Group Blog
 
<<
เมษายน 2567
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
15 เมษายน 2567
 
All Blogs
 
ผนึกสวรรค์สยบมารสะท้านเทพ(ภาค6-10จบ)



🍂ภาค 6 : นามที่เขย่าขุนเขาที่เก้าวิถีแห่งเซียนแท้

เมิ่งฮ่าวร่ำลาอาจารย์เพื่อไปดินแดนตะวันออกพร้อมกับบิดามารดา โชคชะตาแห่งเซียนในตำนานของดาวหนานเทียนแท้จริงแล้วหาใช่เมิ่งฮ่าวแต่เป็นอาจารย์ของเขาตานกุ่ย เมื่อวันนั้นมาถึงฟางโหม่วบิดาของเมิ่งฮ่าวรับปากจะเป็นผู้พิทักษ์ให้กับชายชรา

ทางด้านปรมาจารย์เอกะเทวะก็ใช้ร่างจริงออกจากดาวหนานเทียนไปยังดาวตงเซิ่งและคิดว่าเมิ่งฮ่าวไม่มีวันหามันพบอีกโดยไม่รู้ว่าดาวดวงนี้กลับเป็นดาวบ้านเกิดของเมิ่งฮ่าว😂

ฟางโหม่วมอบเหรียญเต๋าเซียนโบราณให้เมิ่งฮ่าวเก็บไว้เพื่อเข้าร่วมวิหารพิธีเต๋าเซียนโบราณแห่งขุนเขาที่เก้าได้  หลังจากนั้นเมิ่งฮ่าวได้ออกเดินทางค้นหาเส้นทางการบรรลุเซียนของตัวเอง

วิหารพิธีเต๋าเซียนโบราณได้เปิดออกแล้วที่ดาวหนานเทียน ดังนั้นตระกูลและสำนักต่างๆจากดาวอีกสามดวง ดาวตงเซิ่ง ดาวซีเฮ่อ ดาวเป่ยหลูรวมถึงตระกูลจี้แห่งจิ่วซานไห่(ขุนเขาทะเลที่เก้า)ได้ส่งศิษย์ผู้ถูกเลือกและเหล่าศิษย์มายังดาวหนานเทียนเพื่อค้นหาโชควาสนาของตัวเองโดยเฉพาะการได้ครอบครองเหรียญเต๋าเซียนโบราณ

เมิ่งฮ่าวเข้าไปในวิหารได้พบกับภาพสะท้อนชายชราที่ออกมาจากรูปปั้นเทพ เชาต้องใช้โลหิตตัวเองแทนน้ำมันตะเกียงให้ลุกไหม้สี่สิบเก้าวันโดยไม่ถูกใครเข้ามาขัดจังหวะ เปลวไฟจะหลอมรวมเข้าไปในกายของเขากลายเป็นชีพจรเต๋าเซียนโบราณ เมื่อวันหนึ่งรู้แจ้งเต๋าแห่งเซียนจะสามารถเปิดชีพจรเซียนได้หนึ่งร้อยจุด 

เมิ่งฮ่าวอยู่รอบรรดาผู้ถูกเลือกและคนอื่นๆที่วิหารเซียน เขาไม่อาจปล่อยให้พวกมันเข้าไปในวิหารได้ จึงถูกรุมกระหน่ำโจมตี เมิ่งฮ่าวย่อมไม่อาจต้านทาน สุดท้ายเขาคิดนำตะเกียงออกไปทำให้ดาวหนานเทียนทั้งดาวสั่นสะเทือน 

สุ่ยตงหลิวไปพบกับบิดามารดาของเมิ่งฮ่าวบอกว่าอีกฝ่ายกำลังจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเอง(ที่แท้ชายชราเป็นคนที่มาบอกวิธีรอดจากทัณฑ์เจ็ดปีนี่เอง เชี่ยวชาญด้านการพยากรณ์และวาดภาพ)  เมิ่งฮ่าวเชื่อมต่อโชคชะตากับดาวหนานเทียน อีกทั้งศัตรูเก่าแก่จากภายนอกกำลังเดินทางมาที่นี่ หายนะกำลังจะเกิดขึ้น

เมิ่งฮ่าวไม่อาจปล่อยมือจากตะเกียงเขาถูกตะเกียงดูดโลหิตจากร่างและเข้าไปเห็นเหตุการณ์อีกโลกหนึ่ง หลังจากหลุดออกมาสู่โลกปัจจุบันเปลวไฟจากตะเกียงได้เข้าไปอยู่ในร่างของเมิ่งฮ่าว จากนั้นเขาหนีออกจากวิหารอย่างไม่ลังเลขณะที่วิหารกำลังหายไป แต่ก็ถูกไล่ล่าสังหารจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อครบสี่สิบเก้าวันเมิ่งฮ่าวได้รับชีพจรเต๋าเซียนโบราณ ต่อมาฐานะที่แท้จริงของเขาเปิดเผย เรื่องที่ผ่านมามีอันต้องปิดฉากไป

ตานกุ่ยอาจารย์ของเมิ่งฮ่าวสำเร็จเป็นเซียนแท้ ท่านได้ถูกนักพรตคุนหลุนแห่งเต๋าคุนหลุนหนึ่งในสามนิกายหกสำนักรับเข้าสำนักเพราะนักพรตเป็นอาจารย์ที่สอนตานกุ่ยผ่านความฝัน ท่านเลือกศิษย์ของตานกุ่ยที่มีพรสวรรค์พาไปด้วยหนึ่งในนั้นเป็นฉู่อวี้เยียน

งานคัดเลือกศิษย์ที่จัดโดยสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้จัดขึ้นที่ตี้จิ่วซานไห่(ขุนเขาทะเลที่เก้า)  เมิ่งฮ่าวคิดเข้าร่วมเพราะเขาสนใจเศษซากเซียนบนเส้นทางโบราณที่เต็มไปด้วยโชควาสนาซึ่งเป็นสนามประลองในครั้งนี้ ในการแข่งขันเมิ่งฮ่าวรู้แจ้งในเศษซากเซียนทั้งเก้าสิบเก้าแห่ง  ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์สร้างเวทผูกกรรมและสุดยอดสะพานขึ้น ต่อมาเข้าสู่ศาลาเซียนเลือกของวิเศษตามที่หลิงอวิ๋นจื่อแห่งอาณาจักรท้องทะเลที่เก้าแอบบอกไว้

ก่อนเข้าสู่สองด่านสุดท้ายแล้วจึงไปต่อในสังเวียนการประลองซึ่งหนนี้เมิ่งฮ่าวต้องเผชิญหน้ากับผู้ถูกเลือกจากนอกดวงดาวที่เคยประมือกันที่วิหารเซียน ผู้ที่ชนะจะได้รับสามหยดโลหิตที่ถูกส่งต่อมาของสามผู้ยิ่งใหญ่ สถานที่การประลองเป็นต้นไม้เต๋าที่ขึ้นอยู่บนซากเทพแห่งนิพพาน

เมิ่งฮ่าวชนะการแข่งขันในที่สุดทว่าอยู่ๆเขาก็ถูกผู้ผนึกอสูรรุ่นที่หกที่ดูเหมือนสติฟั่นเฟือนจับตัวไป มันมอบกระบี่ให้เมิ่งฮ่าวแล้วจากไป ทุกคนต่างคิดว่าเมิ่งฮ่าวคงไม่รอดแล้วดังจึงพากันออกมาจากเศษซากเซียน หนึ่งเดือนต่อมาเมิ่งฮ่าวได้พบกับสตรีชุดขาวที่เคยอยู่ด้านนอกต้นไม้เต๋า สิ่งมีชีวิตต่างทำการสักการะนาง นางให้เมิ่งฮ่าวอยู่ในอันดับที่สิบสาม ฝังผนึกบางอย่างลงไปในร่างเมิ่งฮ่าวและมอบแผ่นหยกเคลื่อนย้ายให้เขาออกไปจากสถานที่แห่งนี้(ช่วงนี้มีแต่ปริศนาชวนงงทั้งนั้นเลย)

ก่อนออกจากดาวหนานเทียนเมิ่งฮ่าวกลับไปพบหน้าบิดามารดาและพี่สาว จากนั้นไปยังทะเลสาบเต๋าโบราณเขาต้องการนำแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์บางส่วนติดตัวไปด้วย
ระหว่างเดินทางไปดาวตงเซิ่งพร้อมกับท่านอาสือจิ่วด้วยการเคลื่อนย้ายระยะไกล ระหว่างทางพวกเขาสองคนถูกนักฆ่าลอบโจมตี ท่านอาส่งเมิ่งฮ่าวออกไปพร้อมยานบิน แต่เขาก็ถูกล้อมสังหารหลังจากรอดมาได้ หนึ่งปีต่อมาเมิ่งฮ่าวจึงเดินทางมาถึงดาวตงเซิ่ง ใจจริงเขาไม่ได้อยากกลับมาที่นี่หลังจากถูกคนในตระกูลลอบสังหารแต่เขาต้องการผลเนี่ยผานสองผลที่เป็นของเขากลับไป ซึ่งผู้เฒ่าสูงสุดได้มอบคืนให้เขาทว่าเมื่อเมิ่งฮ่าวตรวจสอบอายุของผลเนี่ยผานจึงรู้ว่ามันไม่ใช่ของเขา(ผลเนี่ยผานของเขาถูกฟางเว่ยผู้ถูกคัดเลือกอันดับหนึ่งครอบครองไป)

ในวันที่ตะวันรุ่งบูรพาเกิดขึ้น เมิ่งฮ่าวได้ปลดปล่อยแสงเซียน ความร้อนจากตะวันรุ่งบูรพาหล่อหลอมปราณเซียนและแสงเซียนในกายของเขาจนกลายเป็นกายเนื้อเซียนแท้ซึ่งมีแต่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะมีกายเนื้อเช่นนี้ ต่อมาเผชิญหน้ากับทัณฑ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์

ทางด้างฟางเว่ยเขาไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้จึงคิดฝึกหนึ่งในสี่เวทยิ่งใหญ่ของตระกูลฟางหนึ่งรำพึงเต๋าอเวจี วาดหวังการเป็นเซียนแท้ภายในหนึ่งร้อยวันเพื่อเปิดจุดชีพจรเก้าสิบแปดจุด

หลังปรากฏการณ์ตะวันรุ่งบูรพาสิ้นสุดถึงเวลาที่ผู้ถูกเลือกในตระกูลและสำนักต่างๆจะทะลวงผ่านเข้าไปสู่อาณาจักรเซียนแท้

ทางฝั่งฟางเว่ยที่มีผู้เฒ่าสูงสุดของตระกูลหนุนหลัง พวกมันคิดสังหารเมิ่งฮ่าวจึงตั้งใจเปิดดินแดนบรรพบุรุษที่เป็นเศษซากเซียนให้เขาเข้าไปค้นหาโชควาสนา โดยพวกมันคิดว่าหากเมิ่งฮ่าวเข้าไปต้องตายอยู่ภายในแน่นอน

เมื่อเขาเข้าไปยังดินแดนบรรพบุรุษเมิ่งฮ่าวได้พบกับนักรบศิลาที่เคออวิ๋นไห่(ท่านพ่อในสำนักเซียนอสูรโบราณ)สร้างให้เขา ขณะเดียวกันคนของฟางซิ่วซาน(บิดาของฟางเว่ย)รวมเก้าคนที่ถูกจ้างวานมาได้ลักลอบเข้ามายังดินแดนแห่งนี้เพื่อสังหารเขา เหตุการณ์ทั้งหมดไม่อาจหลุดรอดจากเจตจำนงของปรมาจารย์รุ่นที่เจ็ดของตระกูลฟางที่ตามเข้ามาได้

แน่นอนว่าพวกนักฆ่าย่อมไม่อาจสังหารเมิ่งฮ่าวที่มีนักรบศิลาเป็นผู้พิทักษ์ได้นอกจากทิ้งชีวิตเอาไว้ เมิ่งฮ่าวเดินทางมาถึงอาณาเขตที่สี่นามเก้าภูเขายมโลกตามเสียงเรียกจนกระทั่งถึงยอดเขาที่เก้าของภูเขายมโลกเขาก็ได้พบกับเจตจำนงของผู้ผนึกอสูรรุ่นที่ห้าเทียนผิงจื่อ


เขาได้รับเวทด้านในและด้านนอกของผู้ผนึกอสูรรุ่นที่ห้าก่อนไปต่อยังเขตแดนสุดท้ายอุโมงค์หมอกสวรรค์ซึ่งด้านในมีสุสานสานของปรมาจารย์รุ่นแรกตั้งอยู่แต่ที่ยังไม่เคยมีใครเข้าไปถึงเพราะไม่มีเส้นทางไปต่อ อีกอย่างผู้จะเข้าไปต้องอยู่ในอาณาจักรโบราณที่มีตะเกียงวิญญาณ 

ขณะที่เมิ่งฮ่าวยังอยู่ในอาณาจักรวิญญาณ แต่เขามีตะเกียงสัมฤทธิ์ที่มีเปลวไฟจากแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ เขาลองใช้มันแทนตะเกียงวิญญาณและนั่นทำให้เขาสามารถเข้าไปในอุโมงค์หมอกสวรรค์ได้ ภายในมีวิหารสีดำตั้งอยู่ เขาเข้าไปยังวิหารโลกันต์ได้พบร่างของปรมาจารย์รุ่นแรก ได้รับปราณเซียนจากมังกร ทั้งยังดูดซับผลเนี่ยผานของปรมาจารย์รุ่นแรกไปหนึ่งผล ได้รับสืบทอดเวทอันดับหนึ่งของท่านปรมาจารย์รุ่นแรกนามหนึ่งรำพึงกลายเป็นดวงดาว

ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้าไปอยู่ในดินแดนบรรพบุรุษ ฝานตงเอ๋อร์กับฟางเว่ยก็สำเร็จเป็นเซียนแท้(สองคนนี้เป็นศัตรูกับเมิ่งฮ่าว) ตามมาด้วยหวังถิงเฟยนอกจากที่เขาจะสำเร็จเป็นเซียนแท้แล้วยังได้ปลุกสายโลหิตเทพโบราณขึ้นมาในกายด้วย(อย่างบอกนะว่าตระกูลนี้มีความเกี่ยวข้องกับหวังหลินจากฝืนลิขิตฟ้าข้าขอเป็นเซียน)และอีกหลายๆคนตามมายุคนี้จึงกลายเป็นยุคสมัยแห่งเซียนแท้

ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็ออกมาจากดินแดนบรรพบุรุษ เขาต่อสู้กับทัณฑ์เซียน เปิดจุดชีพจรได้หนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดบรรลุวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรเซียน สร้างวิญญาณเซียนแท้สามสิบสามวิญญาณ สำเร็จเป็นเซียนแท้ที่อยู่เหนือเซียนแท้ทั้งปวง(ในอดีตของเก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหม่มีเพียงตี้จ้างต้าจุนที่เปิดได้หนึ่งร้อยยี่สิบจุด ท่านอยู่ขุนเขาทะเลที่สี่และรับสวี่ชิงเป็นศิษย์ จากตำนานกล่าวว่าเหนือเก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่มีสวรรค์สามสิบสามชั้น หากใครฝ่าออกไปและรับทัณฑ์แห่งขุนเขาทะเลได้จะสามารถออกไปจากเก้าขุนเขาเก้าทะเล)

การต่อสู้ระหว่างเมิ่งฮ่าวกับฟางเว่ย ฟางเว่ยพ่ายแพ้แม้จะใช้ผลเนี่ยผานเพื่อเพิ่มจุดชีพจรเซียนก็ตาม ขณะเดียวกันเกิดการต่อสู้สังหารกันขึ้นภายในตระกูลฟางอย่างคาดไม่ถึงผู้อยู่เบื้องหลังถึงกับเป็นปรมาจารย์รุ่นที่หก,สี่,และสองที่ร่วมมือกับตระกูลจี้ 

สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่โจมตีเกราะป้องกันของดาวตงเซิ่งเพื่อเข้ามาช่วยเหลือตระกูลฟาง แต่พวกมันก็คาดคิดคิดไม่ถึงว่าในสำนักของพวกมันได้ปรากฏศิษย์ทรยศขึ้นพวกมันถ่วงเวลาไม่ให้ใครเข้าไปช่วยเหลือตระกูลฟางได้

ร่างของฟางเว่ยถูกปรมาจารย์รุ่นที่หกยึดครองตามแผนที่มันวางไว้ ก่อนลงมือสังหารเมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าวจึงต้องใช้ผลเนี่ยผานของปรมาจารย์รุ่นแรกเพื่อเพิ่มจุดชีพจรเซียนจนกลายเป็นระดับจักรพรรดิเซียนชั่วคราว  เวลาเดียวกันที่วิญญาณของฟางเว่ยตื่นขึ้นมาต่อสู้กับวิญญาณของปรมาจารย์รุ่นที่หกในร่าง มันบีบผลเนี่ยผานคืนให้เมิ่งฮ่าว แล้วให้เขาสังหารมันเพื่อตกตายไปพร้อมกับปรมาจารย์รุ่นที่หก ก่อนตายฟางเว่ยบอกให้เมิ่งฮ่าวปกป้องตระกูลฟาง

แต่เมิ่งฮ่าวกับทุกคนต่างไม่คาดคิดว่าบุตรชายของปรมาจารย์รุ่นแรกกลับยังมีชีวิตอยู่ทั้งยังร่วมมือกับตระกูลจี้เพื่อล้มล้างตระกูลของตัวเอง เขาเป็นคนยุคก่อน ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ระดับไหน และบนดาวตงเซิ่งในเวลานี้ไม่มีใครสามารถต่อสู้กับฟางเต้าจื่อได้ ดูเหมือนว่าคนฝ่ายดีตระกูลฟางมีแต่รามือรอความตายเท่านั้น

ปรมาจารย์รุ่นแรกที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว กลับไม่ได้ตายไปจริงๆ ท่านถึงกลับสามารถย้อนเวลาให้คนที่ตายฟื้นคืนชีพกลับมาและสังหารคนทรยศทั้งหมดเพียงพริบตา---- ความจริงปรมาจารย์รุ่นแรกได้ตายไปนานแล้วนี่เป็นเพียงร่างจำแลงที่เกิดจากวิญญาณของท่าน และวิญญาณของท่านได้กลายเป็นดาวตงเซิ่งที่ไม่ใช่ดาวตงเซิ่งในอดีต(คิดว่าตอนที่ท่านตายได้ใช้วิญญาณครอบครองดาวดวงนี้)---ช่วงใกล้จบภาคหักมุมแล้วหักมุมอีก

🍂ภาค7 : อาณาจักรเซียนโบราณ

เรื่องราวจบลงที่ตระกูลจี้ยอมรามือและไม่อาจก้าวย่างมายังดาวดวงนี้ได้อีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับแต่นี้ไม่มีค่ายสำนักตระกูลใดคิดกล้าเข้ามาแตะต้องตระกูลฟาง ก่อนร่างจำแลงปรมาจารย์รุ่นแรกจะกลับคืนสู่ดินแดนบรรพบุรุษได้บอกให้เมิ่งฮ่าวเก็บผลเนี่ยผานไว้ให้ดีเพราะอนาคตมันสามารถช่วยให้เขาเปิดประตูไปสู่อาณาจักรโบราณได้

เมิ่งฮ่าวร่ำลานักรบศิลาที่ต้องกลับไปยังดินแดนบรรพบุรุษ เขาตั้งใจว่าสักวันหนึ่งเขาจะหาเศษซากเซียนมาบรรจุมันให้ติดตามเขาไปทุกที่ ทางด้านฟางเว่ยถูกเจ้าสำนักเซียนโอสถฟางเหยียนซวีนำตัวไปอนาคตของเขาจะกลายเป็นเกราะป้องกันของตระกูลฟาง

สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่เดินทางมาพบกับเมิ่งฮ่าว พร้อมกับเรื่องราวที่ถูกซ่อนเร้นไว้ในอดีต เดิมทีก่อนที่จะมีเก้าขุนเขาเก้าทะเลอันยิ่งใหญ่ ที่นี่แห่งถูกปกครองโดยสามผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวชุดขาวที่ให้ลำดับขั้นที่สิบสามกับเขาในตอนที่เข้าไปในสังเวียนการประลองบนเศษซากเซียน 

ลำดับขั้นนี้จะถูกรับรองโดยสามผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น ผู้ฝึกตนที่ได้ลำดับขั้นจะกลายเป็นผู้สืบทอดของกลุ่มสามเต๋าอันยิ่งใหญ่ของในแต่ละหนึ่งขุนเขาหนึ่งทะเล สำหรับขุนเขาทะเลที่เก้าเมิ่งฮ่าวเป็นคนที่สองขณะที่คนแรกคือปรมาจารย์รุ่นแรกของตระกูลฟางแต่ท่านได้สละสิทธิ์ไป อนาคตเมิ่งฮ่าวจะต้องเข้าร่วมการต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกตนลำดับขั้นของเก้าขุนเขาเก้าทะเลอันยิ่งใหญ่

ทางตระกูลหลี่หวังเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลฟางโดยต้องการให้เมิ่งฮ่าวแต่งงานกันหลี่หลิงเอ๋อร์ เมิ่งฮ่าวจึงหนีออกมาจากดาวตงเซิ่งโดยผ่านประตูเคลื่อนย้ายทางไกลที่ปรมาจารย์เอกะเทวะเปิดขึ้นเพื่อหนีเมิ่งฮ่าว แต่มันก็หนีไม่พ้นจำต้องบินไปส่งเขาที่ขุนเขาทะเลที่เก้าอย่างช่วยไม่ได้

ทางด้านหลี่หลิงเอ๋อร์ก็หนีออกมาจากดาวเป่ยหลูเพราะไม่อยากถูกจับแต่งงานกับเมิ่งฮ่าว โดยที่หลี่หลิงเอ๋อร์กับเมิ่งฮ่าวไม่รู้เลยว่ามีหนึ่งอาจารย์หนึ่งศิษย์จากอาณาจักรหลิงซิง(วิญญาณดาว)ได้เขามายังขุนเขาทะเลที่เก้า เป้าหมายของพวกมันเป็นการสังหารเซียนเพื่อการทดสอบ หลี่หลิงเอ๋อร์ตกเป็นเป้าหมายที่พวกมันไล่ล่า นางหลบหนีเข้าไปยังเศษซากเซียนที่อยู่ไม่ไกลจากปรมจารย์เอกะเทวะ  เต่าชรา,นกแก้ว,ผีโต้งต่างบอกเมิ่งฮ่าวว่ามีคนไล่ล่าหลี่หลิงเอ๋อร์และนางก็หนีเข้าไปในเศษซากเซียน(สถานที่เคยจัดสังเวียนการประลองของสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ซึ่งเมิ่งฮ่าวเคยเข้าไปแล้วหนหนึ่ง)  

เมิ่งฮ่าวตามไปช่วยนางได้ทันเวลา เขาต่อสู้กับอี้ฝ่าจือจนเผยร่างจริงที่ไม่ใช่ทั้งอสูรและไม่ใช่ผู้ฝึกตนขณะเดียวกันหยกผนึกอสูรก็มีคำสั่งต่อเมิ่งฮ่าวให้สังหารผู้ทรยศแห่งอาณาจักรชั้นต่ำสายโลหิตแห่งตระกูลเจิ้งทันที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เต่าเสวียนอู่บนขุนเขาที่เก้ากรีดร้องออกมามันคือสัญญาณบ่งบอกถึงการมีผู้บุกรุกนอกคอกเข้ามายังขุนเขาทะเลที่เก้า ตามข้อตกลงโบราณแห่งพันธมิตรอาณาจักรขุนเขาทะเลต้องสังหารผู้บุกรุกโดยไม่มีข้อยกเว้น

อาจารย์ของอี้ฝ่าจือรีบหนีทันที แต่มันถูกหญิงสาวชุดขาวซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ในเศษซากเซียนสังหารเพียงพริบตา ทางด้านอี้ฝ่าจือถูกเมิ่งฮ่าวไล่ล่าและใช้เวทควาญวิญญาณค้นหาความลับเกี่ยวกับเรื่องราวของมันซึ่งทำให้เมิ่งคาดไม่ถึงว่า นอกอาณาจักรขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่ มีสามพันอาณาจักรที่เทิดทูนสักการะผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรเซียนต่อมามีสองกองกำลังเข้ามารุกรานอาณาจักรเซียนหนึ่งนั้นเป็นผีเสื้อเก้าตัวลากโลกศพที่แกะสลักสิ่งมีชีวิตทั้งมวล อีกหนึ่งเป็นเก้าดวงตะวันลากรูปปั้นบุรุษที่มีผมขาวโพลนทั้งศีรษะ เมื่อพวกมันเข้ามาอาณาจักรสามพันก่อกบฏและทรยศอาณาจักรเซียนทำให้อาณาจักรเซียนล่มสลายเก้าราชันตกตายตายเหลือเพียงสามผู้ยิ่งใหญ่รอดชีวิตและได้สร้างอาณาจักรขุนเขาทะเล(เก้าขุนเขาเก้าทะเลอันยิ่งใหญ่)ขึ้นมา 

เมื่อสงครามใหญ่สิ้นสุดสามพันอาณาจักรถูกทำลายในสงครามเหลือเพียงสามสิบสามอาณาจักรที่ปิดผนึกโลกแห่งเซียนเอาไว้ อีกทั้งไล่ล่าสังหารเซียนเพื่อความสนุก

หลังจากอี้ฝ่าจือตายไปเมิ่งฮ่าวยังคงอยู่ในเศษซากเซียน เขาได้พบกับซูเหยียนจากขุนเขาที่แปด นางอยู่ในอาณาจักรวิญญาณ และใช้วิชาเจ็ดก้าวเทพหมานต่อสู้กับเขา(ในที่สุดคนตระกูลซูก็ออกมาซะที) เมิ่งฮ่าวต้องการจับนางเพื่อเรียนรู้เวทวิชาของนาง

ทางด้านหลี่หลิงเอ๋อร์ ผีโต้ง นกแก้วหลังจากถูกปรมาจารย์เอกะเทวะสะบัดให้ร่วงตกลงมายังเศษซากเซียนทั้งสามอยู่ร่วมกันและพยายามหาทางออกไปให้ได้ จนได้พบกับเมิ่งฮ่าวและซูเหยียน พวกเขาออกเดินทางจนเกือบจะพ้นเศษซากเซียน ผู้ยิ่งใหญ่หญิงชุดขาวกลับปรากฏกายขึ้น นางรับหลี่หลิงเอ๋อร์ไปเป็นศิษย์

เมิ่งฮ่าวเดินทางมายังอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า ได้รับรู้ความเป็นมาของสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่(สำนักพิธีเต๋าโบราณ,อาณาจักรท้องทะเลที่เก้า,สำนักกระบี่ไท่สิง)มันถูกตั้งขึ้นโดยสามผู้ยิ่งใหญ่ผู้ยิ่งใหญ่เซียนโบราณ,ผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึก,ผู้ยิ่งใหญ่ทะเลความฝัน(สตรีชุดขาวที่ให้ลำดับขั้นแก่เมิ่งฮ่าว) สามผู้ยิ่งใหญ่เหลือนางเพียงคนเดียวที่มีชีวิตอยู่ และอนุมานว่าผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึกเป็นผู้สร้างอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด เวทของท่านคือคัมภีร์ขุนเขาทะเล ผู้ใดได้ครอบรองฉบับสมบูรณ์จะกลายเป็นราชันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ก่อนนำพาผู้คนบุกไปต่อสู้กับสามสิบสามสวรรค์(สามสิบสามอาณาจักรที่เหลืออยู่นอกอาณาจักรขุนเขาทะเล) ฟื้นฟูอาณาจักรเซียนให้กลับคืนมา ส่วนการได้อันดับขั้นของเขาไม่ต่างจากสงครามระหว่างขุนเขาที่เขาเป็นผู้นำซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้มีอันดับขั้นคนอื่นๆในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด เพราะผู้ได้รับอันดับขั้นคืออนาคตของผู้ยิ่งใหญ่ เพียงแต่จะมีใครที่เดินไปถึงจุดนั้นได้ และพวกผู้อาวุโสแห่งสามเต๋าอันยิ่งใหญ่มีหน้าที่สนับสนุนให้ผู้มีอันดับขั้นก้าวไปถึงจุดนั้นด้วยทรัพยากรและเวทวิชาทั้งหมดที่มีอยู่

เมื่อเมิ่งฮ่าวมาถึงพวกผู้อาวุโสคิดจะเปิดอาณาจักรสายลมให้เขาเข้าไปค้นหาวาสนาของตัวเอง แต่ก่อนที่อาณาจักรสายลมจะเปิด เมิ่งฮ่าวได้สกัดกลั่นโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่เข้าร่าง รวมทั้งผลเนี่ยผานหนึ่งลูกถึงได้รู้ว่านี่เป็นโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึกและท่านได้ก่อตั้งพันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูรขึ้นมา ขณะเดียวกันโลกแห่งขุนเขาทะเลทั้งเก้าก็สั่นสะเทือนเมื่อร่างสวรรค์แห่งดวงจันทร์ได้ปรากฏกระบี่เก้าผนึกและเกราะเก้าผนึกของผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึกขึ้นมา เต่าเสวียนอู่ของแต่ละขุนเขากู่ร้องขึ้นมาพร้อมกันและหันหน้าก้มศีรษะไปคาราวะยังขุนเขาทะเลที่เก้า ตามตำนานได้กล่าวว่าจะปรากฏราชันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลขึ้นมาเพื่อนำอาณาจักรขุนเขาทะเลกลับไปรุ่งเรืองเหมือนในอดีต

ซึ่งเมิ่งฮ่าวรู้ความหมายของคำว่าเก้าเวทในทันทีนั่นคือเมื่อเขาครอบครองเวทแห่งผู้ผนึกอสูรครบทุกรุ่นรวมถึงที่เขาต้องสร้างขึ้นมาในรุ่นที่เก้า เขาจะกลายเป็นราชันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล(ตอนนี้เมิ่งฮ่าวครอบครองได้สี่เวทของผู้ผนึกอสูรรุ่นที่แปด,เจ็ด,หกและห้า)

ผลจากการดูดซับโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่และผลเนี่ยผานผลแรกทำให้เมิ่งฮ่าวได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นจักรพรรดิเซียน ต่อมาเขาได้บรรลุกายเนื้ออาณาจักรโบราณในตำนานที่เรียกว่าขบถอาณาจักรโบราณ

เมิ่งฮ่าวได้ช่วยเหลือฉู่อวี้เยียนที่ถูกพวกอสูรทะเลที่เก้าจับตัวไป และพานางเข้าไปในอาณาจักรสายลมด้วย ในอาณาจักรสายลมเป็นการต่อสู้ของพวกลำดับขั้นพวกมันต่างมาจากทะเลขุนเขายอดอื่นๆ ภารกิจสำคัญในอาณาจักรสายลมคือการเข้าไปในวิหารโบราณนำแก่นแท้ของโลกในอาณาจักรแห่งนี้กลับไป

ขณะที่การต่อสู้ของพวกลำดับขั้นยังดำเนินต่อไปอย่างโหดเหี้ยม พวกเขาไม่รู้ว่าจักรพรรดิอาณาจักรสายลมได้ตัดเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอาณาจักรสายลมกับขุนเขาทะเลทั้งเก้า ส่วนด้านนอกของอาณาจักรอดีตราชันจักรพรรดิอาณาจักรสายลมได้ต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่ทะเลฝัน

เมิ่งฮ่าว อวี่เหวินเจียนและเต้าปินร่วมมือกันต่อสู้กับเต้าเทียนซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในผู้ฝึกตนลำดับขั้น เต้าปินเสียชีวิต  ขณะที่เมิ่งฮ่าวดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สองทำให้เขาก้าวเข้าสู่ขั้นเซียนทุกชั้นฟ้าชั่วขณะเพื่อต่อสู้กับอีกฝ่าย สุดท้ายต่างได้รับบาดเจ็บพวกมันจึงแยกย้ายจากไป

เมิ่งฮ่าวเข้าไปยังชนเผ่าที่สาม เขาค้นพบสุสานโลหิตของวิญญาณผู้ทรยศ ตั้งใจบุกเข้าไปเพื่อให้อ๋าวเฉี่ยนในหน้ากากโลหิตที่เหมือนจะตื่นขึ้นด้วยความกระหายจะกลืนกินค้างคาวโลหิตที่ถูกผนึกไว้ใต้สุสาน 

อ๋าวเฉี่ยนปรารถนาแทนที่วิญญาณผู้ทรยศนั้น ระหว่างรออ๋าวเฉี่ยนกลืนกินเขาถูกกลุ่มผู้ฝึกตนรุ่นก่อนจากขุนเขาทะเลทั้งเก้าที่ตกเป็นผู้รับใช้ของจักรพรรดิอาณาจักรสายลมเข้าสังหาร อ๋าวเฉี่ยนปีกโลหิตพาเมิ่งฮ่าวหลบหนี

เสวี่ยเอ๋อร์ผู้เป็นตัวแทนจากเซียนโบราณได้ปรากฏตัวต่อเมิ่งฮ่าวนางเลือกเขาและมอบหัว
ใจลำดับขั้นที่ช่วยเพิ่มสัมผัสศักดิสิทธิ์ให้กับเขาก่อนจากไป เมิ่งฮ่าวดูดซับผลเนี่ยผานอีกครั้งเพื่อต่อสู้กับคนของจักรพรรดิอาณาจักรสายลมที่เตรียมการมานานหวังให้อาณาจักรสายลมกลายเป็นสวรรค์ที่สามสิบสี่เพื่อให้ผู้ฝึกตนในอาณาจักรสายลมสามารถรู้แจ้งแห่งเต๋าเดิมแท้ได้

ต่อมาเมิ่งฮ่าวรู้แจ้งสามพันแก่นแท้ทำให้ผลเนี่ยผานผลที่สองหลอมรวมอย่างสมบูรณ์ทำให้เขาบรรลุขั้นเซียนทุกชั้นฟ้า เผชิญหน้ากับเต้าเทียนที่รู้แจ้งเต๋าสามพันเช่นเดียวกัน เมิ่งฮ่าวได้สร้างกรรมกับผู้ยิ่งใหญ่ที่ออกมาจากภาพวาดผู้ยิ่งใหญ่ของเทียนเต้า(อยากรู้มากว่าคนนี้เป็นใครเดาว่าน่าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับหวังหลินในฝืนลิขิตฟ้า) ศึกลำดับขั้นจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งและจบลงด้วยการตกเป็นเหยื่อของจักรพรรดิแห่งอาณาจักรสายลม สุดท้ายผู้ยิ่งใหญ่ทะเลฝันได้ดึงพวกมันออกจากอาณาจักรสายลม ทว่าเมิ่งฮ่าวกลับไม่ยินยอมจากไปจนกว่าจะได้ตำราผู้ทรยศกบฏเต๋า หลังจากเขาได้ตำรามาสมใจ สายโลหิตของตระกูลฟางถูกปลุกให้ตื่นทุกคนถึงกับสัมผัสแสงแห่งเซียนทุกชั้นฟ้ากลายเป็นตระกูลทุกชั้นฟ้าราวปาฏิหาริย์ 

หลังจากเมิ่งฮ่าวดูดซับตำราผู้ทรยศกบฏเต๋ากับผลเนี่ยผานลูกที่สามเขาก็กลายเป็นปรมาจารย์ตระกูลฟางทุกชั้นฟ้ามีระดับพลังเหนือกว่าปรมาจารย์ตระกูลฟางรุ่นแรกไปแล้ว

เมื่อเขาออกมาจากอาณาจักรสายลมอาณาจักรดังกล่าวได้หายไปจากขุนเขาทะเลทั้งเก้ากลายเป็นหนึ่งในสามสิบสี่สวรรค์ดั่งที่พวกมันปรารถนา

หลังจากสิ้นสุดเรื่องราวของอาณาจักรสายลม ฉู่อวี้เยียนได้จากไป เมิ่งฮ่าวได้รับเศษซากเซียนบางส่วนจากผู้ยิ่งใหญ่ทะเลฝัน เขากลับมายังขุนเขาทะเลที่เก้า เตรียมตัวไปหาสวี่ชิงที่ขนเขาทะเลที่สี่ ก่อนไปเมิ่งฮ่าวกลับไปดาวหนานเทียนเข้าสู่ถ้ำกำเนิดใหม่ มองเห็นหายนะที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อดาวดวงนี้ เขาจึงไปยังทะเลสาบเต๋าโบราณ เข้าไปยังโลกแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์มองเห็นโลกแห่งนี้ได้อย่างแท้จริง โลกที่เป็นร่างของคนผู้หนึ่ง พร้อมกับเจตจำนงที่ทิ้งไว้ในนามหั่วเหยียนจื่อที่ถูกเต้าฟางผนึกไว้

เจตจำนงของหั่วเหยียนจื่อได้มอบแก่นแท้ของเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดให้เขาโดยมีข้อแลกเปลี่ยนให้เมิ่งฮ่าวต้องสังหารเต้าฟางให้มัน เมิ่งฮ่าวอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวจุดตะเกียงวิญญาณกายเนื้ออาณาจักรโบราณที่เหลือจนครบทั้งหมดเก้าดวงพร้อมดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สามจนสมบูรณ์ เขากลายเป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าขั้นสูงสุด กายเนื้ออาณาจักรโบราณและมีแก่นแท้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เพียงแต่นี่เป็นหนึ่งในหกของเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ก่อนออกจากทะเลสาบเต๋าเขาได้เผชิญหน้ากับคำสาปของเต้าฟาง สักวันหนึ่งเขาจะกลับมาเอาเปลวไฟทั้งห้าที่เหลือให้ได้

จากนั้นเมิ่งฮ่าวกลับไปเป็นผู้พิทักษ์เต๋าให้บิดาที่ต้องการเข้าสู่อาณาจักรเต๋า บิดาของเมิ่งฮ่าวไม่อาจสะกดข่มเมล็ดเต๋าในร่างทำให้ทัณฑ์เต๋ากลายเป็นทัณฑ์เต๋าทุกชั้นฟ้า ขณะที่ก้าวสุดท้ายท่านจะบรรลุเต๋า ราชันทั้งเก้าแห่งขุนเขาท้องทะเลได้ตอบรับคำสั่งจากตระกูลจี้กำจัดบิดาของเมิ่งฮ่าว ทว่าปรมาจารย์รุ่นแรกที่ดาวตงเซิ่งได้ยื่นมือเข้ามาขัดขวางทำให้ฟางซิ่วเฟิงก้าวไปในก้าวสุดท้ายได้สำเร็จ ทว่ายังมีค่ายกลเวทของดาวหนานเทียนที่ท่านต้องเผชิญเพราะมันจะกำจัดผู้ฝึกตนทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าบนดาวดวงนี้ไป

จักรพรรดิถังรีบยื่นมือช่วยเหลือ เขาสละโลหิตตระกูลหลี่ให้อีกฝ่ายหลอมรวมโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ค่ายกลเวทดาวหนานเทียนยอมรับและหยุดการโจมตี เมิ่งฮ่าวอาศัยร่างกายและพลังทั้งหมดปกป้องบิดาจนกระทั่งอีกฝ่ายหลอมรวมโลหิตตระกูลหลี่ได้สำเร็จ เขาจึงสลบไปด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส

ในพิธีแต่งตั้งบิดาของเมิ่งฮ่าวเป็นผู้นำตระกูลฟาง จี้ตงหยางจากตระกูลจี้ได้วางแผนผูกใยกรรมกับเมิ่งฮ่าวโดยคิดใช้ร่างเขาเป็นชีวิตที่เก้าในอนาคตของมัน ซึ่งมันเป็นหนึ่งในผู้ฝึกตนลำดับขั้นที่เก่าแก่โบราณและไม่ได้เข้าไปในอาณาจักรสายลม

หลังจากงานพิธีสิ้นสุดเมิ่งฮ่าวกลับไปดาวตงเซิ่งเพื่อนำนักรบศิลาในดินแดนบรรพบุรุษออกมา ปรมาจารย์รุ่นแรกได้มอบตำแหน่งของมรดกแห่งราชันหลี่ให้เขาไปตามหายังขุนเขาทะเลที่แปด เมิ่งฮ่าวไปยังสะพานเซียนเดินหนเพื่อปลดปล่อยหานซานและภรรยาโดยใช้สุดยอดสะพาน(สะพานจากโลกอื่น)ดูดกลืนสะพานเซียนเดินหนให้กลายเป็นสุดยอดสะพานอันสมบูรณ์ การทำเช่นนี้ส่งผลให้ขุนเขาทะเลทั้งเก้าสั่นสะเทือน เจตจำนงของอาณาจักรขุนเขาทะเลมีคำสั่งให้ทำลายสะพานจากโลกอื่นก่อนมันจะดูดกลืนสะพานเซียนเดินหนไปจนหมด แต่ก็ไม่อาจทำลายได้ สุดท้ายเมิ่งฮ่าวได้ครบครองสุดยอดสะพานโดยสมบูรณ์ ปลดปล่อยหานซานกับภรรยาและบอกให้ทั้งสองคนไปใช้ชีวิตที่ดาวหนานเทียน

ต่อมาเมิ่งฮ่าวไปยังเศษซากเซียนเขาใช้สุดยอดสะพานของเขาหลอมรวมเข้ากับเศษซากสุดยอดสะพานที่เป็นของจริงกลายเป็นเวทสุดยอดสะพานอย่างแท้จริงของเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวได้พบผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลหวังที่เคยออกมาจากภาพวาดอีกครั้งเขาได้เรียนรู้วิชาย่อพสุธาหนึ่งชุ่นจากอีกฝ่าย โดยที่เมิ่งฮ่าวไม่รู้ว่าเวลาเดียวกันฉู่อวี้เยียนกำลังจะจากโลกนี้ไป

เมื่อเขากลับไปยังเต๋าคุนหลุนวิญญาณของนางได้กระจัดกระจายไปแล้ว เขาใช้เต๋าย้อนกาลเวลาตามหาเส้นใยกรรมของนางจนพบว่าวิญญาณของนางถูกสำนักเต๋าวิญญาณมืดแห่งขุนเขาทะเลที่แปดจับตัวไป

🍂ภาค 8 : อาณาจักรขุนเขาทะเลของข้า

เมิ่งฮ่าวเดินทางไปยังขุนเขาที่แปดด้วยสะพานเซียนของสำนักเซียนโบราณ

ขุนเขาทะเลที่แปดมีปรมาจารย์เทียนเสินเต้า(เต๋าเทพสวรรค์)เป็นราชันขุนเขา ก่อตั้งพันธมิตรเทพสวรรค์ปกครองดาวสามดวงที่ล้อมรอบขุนเขา สำนักเต๋าวิญญาณมืดและสำนักต่างๆ ยกเว้นสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ล้วนอยู่ภายใต้อาณัติของพันธมิตรเทพสวรรค์ ขณะที่ดาวอีกดวงตระกูลเมิ่งกับตระกูลหานต่างครอบครองกันคนละครึ่ง

เมิ่งฮ่าวบุกเข้าไปยังสำนักเต๋าวิญญาณมืด กวาดล้างศิษย์ในสำนักและทำลายดาวเทียนหุนที่พวกมันอาศัยจนแหลกสลาย เขาต่อสู้กับปรมาจารย์วิญญาณมืด แย่งชิงกระถางธูปที่มีวิญญาณของฉู่อวี้เยียนอยู่ในนั้นมาได้สำเร็จ 

เขากับปรมาจารย์วิญญาณมืดต่างบาดเจ็บสาหัสแต่อีกฝ่ายเลือกที่จะหลบหนีไป เมิ่งฮ่าวถูกพันธมิตรเทพสวรรค์ไล่ล่า ขณะที่วิญญาณของฉู่อวี๋เยียนนั้นไม่สมบูรณ์เป็นเพียงวิญญาณไร้ร่างที่ไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้ เขาต้องหาวิธีอื่นเพื่อช่วยเหลือนาง

เมิ่งฮ่าวเลือกที่จะอยู่บนดาวลั่วเหอ กลายเป็นศิษย์ของปรมาจารย์อี้หรันจื่อแห่งสำนักเฮ่าหรัน ท่านสอนเวทผนึกสวรรค์ให้เมิ่งฮ่าวและพาเมิ่งฮ่าวหลบหนีจากการไล่ล่าของพันธมิตรเทพสวรรค์  ต่อมาเมิ่งฮ่าวถูกสามราชันเต๋าล้อมสังหาร ระหว่างความเป็นความตายเขาใช้เวทผนึกสวรรค์ ส่งผลให้ปรมาจารย์วิญญาณมืดหนึ่งในสามราชันเต๋าตกตาย ส่วนเขาที่บาดเจ็บสาหัสหนีเข้าไปยังแดนสามสิบสามนรกที่เปิดออกในขุนเขาทะเลที่แปด แดนที่กักขังเหล่าวิญญาณของกลุ่มนอกคอกที่น่ากลัวสามสิบสามคนที่ตายลงในสงครามใหญ่ระหว่างอาณาจักรเซียนและอีกสองกองกำลังจากต่างโลกพวกมันถูกขังโดยผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึก

ราชันเต๋าเสวียนเต้าจื่อกับหงเฉินรีบตามเมิ่งฮ่าวเข้าไปยังสามสิบสามนรก สุดท้ายหงเฉินถูกเขาสังหารไปในที่สุด

เมิ่งฮ่าวกับผู้ฝึกตนคนอื่นๆถูกวิญญาณของเทพผู้สูงส่งจากโลกอื่นดูดกลืนเข้าไป แต่ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะถูกดูดกลืนเข้าไปวิญญาณของตันหลาง(สุนัขป่าตะกละ)ได้เข้ายึดร่างของเขา มันได้ทำให้การฝึกตนของเมิ่งฮ่าวเพิ่มขึ้นทุกด้าน  ทั้งยังปลดผนึกหอกฝังอสูรและกระถางสายฟ้าห้าธาตุ อีกทั้งหลอมรวมกระบี่สังหารเซียน(ช่วงนี้อาศัยความสามารถของผู้อื่นล้วนๆ)

แม้แต่ผลเนี่ยผานลูกที่สี่ก็ถูกดูดซับเกือบสมบูรณ์ทว่าระหว่างการดูดซับตันหลางสังหารผู้ฝึกตนที่เข้ามาในสามสิบนรกเกือบทั้งหมดเพื่อเพิ่มพลังชีวิตที่สูญเสียไปขณะผลเนี่ยผานทำการดูดซับ

ร่างจริงของตันหลางถูกผนึกไว้ในวิหารกลางของสุสานมันคือมหาเทพเต๋าสมุทร ตันหลางเป็นวิญญาณที่แบ่งอออกมาเพื่อหาร่างใหม่  ผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึกสร้างสามสิบสามนรกเพื่อใช้สามสิบสามวิญญาณผู้นอกคอกสกัดกลั่นเป็นเม็ดยาเต๋าสามสิบสามเม็ดเพื่อมอบให้ผู้สืบทอดของท่าน 

ตันหลางได้พบกับราชันเต๋าเสวียนเต้าจื่อที่นี่ อีกฝ่ายต่อสู้แลกชีวิตกับมันจนตายไป ตันหลางตั้งใจมาหลอมรวมวิญญาณอีกส่วนของมันก่อนออกไป ทว่าที่มันคาดไม่ถึงคือที่ผ่านมามันต่างหากที่ตกอยู่ในแผนการของเมิ่งฮ่าว 

ร่างวิญญาณตันหลางตกตายไปเพราะผลเนี่ยผานดูดซับพลังชีวิตของมันไปจนหมดขณะที่เมิ่งฮ่าวแสดงตัวขึ้นมา มีเพียงวิญญาณครึ่งเดียวในร่างจริงของมหาเทพเต๋าสมุทรที่เหลืออยู่และถูกผนึกไว้ที่นี่ก่อนเมิ่งฮ่าวจากไป

เมิ่งฮ่าวออกมาจากสามสิบสามนรกในฐานะเมิ่งเฉินผู้ต่ำต้อย สายโลหิตตระกูลเมิ่งฝ่ายท่านตาที่ตกต่ำลงสุดขีดในขุนเขาทะเลที่แปด เมิ่งฮ่าวตัดสินใจจะฟื้นฟูสายโลหิตของท่านตาโดยคิดนำพวกมันที่มีอยู่ไม่มากนักกลับไปยังตระกูลฟางแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า

เมิ่งฮ่าวกลับไปยังตระกูลเมิ่ง เขาได้พบกับท่านยายที่ใกล้ตายและสมาชิกคนอื่นๆ พวกเขาต่างถูกกลุ่มคนลึกลับจากขุนเขาทะเลที่เจ็ดวางค่ายกลกำจัดเทพตอกตะปูเคลือบยาพิษฝังไปในวิญญาณเพื่อกัดกร่อนพื้นฐานฝึกตนในเหตุการณ์ที่ตระกูลเมิ่งถูกกลุ่มคนลึกลับกวาดล้างสังหารหลังจากที่ท่านตาของเมิ่งฮ่าวหายตัวไป แต่ดูเหมือนว่ามีเพียงสายโลหิตของท่านตาที่ถูกกำจัดมากที่สุด เพราะเหตุนี้เมิ่งฮ่าวจึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนเขาจะสร้างสายโลหิตของท่านตาให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

นอกจากกลุ่มลึกลับแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดแล้วตระกูลสวีที่เป็นเพียงข้ารับใช้ของตระกูลเมิ่งก็คิดจะเข้ามาแทนที่สายโลหิตของท่านตาของเมิ่งฮ่าวเขาจึงกำจัดตระกูลสวีเป็นอันดับแรก 

เมิ่งฮ่าวมอบปราณเซียนมากมายให้กับสายโลหิตของท่านตาเพื่อเพิ่มพื้นฐานฝึกตนให้กับพวกมัน หลังจากผลเนี่ยผานลูกที่สี่ถูกดูดซับจนสมบูรณ์เขาจึงถอนตะปูเก้าดอกจากร่างท่านยายและคนอื่นๆจนสำเร็จ ทำลายค่ายกลกำจัดเทพบนขุนเขาทะเลที่เจ็ดลงได้  

ต่อมาเมิ่งฮ่าวและพวกท่านยายก็จัดการเรื่องสายโลหิตของตระกูลที่เคยทรยศ พวกเขากลับมาเป็นผู้สืบทอดสายโลหิตหลักของตระกูลได้ในที่สุดพร้อมกับการที่เมิ่งฮ่าวกำลังก้าวเข้าไปในอาณาจักรโบราณ ขณะที่เขาต่อสู้กับทัณฑ์อาณาจักรโบราณ กองทัพผู้ฝึกตนจากขุนเขาทะเลที่เจ็ดได้บุกเข้ามายังตระกูลเมิ่ง พวกมันได้รับคำสั่งจากราชันขุนเขาให้สังหารตระกูลเมิ่งทั้งหมด

เมิ่งฮ่าวเข้าไปยังประตูอาณาจักรโบราณ จุดตะเกียงวิญญาณได้สามสิบสามดวง ดวงสุดท้ายเกิดจากโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึกในร่างเขา กลายเป็นตะเกียงวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ เขาได้เข้าสู่อาณาจักรโบราณโดยสมบูรณ์ทั้งยังสัมผัสถึงความเป็นราชันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล เวลาเดียวกันนั้นราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ดซือหม่าเต้าได้ปรากฏตัวบริเวณรอยแยกของเกราะป้องกันระหว่างสองขุนเขาทะเลเพื่อประกาศสงครามกับขุนเขาทะเลที่แปด สร้างความตกตะลึงให้กับเหล่าพันธมิตรเทพสวรรค์และผู้ฝึกตนในขุนเขาทะเลที่แปดเป็นอย่างยิ่ง

ขณะที่ในตระกูลเมิ่ง เมิ่งฮ่าวได้ออกคำสั่งสังหารกองกำลังที่บุกรุกเข้ามากับผู้ทรยศในตระกูลจนสิ้นซาก จากนั้นจึงส่งคนตระกูลเมิ่งและตระกูลหาน(มีหานชิงเหลยสหายของเมิ่งฮ่าวอยู่ในนั้น)ที่เหลือไปยังขุนเขาทะเลที่เก้าโดยการเปิดเส้นทางระหว่างขุนเขาทะเลด้วยตัวเองจึงหมดกังวล  ต่อมาเขาได้ต่อสู้กับชนเผ่านอกคอกที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในกองกำลังของขุนเขาทะเลที่เจ็ดใช้วิชาควาญวิญญาณเชื่อมต่อไปยังผู้ยิ่งใหญ่ของชนเผ่านอกคอกทำให้รู้ว่า

สงครามระหว่างขุนเขาไม่ได้มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น ขุนเขาทะเลที่หกกำลังรุกรานขุนเขาทะเลที่ห้าและที่สี่  ขณะที่ขุนเขาทะเลที่เจ็ดมีเป้าหมายรุกรานขุนเขาทะเลที่แปดและที่เก้า 

เมิ่งฮ่าวดับตะเกียงวิญญาณหนึ่งดวง ก่อนเดินทางไปยังพันธมิตรเทพสวรรค์ซึ่งถูกโจมตีอย่างหนักจนพ่ายแพ้เหลือเพียงซากปรักหักพัง เขาช่วยเหลืออาจารย์อี้หรันจื่อโดยใช้เวทผนึกสวรรค์ข่มขู่ผู้รุกราน จากนั้นจึงไปยังวิหารเต๋าเทพสวรรค์ได้พบกับท่านตาที่เป็นราชันขุนเขาที่แปด มีเพียงร่างของท่านที่หลับใหลขณะที่วิญญาณได้หายไป เมิ่งฮ่าวอาศัยพลังจากการต่อสู้กับราชันขุนเขาที่เจ็ดกระตุ้นให้วิญญาณของท่านตากลับเข้าร่าง อีกหนึ่งเป้าหมายของเมิ่งฮ่าวเป็นการสังหารราชันขุนเขาที่เจ็ดเพื่อยุติสงคราม ศึกสะท้านโลกจึงอุบัติขึ้น(อย่างมันส์)

ผลการต่อสู่ระหว่างเมิ่งฮ่าวกับราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ดจบลงด้วยการบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ดหนีกลับไปยังขุนเขาของตัวเอง  ขณะที่เมิ่งฮ่าวต้องเผชิญหน้ากับจี้ตงหยางร่างจำแลงของจี้เทียนราชันขุนเขาทะเลที่เก้าที่ติดตามเขามาตลอดอย่างลับๆรอช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอเพื่อยึดร่างของเขาให้กลายเป็นชีวิตที่เก้าของมัน แต่สุดท้ายมันก็ล้มเหลว

เมิ่งฮ่าวไปหาปรมาจารย์เอกะเทวะที่หนีมาอยู่ขุนเขาทะเลที่แปด เพื่อเข้าไปรับโชควาสนาจากมรดกของราชันหลี่(ราชันขุนเขาทะเลที่เก้าคนก่อน)ซึ่งประตูมรดกนั้นอยู่ในแคว้นจ้าวบนหลังของปรมาจารย์เอกะเทวะ

เมื่อเมิ่งฮ่าวเข้าไปยังโลกที่ราชันหลี่สร้างขึ้นทำให้เขารู้ความจริงว่าท่านเป็นผู้ที่มาจากต่างโลกและเป็นผู้ผนึกอสูรรุ่นที่สาม มรดกที่ท่านทิ้งไว้ก่อนกลับคืนสู่สวรรค์ถูกกำหนดไว้มอบให้แต่พันธมิตรผู้ผนึกอสูรเท่านั้น เมิ่งฮ่าวจึงได้รับเวทผู้ผนึกรุ่นที่สองและรุ่นที่สามจากที่นี่ ก่อนออกมาเมิ่งฮ่าวได้ดับตะเกียงวิญญาณไปถึงดวงที่ห้า จากนั้นเขาก็ไปปิดบัญชีกับราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ด 

ทว่าก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะสังหารมัน จักรพรรดิเต๋าผู้นอกคอกจากสวรรค์ชั้นแรกได้ส่งเจตจำนงมาข่มขู่เมิ่งฮ่าวหากเขาสังหารซือหม่าเต้า สามสิบสามสวรรค์จะลงมารุกรานอาณาจักรขุนเขาทะเลก่อนกำหนด แต่จิตวิญญาณแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลได้ทำให้ผู้ฝึกตนทั้งหมดเห็นภาพสงครามที่เกิดขึ้นในอดีตและให้พวกมันเลือกว่าจะสู้ตอนนี้หรือไม่  พวกมันเลือกที่จะสู้  เมิ่งฮ่าวจึงสังหารซือหม่าเต้า พร้อมกับสงครามได้เปิดฉากขึ้น ส่วนท่านตาของเมิ่งฮ่าวตื่นขึ้นมาในเวลานี้พอดี

หลังการสู้รบจบลงในขุนเขาทะเลที่แปด ท่านตาของเมิ่งฮ่าวก็เดินทางไปยังขุนเขาทะเลที่เก้า ส่วนเมิ่งฮ่าวเดินทางไปยังดาวกรงพยัคฆ์แห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดเพื่อทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับโฉ่วเหมินไถที่ตกลงมาจากฟ้าใกล้ถ้ำกำเนิดใหม่บนดาวหนานเทียน แต่เมื่อเมิ่งฮาวทำตามสัญญาถึงรู้ว่านี่เป็นการชุบชีวิตเจ้านายของอีกฝ่าย โฉ่วเหมินไถขอร้องเมิ่งฮ่าวอย่าได้ทำลายความหวังของเขาโดยมีข้อแลกเปลี่ยนที่จะช่วยเขาผนึกผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้ผู้นอกคอกแล้วทำให้เป็นหุ่นเชิดของเขา

เมิ่งฮ่าวจากมาแม้จะมีความสงสัยอยู่ในใจต่อเรื่องราวของโฉ่วเหมินไถ ต่อมาเขาไปยังหุบเขาสุสานเทพเพื่อตามหาโลหิตเทพ เมื่อได้ดูดซับโลหิตเทพเจ็ดหยดและดับตะเกียงดวงที่หกเขาก็บรรลุกายกายเนื้อจักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้กลายเป็นจักรพรรดิเต๋าที่แท้จริง

เมิ่งฮ่าวออกเดินทางไปยังขุนเขาที่สี่เพื่อไปหาสวี่ชิง แต่ก่อนไปเขาผ่านขุนเขาทะเลที่หกสังหารราชันขุนเขาชางจู่ผู้ทรยศ เมื่อถึงขุนเขาทะเลที่สี่คู่สามีภรรยาที่พลัดพรากในที่สุดก็ได้พบกัน แม้จะอยู่ร่วมกันเพียงชั่วครู่เพราะหน้าที่ที่ต้องไปกระทำแต่ทั้งหมดล้วนเป็นเวลาของความรัก

หลังจากพบสวี่ชิงเมิ่งฮ่าวตัดสินใจเข้าสู่สวรรค์ชั้นแรกเพื่อทำลายมัน เพราะเหตุนี้ทำให้ปรมาจารย์เอกะเทวะยอมที่กลายเป็นพาหนะและผู้พิทักษ์เต๋าของเมิ่งฮ่าวอย่างแท้จริง ในที่สุดสวรรค์ชั้นแรกก็พังทลายลง แก่นแท้โลกสวรรค์ชั้นแรกแก่นแท้แห่งความว่างเปล่าได้ปรากฏขึ้น

เมิ่งฮ่าวดูดซับมันเข้าไป ทำให้รู้แจ้งเต๋าแห่งเวทผนึกอสูรรุ่นที่แปดผนึกร่าง เป็นเหตุที่ทำให้สามารถผนึกร่างทุกสิ่งลงในความว่างเปล่าที่เขาสร้างเป็นโลกหนึ่งขึ้นมา หากโลกใบนั้นถูกทำลายผู้ที่ถูกผนึกก็จะถูกทำลายไปด้วย ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ชั้นแรกถูกโฉ่วเหมินไถทำให้กลายเป็นหุ่นเชิดของเมิ่งฮ่าวตามที่ได้เคยตกลงกันไว้ สวรรค์ชั้นแรกจึงพ่ายแพ้ยอมจำนนในที่สุด

สวี่ชิงกับหลี่หลิงเอ๋อร์ถูกผู้ยิ่งใหญ่ทะเลฝันนำตัวไปพวกนางกลายเป็นสองสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล  สามเดือนต่อมาสามสิบสองสวรรค์ก็มาถึง แต่เพราะแผนการที่ผู้ยิ่งใหญ่ทะเลฝันวางไว้ทำให้สวรรค์ชั้นเจ็ดเป็นต้นไปถูกปิดกั้นจากอาณาจักรขุนเขาทะเลเป็นเวลาหนึ่งปี สงครามที่เปิดฉากขึ้นจึงเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลกับสวรรค์ชั้นที่สองถึงชั้นที่หก

เมิ่งฮ่าวต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่เสวียนฟางจื้อจุนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสยิ่งกว่าครั้งใดใด ผู้ฝึกตนนับแสนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลได้สละพลังชีวิตเพื่อยืดเวลาให้กับเขา ในช่วงเป็นตายเมิ่งฮ่าวตัดสินใจดับตะเกียงวิญญาณอีกสี่ตัว เขาใช้เวทแห่งความว่างเปล่าผนึกอีกฝ่ายเพราะไม่อาจสังหารไปได้อย่างน้อยก็ช่วยยืดเวลาได้หลายเดือนตราบเท่าที่เสวียนฟางยังถูกผนึกเอาไว้ สงครามมาถึงช่วงที่ต่างฝ่ายต่างชะลอเวลาเพื่อมีโอกาสได้เตรียมการ หลังจบศึกกับเสวียนฟาง เมิ่งฮ่าวมีสภาพแทบไม่ต่างจากคนตาย ส่วนทะเลแรกได้ระเบิดตัวเองเพื่อสังหารพวกเหล่านอกคอกที่บุกเข้ามา

ทางด้านเมิ่งฮ่าวที่ยังไม่ได้สติ เขาเข้าไปในโลกทะเลแห่งจิตใจ ได้พบกับรูปปั้นของเซียนและอสูร ถึงเวลาที่เขาต้องเลือกว่าจะเป็นเซียนหรือเป็นอสูร เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเป็นเวลาที่เสวียนฟางหลุดจากผนึกพอดี มันขอให้สวรรค์ชั้นสามกดทับลงมา ขณะที่สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่เงียบเฉยมาตลอดได้ลงมือแล้ว พวกมันใช้พลังจากซากศพเซียนสิบแปดซากและเก้ากระบี่แห่งสำนักกระบี่ไท่สิงทำลายสวรรค์ชั้นสามและชั้นสี่ภายในพริบตา ส่วนสวรรค์ชั้นห้าถูกภาพสะท้อนของผู้ยิ่งใหญ่ทำลายเพียงชั่วลัดนิ้วมือ

บัดนี้เหลือเพียงสวรรค์ชั้นหกของผู้ยิ่งใหญ่หลีหลง มันกับผู้ยิ่งใหญ่เสวียนฟางร่วมมือกันโจมตีอาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างสุดตัว สวรรค์ชั้นหกกดทับลงมาทำลายขุนเขาแรกและทะเลที่สองจนพังทลายไปโดยที่ตัวมันเองก็พังทลายลงเช่นกัน

สุ่ยตงหลิวต้องการผนึกสวรรค์ชั้นที่สิบเจ็ดถึงยี่สิบสามเอาไว้ เพื่อกันสองผู้ยิ่งใหญ่จากสองกองกำลังอาณาจักรเทพและมารผู้มาจากต่างโลกไม่ให้เข้ามาก่อนกำหนด ท่านจึงเปิดช่องว่างของอาณาจักรขุนเขาทะเลทำให้สวรรค์ชั้นที่เจ็ดถึงชั้นสิบหกกดทับลงมาก่อนเวลา ปล่อยทำแสงทำลายดวงตะวันและดวงจันทร์ของอาณาจักรขุนเขาทะเลจนได้รับความเสียหาย และผนึกแต่ละขุนเขาทะเลให้แยกออกจากกันราวกรงขัง ผู้ฝึกตนของแต่ละขุนเขาไม่อาจไปช่วยเหลือกันได้อีก

เมิ่งฮ่าวถูกกักอยู่บนดวงตะวันขณะที่ผู้ฝึกตนนับแสนถูกลำแสงสังหารไป เขาตัดสินใจระเบิดดวงตะวันเพื่อส่งพลังการทำลายล้างสังหารกองทัพพวกนอกคอกที่รายล้อมอยู่รอบๆ เสวียนฟางตัดเส้นใยหุ่นเชิดผู้ยิ่งใหญ่ทำให้โฉ่วเหมินไถโกรธจัดจนลงมือจัดการอีกฝ่ายผ่านหุ่นเชิดแทนเมิ่งฮ่าว

หลังดวงตะวันระเบิดได้เปิดเผยของวิเศษแห่งผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึกที่ซ่อนเอาไว้เป็นคันธนูสีฟ้าไร้ลูกคันหนึ่ง เป้าหมายของเมิ่งฮ่าวเป็นผู้ยิ่งใหญ่หลีหลง เมิ่งฮ่าวผนวกเวทอสูรโลหิตเข้าไปเพื่อกลืนกินหลีหลง ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกคนหนึ่งจึงแตกดับไปในลักษณะนี้

ทางด้านดวงจันทร์ของอาณาจักรขุนเขาทะเลไม่อาจจะต้านพวกนอกคอก มันจึงระเบิดขึ้น แต่การระเบิดของมันได้ทำลายผนึกที่ผนึกอาณาจักรขุนเขาทะเลลงไป แต่ว่าสิ่งที่ตามมาไม่มีใครคาดคิดเมื่อผู้ยิ่งใหญ่เสวียนฟางเลือกที่ระเบิดตัวเองใช้พลังฉุดดึงสวรรค์ชั้นที่เจ็ดถึงสิบหกให้ลงมาอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะตั้งตัวรับทัน เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ขุนเขาทะเลที่สองสามและสี่พังทลายไปโดยสิ้นเชิง 

เมิ่งฮ่าวและผู้ถูกเลือกสามสิบคนถูกผู้ยิ่งใหญ่ทะเลฝันส่งไปยังสามสิบสามแดนนรกเพื่อค้นหาวาสนาที่ผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึกทิ้งเอาไว้โดยที่พวกเขาจะมีเวลาเพียงแค่สิบเดือนก่อนสวรรค์ชั้นที่สิบเจ็ดถึงชั้นที่สามสิบสามจะตกลงมา

การกลับเข้าไปยังสามสิบสามนรกหนนี้ของเมิ่งฮ่าวเขาได้รับเวทผนึกอสูรรุ่นที่สี่นามเวทตัวเอง
เมื่อครบกำหนดสิบเดือน สวรรค์ชั้นที่สิบเจ็ดถึงชั้นสามสิบสามก็ตกลงมาพร้อมสองผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกแปดแก่นแท้ หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี  ผู้ยิ่งใหญ่สตรีมาถึงก็ทำลายขุนเขาทะเลที่ห้าและทะเลหก สามบรรพจารย์สุดยอดวิญญาณ เต๋าศักดิ์สิทธิ์และตัดสวรรค์ที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน เฝ้ารอนางเพื่อผนึกนางเอาไว้ สละชีพสร้างสามหอกศักดิ์สิทธิ์จากเลือดเนื้อและวิญญาณเพื่อสังหารนาง และหนึ่งในสามบรรพจารย์ถึงกับเป็นท่านปู่ของเมิ่งฮ่าว

ทางด้านผู้ยิ่งใหญ่บุรุษได้ไปยังดาวหนานเทียนต่อสู้กับสุ่ยตงหลิว เมิ่งฮ่าวออกมาจากสามสิบสามนรกเข้าร่วมต่อสู้ โดยมีเค่อจิ่วซือ,และเยี่ย(อสูรราตรี)ที่อยู่ในสำนักเซียนอสูรโบราณ รวมทั้งหานซานและภรรยาได้ปรากฏตัวมาช่วยเหลือเขา

ขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่สตรีถูกสามหอกศักดิ์สิทธิ์นางได้สังเวยต่อเต้าฟางที่เป็นมนุษย์วานรให้มันช่วยเหลือ นางจึงรอดมาได้แต่เพราะถูกสามหอกศักดิ์สิทธิ์ทำร้ายทำให้ระดับการฝึกตนของนางจึงลดลงมาอยู่ในขั้นราชันจักรพรรดิ 

เต้าฟางส่งกระบองลงมาทำลายขุนเขาที่แปด พร้อมกับที่สุ่ยตงหลิวปรากฏตัวขึ้นมามีคำสั่งให้ผู้ฝึกตนทั้งหมดไปยังขุนเขาทะเลที่เก้าที่เหลืออยู่ เพื่อรอทำสงครามครั้งสุดท้าย ก่อนไปท่านได้ตอบโต้เต้าฟางจนอีกฝ่ายต้องถอยไป

เมื่อทั้งหมดกลับไปยังขุนเขาทะเลที่เก้าสุ่ยตงหลิวก็เปิดเผยฐานะว่าท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึก(ในร่างของสุ่ยตงหลิวเป็นวิญญาณไร้ร่างของผู้ยิ่งใหญ่เก้าผนึก) ท่านให้โอกาสกับตระกูลและสำนักต่างๆที่เหลืออยู่หากไม่คิดทำสงครามต่อหรือยอมจำนนต่อสามสิบสามสวรรค์ก็ให้ออกไปจากขุนเขาทะเลที่เก้าได้ ซึ่งผู้ที่ยอมจำนนมีเกินกว่าครึ่ง และที่สุ่ยตงหลิวคาดไม่ถึงคือทะเลที่เก้าถึงกับยอมจำนน จึงเหลือเพียงขุนเขาที่เก้าเท่านั้น

สงครามครั้งสุดท้ายที่แสนอนาถได้เริ่มต้น ดาวสี่ดวงของขุนเขาทะเลที่เก้าถูกทำลายไปสามเหลือเพียงดาวหนานเทียนที่มีครอบครัวของเมิ่งฮ่าวอยู่ที่นั่น ทว่าต่อให้เมิ่งฮ่าวอยากช่วยเหลือทุกคนเขาก็ไม่อาจทำได้ เมิ่งฮ่าวได้แต่มองคนที่เขารักและครอบครัวตกตายไป ความเศร้าเสียใจครั้งนี้มากเกินกว่าที่เมิ่งฮ่าวจะยอมรับได้ เขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะทำลายความเป็นเซียนกลายเป็นอสูรอย่างสมบูรณ์ บ้าคลั่งโหดเหี้ยมและต้องการสังหาร ผู้ยิ่งใหญ่สตรีนอกคอกจึงถูกเมิ่งฮ่าวสังหาร อีกสองผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับหนีไปเพราะหวาดกลัวความบ้าคลั่งของเมิ่งฮ่าว

ตามมาด้วยการปรากฏขึ้นของกองกำลังอาณาจักรเทพที่พร้อมแผนการที่สุ่ยตงหลิวเปิดเผยออกมา นี่เป็นช่วงเวลาที่ท่านรอคอย เมื่ออาณาจักรเทพลงมาเยือนถึงคราวที่ผนึกไร้ขอบเขตที่ผนึกอาณาจักรขุนเขาทะเลจะถูกทำลาย อาณาจักรขุนเขาทะเลฟื้นคืนชีพยกเว้นทะเลที่เก้าที่เป็นผู้ทรยศ ก่อนอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมดจะเคลื่อนย้ายไปในท้องฟ้าดวงดาว

ตามมาด้วยโลกแห่งเซียนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจากอาณาจักรมารผีเสื้อตัวหนึ่ง(มีเก้าตัว-ตัวนี้พ่ายแพ้ตอนสงครามใหญ่เลยกลายมาเป็นของอาณาจักรเซียน)เมิ่งฮ่าวและผู้รอดชีวิตทั้งหมดต่างถูกดูดเข้าไปยังโลกใหม่แห่งนั้น แต่ว่าทุกอย่างยังไม่จบเมื่อผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าแห่งอาณาจักรเทพปรากฏกายขึ้นขัดขวางไม่ให้อาณาจักรขุนเขาทะเลหลบหนี ศึกที่เกินจะจินตนาการจึงประทุขึ้น(ไม่รู้จะเล่ายังไง นี่มันระดับมหากาแล็กซี่ต่อสู้กันแล้วมั้งเนี่ย😂เว่อร์วังสุดๆเท่าที่เคยอ่านมา) 

สุดท้ายสุ่ยตงหลิวย่อส่วนอาณาจักรขุนเขาทะเลส่งเข้าไปในร่างของเมิ่งฮ่าวท่านฝากให้เขาดูแลและส่งมอบมรดกเต๋าทั้งหมดของท่านรวมทั้งเวทผนึกอสูรรุ่นแรกนามตราบนิรันดร์ให้เขาก่อนที่ท่านจะรับมือกับบรรดาผู้ใหญ่อาณาจักรเทพเพียงลำพังเพื่อซื้อเวลาให้พวกเขาหนีไปด้วยการระเบิดตนเอง ส่วนเมิ่งฮ่าวเมื่อได้รับมรดกเต๋าของสุ่ยตงหลิวก็สลบไป

ผีเสื้อโบยบินจากไปได้ในที่สุด ขณะอาณาจักรเทพยังคงไล่ตามไม่ลดละ ทางด้านอาณาจักรมารผีเสื้อแปดตัวได้โบยบินมาทางตำแหน่งของเมิ่งฮ่าว

ตอนนี้ทางฝ่ายของเมิ่งฮ่าวยังคงมีเพียงผู้ยิ่งใหญ่ทะเลฝัน  นางตัดสินใจใช้แผนการที่เคยวางไว้ส่งผู้ฝึกตนลำดับขั้นเต้าเทียนกับอวี่เหวินเจียนที่เหลืออยู่ให้กลายเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีบางส่วนของแก่นแท้ของนางถือกำเนิดใหม่แฝงตัวเข้าไปในอาณาจักรเทพและอาณาจักรมารถูกวางเจตจำนงให้สร้างความหายนะแก่อาณาจักรทั้งสองในอนาคต จากนั้นนางได้เผาไหม้พลังชีวิตของตัวเองทั้งหมดเพื่อส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปค้นหาเส้นทางปลอดภัยให้กับอาณาจักรขุนเขาทะเล จนกระทั่งนางได้พบกับโลกในกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ที่เก่าแก่กว่าอาณาจักรมารและเทพ ในนั้นมีโลงศพสีเขียวที่มีศพสตรีผู้หนึ่งหลับใหลอยู่ นางจึงตัดสินใจเลือกที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของอาณาจักรขุนเขาทะเลก่อนที่นางจะสลายไป

กระแสน้ำวนโลงศพเขียวเป็นหนึ่งในสามอาณาเขตหวงห้ามที่อันตรายและลึกลับที่สุด แม้จะเป็นเช่นนั้นพวกผู้ฝึกตนของอาณาจักรขุนเขาทะเลก็ยังคงมุ่งหน้าเข้าไป ขณะที่อาณาจักรเทพได้ไล่ตามมาถึง พวกมันต้องการตัวเมิ่งฮ่าวและต้องการกระจกทองแดงของเมิ่งฮ่าวเพื่อค้นหาการกลับมาของเทพ ขณะที่อาณาจักรมารต้องการกระจกทองแดงเพื่อคืนชีพให้กับมาร

ผู้ฝึกตนของอาณาจักรขุนเขาทะเลที่เหลืออยู่ออกมาปกป้องเมิ่งฮ่าวแม้ต้องเผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่ถึงห้าคน(มีสองคนมีเก้าแก่นแท้)ของอาณาจักรเทพ ขณะที่คนทั้งหมดและผีเสื้อกำลังจะถูกผู้ยิ่งใหญ่ทำลายไป เมิ่งฮ่าวก็ได้ตื่นขึ้นมา เขาทำลายร่างของผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ไปคนหนึ่งอย่างง่ายดาย ต่อสู้กับสองผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ ส่วนผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆและกองกำลังของพวกมันพากันโจมตีโลกของผีเสื้อ

ขณะต่อสู้เมิ่งฮ่าวสัมผัสถึงผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้อีกสองคนที่ยังไม่ปรากฏกายในอาณาจักรเทพเขาใช้เวทผนึกสวรรค์ที่สมบูรณ์ที่สุดในตอนนี้ทำให้อาณาจักรขุนเขาทะเลกลายเป็นอาวุธเวททรงพลังเกินบรรยายเข้าโจมตีอาณาจักรเทพ จนได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันผีเสื้อก็บินหนีหายไปในที่สุด

ช่วงของการเดินทางไปยังกระแสน้ำวนเมิ่งฮ่าวได้พบกับบุคคลปริศนาที่ใช้เวทกาลเวลาส่งให้ผีเสื้อไปอยู่เหนือกระแสน้ำวนสีขาวดำได้อย่างอัศจรรย์ แต่ก็ทำให้อาณาจักรมารและเทพจับตำแหน่งของเขาได้ พวกมันรีบเคลื่อนย้ายทางไกลมาทันที 

เมิ่งฮ่าวส่งผีเสื้อเข้าไปในหลุมดำของกระแสน้ำวนโดยที่เขาอยู่เผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่,ผู้แข็งแกร่งและกองทัพทั้งสองอาณาจักร เขาสัญญากับผู้ฝึกตนในอาณาจักรขุนเขาทะเลว่าเขาจะไม่ตายสักวันหนึ่งเขาจะกลับมาหาพวกมัน

ผีเสื้อบินไปตรงจุดที่อยู่ส่วนลึกซึ่งเป็นโลงสีเขียวตั้งอยู่ แต่ถูกผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ขั้นสูงสุดของอาณาจักรมารจับไว้ได้ เมิ่งฮ่าวจึงตัดสินใจระเบิดอาณาจักรขุนเขาทะเล พลังทำลายล้างกวาดทำลายกองกำลังของสองอาณาจักรไปมากมายแต่มันก็ยังไม่เพียงพอ เมิ่งฮ่าวจึงระเบิดตะเกียงวิญญาณทั้งหมดที่เขามีไปอย่างไม่ลังเล ส่งผลให้สองอาณาจักรไม่อาจขัดขวางการบินของผีเสื้อได้สุดท้ายมันก็ไปเกาะยังโลงสีเขียวใบนั้น ตอนนี้จึงมีเพียงโลกของผีเสื้อที่คงอยู่ ส่วนอาณาจักรขุนเขาทะเลไม่คงอยู่อีกไป

ในช่วงที่เมิ่งฮ่าวกำลังจะตาย นกแก้ว,ผีโต้งและอ๋าวเฉี่ยนก็ออกมาจากถุงเก็บสมบัติ นกแก้วนำกระจกทองแดงออกซื้อเวลาให้ผีโต้งนำเมิ่งฮ่าวกับอ๋าวเฉี่ยนเคลื่อนย้ายทางไกลจากไป มันกลายเป็นวิญญาณกระจกมอบความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ให้ได้เพียงหนึ่งอย่าง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองอาณาจักรตกลงกันอย่างไรและได้รับความปรารถนาอะไร หลังมอบความปรารถนานกแก้วที่กลายเป็นวิญญาณกระจกก็หลับใหลไปพร้อมกับความทรงจำทั้งหมดของมันที่ถูกลบไป  

เวลาผ่านไปหนึ่งพันปีตามวัฏจักรการเกิดดับของชีวิต โลกด้านในน้ำวนไม่มีใครสามารถเข้าไปได้หากไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุด ซึ่งแม้แต่ในอาณาจักรเทพและมารก็ไม่มีใครที่อยู่ในจุดนี้ ดังนั้นพวกมันจึงสร้างสามสิบสามสวรรค์ขึ้นมาใหม่เหนือกระแสน้ำวนโลงศพสีเขียวผนึกผีเสื้อขุนเขาทะเลไว้ด้านในเหมือนกับที่ในอดีตสามสิบสามสวรรค์ได้ผนึกอาณาจักรขุนเขาทะเลเอาไว้ และให้เต้าฟางคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกสุด ก่อนที่สองอาณาจักรจะเดินทางจากไป

โลกด้านในผีเสื้อขุนเขาทะเลต่างเฝ้ารอการกลับมาของจักรพรรดิอสูร นามเมิ่งฮ่าว

หมายเหตุ : ภาคนี้เกินบรรยายจริงๆ ระเบิดดาวกันเป็นว่าเล่น ระเบิดภูเขาเผากระท่อมไร้ความหมาย รายละเอียดเยอะเกินอ่านจนหืดขึ้นคอ ถ้าไม่จดไว้คงมึนตึบ ลึกลับลับซ้อนซ่อนเงื่อนกี่ล้านปมก็ไม่รู้  ตอนท้ายอย่างเศร้าเลย

🍂ภาค 9 : จักรพรรดิอสูรกลับมา


ในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตที่ประกอบไปด้วยหลากหลายอาณาจักรและสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดมากมาย ซากศพของเมิ่งฮ่าวในชุดเกราะที่เป็นผีโต้งและซากอ๋าวเฉี่ยนล่องลอยอยู่ เหนือหน้าผากของศพมีตะเกียงสัมฤทธิ์ที่เมิ่งฮ่าวได้มาจากวิหารพิธีเต๋าเซียนโบราณลอยอยู่มันค่อยๆจมเข้าไปในหน้าผากของเขาจนเวลาผ่านไปหนึ่งพันปีมันถึงจมเข้าไปทั้งหมด โดยเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่เคยมีตะเกียงวิญญาณของผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งได้กลายเป็นตะเกียงวิญญาณดวงเดียวของเขา มันเริ่มสร้างเส้นลมปราณและพื้นฐานฝึกตนของเขาขึ้นมาใหม่ รอคอยให้ซากศพซากนี้ฟื้นคืนชีพ

สิบปีต่อมาปรากฏยานบินที่มีหญิงสาวและบุรุษผู้หนึ่ง นางนำซากศพของเมิ่งฮ่าวไปโดยไม่สังเกตว่าเขาเริ่มมีชีวิต จุดหมายปลายทางของพวกมันอยู่สำนักไร้ที่สิ้นสุด(ชางหมางพ่าย)ในดาวชางหมาง เมื่อพวกมันเดินทางไปถึงดาวชางหมางระฆังไร้ที่สิ้นสุดพลันดังขึ้นเจ็ดครั้งหมายความว่ามีผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ที่ไม่ใช่คนของดาวชางหมางมาเยือน

ซากศพเมิ่งฮ่าวตกเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ยิ่งใหญ่สำนักชางหมางพ่าย ทั้งยังรู้ว่าเขาเป็นใคร เจ้าสำนักของพวกมันต้องการสกัดกลั่นศพของเมิ่งฮ่าว ใช้ร่างของเขาสร้างเป็นผู้ยิ่งใหญ่ลำดับที่เก้าของสำนัก เมิ่งฮ่าวซ่อนวิญญาณไว้ในไส้ตะเกียงสัมฤทธิ์จึงไม่ได้ถูกตรวจพบว่ายังมีวิญญาณของเขาเหลืออยู่ เขาเองต้องการเวลาที่จะก้าวเข้าสู่อาณาจักรเต๋าพื้นฐานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้บนดาวแห่งนี้ 

การสกัดกลั่นศพเมิ่งฮ่าวเริ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายของเขาถูกสร้างขึ้นมาใหม่จนก้าวเข้าสู่ขั้นร่างเต๋าไร้ที่สิ้นสุด ร่างของเขาเตรียมส่งมอบให้วิญญาณไร้ร่างของเทียนเหยี่ยนจื้อจุน(ผู้ยิ่งใหญ่ตาสวรรค์)ที่มาจากสำนักใหญ่เต๋าไร้ที่สิ้นสุด(ชางหมางเต้า)ครอบครองร่างเพื่อกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ลำดับที่เก้า(ตี้จิ่วจื้อจุน)ของสำนักพวกมัน เมื่อวิญญาณไร้ร่างเข้ามาในร่างของเมิ่งฮ่าว เขาจึงกลืนกินอีกฝ่ายแทน โดยที่เจ้าสำนักและปรมาจารย์ทั้งเจ็ดไม่สามารถขัดขวางได้

เมิ่งฮ่าวไม่ได้กลืนกินวิญญาณไร้ร่างของอีกฝ่ายทั้งหมดเขาเหลือเมล็ดพันธุ์วิญญาณของตี้จิ่วจื้อจุนเอาไว้ตั้งใจว่าอนาคตจะปลดปล่อยอีกฝ่ายไป  หลังผ่านขั้นตอนกลืนกินวิญญาณโดยสมบูรณ์เขามีพลังการต่อสู้ระดับผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ระดับกลางและได้รู้ถึงแผนการที่เกี่ยวข้องกับการไปถึงจุดสูงสุด ณ สุสานปรมาจารย์รุ่นแรกของสำนักไร้ที่สิ้นสุด

เขาตื่นขึ้นพร้อมกับดวงตาเต๋ากลางหน้าผาก(ดวงตาที่สาม) และเพราะดวงตาที่สามพวกเจ้าสำนักชางหมางพ่ายจึงไม่ได้สนใจอีกแล้วว่าในร่างเมิ่งฮ่าวจะเป็นวิญญาณของใคร ขอเพียงแค่เมิ่งฮ่าวช่วยเหลือพวกมันและไม่คิดร้ายต่อพวกมันก็พอ บัดนี้เขาคือผู้ยิ่งใหญ่ลำดับที่เก้าตี้จิ่วจื้อจุน

ในที่สุดก็ถึงวันที่เมิ่งฮ่าวกับแปดผู้ยิ่งใหญ่(รวมเจ้าสำนัก)เดินทางไปยังสุสานปรมาจารย์รุ่นแรก พวกมันมีเวลาเพียงหนึ่งเดือนที่จะเข้าไปค้นหาเส้นทางสู่จุดสูงสุด ตลอดเส้นทางที่จะไปยังดินแดนแรกของสุสานเต็มไปด้วยอันตรายและความตายที่มาเยือนอย่างคาดไม่ถึง เมิ่งฮ่าวเปิดดวงตาที่สามจึงมองเห็นโลกแห่งภูติผี และในดินแดนที่เก้าอันห่างไกลเขามองเห็นร่างที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ มันทำนายว่าเมิ่งฮ่าวจะได้เป็นผู้สูงสุดคนสุดท้าย รวมทั้งมหันตภัยที่กำลังจะมากับหลัวเทียน(สวรรค์ทั้งปวง)ที่หวาดกลัวเซียน---รอตั้งนานในที่สุดบอสก็มาละ 

เมืองแห่งภูติผีในอดีตคือเมืองแห่งเทพ(เมืองเสินเหริน)แต่ในค่ำคืนเดียวคนในเมืองตายไปอย่างลี้ลับ(ความจริงคือเป็นช่วงที่ปรมาจารย์ชางหมางกำลังจะรับทัณฑ์เพื่อก้าวเข้าไปสู่จุดสูงสุดเป็นเวลาที่หลัวเทียนส่งดรรชนีหลัวเทียนลงมาทำลายล้าง) มีเพียงท่านปรมาจารย์ชางหมางกับคนอื่นๆไม่กี่คนที่รอดชีวิตออกไปได้ ต่อมาท่านปรมาจารย์ได้กลับมาเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นสุสานของท่าน 

มีแต่มิ่งฮ่าวที่มองเห็นเส้นทางที่ปลอดภัยในเมืองแห่งนี้เขาจึงนำทางทุกคนฝ่าออกไป เมื่อพ้นดินแดนภูติผี ยังมีสะพานที่แสนอันตรายที่เป็นเส้นทางเดียวทอดไปดินแดนแรกอันกว้างใหญ่ ที่ผ่านมาพวกเจ้าสำนักเคยเข้ามาถึงแค่ตรงจุดนี้เท่านั้น พวกมันจึงหวังว่าดวงตาที่สามของเมิ่งฮ่าวจะทำให้พวกมันผ่านเข้าไปยังแต่ละดินแดนได้ 

แต่ระหว่างใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดของสะพานเมิ่งฮ่าวถูกผู้ยิ่งใหญ่สองคนกับผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้สูงสุดสองคนที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นลอบทำร้าย โดยที่เจ้าสำนักเองก็เข้าไปช่วยเหลือไม่ทัน เขาตัดสินใจโดดลงไปยังหุบเหวใต้สะพานโดยการชักจูงของตะเกียงสัมฤทธิ์ในร่าง ด้านใต้มีรูปปั้นที่เหมือนกับผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในดินแดนที่เก้าพร้อมป้ายหลุมศพของปรมาจารย์ชางหมางนี่เป็นที่ฝังศพร่างจำแลงร่างแรกที่ถูกหลัวเทียนสังหาร

เขาเผชิญหน้ากับยักษ์สามหัวซึ่งเป็นยักษ์วิญญาณเทพ(จู้หลิงเสิน)ของปรมาจารย์ชางหมางแต่ถูกหลัวเทียนควบคุมให้สังหารคนที่เข้ามาเมิ่งฮ่าวทำลายสองหัวมันทำให้มันกลับมามีสติและขอให้เมิ่งฮ่าวสังหารมัน

จากนั้นเขาเข้าไปยังรอยกระบี่ขนาดใหญ่ตรงหน้าผากของรูปปั้นซึ่งเป็นอุโมงค์เขาเจอห้องศิลาหลายห้องกับภาพวาดหลายภาพซึ่งบันทึกเรื่องราวของหลัวเทียนเอาไว้ ทำให้รู้ความจริงอันน่าตื่นตะลึงว่าเมื่อวันหนึ่งร่างของหลัวเทียนสลายไปเหลือเพียงนิ้วมือสีนิ้ว นิ้วชี้นั้นกลายเป็นอาณาจักรเทพ นิ้วกลางกลายเป็นอาณาจักรมาร นิ้วนางกลายเป็นอาณาจักรภูตผี(สุสานปรมาจารย์ชางหมาง-เมืองภูตผี) นิ้วก้อยกลายเป็นอาณาจักรอสูร 

หลังจากล่วงรู้ความลับเขาก็ออกมาเพื่อไปหาพวกเจ้าสำนักที่อยู่ตรงแท่นบูชาของดินแดนแรก แท่นบูชาที่สามารถทำให้รู้แจ้งและเข้าถึงจุดสูงสุดได้ แต่ก่อนที่จะเข้าไปยังแท่นบูชาเมิ่งฮ่าวได้ต่อสู้กับจินหยุนซานผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ขั้นสูงสุดที่คิดสังหารเขาบนสะพาน แม้สุดท้ายเมิ่งฮ่าวไม่อาจสังหารอีกฝ่ายได้แต่ศึกครั้งนี้ทำให้เขากลายเป็นราชันคนที่ห้าแห่งดาวชางหมาง ขณะที่สี่คนแรกคือซาจิ่วตง,จินหยุนซาน,เจ้าสำนักและเซียนไป๋อู้เฉิน

เมื่อสงบศึกกันเรียบร้อยแล้วเมิ่งฮ่าวและคนอื่นๆก็เข้าไปยังแท่นบูชาเพื่อค้นหาการรู้แจ้ง เมิ่งฮ่าวคิดอาศัยแท่นบูชานี้สร้างเวทผนึกอสูรรุ่นที่เก้าของตัวเองขึ้นมานามเวทผนึกสวรรค์ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว เพราะการขัดขวางของหลัวเทียน เนื่องจากเวทผนึกอสูรรุ่นที่เก้าจะเปลี่ยนเขาจากอสูรให้กลับไปเป็นเซียน หลัวเทียนหวาดกลัวเซียน จึงไม่ต้องการให้เซียนถือกำเนิดขึ้นทั้งยังบีบบังคับให้เมิ่งฮ่าวเป็นอสูรตลอดกาล---ตรงนี้งงอยู่เหมือนกันในเมื่อหลัวเทียนเป็นเซียนอมตะคนแรก มันจะหวาดกลัวเซียนไปทำไม แล้วไหงเรื่องนี้กลายเป็นว่าหลัวเทียนมีกลิ่นอายต้นกำเนิดเหมือนอสูร

เมิ่งฮ่าวตอบโต้หลัวเทียน แน่นอนว่าเขาไม่อาจต่อสู้กับขั้นพลังเหนือสูงสุดได้ เวลานั้นคำพูดที่ออกมาจากร่างที่นั่งบัลลังก์ในดินแดนที่เก้าได้ขับไล่พลังของหลัวเทียนออกไป เมิ่งฮ่าวคิดจะไปยังดินแดนที่เก้าแต่เวลาที่จะอยู่ในสุสานได้หมดลงแล้ว ใครก็ตามหากอยู่ต่อก็ไม่อาจมีชีวิตรอดได้ เหตุผลก็เพราะว่าเวลาได้ย้อนกลับไปก่อนที่เมืองแห่งนี้จะถูกดรรชนีหลัวเทียนถูกทำลาย หากอยู่ต่อไปจะต้องพบเจอกับเหตุการณ์ดีงกล่าว มีเพียงเมิ่งฮ่าวที่เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้จากภาพวาดฝาผนัง ดังนั้นเขาจึงเร่งให้ทุกคนรีบออกไปก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ 

ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะออกจากสุสานเขาก็เห็นว่าในดินแดนที่เก้าปรากฏกระจกทองแดงที่มีนกแก้วบินออกมารับดรรชนีของหลัวเทียน กระจกทองแดงทำลายดรรชนีหลัวเทียนไปพร้อมกับที่ตัวมันเองแตกกระจายเป็นเก้าชิ้น มีหนึ่งชิ้นตกลงไปในดินแดนที่สาม ขณะแปดชิ้นที่เหลือได้กระจายออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เมิ่งฮ่าวที่ออกไปจากสุสานตั้งใจว่าครั้งหน้าที่เข้ามาเขาจะต้องไปค้นหาชิ้นส่วนของกระจกทองแดงในดินแดนที่สามให้ได้

การที่ร่างจริงของเมิ่งฮ่าวมีปราณอสูรจึงไม่สามารถสร้างเวทผนึกอสูรรุ่นที่เก้าได้
เขาจึงคิดวิธีสร้างเวทผนึกอสูรขึ้นมาใหม่โดยใช้ผลเนี่ยผานลูกที่สามใส่เข้าไปในร่างจำแลงเพื่อสร้างชีวิตที่สี่ที่มีปราณเซียนบริสุทธิ์ให้สร้างเวทผนึกอสูรรุ่นที่เก้าขึ้นมาก่อนหลอมรวมเข้าสู่ร่างจริงซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

สิบปีผ่านไปสุสานปรมาจารย์ชางหมางกำลังจะเปิดอีกครั้ง การเข้าไปยังสุสานหนนี้มีเซียนไป๋อู้เฉินหนึ่งในสี่ผู้แข็งแกร่งเก้าแก่นแท้ขั้นสูงสุดเข้ามาด้วย นางมีเจตนาไม่ต่างจากเมิ่งฮ่าวคือเสาะหากระจกทองแดงจากดินแดนกว้างใหญ่ที่สาม สำหรับนางมันเป็นหนทางเดียวที่จะพานางกลับบ้านเกิดที่อยู่ด้านนอกความว่างเปล่าไร้ขอบเขต นางมีแล้วหนึ่งชิ้น นางจึงต้องการชิ้นที่สองในสุสานแห่งนี้ ดังนั้นศึกแย่งชิงกระจกทองแดงระหว่างผู้ยิ่งใหญ่จึงเกิดขึ้น ทว่าสุดท้ายเมิ่งฮ่าวก็ยังคงได้ครอบครองชิ้นส่วนกระจกอยู่ดีเพราะเขาคือเจ้าของของมัน เมื่อเขาได้รับชิ้นส่วนกระจกทองแดงสองชิ้นก็ออกไปจากสุสานปรมาจารย์ชางหมางทันที ขณะที่คนอื่นๆยังคงอยู่ด้านใน

เมิ่งฮ่าวออกไปจากสำนักไร้ที่สิ้นสุดเดินทางไปในท้องฟ้าหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตค้นหาชิ้นส่วนที่เหลือทั้งหกชิ้นของกระจกทองแดงจากที่เขาสัมผัสถึง ช่วงเวลาที่เขาตามหากระจกทองแดง ร่างจำแลงของเขาก็ตายแล้วเกิดใหม่ในแต่ละชีวิตเพื่อสร้างผนึกเวทอสูรแต่ละรุ่นให้สมบูรณ์ จนกว่าจะถึงชีวิตที่เก้าของเขา---(อ่านมาถึงตรงนี้กลายเป็นนิยายรักไปซะงั้น เรื่องราวชีวิตของร่างจำแลงเมิ่งฮ่าวกับฉู่อวี๋เยียน ทำให้ความสนุกของนิยายดรอปไปเลย มันเหมือนขึ้นเรื่องใหม่ บทบาทเยอะเกินจนรู้สึกน่าเบื่อมาก)
 



Create Date : 15 เมษายน 2567
Last Update : 19 พฤษภาคม 2567 7:57:18 น. 0 comments
Counter : 230 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 6399378
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากมีชีวิตเป็นอมตะเพื่ออ่านหนังสือไปตลอดกาล
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 6399378's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.