเหมือนกับพระเอกหนังไทยสมัยนี้ ทั้งอุปนิสัยก็ดีมากๆเหมือนกับท่านเศรษฐีผู้ที่เป็นพ่อ จึงได้มีคนรัก และหลงใหลทั่วไป
ส่วนบุตรชายคนที่สองของท่านเศรษฐีหัสวิไสยก็มีความหล่อไม่แพ้กับพี่ชายเท่ใดนัก พวกชาวบ้านชาวเมืองก็พากันเคารพรักไม่น้อยเหมือนกัน จึงนับได้ว่าบุตรชายของท่านเศรษฐีทั้งสองคนนี้มีคุณงามความดี ที่ทำให้ชาวบ้านทุกระดับมีความเชื่อมั่น อย่างชนิดที่เรียกว่ไม่มีใครอิจฉาริษยาในสิ่งใดๆทั้งนั้น
แต่ว่าบุตรชายของท่านเศรฐีอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเล็กหรือน้องสุดท้องนั่่นสิที่มีรูปร่างหน้าตาที่ผิดจากใครๆ ไม่เหมือนพ่อ ไม่เหมือนแม่ ไม่เหมือนพี่ เหมือนกับผีในแดนนรกกลับซาติเกิดอย่างนั้นแหล่ะ จะเห็นว่าผิดไปจากมนุษย์นาเป็นอันมากคือมีรูปร่างลักษระ อ้วนเตี้ย พุงป่อง ท้องใหญ่ ผมหยิก หย้ากล้อ คอสั้น ปากแบะ หูหนา (แต่ตาไม่เล่อ เป็นแต่เพียงตาเหล่เท่านั้นเอง) รุ้สึกรูปร่างพิกลพิการ พร้อมทั้งในด้านจิตใจก็มิได้สมประกอบ ด้วยเหตุนี้ท่านเศรษฐีหัสวิไสย จึงมิได้สนใจไยดีในตัวของบุตรชยคนเล็กนี้เท่าใดนัก คงรักเอ็นดูและคอยเอาใจใส่อยู่แต่พวกพี่ชายทั้งสองคนเท่านั้น จึงได้สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่งมากให้กับน้องคนเล็กเป็นยิ่งนัก แต่ก็จะทำอย่างไรได้ล่ะ ที่เกิดมาในซาตินี้มีร่างกายพิกลพิการ รูปร่างขี้เหร่ที่ใครๆ เขาไม่ชอบ ทุกสิ่งทุกอย่าง น้องชายคนเล็กก็ทนต้องทนนิ่ง ซ่อนความรู้สึกนึกคิดเอาไว้แต่เพียงในใจ เพราะว่าจะพูดไปไม่ได้ ไม่มีใครเขาจะเห็นใจและก็ไม่มีใครที่จะเป็นผู้ช่วยเหลือให้เรื่องราวทั้งหลายในความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นมาได้ เลยแม่แต่คนเดียว จึงต้องก้มหน้าก้มตายอมรับใช้เวรใช้กรรมที่ได้เคยสร้างเคยกระทำมาตั้งแต่อดีตซาติปางก่อนเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว จึงต้องก้มหน้ก้มตายอมรับใช้เวรใช้กรรมที่ได้เคยสร้างเคยกระทำมาตั้งแต่อดีตซาติปงก่อนเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
ครั้นอยู่ต่อมไม่นานเท่าดนัก ท่านเศรษฐีหัสวิไสย ผู้ที่เป็นบิดาไม่อาจที่จะมีความสามรถกำหนดทางเดินของชีวิตได้ อะไรๆ มันก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ย่อมจะต้องหมุนเวียนเปลี่ยนแปรไปตามกาลเวลา ไม่มีผู้ใดที่จะใช้ความสามารถหมุนเข็มนาฬิกาให้เดินย้อนรอยถอยหลังกลับไปได้เลย โรคชราได้มาบังเกิดขึ้นอยู่กับท่านเศรษฐีหัสวิไสย อยู่ในขณะนี้ แล้วในที่สุดจุดจบแห่งกรมรณะก็ได้ ก้าวเข้ามาถึงชีวิตท่านเศรษฐีในเวลาต่อมานั่นเอง ซึ่งก็เป็นควมยุติธรรมและถูกต้องแล้วของผู้ที่มีชีวิตเกิดมาในโลกนี้ทุกคน ตามวัฎจักรที่ได้หมุนนำตามทางเดินของมนุย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ท่านเศรษฐีหัสวิไสย ได้ตายลงไปในความเสียดายของพวกชาวบ้านชาวเมืองที่มีความสัมพันธ์กันมา ถึงเวลาที่ได้กำหนดนัดหมายกันเอไว้จึงต้องพลัดพรากจากกันไปตามกฎเกณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นใครๆ ทั้งนั้นที่จะมีความสามารถหลีกเลี่ยงไปได้นั้นคงจะหากันไม่พบอย่างแน่นอน ในเมื่อท่านเศรษฐีหัสวิไสยได้ตายไปแล้ว บุตรชายทั้งสามของท่านเศรษฐีก็ได้จัดการงานศพทางศาสนาและตามประเพณีที่ได้ มีความนิยมสืบทอดกันมา ด้วยการนิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญ สวดศพ ชักบังสุกุล ถวายภัตตาหารตามประเพณีโบราณกาล
ครั้นเมื่อตอนที่ถึงเวลาในการทำบุญตักบาตร ในตอนเช้านั้น พี่ชายคนโตที่ได้นำเอาขันองคำมาตักข้าวใส่บาตร ส่วนคนที่สองก็ได้หยิบมาขันเงินมาตักข้าวใส่บาตร พร้อมทั้งพี่น้องสองคนนี้ ก็ยังได้กล่วอธิษฐานต่อหน้าพระสงฆ์ออกไปดังๆ พี่ชายคนโตที่ได้นำขันทองมาตักบาตร ก็ได้อธิษฐานขึ้นมาว่า
ในซาติหน้าขอให้ได้เกิดเป็นพระอาทิตย์
ที่มีควมสามารถสาดส่องแสงสว่างให้กับโลกในเวลากลางวัน ส่วนคนที่สองที่ได้นำขันเงินไปตักบาตรก็ได้อธิษฐานขึ้นมาว่า
ขอให้ได้เกิดเป็นพระจันทร์ในซาติหน้า
เพื่อที่จะได้สาดแสงสว่างให้กับโลกในยมค่ำคืน ครั้นน้องชายคนสุดท้องเมื่อได้ยินคำอธิษฐานของพี่ชายทั้งสอง ดังนั้นก็โกรธ ด้วยจิตใจที่มีแต่ความริษยาอาฆาตอย่างรุนแรง จึงหยิบเอากระบุงใส่ข้าวนำเอามาเป็นภาชนะตักบาตรกับพระสงฆ์ แล้วจึงได้อธิษฐานขึ้นมาดังๆว่
ในซาติหน้าขอให้ได้เกิดเป็นพี่ชายใหญ่ของพระอาทิตย์และพระจันทร์ตามคำอธิษฐานของพี่ชายทั้งสองนั้น และขอให้ตนเองนั้นจงมีร่างกายที่ใหญ่โตที่สุด สามรถที่จะปิดบังแสงสว่างของพระอาทิตย์และของพระจันทร์ เพื่อมิให้ส่องแสงสว่างลงมายังพื้นโลกได้
อธิษฐานไปพลางก็ตักข้าวใส่ไปพลาง
ในขณะที่น้องชายคนเล็กกำลังอธิษฐาน อยู่นั้น พี่ๆ ทั้งสองคนก็ยังได้ยินฟังคำอธิษฐานกันอย่างชัดเจน แต่ก็มิได้สนใจไยดีอะไรกับน้องชายเลย และในที่สุดแรงอธิษฐานนั้นก็ได้บังเกิดกลายเป็นความจริงขึ้นมา ในขณะที่ทั้งสามพี่น้องบุตรชายของท่านเศรษฐีนี้ได้ถึงระยะเวลาในกาลกิริยาตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็จึงได้ไปบังเกิดตามคำอธิษฐานนั้นๆ ทุกคน
น้องชายคนเล็กผู่ที่ได้นำเอากระบุงไปตักบตรก็ได้ไปบังเกิดเป็นพี่ชายใหญ่ ผู้ที่มีรูปร่างใหญ่โต ผู้ที่มีรูปร่างใหญ่โต ผมหยิกหยอง ท้องใหญ่ ทั้งยังมีความรู้ดุร้ายเป็นอันมาก มีนามว่า
พระราหู
ผิวดำ คอสั้น เสียงดัง แต่มิใช่ยักษ์ เป็นแต่เพียงแทตย์ ที่มีลักษณะและนิสัยคล้ายๆ กับยักษ์ มีหางเป็นนาค มีสถานที่อยู่ในวิมนนิล พระราหูได้ถือกำเนิดเกิดเป็นพระโอรสของพระวิปะจิตติ กับ นางสิงหรา ผู้ที่เป็นบิดามารดาตามลำดับ (เรื่องประวัติการที่พระราหูเหลือครึ่งตัวนั้น จงอดใจรอคอยการกล่าวประวัติในภายหลังช่วงนี้ครับ)
ส่วนพี่ชายคนโตที่ได้นำเอาขันทองคำมาตักยาตรพร้อมทั้งยังได้อธิฐานให้ได้บังเกิดเป็น
พระอาทิตย์
ซึ่งจะคอยส่องแสงสว่างให้กับโลกในเวลากลงวัน การอธิษฐานนั้นก็ได้กลายเป็นควมจริงคือได้มาเกิดเป็นพระอาทิตย์จริงๆ ได้รองลงมาจกพระราหู
สำหรับบุตรชายของท่านเศรษฐีคนกลาง ที่ได้นำเอาขันเงินไปตักพระสงฆ์ พร้อมทั้งยังได้ตั้งจิตตั้งใจในการอธิษฐานว่า ขอให้ได้เกิดเป็นพระจันทร์ซึ่งจะคองสาดส่องแสงสว่างให้กับโลกในเวลาค่ำคืน และแล้วแรงอธิษฐานนั้นก็ได้บังเกิดขึ้นมาเป็นความจริงคือได้มาบังเกิดเป็น
พระจันทร์
จริงๆ และมีฐานะเป็นน้องคนสุดท้องของพระราหูและพระอาทิตย์
ทั้งพระอาทิตย์ และพระจันทร์ก็มีรูปร่างที่งดงาม ทั้งยังมีรัศมีกายด้วยบารมีอันสูงส่ง ผิดกับพี่ชายคนโตคือพระราหูที่มีจิตใจมุทะลุดุดันราวกับยักษ์กับมาร ก็นี่แหล่ะ ที่เป็นเรื่องราวในอดีตซาติที่เรียกว่าซาติเวรซาติหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์ กับพระราหู พระอาทิตย์และพระจันทร์ ข้าพเจ้าจึงได้ยกขึ้นมาให้ท่านอ่านกันดู และท่านที่รู้แล้วก็ขอผ่านไปเลย
สำหรับท่านที่ยังไม่รู้ก็จะได้เป็นแนวทางในการสึกษาประดับปัญญาบารมีต่อไป ท่านเคยเห็นกันแล้วใช่ไหมครับว่า ในขณะที่พระราหูมาพบพระอาทิตย์ในคราใด ก็มักจะจับเอามาอมและบดบังแสงสว่างจนหมดสิ้น ที่ชาวบ้านเรียกว่า
มีสูรย์
หากจะเรียกกันให้ถูกต้องว่า
สุริยุปราคา
ก็นั่นแหล่ะ ได้บังเกิดขึ้นจากในความโกรธแค้นที่พระราหูได้ผู้พยาบาทจองเวรกันมา ตั้งแต่อดีตซาติเวร จึงรวมเรียกใหถูกต้องว่า
อดีตซาติเวร
และขณะที่พระราหูได้โคจรมาพบกับพระจันทร์ในคราใด ก็มักจะจับเอาพระจันทร์เอาอมและบดบังแสงสว่าง จนหมดสิ้นอีกเช่นเดียวกัน ที่พวกชาวบ้านชาวเมืองเขาพากันเรียกว่า
จันทรคราส
หรือ
จันทรุปราคา
ก็นั่นแหล่ะที่ได้บังเกิดขึ้นมาจากในความโกรธแค้นที่พระราหูได้ผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรมในครั้งอดีตซาติ ก็จึงได้เรียกรวมกันให้ถูกต้องว่า อดีตซาติเวร อีกเช่นเดียวกัน ถ้ายามใดพระราหูมาพบกับพระอาทิตย์ หรือว่าพระราหูได้มาพบกับพระจันทร์ ในทุกครั้งทุกคราว ก็ะต้องเกิดปัญห และเหตุการณ์ดังกล่วนี้ขึ้นมาทุกครั้ง แต่ว่าจะเกิดมากหรือเกิดน้อยนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง คือพระราหูจะจับพระอาทิตย์หรือพระจันทร์อม ไม่ว่าจะกินกลืนหรือพระจันทร์อม ไม่ว่าจะกินกลืนหรือกินคาย (หรือจะเรียกว่ากินแล้วขี้ กับกินแล้วขย้อนออกก็ไดเหรือว่าสำรอกออก ก็ถูกต้องอีกนั่นแหล่ะ) แต่สำหรับพระอาทิตย์กับพระจันทร์ ถ้าหากว่าพบกันก็จะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นมาเลย เพราะทั้งคู่มีความสามัคคี กันเป็นอย่างดี ในเรื่องราวของอดีตซาติเวรนี้จึงได้นำเอามาเปรียบเทียบในความสัมพันธ์แห่งการสมพงษ์ หามิตรและศัตรูกันได้อีกด้วย คือ ..
คนเกิดวันอาทิตย์ เป็นศัตรู คนเกิดวันพุธกลางคืน(ราหู)
คนเกิดวันจันทร์ เป็ศัตรูกับ คนเกิดวันพุธกลางคืน(ราหู) และ
คนเกิดวันอาทิตย์ เป็นมิตรกับ คนเกิดวันจันทร์
#คุณยายกลิ่นโสม
#อ่านดวงไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#ดวงดาวบอกวิถี #รู้ดาวอ่านดวง #ดวงคือแผนที่ชีวิต
#เรียนดวงไทยฟรีที่เวปฯบ้านคุณยายกลิ่นโสม #บ้านคุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสตร์ไทยด้วยตนเอง ที่เวปฯ #
www.baankhunyai.com
#ดูดวงติดต่อQRcode
Create Date : 27 สิงหาคม 2564
Last Update : 27 สิงหาคม 2564 21:55:47 น.
2 comments
Counter : 556 Pageviews.
Share
Tweet
ชอบค่ะ เหมือนกลับไปอ่านนิทานก่อนนอนอีกครั้ง
โดย:
เสลาสีม่วง
วันที่: 28 สิงหาคม 2564 เวลา:6:42:52 น.
ขอบคุณมากค่ะ : เสลาสีม่วง
โดย: คุณยายกลิ่นโสม (
คุณยายกลิ่นโสม
) วันที่: 30 ธันวาคม 2564 เวลา:7:44:56 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
คุณยายกลิ่นโสม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [
?
]
New Comments
Friends' blogs
คุณยายกลิ่นโสม
Webmaster - BlogGang
[Add คุณยายกลิ่นโสม's blog to your web]
Links
บ้านคุณยาย.com
Bloggang.com
MY VIP Friends
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.